ยาน THE FUGITIVE มีขนาดใหญ่มาก เส้นผ่าศูนย์กลางนั้นประมาณ 105 เมตร เท่ากับความกว้างของสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานสนามหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ภายในยานมากพอที่จะขนคนทั้งหมดขึ้นไปบนยานได้
กัปตันวันชนะทำการติดต่อกับสถาพรเพื่อนรักซึ่งจอดยานลอยลำรออยู่กลางอากาศ ให้ใช้ระบบต้านแรงโน้มถ่วงของโลก แล้วดูดคนทั้งหมด อันได้แก่ สมาชิกของยานทุกคน ต่อด้วยสมาชิกทีม THE RED FOX และทหารจากหน่วยซีลของอเมริกาทั้งห้านาย ขึ้นไปบนยาน โดยลอดช่องเหนือถ้ำข้างบนขึ้นไปทีละคนๆ จนครบ
ทั้งสมาชิกทีมจิ้งจอกแดงและซีลทั้งห้า ต่างพากันตื่นตะลึงตั้งแต่วินาทีแรกที่แต่ละคนถูกดูดขึ้นยานซึ่งทุกคนเมื่อเห็นแล้วก็เรียกกันว่า "ยูเอฟโอ" กันทั้งนั้นด้วยรูปลักษณะของมัน และยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ขึ้นมาอยู่บนยาน
"นี่คือยานรบของกองกำลังกอบกู้อิสรภาพของพวกคุณหรือ กัปตัน ?" ผู้พันแบรดถาม
"ใช่แล้วครับผู้พัน" กัปตันวันชนะตอบโดยตั้งใจหลีกเลี่ยงการพูดถึงดาวและชาวดาวเนโอโซรอส เพราะรู้ดีว่ารัฐบาลสหรัฐนั้นมีโครงการลับสุดยอดเกี่ยวกับยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาวอยู่ ถ้าเขาพูดถึงเนโอโซรอส หรือแม้แต่บอกว่า THE FUGITIVE มีวิศวกรรมจากต่างดาวผสมผสานอยู่ด้วย จะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะพวกซีลต้องรายงานเรื่องยานลำนี้ให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลสหรัฐทราบ เป็นต้นว่า องค์การนาซา, ซีไอเอ หรือหน่วยงานลับ แอเรีย 51 รับทราบอย่างแน่นอน แล้วก็จะต้องมีความพยายามติดต่อกับพวกตนเพื่อจะติดต่อกับชาวเนโอโซรอสอีกทีหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะที่ผ่านมาหลายทศวรรษมีข่าวลือมากมายว่าสหรัฐนั้นติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมานานแล้วและปัจจุบันนี้ถึงกับมีมนุษย์ต่างดาวบางพวกทำงานร่วมกับองค์การนาซ่าและพักอาศัยอยู่ภายในดินแดนหวงห้าม แอเรีย 51 ด้วย ความยุ่งยากเดือดร้อนหลายประการจะมาถึงเขาและลูกเมียอย่างเอ็มม่าและสาวน้อยแอนนาแน่ๆ
"ใครเป็นคนออกแบบยาน ?"
"ผมเองแหละครับ ผู้พัน"
"อะเมซซิ่ง!!" ผู้พันแบรดพยักหน้าชื่นชม "คุณนี่น่าจะได้ไปร่วมงานกับเองค์การนาซ่าของพวกเรานะ เพราะสามารถยกระดับเทคโนโลยีเลียนแบบยูเอฟโอของพวกเอเลี่ยนได้ถึงขนาดนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ"
"ขอบคุณครับผู้พัน แต่ผมคงไม่มีความสามารถมากพอถึงขั้นไปทำงานที่นาซ่าได้หรอกครับ"
"เฮ้...อย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลย กัปตัน! คุณต้องทำงานร่วมกับพวกเขาได้อย่างแน่นอน ผมมั่นใจ! เอาไว้หลังจากพวกผมกลับไปอเมริกาเสียก่อนแล้วผมจะเสนอชื่อคุณต่อผู้บริหาร"
"โอ...อย่าเลยครับผู้พัน! ผมไม่เอา!!" กัปตันรีบห้าม "ผมไม่อยากไปไหนหรอกครับ ขอผมอยู่กับครอบครัวและเพื่อนๆของผมทางนี้เถอะ"
"ไม่อยากไปจริงๆเหรอ ?" ผู้พันแบรดทำหน้าข้องใจ ปกติเขาเคยเห็นว่าใครๆ ก็อยากทำงานในองค์การนาซ่ากันทั้งนั้น
"ไม่แน่นอนครับผู้พัน" กัปตันสั่นศีรษะปฏิเสธหนักแน่น
"อืม...ไม่รู้หละ! อย่างไรเสีย ผมก็ต้องรายงานทุกอย่างที่ได้พบเห็นไปตามหน้าที่ อย่าว่ากันนะ!"
"ก็ แล้วแต่คุณก็แล้วครับผู้พัน" กัปตันตอบยิ้มๆ แล้วเป็นฝ่ายถามบ้าง "เอาละผู้พัน คุณและเพื่อนๆ อีก 4 คน อยากให้ยานลำนี้พาพวกคุณไปส่งที่ไหน ?"
