จะคิดไปเลยว่าผมเป็นเกย์ก็ได้ แต่น้องเขาไม่ใช่แบบเรานะครับ
(บอกก่อนนะว่านี่ไม่ได้มาแต่งนิยาย มันคือเรื่องจริง

) คือส่วนตัวผมนี่
ก็เคยมีแฟนมาแล้วบ้างแต่ไม่เยอะ ทุกครั้งที่เลิกกันผมก็จะรักแฟนคนต่อไปน้อยลงๆ
อาจเป็นเพราะเราโตขึ้น เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเจ็บนั้นได้ด้วยล่ะมั้ง

..มันเลยทำให้ผมไม่ค่อยเสียใจมากเหมือนตอนเด็กๆ
ไม่แน่ใจว่ามันคือเรื่องดีไหมที่ทำใจได้เร็ว?
แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน คือผมจะดูเป็นคนเหมือนไม่ได้รักใครขนาดนั้นเลย

5555
แต่ก็เป็นคนที่ให้คำปรึกษาเพื่อนได้ดีมากเลยนะผมน่ะ
เอาล่ะ เหตุผมที่ต้องเข้ามาตั้งกระทู้นี้เพราะผมไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้เลย

ไม่เหมือนตอนที่ให้คำปรึกษาคนอื่นเลยสักนิด //ร้องไห้เลยได้ป่ะ
เรื่องมันมีอยู่ว่าผมโดนรุ่นพี่ที่วิลัยเก่าเรียกกลับไปช่วยงาน(ผมเด็กซิ่วครับ)
แล้วก็มีรุ่นน้องอีกคนนึงมาช่วยด้วยเป็นผู้หญิง สมมุติว่าชื่อน้องเอแล้วกัน
ก็งานที่โดนเรียกมาช่วยก็เป็นงานกีฬาสีนี่แหละครับ
ผมกับน้องเขาเคยเป็นหลีดปีก่อนๆ ก็โดนขอให้มาช่วยคิดท่าไรงี้ ภายในเวลาไม่กี่อาทิตย์(ขอไม่ลงรายละเอียด)
คือน้องเอเขาก็เลือกเด็กมาบ้างแล้วล่ะ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรจนกระทั่งวันนึงผมดันเริ่มรู้สึกแปลกๆไงครับ
มีน้องคนนึงที่ผมดันชอบแอบมองเขานี่ดิ

คือตอนแรกยังไม่ชัวร์ครับว่าชอบเขาไหม
แต่มันเกิดขึ้นตั้งแต่วันไหนไม่รู้เลย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนเริ่มเถียงกับตัวเองนี่แหละ
ว่าจะไปมองเขาทำไม? เพราะรู้จักกันมาสักพักแล้วทำไมไม่เคยสนใจอะไรเขาเลย
น้องไม่ใช่คนที่หล่อ ขาว หรืออะไรที่เข้ากับสเปคเราเลย ไม่ใช่แนวเลยครับ T-T
ในตอนนั้นคือตั้งใจมาช่วยงานอย่างเดียวเลยนะ ดันต้องมาเครียดเรื่องนี้อีก
มันทนไม่ไกวจนต้องปรึกษาเพื่อนอ่ะ เพื่อนมันสรุปให้ฟังง่ายๆเลย "คือชอบมันนั่นแหละ"
555 ตอนนั้นนี่ปฏิเสธทั้งเพื่อนทั้งตัวเองอยู่2-3วัน จนยอมรับ เพราะพี่ห้ามตัวเองไม่มองน้องไม่ได้จริงๆครับ

จากคนที่ไม่เคยอยู่ในสายตามากเพราะน้องจำท่าเร็วไม่มีปัญหาอะไรเลย กลายมาเป็นคนที่เราพยายามจะแอบมอง
ในทุกครั้งที่ไม่มีอะไรทำ เฮ้ออ นับวันยิ่งถล่ำลึก..
คือมันเหลือเวลาอีกไม่นาน รวมช่วยสับสนไปอีก
ผมเหลือเวลาไม่ถึงเดือนด้วยอ่ะ เพื่อนบอกให้เรา "ลุยไปเลย อย่าลังเล"
มันแนะนำให้ผมพยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสายตาน้องเขาบ่อยๆ คือผมให้คำปรึกษาเก่งนะ
แต่ถ้าให้ทำเอง ทำไม่ได้เลยว่ะ 5555 ก็พยายามเดินผ่านหน้าผ่านตาเขานะ
จากที่ไม่ค่อยคุยกัน ก็ลองชวนคุยดูบ้าง แต่เหมือนน้องเขาจะไม่ค่อยอยากคุยกับเราเลยครับ T T
ช่วงนั้นผมเหมือนไบโพล่ามาก เดี๋ยวเขินเวลามองมันยิ้ม เดี๋ยวนอยด์เวลามันไม่ค่อยคุยด้วย
คือบทสนทนามันไม่มีอะไรชวนคุยต่อเลยครับ
ล่าสุดน้องมาสายวันนึงผมทักแชทไปถามว่าอยู่ไหน คืออ่านไม่ตอบอ่ะ

