ขอกลับมาที่การรีวิวอาหารนะคะ คิวของวันนี้คือ โจ๊กเจ๊หงส์ ที่อยู่ติดกับมนต์นมสด แถวศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร สิ่งที่เลิศเลอของที่นี่ โจ๊ก และสถานที่นั่งกิน คือร้านนี้จะมีจุดเด่นที่เจ๊หงส์ยืนขายอยู่คนเดียว พร้อมกับโจ๊กหม้อใหญ่อยู่ 1 หม้อ พร้อมกลิ่นที่ล็อคตัวดิฉันให้ไปจากหม้อโจ๊กแกไม่ได้ และดิฉันก็ไม่เห็นโต๊ะ เก้าอี้ จานชามใดใด
ซึ่งถ้าไม่ได้สังเกต ก็จะคิดว่าน่าจะเป็นแบบให้ซื้อกลับบ้าน
และร้านนี้อย่างกับทางเข้าตรอกไดแอกอน คือ เพียงซื้อโจ๊ก เจ๊แกจะถามว่ากินที่นี่ หรือกลับบ้าน ดิฉันก็หิวเลยตอบทันใดว่า ‘กินที่นี่ค่ะ’ พร้อมคิดในใจว่าจะกินที่ไหนได้วะ ฟุตบาทก็ใช่ที่ โดยเหยียบแน่นอน เพราะคนจากมนต์นมสดทะลักออกมาเต็มถนน
แต่ความคิดยังไม่ไปถึงไหน เจ๊แกผายมือเจ้าไปในตรอกที่อยู่เยื้องร้านเจ๊ ซึ่งถ้าไม่สังเกตดีดี จะไม่เห็นว่ามีตรอกอยู่เลย กินๆไปโจ๊กจะกลายเป็นใบไม้หมดรึเปล่า
แล้วดิฉันก็เดินเข้าตรอกไป ซึ่งความรู้สึกแรกคือ นี่มันอีกโลกนึงนี่หว่า มันคือ หมู่โต๊ะเก้าอี้ท่ามกลาง เถากระดังงามที่หอมมาก ไม่ได้ยินเสียงรถ เสียงคนใดใด เรียกว่าทวิภพข้ามกระจกกันเลยทีเดียว
และเมื่อได้กินโจ๊ก คือพริ้มมาก เนื้อโจ๊กที่ลื่นแถมข้นด้วย รสสัมผัสประมาณกินซุปข้นเห็ดแต่เป็นรสของโจ๊กที่เข้มข้นรสหมู พร้อมหมูสับที่ปั้นอย่างดีเป็นก้อนและไม่ติดมัน แต่ว่าฉุ่มช่ำไปด้วยน้ำซุป แถมมีChoice เลือกไข่ได้ว่าจะเอาไข่เยี่ยวม้า หรือไข่ต้ม
กินๆไปก็สังเกตได้ว่านั่งกินอยู่คนเดียวนี่หว่า เวลาก็เริ่มเย็น แถมแบ็กกราวน์ของที่นั่งกินคือเรือนไม้ไทยโบราน หรือร้านนี้จะมีโปรโมชั่นซื้อโจ๊กแถมผี ไม่ใช่สิ ดิฉันเลยเร่งกิน
แล้วก็เกือบกรี๊ดเพราะมีแมวมาจ้อง หรือจะเป็นศจ.มักกอนนากัล
ก็คิดไปเรื่อย และกินไปเรื่อยๆ จนอิ่ม ฟ้ามืดพอดี เลยเดินออกมา เจ๊หงส์หายไป หลานสาววัยรุ่นแกมาขายแทน เลยถามว่าเจ๊หงส์ไปไหนจะซื้อกลับบ้าน คือเจ๊แกทำเองอร่อยจริงๆ
คุณหลานก็ทำหน้าลึกลับ (เขาอาจไม่ได้ทำก็ได้ แต่หลังจากเกือบกรี๊ดไปก็รู้สึกไปเอง) แล้วตอบว่า
‘เจ๊หงส์ไม่อยู่แล้วค่ะ”
ตอนนี้ขนลุกจริงๆนะว่า ผีหลอกหรือเปล่าวะ แต่เดชะบุญหลานแกตอบมาทันที ดิฉันเลยไม่ได้เพ้อเจ้อนาน
‘วันนี้เจ๊หงส์เจ็บข้อมือ เลยให้หนูมาดูแทน’
โอเค เข้าใจ ถือว่าโชคดีได้กินฝีมือเจ๊ก่อนเจ๊เจ็บข้อมือ และถ้าใครอยากลอง ร้านแกอยู่ตรอกที่ติดมนต์นมสด ต้องสังเกตุหม้อโจ๊กนะคะ มันกลืนไปกับแบ็คกราวน์มากๆ และสมัยก่อนที่นั่งกินคือเกินเข้าตรอกที่แกตั้งหม้อโจ๊กได้เลย
แต่ตอนนี้ตรอกนั้นเขามีการก่อสร้าง ต้องเดินเลยไปอีก4 ก้าวเพื่อเข้าไปในอีกตรอก สนุกค่ะ หนีความร้อนและความวุ่นวายได้ดี ปล. ตรอกแถวนั้นส่วนใหญ่เป็นถนนส่วนบุคคลนะคะ ในตรอกเป็นบ้านไม้โบราณเยอะอยู่ สวยมากค่ะ ถ้าจะเข้าไปขออนุญาตเจ้าของบ้านก่อนนะคะ ดิฉันเคยจะถือกล้องเดินสำรวจเล่น โดนคุณยายใส่กระเช้าในบ้านตะโกนถาม ‘นี่บ้านคนนะ เข้ามาทำไม’ ก็หน้าม้านและขอโทษขอโพยกันใหญ่
นี่เขียนตอนดึก พูดเลยหิวมาก
ไปละ บาย
โจ๊กเจ๊หงส์ อย่างกับไปกินที่ตรอกไดแอกอน พิกัดเยื้องศาลาว่าการกทม.