"อืม....ขอคิดดูก่อนสักครู่ ขอปรึกษากับเพื่อนๆของผมก่อนนะครับ ขอเวลาซักสามนาที"
"ได้ครับผู้พัน มากกว่านั้นก็ได้ เชิญครับ" กัปตันตอบพลางผายมือไปยังซีลอีกสี่นาย
"ขอบคุณครับ" ผู้พันแบรดกล่าวแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนทั้งสี่คนซึ่งยืนรออยู่ แล้วทั้งห้าคนก็เริ่มปรึกษาหารือกัน
"ตกลง พวกคุณจะส่งพวกเราไปที่ไหนครับ คุณวันชนะ ?" โค้ชทีมจิ้งจอกแดงเข้ามาถามหลังจากเห็นผู้พันแบรดเดินจากกัปตันวันชนะไปหาเพื่อนๆ
"ผมจะส่งต่อไปยังพรรคพวกของผม จากองค์กรกอบกู้อิสรภาพหน่วยอื่นต่อไปนะครับ พวกคุณก็รอก่อน ผมขอตัวไปปรึกษากับเพื่อนๆ สมาชิกของผมสักครู่นะครับ แต่ไม่ใช่ในไทยแน่ ขืนปล่อยพวกคุณกลับบ้านกัน พวกทหารจากทางการต้องตามราวีพวกคุณแน่นอน...รอก่อนนะครับ"
"ได้ครับกัปตัน ผมและเด็กๆ จะรอครับ" โค้ชทีมจิ้งจอกแดงพยักหน้าตอบ
กัปตันวันชนะเดินตรงเข้าไปหาเหล่าสมาชิก แล้วร้อยเรียกสาวแฝดผู้พี่ "คุณรัชนกครับ"
"คะ กัปตัน ??" หล่อนเงยหน้าขึ้นมาตอบหลังจากกำลังนั่งคุยกับน้องสาวฝาแฝดอยู่บริเวณหน้าห้องนักบิน
"คุณบอกว่าคุณมาจากหน่วยหนึ่งขององค์กรเราใช่ไหม ? ถึงเวลาของคุณแล้วครับ"
"อ้อค่ะ...ใช่ค่ะกัปตัน จะให้นกทำอะไรคะ ?"
"ลองพยายามติดต่อกับพวกคุณด่วนเลยครับ เข้าไปในห้องนักบินกับผมตอนนี้เลย"
"โอเคค่ะกัปตัน"
"นีไปด้วยค่ะ" รัชนีเดินตามมา
"ผมด้วยครับ" แซมเอ่ยขึ้นมาอีกคน
"งั้นเข้าไปกันหมดทุกคนเลยครับสำหรับพวกเรา" กัปตันหันมาบอก แล้วเดินนำหน้าทุกคนเข้าสู่ห้องนักบิน จากนั้นเข้าไปตรงที่นั่งนักบินหนึ่งของตน เปิดระบบวิทยุสื่อสาร จัดการตั้งค่าต่างๆบนแผงควบคุมข้างหน้าเก้าอี้เสร็จแล้วจึงบอกกับสาวแฝดผู้พี่
"คุณนกมานั่งที่เก้าอี้ของผมตรงนี้เลยครับ ระบบสื่อสารพร้อม เฮดโฟนพร้อม เข้ามาประจำที่ก่อนครับ เดี๋ยวผมจะช่วยแนะนำให้นิดหน่อยคุณก็ควบคุมระบบสื่อสารของยานได้ไม่ยาก"
"ค่ะกัปตัน ขอบคุณค่ะ"
รัชนกตอบเจ้านายคนใหม่แล้วเข้านั่งประจำที่ของกัปตันเพื่อรับฟังคำชี้แนะการใช้งาน กัปตันวันชนะช่วยสอนเธออยู่ครู่หนึ่งแล้วให้เธอทดลองใช้ระบบสื่อสาร ไม่นานเธอก็สามารถควบคุมได้
"โอเคแล้วใช่ไหมครับ ?"
"ค่ะ กัปตัน"
"งั้นก็ลองพยายามติดต่อกับเพื่อนๆ ของคุณได้เลยครับ ตามช่องสัญญาณคลื่นความถี่ในการติดต่อของพวกคุณซึ่งคุณคงจำได้ หวังว่าคงไม่ลืมนะครับ"
"จำได้ค่ะ ไม่ลืมแน่นอนค่ะกัปตัน" สาวแฝดผู้พี่ยิ้มแล้วหันหน้าเข้าหาแผงควบคุม เริ่มป้อนข้อมูลช่องสัญญาณในการติดต่อถึงพวกของเธอ แล้วส่งสัญญาณเสียงเรียก
"ฮัลโหลๆ นี่คือแม่วิหค แม่วิหคเรียกฝูงลูกวิหค ลูกวิหคคนไหนได้ยินบ้าง ตอบด้วย เปลี่ยน! ย้ำ! นี่คือแม่วิหค แม่วิหคเรียก ลูกวิหคคนไหนได้ยินบ้าง ตอบด้วย เปลี่ยน!!"
