เย็นวันถัดมาหลังจากที่ผมช่วยแม่หุ้มดอกกุหลาบจนเสร็จผมก็เดินไปหาเจ้าหนอนทันทีซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ผมเจอมันเมื่อวาน ผมเดินไปหามันด้วยความตื่นเต้นเพราะตั้งใจจะเข้าไปทักทายมันด้วยชื่อใหม่ที่ผมตั้งให้ หลังจากที่กลับบ้านเมื่อวานผมได้ลองคิดขำๆดูว่า ถ้าหากผมต้องมาเยี่ยมและทักทายเจ้าหนอนทุกวันด้วยชื่อเห่ยๆอย่าง “เจ้าหนอน” มันช่างดูไม่เท่เอาเสียเลย ผมจึงตัดสินใจคิดชื่อให้มัน ผมพยายามคิดชื่อที่ดูทันสมันและเหมาะกับตัวมัน แล้วก็มีชื่อจำนวนหนึ่งผ่านรอบคัดเลือกมา ผมจึงนั่งพิจารณาอย่างจริงจังถึงรายชื่อที่ผ่านเข้ารอบมา 3 รายชื่อจากทั้งหมด 10 กว่ารายชื่อ และในที่สุดผมก็ตัดสินใจเลือกชื่อชื่อหนึ่งที่ผมชอบและดูเหมือนจะเหมาะกับหนอนน้อยที่สุด และตอนนี้ผมก็อดใจไม่ไหวแล้วที่จะเรียกมันด้วยชื่อนั้น สวนกุหลาบที่แม่ผมปลูกไว้มีลักษณะเป็นแถวแนวนอนยาวออกไปข้างๆ เรียงกันประมาณ 30 กว่าแถวได้ แต่ละแถวยาวประมาณ 15 ถึง 20 ก้าวไม่เท่ากัน ดอกกุหลาบมีทั้งสีแดง สีชมพู สีขาว และสีส้ม โดย 20 แถวแรกจะเป็นสีแดงทั้งหมด 10 แถวถัดมาเป็นสีชมพู อีก 5 แถวถัดมาเป็นสีขาว และ 5 แถวเกือบสุดท้ายเป็นสีส้มหรือสีโอรส แล้วแถวที่เหลือซึ่งอยู่ท้ายสุดก็เอาทุกสีมาปลูกรวมกัน ชาวสวนกุหลาบทุกคนปลูกดอกกุหลาบโดยยึดตามความต้องการของตลาดซึ่งตลาดมีความต้องการดอกกุหลาบแต่ละสีไม่เท่ากันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้การปลูกดอกกุหลาบแต่ละสีมีจำนวนที่ไม่เท่ากัน สังเกตจากไร่ที่แม่ปลูกแล้วเห็นได้ชัดว่ากุหลาบสีแดงน่าจะขายดีสุดเพราะมีจำนวนเยอะที่สุด และดูเหมือนเจ้าหนอนก็จะชอบดอกกุหลาบสีแดงด้วยเช่นกันเพราะดอกที่มันเลือกอยู่บนต้นกุหลาบที่ขึ้นอยู่แถวที่สองของแถวกุหลาบสีแดง สวนกุหลาบจะมีช่องว่างระหว่างแถวที่พอดีกับตัวคนเพื่อให้สามารถเข้าไปใส่ปุ๋ย ถอนหญ้า หุ้มดอก และพ่นยาได้ พอผมเดินไปถึงแถวที่สองของดอกกุหลาบผมก็เลี้ยวเข้าไปทันทีโดยหวังว่าจะเดินตรงเข้าไปหาเจ้าหนอน ผมจำได้ว่ามันอยู่ช่วงท้ายๆของแถว แต่แล้วเท้าของผมก็หยุดชะงักในขณะที่กำลังจะก้าวเดินเข้าไปในช่องว่างของดอกกุหลาบระหว่างแถวที่หนึ่งกับสอง ผมยืนนิ่งจ้องไปข้างหน้าด้วยความตกใจเล็กน้อยเพราะภาพที่เห็นคือแม่ที่กำลังยุ้งอยู่กับการไล่ตรวจดูดอกกุหลาบแต่ละดอกว่ามีแมลงหรือหนอนเข้ามารบกวนบ้างไหมดั่งทหารที่กำลังออกล่าตระเวรเพื่อปลิดชีพศัตรูอยู่ในขณะนี้ สายตาของแม่นั้นดียิ่งกว่าเยี่ยวซะอีก แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่หนอนน้อยจะรอดพ้นสายตาของแม่ผมไปได้ และถ้าแม่ผมเจอมันเข้านะเดาได้เลยว่ามันต้องถูกส้นเท้าเพชฌฆาตของแม่บดลงกับพื้นและขยี้จนหายวับไปในชั่วพริบตาแน่นอน แค่คิดก็สยองแทน ผมถอนหายใจด้วยความเศร้าและสิ้นหวัง เพราะตอนนี้โอกาสที่ผมจะเจอหนอนน้อยตัวเป็นแทบไม่มีเลย ใจหนึ่งก็นึกอยากจะหันหลังกลับแล้วปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็นแต่อีกใจก็อยากจะเข้าไปดูให้เห็นกับตาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหนอน