4 ข้อควรรู้ ก่อนแลกเงินสำหรับใช้ในต่างประเทศ


4 ข้อควรรู้ ก่อนแลกเงินสำหรับใช้ในต่างประเทศ

สิ่งที่ทำให้คนทำงานอย่างเราๆ มีแรงใจที่จะทำงานต่อไป คงเกิดได้จากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่เชื่อว่าปัจจัยในการที่จะเก็บเงินเพื่อให้ได้ไปเที่ยวตามใจฝัน คงเป็นปัจจัยหลักของใครหลายๆ คน เพื่อให้มีแรงใจในการทำงานต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในประเทศ หรือต่างประเทศก็ตาม (ส่วนจะเลือกหยุดช่วงไหน จะไปเทศกาลไหน หรือจะลาหัวหน้าอย่างไร อันนี้คงขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคนนะครับ) ซึ่งการท่องเที่ยวนอกจากเราจะได้พักผ่อนหลังจากที่เหนื่อยล้าจากการทำงานแล้ว ยังเป็นการพาตัวเองออกไปพบกับอะไรใหม่ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิต ซึ่งการไปในต่างแดนถือเป็นการเปิดหูเปิดตาได้เป็นอย่างดี

สำหรับคนที่วางแผนไปเที่ยวยังต่างแดนคงรู้สึกกังวลใจกันอยู่บ้าง หากไม่ได้ไปกับทัวร์ ทั้งในเรื่องการเตรียมตัวไม่ว่าจะเป็น ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก แผนเที่ยว และกำหนดการต่างๆ และที่สำคัญ การแลกเงินก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมเพื่อใช้ในการท่องเที่ยวของเรา

วันนี้ทาง K-Expert จึงอยากจะมาแนะนำ 4 ข้อควรรู้ก่อนแลกเงินสำหรับใช้ในต่างประเทศ เพื่อให้เพื่อนได้ใช้เป็นข้อมูลกันครับ มาดูกันเลยครับ

1 เช็กอัตราแลกเปลี่ยนอย่างรอบคอบ

สิ่งที่เพื่อนๆ ควรทำเป็นลำดับแรกเมื่อต้องการแลกเปลี่ยนเงินคือ ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินไทยกับเงินสกุลนั้นๆ เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้เพื่อนๆ สามารถจัดเตรียมงบประมาณต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม โดยควรตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อเฝ้าดูแนวโน้มของค่าเงินสกุลนั้นๆ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนซึ่งจะช่วยให้เราเลือกเวลาในการแลกเปลี่ยนเงินได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด โดยสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินง่ายๆ ได้ที่เว็บไซต์ร้านแลกเงิน เว็บไซต์ของธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ หรือในแอปพลิเคชันก็มีผู้ให้บริการอยู่มากมาย ซึ่งบางครั้งตัวแทนแลกเงินรายเล็กอาจจะให้เรทแลกเปลี่ยนกว่ารายใหญ่ได้ในบางครั้ง ก่อนจะแลกเพื่อนๆ ก็อย่าลืมเช็คหลายๆ ที่กันนะครับ
* ถ้าเรามีความกังวลมากๆและไม่ค่อยมีเวลาติดตามอัตราแลกเปลี่ยนหรืออยู่ในช่วงอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงแนะนำให้เราค่อยๆทยอยแลกเงินแบบถั่วเฉลี่ย ตัวอย่าง เช่น เราจะไปเที่ยว 6 เดือนข้างหน้าเราก็ทยอยแลกเดือนละครั้ง 6 ครั้งจนครบ ซึ่งวิธีการนี้เราจะได้เรตที่ไม่แพงแน่นอน

2 เช็กสกุลเงินประเทศที่จะเดินทางไป

เนื่องจากสกุลเงินของประเทศที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยวนั้น บางประเทศอาจจะไม่มีที่ให้เราสามารถแลกเงินได้ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตให้มีการรับแลกเงินในประเทศ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 30 สกุลเงินด้วยกัน ดังนั้น เราควรเช็กให้แน่ใจว่า ถ้าไม่มีสกุลเงินให้แลก เราจะต้องแลกสกุลเงินหลักไปก่อน แล้วนำสกุลเงินหลักนี้ไปแลกสกุลเงินที่ต้องการที่ประเทศดังกล่าว โดยการแลกเงินสกุลหลักติดตัวไว้มีความยุ่งยากในบางขั้นตอน ที่ต้องแลกจากเงินไทย เป็นเงินหลัก (ดอลลาร์สหรัฐ หรือยูโร) ก่อน และเมื่อไปถึงประเทศที่เราไปเที่ยว จะต้องแลกจากสกุลเงินหลัก เป็นเงินท้องถิ่นอีกรอบหนึ่ง เช่น ประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกาที่ต้องแลกเงินเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ หรือ กลุ่มยุโรปตะวันออกที่ต้องแลกเป็นสกุลยูโรก่อน เป็นต้น