มีเสียงคลื่นสัญญาณดังครืดคราดๆ อยู่ตลอดเวลาที่เธอเรียกออกไป
"คุณค่อยๆ พยายามติดต่อไปเรื่อยๆ นะครับ ผมจะออกไปคุยกับพวกซีลหน่อย"
"ค่ะ กัปตัน" หล่อนพยักหน้า แล้วตั้งหน้าตั้งตาพยายามเรียกพรรคพวกของตนต่อไป
กัปตันวันชนะ เดินออกไปจากห้องนักบินแล้วเข้าไปหาซีลทั้งห้าอีกครั้ง
"มาแล้ว คุณกัปตัน!" ผู้พันแบรดเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้
"พวกคุณได้ข้อสรุปกันหรือยังครับ ว่าจะให้ยานลำนี้นำพวกคุณไปลงที่ไหน ?" กัปตันถาม
"ได้แล้วคุณกัปตัน พวกเราปรึกษากันแล้ว สรุปว่า ไหนๆ ก็ขึ้นมาอยู่บนยานยูเอฟโอแล้ว ก็มิให้เสียเที่ยวเลยละกัน กัปตัน!
ช่วยพาพวกเราห้าคนนี่ ไปลงที่วอชิงตันดีซีเลย !! จะขัดข้องไหม ?" ผู้พันแบรดถามยิ้มๆ
"เลือกสถานที่ลงได้เยี่ยมครับ ผู้พัน!" กัปตันยิ้มตอบ "ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่า พวกคุณน่าจะกลับบ้านกันเลย เพราะถ้ากลับไปหาศูนย์ของพวกคุณซึ่งอยู่ในไทยนี่ อาจจะมีปัญหา ทางการอาจเหนี่ยวรั้งพวกคุณไว้ไม่ให้กลับ เนื่องจากพวกคุณได้เห็นได้รับทราบความลับของทางการแล้ว!"
"ใช่เลยคุณกัปตัน คุณเดาสถานการณ์ถูก!" ผู้พันแบรดพยักหน้าและมีสีหน้าเครียดเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ "เพราะฉะนั้น ขอให้คุณพาพวกผมไปวอชิงตันดีซีเลย"
"คุณจะไม่รายงานหน่วยเหนือของพวกคุณให้ทราบก่อนหรือครับ ?" กัปตันถามเพื่อหยั่งเชิง
"โอ้ ไม่ๆๆ" ผู้พันปฏิเสธ "ขืนรายงานไป พวกเขาจะไม่อนุญาตแน่ และต้องมีคำสั่งบังคับให้พวกผมกลับไปหาพวกเขาแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์!"
"แปลว่า พวกคุณจะหนีกลับไปดื้อๆ ? ไม่กลัวจะมีปัญหาขึ้นศาลทหารหรือครับ ?" กัปตันถามยิ้มๆ
"ฟัคเดอะคอร์ท!!" ผู้พันสบถ "ช่างแม่มศาลทหารเถอะวะ คุณกัปตัน! ไม่ต้องห่วงพวกผมหรอก ตกลงเอาตามนี้แหละ!! Let's go to The States !!!"
"ใจเย็นๆ ครับผู้พัน ผมน่ะโอเคอยู่แล้วไม่มีปัญหา" กัปตันพูดพลางหัวเราะหึๆ "งั้น...รอสักครู่ ผมขอไปหาพวกลูกน้องของผมหน่อย เดี๋ยวมาครับ"
พูดจบเขาก็เดินกลับไปหาทีมจิ้งจอกแดงอีกรอบ เพื่อบอกพวกเขาว่าให้รออีกหน่อย พวกตนกำลังติดต่อหาผู้มารับพวกเขาต่อ
"คุณแน่ใจได้ยังไงว่า พวกที่จะรับพวกผมต่อจากพวกคุณ เป็นพวกที่ไว้ใจได้ ?"
"แน่ใจสิครับ เพราะพวกเขาก็คืออีกหน่วยหนึ่งขององค์กรกอบกู้อิสระภาพ เหมือนพวกผม"
"อ้อ...เข้าใจแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยวางใจหน่อย"
"ครับ...ตอนนี้ลูกน้องผมกำลังพยายามติดต่อหน่วยที่ว่านั้นอยู่ พวกคุณรอต่อไปอีกสักหน่อยนะครับ ผมจะไปถามความคืบหน้าจากลูกน้องผม"
"ได้ครับ พวกผมรอได้ครับคุณกัปตัน" โค้ชทีมจิ้งจอกแดงพยักหน้า
กัปตันพยักหน้าตอบ แล้วกลับหลังหัน เดินกลับเข้าห้องนักบิน เข้าไปหาสาวแฝดผู้พี่อีกครั้ง และพบว่า เธอกำลังติดต่อสื่อสารอยู่ จึงยืนอยู่ข้างๆ ฟังเธอพูดคุยกับพรรคพวกของเธอ
"ตกลงจะให้เอาทีมจิ้งจอกแดงไปส่งให้ที่ไหนคะกัปตัน ?"
"มาที่หน้าภูเขาฮอลลีวู้ดก็แล้วกัน คุณรัชนก ทางนี้จะเตรียมตั้งโต๊ะเปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์พวกเขาว่าได้ไปพบเห็นอะไรมา และจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ประเทศไทยแม้จะพยายามปิดกั้นอย่างไรก็จะไม่มีทาง เพราะเราจะถ่ายทอดสดด้วยระบบใหม่ล่าสุด ทุกคนในประเทศจะได้เห็นและได้ฟังพร้อมกันกับชาวโลกทั้งโลก!!"