นอยด์มากวันนั้น แต่มันก็มา -_- หลังจากนั้นก็บอกตัวเองแล้วล่ะ
ว่าตัดใจเถอะ ..แต่วันต่อมาก็ยังแอบๆไปเสนอหน้าอยู่นะ
แค่ไม่พยามยามแล้ว '^^
คือน้องมันเป็นคนเงียบๆ เด็กที่มาเป็นหลีดก็คือไม่มีห้องมันเลย
ไม่รู้ว่าเพราะผมสงสารมันด้วยรึเปล่า ถึงทำให้สนใจมันขึ้นเรื่อยๆ
จนความรู้สึกมันมากเกินไปขนาดนี้ ตอนแรกตัดสินใจอยู่นานนะ
ว่าจะแอดเฟสเขาดีไหมวะ? พอแอดไปก็ต้องแอดทุกคนอ่ะ
กลัวไม่เนียน '^^ ปรากฏว่าก่อนแอดกับหลังแอด
คือไม่ต่างกันเลย หน้าเฟสเงียบกริบ มีแต่เพื่อนแทร็ก โคตรเห้ 555
นับวันก็ยิ่งอยากรู้จักเขาเนาะ ยิ่งยากยิ่งท้าทาย
เอาจริงๆป่ะ ทุกวันนี้แข่งจบแล้ว
ผมยังตัดใจไม่ได้เลย ยังคงอยากรู้อยากเห็นชีวิตเขาอยู่เลย
ทั้งๆที่ปกติผมไม่ค่อยสนใจใครเลย น้องคือคนแรกที่มาทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปขนาดนี้
ผมไม่ชอบตัวเองเลยที่เป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกปกติที่เราเราควรจะมีรึเปล่า
แต่สำหรับผมมันคือความงี่เง่ามากๆ ผมต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่เพ้อลงโซเชียล
แต่บางวันไม่ไหวจริงๆก็ปล่อยๆไป เช้ามาก็ลบ.. น้องไม่เคยมากดไลค์บ่อยๆเลย
ไม่รู้ว่าเห็นทุกอย่างไหม แต่ถึงมาก็ก็ได้แค่ไลค์ปกติอ่ะ
อ่อ ในแชทกลุ่มการได้ไลค์จากใครสักคนมันยากกว่าใช่ไหมครับ
อืม น้องยิ่งไม่ไลค์แชทผมเลย แต่น้องเอคือไลค์บ้าง
โคตรนอยด์ ความรู้สึกของคนแอบชอบ
ผมมั่นใจว่าน้องชอบผู้หญิง ผมไม่ได้อยากให้น้องมาแปดเปื้อนเพราะคนอย่างผมเลย
ปล่อยให้น้องเขามีชีวิตปกติน่ะดีแล้วครับ ทางที่ดีอย่ารู้เลยจะดีกว่า
อยู่โง่ๆซื่อแบบนี้ต่อไปนั่นแหละดีแล้ว ไม่รู้สิ ผมอาจจะชอบตรงความซื่อนี้ด้วยล่ะมั้ง
ความไม่มีเหลื่ยม ความใส ที่หาได้ยากในเด็ก ปวช.1
ถามว่าใสในระดับไหน? ก็ถึงขั้นถ้าเริ่มคิดเรื่อง18+ก็ต้องด่าตัวเองเลยอ่ะ
กลัวทำน้องแปดเปื้อน กลัวน้องไม่ใสโว้ยยยยย 5555
อายุก็ห่างกันตั้ง3-4ปี น้องเขาจะเข้าใจความรักของลุงไหมวะเนี้ยยย

????
เชื่อป่ะ.. นี่คิดไปไกลเลยขนาดว่าถ้าทำให้น้องชอบเราได้
จะกล้าผ่านด่านที่บ้านเขาไหมวะ ที่ทำลูกชายเขาเป็นแบบนี้ 5555
โอ้ยยยย เรื่องมโนนี่ขอให้บอก แต่ก็นั่นแหละ ต้องรีบดึงตัวเองกลับมามองโลกความจริงบ้าง
***เนี่ยๆ ไม่ได้มาแต่งนิยายใดๆทั้งสิ้น
แค่ว่าอึดอัดอยากระบายบ้าง ถ้าใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ
ผมก็ถือว่าเป็นเรื่องราวตลกๆ ช่วงเวลาดีๆช่วงนึงที่เกิดขึ้นกับเราก็แล้วกัน
ปล.สรุปผมควรทำไงถึงจะตัดใจจากมันได้สักทีวะ