ซึ่งถ้าไม่ได้สังเกต ก็จะคิดว่าน่าจะเป็นแบบให้ซื้อกลับบ้าน
และร้านนี้อย่างกับทางเข้าตรอกไดแอกอน คือ เพียงซื้อโจ๊ก เจ๊แกจะถามว่ากินที่นี่ หรือกลับบ้าน ดิฉันก็หิวเลยตอบทันใดว่า ‘กินที่นี่ค่ะ’ พร้อมคิดในใจว่าจะกินที่ไหนได้วะ ฟุตบาทก็ใช่ที่ โดยเหยียบแน่นอน เพราะคนจากมนต์นมสดทะลักออกมาเต็มถนน
แต่ความคิดยังไม่ไปถึงไหน เจ๊แกผายมือเจ้าไปในตรอกที่อยู่เยื้องร้านเจ๊ ซึ่งถ้าไม่สังเกตดีดี จะไม่เห็นว่ามีตรอกอยู่เลย กินๆไปโจ๊กจะกลายเป็นใบไม้หมดรึเปล่า
แล้วดิฉันก็เดินเข้าตรอกไป ซึ่งความรู้สึกแรกคือ นี่มันอีกโลกนึงนี่หว่า มันคือ หมู่โต๊ะเก้าอี้ท่ามกลาง เถากระดังงามที่หอมมาก ไม่ได้ยินเสียงรถ เสียงคนใดใด เรียกว่าทวิภพข้ามกระจกกันเลยทีเดียว
และเมื่อได้กินโจ๊ก คือพริ้มมาก เนื้อโจ๊กที่ลื่นแถมข้นด้วย รสสัมผัสประมาณกินซุปข้นเห็ดแต่เป็นรสของโจ๊กที่เข้มข้นรสหมู พร้อมหมูสับที่ปั้นอย่างดีเป็นก้อนและไม่ติดมัน แต่ว่าฉุ่มช่ำไปด้วยน้ำซุป แถมมีChoice เลือกไข่ได้ว่าจะเอาไข่เยี่ยวม้า หรือไข่ต้ม
กินๆไปก็สังเกตได้ว่านั่งกินอยู่คนเดียวนี่หว่า เวลาก็เริ่มเย็น แถมแบ็กกราวน์ของที่นั่งกินคือเรือนไม้ไทยโบราน หรือร้านนี้จะมีโปรโมชั่นซื้อโจ๊กแถมผี ไม่ใช่สิ ดิฉันเลยเร่งกิน
แล้วก็เกือบกรี๊ดเพราะมีแมวมาจ้อง หรือจะเป็นศจ.มักกอนนากัล
ก็คิดไปเรื่อย และกินไปเรื่อยๆ จนอิ่ม ฟ้ามืดพอดี เลยเดินออกมา เจ๊หงส์หายไป หลานสาววัยรุ่นแกมาขายแทน เลยถามว่าเจ๊หงส์ไปไหนจะซื้อกลับบ้าน คือเจ๊แกทำเองอร่อยจริงๆ
คุณหลานก็ทำหน้าลึกลับ (เขาอาจไม่ได้ทำก็ได้ แต่หลังจากเกือบกรี๊ดไปก็รู้สึกไปเอง) แล้วตอบว่า
‘เจ๊หงส์ไม่อยู่แล้วค่ะ”
ตอนนี้ขนลุกจริงๆนะว่า ผีหลอกหรือเปล่าวะ แต่เดชะบุญหลานแกตอบมาทันที ดิฉันเลยไม่ได้เพ้อเจ้อนาน
‘วันนี้เจ๊หงส์เจ็บข้อมือ เลยให้หนูมาดูแทน’
โอเค เข้าใจ ถือว่าโชคดีได้กินฝีมือเจ๊ก่อนเจ๊เจ็บข้อมือ และถ้าใครอยากลอง ร้านแกอยู่ตรอกที่ติดมนต์นมสด ต้องสังเกตุหม้อโจ๊กนะคะ มันกลืนไปกับแบ็คกราวน์มากๆ และสมัยก่อนที่นั่งกินคือเกินเข้าตรอกที่แกตั้งหม้อโจ๊กได้เลย
แต่ตอนนี้ตรอกนั้นเขามีการก่อสร้าง ต้องเดินเลยไปอีก4 ก้าวเพื่อเข้าไปในอีกตรอก สนุกค่ะ หนีความร้อนและความวุ่นวายได้ดี ปล. ตรอกแถวนั้นส่วนใหญ่เป็นถนนส่วนบุคคลนะคะ ในตรอกเป็นบ้านไม้โบราณเยอะอยู่ สวยมากค่ะ ถ้าจะเข้าไปขออนุญาตเจ้าของบ้านก่อนนะคะ ดิฉันเคยจะถือกล้องเดินสำรวจเล่น โดนคุณยายใส่กระเช้าในบ้านตะโกนถาม ‘นี่บ้านคนนะ เข้ามาทำไม’ ก็หน้าม้านและขอโทษขอโพยกันใหญ่
นี่เขียนตอนดึก พูดเลยหิวมาก
ไปละ บาย