"ค่ะกัปตัน ตื่นเต้นจัง"
"รีบพาทีมจิ้งจอกแดงมาส่งให้เร็วที่สุดนะ คุณรัชนก"
"ค่ะ กัปตัน"
กัปตันวันชนะยืนทำคิ้วขมวดเล็กน้อย พอได้จังหวะจึงสะกิดที่แขนของสาวแฝดผู้พี่ พอเธอหันมามอง จึงบอก
"ขอผมคุยกับ 'กัปตัน' ของคุณหน่อยซิ"
รัชนีขยับเฮดโฟนออกจากสองหูแล้วตอบ "ได้สิคะกัปตัน แป๊บนึงนะคะ นกจะเปิดสปีคเกอร์ของยานตรงนี้ให้"
"ไม่ต้องเปิดครับ ผมจะสวมเฮดโฟนของที่นั่งนักบินที่สอง"
"อ้อค่ะ...เดี๋ยวนกบอก
กัปตันณรงค์เดช ของหน่วยเดิมก่อนนะคะว่ากัปตันขอคุยด้วย"
"บอกเค้าเลยครับ"
"ค่ะ!" รัชนกพยักหน้ายิ้มแล้วขยับเฮดโฟนสวมครอบสองหูอีกครั้ง บอกกับ 'กัปตัน' ทีมเก่าของตน
"กัปตันคะ...กัปตันวันชนะ ผู้บังคับการยาน THE FUGITIVE ขอคุยด้วยค่ะ"
"เยี่ยมเลยคุณรัชนก เปิดช่องสัญญาณติดต่อได้เลย"
"เปิดแล้วค่ะ กัปตันวันชนะพร้อมแล้วค่ะกัปตัน ทั้งสองท่าน เริ่มการสนทนาได้เลยค่ะ" พูดแล้วก็หันมาพยักหน้าให้กัปตันวันชนะ
"สวัสดี วันชนะ" กัปตันณรงค์เดชทักก่อน
"สวัสดีครับคุณณรงค์เดช" กัปตันวันชนะตอบพลางขมวดคิ้ว เพราะฝ่ายโน้นทักมาก่อนโดยใช้คำพูดแบบเป็นกันเอง ราวกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน
"เฮ้...นายจำเราไม่ได้ละสิเนี่ย วันชนะ ?"
"อ่า....เรา...เคยรู้จักกันหรือครับ ? ขออภัยเพราะผมจำไม่ได้ นึกไม่ออกจริงๆ ครับ"
"มันก็น่าเห็นใจอยู่หรอกนะ เพราะเวลามันผ่านมานานมากแล้ว เราเคยเจอกันตอนปีหนึ่งในมหา' ลัย ในห้องเรียนวิชาจิตวิทยาเบื้องต้น ไซโค 101 ซึ่งทั้งนายและเราเลือกเรียนเป็นวิชาเลือกอิสระไง จำได้ไหม ?"
"ฮืมม.....ขอนึกย้อนหลังกลับไปในอดีตสักครู่ครับ" กัปตันวันชนะส่ายหัวอย่างมึนงง เพราะตนจำเขาไม่ได้จริงๆ "ไซโค 101 เหรอครับ ?"
"เออใช่!!" ฝ่ายโน้นคอนเฟิร์มโดยพูดด้วยสไตล์เป็นกันเองเหมือนเดิม "แล้วก็เดี๋ยวก่อนนะวันชนะ...นายเลิกพูดโพไล้ท์ลี่กับเราได้แล้วว่ะ! ได้ยินนายพูดครับๆ ผมๆ แล้วจั๊กกะจี้ !!"
กัปตันวันชนะหัวเราะก่อนตอบ "โอเคๆ...ก็ เราจำนายไม่ได้จริงๆ นี่นา"
"ให้ตายสิเพื่อน! นายเคยพูดกับเราครั้งหนึ่งนะว่า ถ้านายไม่เรียนวิศวะ นายจะเลือกเรียนเอกไซโค! เพราะนายอยากเป็นจิตแพทย์ นายสนใจเรื่องกระบวนการความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ รวมถึงเรื่องพฤติกรรมของมนุษย์ด้วยว่าทำไมคนเราแต่ละคนๆ ถึงได้มีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน แต่นายเลือกเรียนวิศวะ เพราะนายรู้สึกว่า วิศวกรรมมันท้าทายกว่า นายอยากเป็นวิศวกรประดิษฐ์สิ่งต่างๆที่มันไฮเทค ถ้าเป็นไปได้ นายก็อยากจะเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์และอากาศกับอวกาศยาน นายคิดไปไกลถึงการสร้างยานอวกาศเดินทางข้ามแกแลกซี่โน่นเลย! ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคนชาติไหนทำได้ นายเคยพูดกับเราไว้แบบนี้ จำได้หรือยัง ??"
"โอ๊ววว..." กัปตันวันชนะร้องออกมาและทำตาโต "จำได้แล้วว่ะ! เฮ้ยย....นาย...ไอ้...