อยากดูแลแต่ก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้เลย
ปกติไม่ค่อยกล้ารักใครเพราะกลัวเจ็บ แต่ดันชอบไปแล้ว อยากตัดใจ ควรทำไงดีครับ?
(บอกก่อนนะว่านี่ไม่ได้มาแต่งนิยาย มันคือเรื่องจริง
ก็เคยมีแฟนมาแล้วบ้างแต่ไม่เยอะ ทุกครั้งที่เลิกกันผมก็จะรักแฟนคนต่อไปน้อยลงๆ
อาจเป็นเพราะเราโตขึ้น เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเจ็บนั้นได้ด้วยล่ะมั้ง
..มันเลยทำให้ผมไม่ค่อยเสียใจมากเหมือนตอนเด็กๆ
ไม่แน่ใจว่ามันคือเรื่องดีไหมที่ทำใจได้เร็ว?
แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน คือผมจะดูเป็นคนเหมือนไม่ได้รักใครขนาดนั้นเลย
แต่ก็เป็นคนที่ให้คำปรึกษาเพื่อนได้ดีมากเลยนะผมน่ะ
เอาล่ะ เหตุผมที่ต้องเข้ามาตั้งกระทู้นี้เพราะผมไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้เลย
ไม่เหมือนตอนที่ให้คำปรึกษาคนอื่นเลยสักนิด //ร้องไห้เลยได้ป่ะ
เรื่องมันมีอยู่ว่าผมโดนรุ่นพี่ที่วิลัยเก่าเรียกกลับไปช่วยงาน(ผมเด็กซิ่วครับ)
แล้วก็มีรุ่นน้องอีกคนนึงมาช่วยด้วยเป็นผู้หญิง สมมุติว่าชื่อน้องเอแล้วกัน
ก็งานที่โดนเรียกมาช่วยก็เป็นงานกีฬาสีนี่แหละครับ
ผมกับน้องเขาเคยเป็นหลีดปีก่อนๆ ก็โดนขอให้มาช่วยคิดท่าไรงี้ ภายในเวลาไม่กี่อาทิตย์(ขอไม่ลงรายละเอียด)
คือน้องเอเขาก็เลือกเด็กมาบ้างแล้วล่ะ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรจนกระทั่งวันนึงผมดันเริ่มรู้สึกแปลกๆไงครับ
มีน้องคนนึงที่ผมดันชอบแอบมองเขานี่ดิ
แต่มันเกิดขึ้นตั้งแต่วันไหนไม่รู้เลย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนเริ่มเถียงกับตัวเองนี่แหละ
ว่าจะไปมองเขาทำไม? เพราะรู้จักกันมาสักพักแล้วทำไมไม่เคยสนใจอะไรเขาเลย
น้องไม่ใช่คนที่หล่อ ขาว หรืออะไรที่เข้ากับสเปคเราเลย ไม่ใช่แนวเลยครับ T-T
ในตอนนั้นคือตั้งใจมาช่วยงานอย่างเดียวเลยนะ ดันต้องมาเครียดเรื่องนี้อีก
มันทนไม่ไกวจนต้องปรึกษาเพื่อนอ่ะ เพื่อนมันสรุปให้ฟังง่ายๆเลย "คือชอบมันนั่นแหละ"
555 ตอนนั้นนี่ปฏิเสธทั้งเพื่อนทั้งตัวเองอยู่2-3วัน จนยอมรับ เพราะพี่ห้ามตัวเองไม่มองน้องไม่ได้จริงๆครับ
จากคนที่ไม่เคยอยู่ในสายตามากเพราะน้องจำท่าเร็วไม่มีปัญหาอะไรเลย กลายมาเป็นคนที่เราพยายามจะแอบมอง
ในทุกครั้งที่ไม่มีอะไรทำ เฮ้ออ นับวันยิ่งถล่ำลึก..
คือมันเหลือเวลาอีกไม่นาน รวมช่วยสับสนไปอีก
ผมเหลือเวลาไม่ถึงเดือนด้วยอ่ะ เพื่อนบอกให้เรา "ลุยไปเลย อย่าลังเล"
มันแนะนำให้ผมพยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสายตาน้องเขาบ่อยๆ คือผมให้คำปรึกษาเก่งนะ
แต่ถ้าให้ทำเอง ทำไม่ได้เลยว่ะ 5555 ก็พยายามเดินผ่านหน้าผ่านตาเขานะ
จากที่ไม่ค่อยคุยกัน ก็ลองชวนคุยดูบ้าง แต่เหมือนน้องเขาจะไม่ค่อยอยากคุยกับเราเลยครับ T T