3 การแลกเงินโดยตรงในประเทศที่เราไปเที่ยว

คนส่วนใหญ่เมื่อไปเที่ยวยังต่างประเทศ มักจะแลกเงินจากในประเทศไทยเพื่อไปใช้ในต่างประเทศ แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า เราสามารถนำเงินไทยไปแลกยังต่างประเทศได้ ปกติแล้วเวลาเราแลกเงิน เราก็จะหาที่แลกเงินที่ได้เรทดีๆ เป็นบริษัทรับแลกเงินโดยตรง ซึ่งในต่างประเทศก็มีบริษัทรับแลกเงินเหล่านี้อยู่ที่ไม่ใช่ธนาคาร โดยเราสามารถหาข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนได้จากเว็บไซต์ท่องเที่ยวของประเทศนั้นๆ รวมถึงสามารถแลกเงินกับทางโรมแรมที่เราเข้าพัก กับทางไกด์ทัวร์นำเที่ยว หรือจากตู้แลกเงินอัตโนมัติก็ได้ ซึ่งวิธีนี้ก็น่าสนใจและสะดวกเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้เราควรเปรียบเทียบเรทก่อนแลกทุกครั้ง

4 ค่าธรรมเนียม และอัตราแลกเปลี่ยนจากการใช้บัตรประเภทต่างๆ ในการกดเงิน หรือรูดซื้อสินค้าที่ต่างประเทศ

หากใครชอบสะสมคะแนนจากการใช้บัตรเครดิต หรือเงินสดที่เราพกไปไม่เพียงพอ การใช้บัตรเพื่อรูดซื้อสินค้าในต่างประเทศก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนจะต้องอ้างอิงจากบริษัทเจ้าของ โดยการใช้บัตร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ทางธนาคารจะคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินดังกล่าวในอัตราไม่เกินร้อยละ 2.5 จากยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการแปลงสกุลเงิน ซึ่งอาจจะมีค่าธรรมเนียมการจ่ายและสิทธิประโยชน์อื่นๆ ขึ้นอยู่กับบริษัทต้นสังกัดของบัตร

ในการใช้บัตรแต่ละประเภทเพื่อกดเงินสด จะมีเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกัน เช่น บัตรเดบิต (ATM) จะมีค่าธรรมเนียมการกดต่อครั้ง 100 บาท บัตรเครดิต ไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดต่อครั้ง แต่จะเสียค่า charge 3% ของยอดเงินที่กด ส่วนบัตรกดเงินสด ไม่มีค่าธรรมเนียมการกดต่อครั้ง ไม่มีค่า charge 3 % ของยอดเงินที่กด

ดังนั้น อยู่ที่เราแล้วนะครับว่าจะเลือกใช้บัตรแบบไหน และวิธีใดทั้งนี้ ไม่ว่าจะใช้จ่ายด้วยวิธีใดก็ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน บางประเทศนิยมใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพราะปลอดภัยกว่าการพกเงินสดจำนวนมาก บางประเทศมีข่าวการโจรกรรมข้อมูลจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เราจึงควรศึกษาข้อมูลการท่องเที่ยวในประเทศนั้นๆ และเลือกใช้จ่ายให้ถูกกับจริตของประเทศดังกล่าว

ถึงแม้การแลกเปลี่ยนสกุลเงินอาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่สักเท่าไหร่สำหรับบางคน แต่การแลกเงินทุกครั้งย่อมแฝงไปด้วยคำว่า “กำไร” หรือ “ขาดทุน” อยู่เสมอ การเรียนรู้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้แนะนำไปอาจช่วยให้เพื่อนๆ มีเงินเหลือเที่ยวเหลือใช้ได้ไม่น้อยเลย เพราะผลประโยชน์เพียงไม่กี่สตางค์จากการแลกเงินหนึ่งบาท อาจหมายถึงผลประโยชน์มหาศาลเมื่อคุณแลกเงินก้อนโตก็เป็นได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่