ซิกมันด์เฟือง !!" ในที่สุดเขาก็จำเพื่อนคนนี้ได้ เขามีชื่อเล่นว่า "มะเฟือง" และเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับตนแล้วเลือกเรียนจิตวิทยา เขาคลั่งไคล้ ซิกมันด์ ฟรอยด์ นักจิตวิทยาชื่อดังเป็นอันมาก เพื่อนๆ จึงเรียกเขาว่า "ซิกมันด์ เฟือง"
💫🕛💫 "หลงกาล" Episode-63 : ภาคอวสาน ตอนที่ 20 💫🕛💫
ยาน THE FUGITIVE มีขนาดใหญ่มาก เส้นผ่าศูนย์กลางนั้นประมาณ 105 เมตร เท่ากับความกว้างของสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานสนามหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ภายในยานมากพอที่จะขนคนทั้งหมดขึ้นไปบนยานได้
กัปตันวันชนะทำการติดต่อกับสถาพรเพื่อนรักซึ่งจอดยานลอยลำรออยู่กลางอากาศ ให้ใช้ระบบต้านแรงโน้มถ่วงของโลก แล้วดูดคนทั้งหมด อันได้แก่ สมาชิกของยานทุกคน ต่อด้วยสมาชิกทีม THE RED FOX และทหารจากหน่วยซีลของอเมริกาทั้งห้านาย ขึ้นไปบนยาน โดยลอดช่องเหนือถ้ำข้างบนขึ้นไปทีละคนๆ จนครบ
ทั้งสมาชิกทีมจิ้งจอกแดงและซีลทั้งห้า ต่างพากันตื่นตะลึงตั้งแต่วินาทีแรกที่แต่ละคนถูกดูดขึ้นยานซึ่งทุกคนเมื่อเห็นแล้วก็เรียกกันว่า "ยูเอฟโอ" กันทั้งนั้นด้วยรูปลักษณะของมัน และยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ขึ้นมาอยู่บนยาน
"นี่คือยานรบของกองกำลังกอบกู้อิสรภาพของพวกคุณหรือ กัปตัน ?" ผู้พันแบรดถาม
"ใช่แล้วครับผู้พัน" กัปตันวันชนะตอบโดยตั้งใจหลีกเลี่ยงการพูดถึงดาวและชาวดาวเนโอโซรอส เพราะรู้ดีว่ารัฐบาลสหรัฐนั้นมีโครงการลับสุดยอดเกี่ยวกับยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาวอยู่ ถ้าเขาพูดถึงเนโอโซรอส หรือแม้แต่บอกว่า THE FUGITIVE มีวิศวกรรมจากต่างดาวผสมผสานอยู่ด้วย จะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะพวกซีลต้องรายงานเรื่องยานลำนี้ให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลสหรัฐทราบ เป็นต้นว่า องค์การนาซา, ซีไอเอ หรือหน่วยงานลับ แอเรีย 51 รับทราบอย่างแน่นอน แล้วก็จะต้องมีความพยายามติดต่อกับพวกตนเพื่อจะติดต่อกับชาวเนโอโซรอสอีกทีหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะที่ผ่านมาหลายทศวรรษมีข่าวลือมากมายว่าสหรัฐนั้นติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมานานแล้วและปัจจุบันนี้ถึงกับมีมนุษย์ต่างดาวบางพวกทำงานร่วมกับองค์การนาซ่าและพักอาศัยอยู่ภายในดินแดนหวงห้าม แอเรีย 51 ด้วย ความยุ่งยากเดือดร้อนหลายประการจะมาถึงเขาและลูกเมียอย่างเอ็มม่าและสาวน้อยแอนนาแน่ๆ
"ใครเป็นคนออกแบบยาน ?"
"ผมเองแหละครับ ผู้พัน"
"อะเมซซิ่ง!!" ผู้พันแบรดพยักหน้าชื่นชม "คุณนี่น่าจะได้ไปร่วมงานกับเองค์การนาซ่าของพวกเรานะ เพราะสามารถยกระดับเทคโนโลยีเลียนแบบยูเอฟโอของพวกเอเลี่ยนได้ถึงขนาดนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ"
"ขอบคุณครับผู้พัน แต่ผมคงไม่มีความสามารถมากพอถึงขั้นไปทำงานที่นาซ่าได้หรอกครับ"
"เฮ้...อย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลย กัปตัน! คุณต้องทำงานร่วมกับพวกเขาได้อย่างแน่นอน ผมมั่นใจ! เอาไว้หลังจากพวกผมกลับไปอเมริกาเสียก่อนแล้วผมจะเสนอชื่อคุณต่อผู้บริหาร"
"โอ...อย่าเลยครับผู้พัน! ผมไม่เอา!!" กัปตันรีบห้าม "ผมไม่อยากไปไหนหรอกครับ ขอผมอยู่กับครอบครัวและเพื่อนๆของผมทางนี้เถอะ"
"ไม่อยากไปจริงๆเหรอ ?" ผู้พันแบรดทำหน้าข้องใจ ปกติเขาเคยเห็นว่าใครๆ ก็อยากทำงานในองค์การนาซ่ากันทั้งนั้น
"ไม่แน่นอนครับผู้พัน" กัปตันสั่นศีรษะปฏิเสธหนักแน่น
"อืม...ไม่รู้หละ! อย่างไรเสีย ผมก็ต้องรายงานทุกอย่างที่ได้พบเห็นไปตามหน้าที่ อย่าว่ากันนะ!"
"ก็ แล้วแต่คุณก็แล้วครับผู้พัน" กัปตันตอบยิ้มๆ แล้วเป็นฝ่ายถามบ้าง "เอาละผู้พัน คุณและเพื่อนๆ อีก 4 คน อยากให้ยานลำนี้พาพวกคุณไปส่งที่ไหน ?"