ช่วงนั้นผมเหมือนไบโพล่ามาก เดี๋ยวเขินเวลามองมันยิ้ม เดี๋ยวนอยด์เวลามันไม่ค่อยคุยด้วย
คือบทสนทนามันไม่มีอะไรชวนคุยต่อเลยครับ
ล่าสุดน้องมาสายวันนึงผมทักแชทไปถามว่าอยู่ไหน คืออ่านไม่ตอบอ่ะ
นอยด์มากวันนั้น แต่มันก็มา -_- หลังจากนั้นก็บอกตัวเองแล้วล่ะ
ว่าตัดใจเถอะ ..แต่วันต่อมาก็ยังแอบๆไปเสนอหน้าอยู่นะ
แค่ไม่พยามยามแล้ว '^^
คือน้องมันเป็นคนเงียบๆ เด็กที่มาเป็นหลีดก็คือไม่มีห้องมันเลย
ไม่รู้ว่าเพราะผมสงสารมันด้วยรึเปล่า ถึงทำให้สนใจมันขึ้นเรื่อยๆ
จนความรู้สึกมันมากเกินไปขนาดนี้ ตอนแรกตัดสินใจอยู่นานนะ
ว่าจะแอดเฟสเขาดีไหมวะ? พอแอดไปก็ต้องแอดทุกคนอ่ะ
กลัวไม่เนียน '^^ ปรากฏว่าก่อนแอดกับหลังแอด
คือไม่ต่างกันเลย หน้าเฟสเงียบกริบ มีแต่เพื่อนแทร็ก โคตรเห้ 555
นับวันก็ยิ่งอยากรู้จักเขาเนาะ ยิ่งยากยิ่งท้าทาย
เอาจริงๆป่ะ ทุกวันนี้แข่งจบแล้ว
ผมยังตัดใจไม่ได้เลย ยังคงอยากรู้อยากเห็นชีวิตเขาอยู่เลย
ทั้งๆที่ปกติผมไม่ค่อยสนใจใครเลย น้องคือคนแรกที่มาทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปขนาดนี้
ผมไม่ชอบตัวเองเลยที่เป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกปกติที่เราเราควรจะมีรึเปล่า
แต่สำหรับผมมันคือความงี่เง่ามากๆ ผมต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่เพ้อลงโซเชียล
แต่บางวันไม่ไหวจริงๆก็ปล่อยๆไป เช้ามาก็ลบ.. น้องไม่เคยมากดไลค์บ่อยๆเลย
ไม่รู้ว่าเห็นทุกอย่างไหม แต่ถึงมาก็ก็ได้แค่ไลค์ปกติอ่ะ
อ่อ ในแชทกลุ่มการได้ไลค์จากใครสักคนมันยากกว่าใช่ไหมครับ
อืม น้องยิ่งไม่ไลค์แชทผมเลย แต่น้องเอคือไลค์บ้าง
โคตรนอยด์ ความรู้สึกของคนแอบชอบ
ผมมั่นใจว่าน้องชอบผู้หญิง ผมไม่ได้อยากให้น้องมาแปดเปื้อนเพราะคนอย่างผมเลย
ปล่อยให้น้องเขามีชีวิตปกติน่ะดีแล้วครับ ทางที่ดีอย่ารู้เลยจะดีกว่า
อยู่โง่ๆซื่อแบบนี้ต่อไปนั่นแหละดีแล้ว ไม่รู้สิ ผมอาจจะชอบตรงความซื่อนี้ด้วยล่ะมั้ง
ความไม่มีเหลื่ยม ความใส ที่หาได้ยากในเด็ก ปวช.1
ถามว่าใสในระดับไหน? ก็ถึงขั้นถ้าเริ่มคิดเรื่อง18+ก็ต้องด่าตัวเองเลยอ่ะ
กลัวทำน้องแปดเปื้อน กลัวน้องไม่ใสโว้ยยยยย 5555
อายุก็ห่างกันตั้ง3-4ปี น้องเขาจะเข้าใจความรักของลุงไหมวะเนี้ยยย
เชื่อป่ะ.. นี่คิดไปไกลเลยขนาดว่าถ้าทำให้น้องชอบเราได้
จะกล้าผ่านด่านที่บ้านเขาไหมวะ ที่ทำลูกชายเขาเป็นแบบนี้ 5555
โอ้ยยยย เรื่องมโนนี่ขอให้บอก แต่ก็นั่นแหละ ต้องรีบดึงตัวเองกลับมามองโลกความจริงบ้าง
***เนี่ยๆ ไม่ได้มาแต่งนิยายใดๆทั้งสิ้น
แค่ว่าอึดอัดอยากระบายบ้าง ถ้าใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ
ผมก็ถือว่าเป็นเรื่องราวตลกๆ ช่วงเวลาดีๆช่วงนึงที่เกิดขึ้นกับเราก็แล้วกัน
ปล.สรุปผมควรทำไงถึงจะตัดใจจากมันได้สักทีวะ
อยากดูแลแต่ก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้เลย