ผมยืนที่เดิมให้เวลาตัวเองได้ตัดสินใจอยู่สักพัก และสุดท้ายผมจึงตัดสินใจว่าไหนๆก็เดินมาถึงนี่แล้วเหลืออีกแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นก็จะได้เห็นเจ้าหนอนแล้วแต่แค่ไม่รู้ว่าจะเห็นมันในสภาพไหนแค่นั้นเอง ผมรวบรวมความกล้าแล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหนอนด้วยความสิ้นหวังโดยลึกๆในใจได้แต่ภาวนาให้มันยังอยู่และรอดพ้นสายตาของแม่ พอผมเดินไปถึงกุหลาบต้นที่เมื่อวานเจ้าหนอนขึ้นความจริงก็ค่อยๆปรากฏพร้อมกับภาพที่เห็น ดอกกุหลาบที่เจ้าหนอนจับจองเป็นเจ้าของเมื่อวานบัดนี้เหลือเพียงก้านที่ไร้ดอกชูตระง่าอยู่ตรงหน้าลักษณะเหมือนถูกเด็ดทิ้ง รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือใครโดยไม่ต้องสงสัย ผมก้มมองลงไปยังพื้นเห็นดอกกุหลาบลักษณะเหมือนถูกแทะจนกลีบดอกหายไปส่วนหนึ่ง ข้างๆดอกห่างกันประมาณหนึ่งฝ่ามือพบร่างหนอนสีน้ำตาลเหลืองตัวหนึ่งนอนหงายท้องนิ่งไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว จากสภาพทำให้รู้ว่ามันคงไม่มีชีวิตแล้ว เห็นแล้วยิ่งชวนให้สงสัยมากขึ้นไปอีกว่าเกิดอะไรขึ้นกับมันเพราะปกติถ้าแม่เห็นก็อย่างที่บอกแม่คงขยี้จนหาร่างมันไม่เจอ แต่นี่ร่างของมันกลับอยู่ในสภาพสมบูรณ์จนน่าตกใจ หรือมันอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังจากที่วิ่งฝ่าหนามนับร้อยเมื่อวานจนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเลยตายในที่สุด แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะเมื่อวานสภาพมันยังดีอยู่เลยหลังจากที่วิ่งฝ่าหนามจนสำเร็จ หรือเพราะมันทนสภาพอากาศที่หนาวเย็นไม่ไหวเลยตาย ก็ไม่น่าใช่เพราะที่ผ่านมามันยังอยู่ได้เลย แล้วอะไรล่ะที่ทำให้มันตาย ผมหยิบร่างเล็กๆนุ่มนิ่มของเจ้าหนอนขึ้นมาไว้บนฝ่ามือ แล้วจึงถามมันด้วยความเอ็นดูว่า “เกิดอะไรขึ้นกับแก อุนจิ” ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมจะได้ทักทายมันด้วยชื่อนี้หลังจากที่มันตายแล้ว ด้วยรูปร่างที่ยืดตัวยาวออกมาบวกกับสีของลำตัวที่อยู่ระหว่างสีน้ำตาลกับสีเหลืองพอมองไปมองมาทำให้นึกถึงอึของหลานชายตัวเล็กของผม แต่ถ้าจะให้เรียกว่า “อึ” คงพิลึกน่าดู เลยตัดสินใจเรียกอุนจิซึ่งฟังสบายหูแล้วไม่น่าเกลียดแถมยังให้ความรู้สึกอบอุ่นน่ารักแม้จะมีความหมายเดียวกับอึก็ตาม อีกทั้งยังเป็นภาษาญี่ปุ่นชวนให้รู้สึกเก๋ไก๋ไม่ใช่น้อย ในขณะที่ผมกำลังเศร้าสลดอยู่กับการจากไปของอุนจิอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงแม่บ่นพึงพังขึ้นมาว่า “ดีนักที่พ่นยาฆ่าแมลงไปวันก่อนเลยไม่มีแมลงออกมาให้เห็นกวนใจ” คำถามและทุกสิ่งที่ผมสงสัยถูกคลี่คลายทันทีหลังจบประโยคของแม่ อุนจิไม่ได้ตายเพราะถูกหนามกุหลาบแทงหรือเพราะอากาศหนาวหรือแม้แต่ถูกแม่ตบร่วงแล้วกระทึบซ้ำ แต่มันตายเพราะฤทธิ์ยาฆ่าแมลงที่ติดอยู่บนดอกกุหลาบ แม่คงพ่นยาฆ่าแมลงก่อนที่ผมจะกลับมาถึงบ้านผมเลยไม่รู้ ผมหันไปมองแม่ด้วยความรู้สึกโกรธหน่อยๆ และอยากจะตะโกนด่าแม่แต่ก็ไม่รู้จะใช้คำพูดหรือประโยคแบบไหน คงตลกน่าดูหากจะตะโกนขึ้นมาว่า “เพราะแม่พ่นยาฆ่าแมลงเลยทำให้หนอนน้อยตัวหนึ่งต้องตาย” แทนที่แม่จะรู้สึกผิดและเสียใจเมื่อได้ยินเช่นนั้นผมว่าแม่คงจะหัวเราะชอบใจและสะใจไปพร้อมๆกันมากกว่า คิดแล้วเศร้าได้แต่เก็บทุกอย่างไว้ในใจของผม แต่พอมาคิดๆดูแล้วต่อให้ผมรู้ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี สมมุติว่าผมรู้ว่าแม่พ่นยาแล้วผมก็จับมันไปปล่อยให้พ้นจากไร่ เดี๋ยวไม่ช้ามันคงคลานกลับมาและไต่ฝ่าหนามเพื่อขึ้นไปกินดอกกุหลาบด้วยความหิวแล้วก็ตายอยู่ดี หรือต่อให้แม่ไม่ได้พ่นยาไม่ช้าก็เร็วแม่คงเจอมันเกาะอยู่บนดอกกุหลาบและตบมันร่วงต่อด้วยขยี้ซ้ำจนขี้แตกกระจายตามสูตร หรือไม่มันก็อาจจบชีวิตลงไม่ทางใดก็ทางหนึ่งลำพังแค่ศัตรูตามธรรมชาติของมันก็เยอะอยู่แล้ว พอคิดได้แบบนี้ความรู้สึกแย่ค่อยบรรเทาลงหน่อย เรื่องราวของอุนจิหนอนน้อยนักสู้หากจะเปรียบเทียบคงเหมือนกับความรักที่ไม่สมหวังของคนเรา คนเรามักจะทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับสิ่งที่เราเรียกว่าความรัก ความรักที่เรามองไม่เห็นไม่รู้จักและไม่แน่นอน ความรักที่งดงามและน่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ ความรักที่ให้ชีวิตแก่คนสิ้นหวังและพลาดชีวิตของคนร่าเริง ความรักที่มนุษย์ทุกคนแสวงหา ดังนั้นความรักจึงเหมือนการเสี่ยงดวงคุณแค่ต้องเลือกให้ถูกและคุณจะไม่ผิดหวังกับมันเลย หลายๆครั้งโชกฉะตามักเล่นตลกกับความรักของคนเราดั่งคำพูดที่ว่า คนที่คุณคิดว่าใช่เขาอาจไม่ใช่กลับกันคนที่คุณมองข้ามมาโดยตลอดเขาอาจเป็นคนที่ใช่ที่สามารถดูแลและให้ความสุขกับคุณได้ หลายๆครั้งสิ่งที่ใช่มักจะมาในรูปแบบที่เราไม่ค่อยพอใจนักแต่สุดท้ายมันจะส่งผลดีอย่างที่เราคาดไม่ถึง แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่เลือกผิดพลาดแทนที่เขาจะได้สัมผัสกับความรักที่หอมหวานและงดงามแต่กลับเป็นหยาบน้ำตาแห่งความขมขื่นและทุกทรมานจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะฉะนั้นการมอบความรักให้กับคนที่ไม่เห็นคุณค่าก็เหมือนยื่นดอกไม้ให้เสือ นอกจากจะไม่สมหวังแล้วคุณอาจเจ็บตัวถึงตายได้มิหนำซ้ำมันยังทำให้คุณดูโง่ในสายตาผู้คน ไม่เป็นตัวของตัวเอง เสียการทรงตัว และอาจกลายเป็นบ้าได้อย่างง่ายดาย ความรักที่ไม่สมหวังก็เหมือนกับดักที่พร้อมปลิดชีพผู้ที่เข้าไปหา เหมือนเราทุ่มเททุกอย่างเพื่อความตายที่เราเข้าใจว่ามันคือความรัก เหมือนกำลังขุดหลุมฝังตัวเอง
ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะว่าพระเจ้าอยากรู้ว่าคุณจะมีความฉลาดในการเลือกคู่ครองหรือเปล่า ฮ่าฮ่าฮ่า
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าปัญหา คือการยอมแพ้ให้กับมัน 2 (ต่อจากเมื่อวาน)
ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะว่าพระเจ้าอยากรู้ว่าคุณจะมีความฉลาดในการเลือกคู่ครองหรือเปล่า ฮ่าฮ่าฮ่า