"อืม....ขอคิดดูก่อนสักครู่ ขอปรึกษากับเพื่อนๆของผมก่อนนะครับ ขอเวลาซักสามนาที"
"ได้ครับผู้พัน มากกว่านั้นก็ได้ เชิญครับ" กัปตันตอบพลางผายมือไปยังซีลอีกสี่นาย
"ขอบคุณครับ" ผู้พันแบรดกล่าวแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนทั้งสี่คนซึ่งยืนรออยู่ แล้วทั้งห้าคนก็เริ่มปรึกษาหารือกัน
"ตกลง พวกคุณจะส่งพวกเราไปที่ไหนครับ คุณวันชนะ ?" โค้ชทีมจิ้งจอกแดงเข้ามาถามหลังจากเห็นผู้พันแบรดเดินจากกัปตันวันชนะไปหาเพื่อนๆ
"ผมจะส่งต่อไปยังพรรคพวกของผม จากองค์กรกอบกู้อิสรภาพหน่วยอื่นต่อไปนะครับ พวกคุณก็รอก่อน ผมขอตัวไปปรึกษากับเพื่อนๆ สมาชิกของผมสักครู่นะครับ แต่ไม่ใช่ในไทยแน่ ขืนปล่อยพวกคุณกลับบ้านกัน พวกทหารจากทางการต้องตามราวีพวกคุณแน่นอน...รอก่อนนะครับ"
"ได้ครับกัปตัน ผมและเด็กๆ จะรอครับ" โค้ชทีมจิ้งจอกแดงพยักหน้าตอบ
กัปตันวันชนะเดินตรงเข้าไปหาเหล่าสมาชิก แล้วร้อยเรียกสาวแฝดผู้พี่ "คุณรัชนกครับ"
"คะ กัปตัน ??" หล่อนเงยหน้าขึ้นมาตอบหลังจากกำลังนั่งคุยกับน้องสาวฝาแฝดอยู่บริเวณหน้าห้องนักบิน
"คุณบอกว่าคุณมาจากหน่วยหนึ่งขององค์กรเราใช่ไหม ? ถึงเวลาของคุณแล้วครับ"
"อ้อค่ะ...ใช่ค่ะกัปตัน จะให้นกทำอะไรคะ ?"
"ลองพยายามติดต่อกับพวกคุณด่วนเลยครับ เข้าไปในห้องนักบินกับผมตอนนี้เลย"
"โอเคค่ะกัปตัน"
"นีไปด้วยค่ะ" รัชนีเดินตามมา
"ผมด้วยครับ" แซมเอ่ยขึ้นมาอีกคน
"งั้นเข้าไปกันหมดทุกคนเลยครับสำหรับพวกเรา" กัปตันหันมาบอก แล้วเดินนำหน้าทุกคนเข้าสู่ห้องนักบิน จากนั้นเข้าไปตรงที่นั่งนักบินหนึ่งของตน เปิดระบบวิทยุสื่อสาร จัดการตั้งค่าต่างๆบนแผงควบคุมข้างหน้าเก้าอี้เสร็จแล้วจึงบอกกับสาวแฝดผู้พี่
"คุณนกมานั่งที่เก้าอี้ของผมตรงนี้เลยครับ ระบบสื่อสารพร้อม เฮดโฟนพร้อม เข้ามาประจำที่ก่อนครับ เดี๋ยวผมจะช่วยแนะนำให้นิดหน่อยคุณก็ควบคุมระบบสื่อสารของยานได้ไม่ยาก"
"ค่ะกัปตัน ขอบคุณค่ะ"
รัชนกตอบเจ้านายคนใหม่แล้วเข้านั่งประจำที่ของกัปตันเพื่อรับฟังคำชี้แนะการใช้งาน กัปตันวันชนะช่วยสอนเธออยู่ครู่หนึ่งแล้วให้เธอทดลองใช้ระบบสื่อสาร ไม่นานเธอก็สามารถควบคุมได้
"โอเคแล้วใช่ไหมครับ ?"
"ค่ะ กัปตัน"
"งั้นก็ลองพยายามติดต่อกับเพื่อนๆ ของคุณได้เลยครับ ตามช่องสัญญาณคลื่นความถี่ในการติดต่อของพวกคุณซึ่งคุณคงจำได้ หวังว่าคงไม่ลืมนะครับ"
"จำได้ค่ะ ไม่ลืมแน่นอนค่ะกัปตัน" สาวแฝดผู้พี่ยิ้มแล้วหันหน้าเข้าหาแผงควบคุม เริ่มป้อนข้อมูลช่องสัญญาณในการติดต่อถึงพวกของเธอ แล้วส่งสัญญาณเสียงเรียก
"ฮัลโหลๆ นี่คือแม่วิหค แม่วิหคเรียกฝูงลูกวิหค ลูกวิหคคนไหนได้ยินบ้าง ตอบด้วย เปลี่ยน! ย้ำ! นี่คือแม่วิหค แม่วิหคเรียก ลูกวิหคคนไหนได้ยินบ้าง ตอบด้วย เปลี่ยน!!"
มีเสียงคลื่นสัญญาณดังครืดคราดๆ อยู่ตลอดเวลาที่เธอเรียกออกไป
"คุณค่อยๆ พยายามติดต่อไปเรื่อยๆ นะครับ ผมจะออกไปคุยกับพวกซีลหน่อย"
"ค่ะ กัปตัน" หล่อนพยักหน้า แล้วตั้งหน้าตั้งตาพยายามเรียกพรรคพวกของตนต่อไป
กัปตันวันชนะ เดินออกไปจากห้องนักบินแล้วเข้าไปหาซีลทั้งห้าอีกครั้ง
"มาแล้ว คุณกัปตัน!" ผู้พันแบรดเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้
"พวกคุณได้ข้อสรุปกันหรือยังครับ ว่าจะให้ยานลำนี้นำพวกคุณไปลงที่ไหน ?" กัปตันถาม
"ได้แล้วคุณกัปตัน พวกเราปรึกษากันแล้ว สรุปว่า ไหนๆ ก็ขึ้นมาอยู่บนยานยูเอฟโอแล้ว ก็มิให้เสียเที่ยวเลยละกัน กัปตัน! ช่วยพาพวกเราห้าคนนี่ ไปลงที่วอชิงตันดีซีเลย !! จะขัดข้องไหม ?" ผู้พันแบรดถามยิ้มๆ
"เลือกสถานที่ลงได้เยี่ยมครับ ผู้พัน!" กัปตันยิ้มตอบ "ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่า พวกคุณน่าจะกลับบ้านกันเลย เพราะถ้ากลับไปหาศูนย์ของพวกคุณซึ่งอยู่ในไทยนี่ อาจจะมีปัญหา ทางการอาจเหนี่ยวรั้งพวกคุณไว้ไม่ให้กลับ เนื่องจากพวกคุณได้เห็นได้รับทราบความลับของทางการแล้ว!"
"ใช่เลยคุณกัปตัน คุณเดาสถานการณ์ถูก!" ผู้พันแบรดพยักหน้าและมีสีหน้าเครียดเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ "เพราะฉะนั้น ขอให้คุณพาพวกผมไปวอชิงตันดีซีเลย"
"คุณจะไม่รายงานหน่วยเหนือของพวกคุณให้ทราบก่อนหรือครับ ?" กัปตันถามเพื่อหยั่งเชิง
"โอ้ ไม่ๆๆ" ผู้พันปฏิเสธ "ขืนรายงานไป พวกเขาจะไม่อนุญาตแน่ และต้องมีคำสั่งบังคับให้พวกผมกลับไปหาพวกเขาแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์!"
"แปลว่า พวกคุณจะหนีกลับไปดื้อๆ ? ไม่กลัวจะมีปัญหาขึ้นศาลทหารหรือครับ ?" กัปตันถามยิ้มๆ
"ฟัคเดอะคอร์ท!!" ผู้พันสบถ "ช่างแม่มศาลทหารเถอะวะ คุณกัปตัน! ไม่ต้องห่วงพวกผมหรอก ตกลงเอาตามนี้แหละ!! Let's go to The States !!!"
"ใจเย็นๆ ครับผู้พัน ผมน่ะโอเคอยู่แล้วไม่มีปัญหา" กัปตันพูดพลางหัวเราะหึๆ "งั้น...รอสักครู่ ผมขอไปหาพวกลูกน้องของผมหน่อย เดี๋ยวมาครับ"
พูดจบเขาก็เดินกลับไปหาทีมจิ้งจอกแดงอีกรอบ เพื่อบอกพวกเขาว่าให้รออีกหน่อย พวกตนกำลังติดต่อหาผู้มารับพวกเขาต่อ
"คุณแน่ใจได้ยังไงว่า พวกที่จะรับพวกผมต่อจากพวกคุณ เป็นพวกที่ไว้ใจได้ ?"
"แน่ใจสิครับ เพราะพวกเขาก็คืออีกหน่วยหนึ่งขององค์กรกอบกู้อิสระภาพ เหมือนพวกผม"
"อ้อ...เข้าใจแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยวางใจหน่อย"
"ครับ...ตอนนี้ลูกน้องผมกำลังพยายามติดต่อหน่วยที่ว่านั้นอยู่ พวกคุณรอต่อไปอีกสักหน่อยนะครับ ผมจะไปถามความคืบหน้าจากลูกน้องผม"
"ได้ครับ พวกผมรอได้ครับคุณกัปตัน" โค้ชทีมจิ้งจอกแดงพยักหน้า
กัปตันพยักหน้าตอบ แล้วกลับหลังหัน เดินกลับเข้าห้องนักบิน เข้าไปหาสาวแฝดผู้พี่อีกครั้ง และพบว่า เธอกำลังติดต่อสื่อสารอยู่ จึงยืนอยู่ข้างๆ ฟังเธอพูดคุยกับพรรคพวกของเธอ
"ตกลงจะให้เอาทีมจิ้งจอกแดงไปส่งให้ที่ไหนคะกัปตัน ?"
"มาที่หน้าภูเขาฮอลลีวู้ดก็แล้วกัน คุณรัชนก ทางนี้จะเตรียมตั้งโต๊ะเปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์พวกเขาว่าได้ไปพบเห็นอะไรมา และจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ประเทศไทยแม้จะพยายามปิดกั้นอย่างไรก็จะไม่มีทาง เพราะเราจะถ่ายทอดสดด้วยระบบใหม่ล่าสุด ทุกคนในประเทศจะได้เห็นและได้ฟังพร้อมกันกับชาวโลกทั้งโลก!!"
"ค่ะกัปตัน ตื่นเต้นจัง"
"รีบพาทีมจิ้งจอกแดงมาส่งให้เร็วที่สุดนะ คุณรัชนก"
"ค่ะ กัปตัน"
กัปตันวันชนะยืนทำคิ้วขมวดเล็กน้อย พอได้จังหวะจึงสะกิดที่แขนของสาวแฝดผู้พี่ พอเธอหันมามอง จึงบอก
"ขอผมคุยกับ 'กัปตัน' ของคุณหน่อยซิ"
รัชนีขยับเฮดโฟนออกจากสองหูแล้วตอบ "ได้สิคะกัปตัน แป๊บนึงนะคะ นกจะเปิดสปีคเกอร์ของยานตรงนี้ให้"
"ไม่ต้องเปิดครับ ผมจะสวมเฮดโฟนของที่นั่งนักบินที่สอง"
"อ้อค่ะ...เดี๋ยวนกบอก กัปตันณรงค์เดช ของหน่วยเดิมก่อนนะคะว่ากัปตันขอคุยด้วย"
"บอกเค้าเลยครับ"
"ค่ะ!" รัชนกพยักหน้ายิ้มแล้วขยับเฮดโฟนสวมครอบสองหูอีกครั้ง บอกกับ 'กัปตัน' ทีมเก่าของตน
"กัปตันคะ...กัปตันวันชนะ ผู้บังคับการยาน THE FUGITIVE ขอคุยด้วยค่ะ"
"เยี่ยมเลยคุณรัชนก เปิดช่องสัญญาณติดต่อได้เลย"
"เปิดแล้วค่ะ กัปตันวันชนะพร้อมแล้วค่ะกัปตัน ทั้งสองท่าน เริ่มการสนทนาได้เลยค่ะ" พูดแล้วก็หันมาพยักหน้าให้กัปตันวันชนะ
"สวัสดี วันชนะ" กัปตันณรงค์เดชทักก่อน
"สวัสดีครับคุณณรงค์เดช" กัปตันวันชนะตอบพลางขมวดคิ้ว เพราะฝ่ายโน้นทักมาก่อนโดยใช้คำพูดแบบเป็นกันเอง ราวกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน
"เฮ้...นายจำเราไม่ได้ละสิเนี่ย วันชนะ ?"
"อ่า....เรา...เคยรู้จักกันหรือครับ ? ขออภัยเพราะผมจำไม่ได้ นึกไม่ออกจริงๆ ครับ"
"มันก็น่าเห็นใจอยู่หรอกนะ เพราะเวลามันผ่านมานานมากแล้ว เราเคยเจอกันตอนปีหนึ่งในมหา' ลัย ในห้องเรียนวิชาจิตวิทยาเบื้องต้น ไซโค 101 ซึ่งทั้งนายและเราเลือกเรียนเป็นวิชาเลือกอิสระไง จำได้ไหม ?"
"ฮืมม.....ขอนึกย้อนหลังกลับไปในอดีตสักครู่ครับ" กัปตันวันชนะส่ายหัวอย่างมึนงง เพราะตนจำเขาไม่ได้จริงๆ "ไซโค 101 เหรอครับ ?"
"เออใช่!!" ฝ่ายโน้นคอนเฟิร์มโดยพูดด้วยสไตล์เป็นกันเองเหมือนเดิม "แล้วก็เดี๋ยวก่อนนะวันชนะ...นายเลิกพูดโพไล้ท์ลี่กับเราได้แล้วว่ะ! ได้ยินนายพูดครับๆ ผมๆ แล้วจั๊กกะจี้ !!"
กัปตันวันชนะหัวเราะก่อนตอบ "โอเคๆ...ก็ เราจำนายไม่ได้จริงๆ นี่นา"
"ให้ตายสิเพื่อน! นายเคยพูดกับเราครั้งหนึ่งนะว่า ถ้านายไม่เรียนวิศวะ นายจะเลือกเรียนเอกไซโค! เพราะนายอยากเป็นจิตแพทย์ นายสนใจเรื่องกระบวนการความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ รวมถึงเรื่องพฤติกรรมของมนุษย์ด้วยว่าทำไมคนเราแต่ละคนๆ ถึงได้มีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน แต่นายเลือกเรียนวิศวะ เพราะนายรู้สึกว่า วิศวกรรมมันท้าทายกว่า นายอยากเป็นวิศวกรประดิษฐ์สิ่งต่างๆที่มันไฮเทค ถ้าเป็นไปได้ นายก็อยากจะเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์และอากาศกับอวกาศยาน นายคิดไปไกลถึงการสร้างยานอวกาศเดินทางข้ามแกแลกซี่โน่นเลย! ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคนชาติไหนทำได้ นายเคยพูดกับเราไว้แบบนี้ จำได้หรือยัง ??"
"โอ๊ววว..." กัปตันวันชนะร้องออกมาและทำตาโต "จำได้แล้วว่ะ! เฮ้ยย....นาย...ไอ้...ซิกมันด์เฟือง !!" ในที่สุดเขาก็จำเพื่อนคนนี้ได้ เขามีชื่อเล่นว่า "มะเฟือง" และเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับตนแล้วเลือกเรียนจิตวิทยา เขาคลั่งไคล้ ซิกมันด์ ฟรอยด์ นักจิตวิทยาชื่อดังเป็นอันมาก เพื่อนๆ จึงเรียกเขาว่า "ซิกมันด์ เฟือง"