รอแสงตะวันส่องมาที่ฉัน EP9 "ชานกรุง"

ก่อนที่ผมจะออกเดินทางจากชนบทสู่ชานกรุง ผมโดนปลดทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ในสองข้อมือของผม ตาบอกผมว่า "ถอดหนังยางทั้งสองข้อมือออกก่อนแล้วค่อยไป เด็กกรุงเทพฯ เขาไม่ใส่กันหรอก เขาสิว่าเฮาเป็นคนบ้านนอก"  นึกย้อนไปเวลานั้นแล้วขำตัวเอง ผมค่อยๆถอดหนังยางออกจากข้อมือทั้งสองข้างอย่างช้าๆพร้อมกับความรู้สึกอาลัยอาวรณ์หนังยางที่ใช้ความสามารถขั้นเทพประลองเอาชนะจากเพื่อนฝูงมาได้ยิ่งนัก ผมก้มตัวลงค่อยๆขุดหลุมแล้วหย่อนหนังยางลงเอาดินกลบฝั่งมันไว้แล้วเดินจากมาอย่างเสียดาย  จากนั้นผมออกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวของน้าสาว ผมนั่งรถมองข้างทางไปเรื่อย ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร คิดในใจว่าที่ที่ผมจะไปอยู่นั้น จะเป็นอย่างไรนะ ในใจก็คิดถึงยายเพราะผมจะรักยายมาก ผมจะผูกพันกับยายที่สุด ยายเป็นผู้หญิงคนแรกในชีวิตผมที่ผมรักสุดหัวใจ เป็นผู้หญิงที่ใจดีที่สุดไม่เคยทำร้ายผม ไม่เคยขออะไรจากผม การเดินทางครั้งนี้ของผมก็เพื่อยายผม เพื่อตัวผมจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

ผมและครอบครัวน้าสาวเดินทางถึงบ้านตอนค่ำ ทั้งบ้านเราอยู่กัน 5 คน รวมทั้งตัวผม ผมกลายเป็นพี่คนโต และมีน้องสาวอีกสองคน ชะตาชีวิตผมนี่ บีบให้ผมกลายเป็นผู้นำตลอดเลยสินะ ตามที่ผมเขียนมาตั้งแต่ตอนแรกๆ ผู้ที่ติดตามอ่านตลอดจะรู้ว่า ผมเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ และเป็นลูกคนเดียว
จนทำให้ตัวผมก็รู้สึกกดดันตัวเองเหมือนกัน ที่ต้องรับภาระหลายๆอย่าง กลัวจะทำได้ไม่ดี กลัวจะทำให้น้าผิดหวัง กลัวจะเป็นส่วนเกินของบ้านหลังนี้ ผมจึงพยายามทำตัวให้ดีไม่ให้น้าสาวกับน้าเขยเดือดร้อน น้าเขยผมเป็นครูโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ ส่วนน้าสาวผมเป็นแม่ค้า พวกเราอยู่บ้านพักครูหลังโรงเรียน ค่ำนี้พอถึงบ้านพวกเราก็พักผ่อน น้าให้ผมนอนกับน้องสาว เรานอนห้องเดียวกัน 3 คน ผมคุ้นเคยกับการอยู่กับน้องสาวคนโตอยู่แล้ว เราสนิทกันดี คืนนั้น
ทุกคนเหนื่อยกับการเดินทาง จึงไม่ได้คุยกันมาก ผมเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง หลับสนิทยันสว่าง

ตื่นเช้ามา เรานั่งกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา น้าสาวผมพูดขึ้นมาว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกน้านะ ให้เรียกว่าพ่อกับแม่ ผมยิ้มแบบอายๆ ผมเป็นคนขี้เขิน แล้วก็จะเงียบๆ ผมพูดไม่เก่ง เสียงจะเบาๆ ผมก็ก้มหัวรับ แล้วบอกว่า "ครับน้า เอ้ยลืมครับ" น้าสาวพูดว่า "ไหนลองเรียกสิ" ผมมองน้าทั้งสองคน แล้วพูดว่า พ่อแม่ ทุกคนยิ้มแย้ม แล้วก็นั่งกินข้าวกัน ผมรู้สึกยังไม่ชิน ผมไม่ได้เรียกพ่อแม่มานานแล้ว ผมคิดว่านี่ผมเกิดใหม่ใช่ไหม แล้วก็ได้พ่อแม่ใหม่ แต่นี่แหละ คือจุดเริ่มต้นของอนาคตของผม

ใกล้จะเปิดเทอม พ่อหรือน้าเขยผม พาผมไปสมัครเรียนที่โรงเรียนประถมใกล้บ้าน เป็นโรงเรียนของเทศบาล และก็ติดกับวัดด้วย ผมเข้าเรียนชั้นป.3 ที่นั้น ส่วนน้องสาวผมสองคนเรียนโรงเรียนเอกชนห่างออกไปไม่ไกลนัก พ่อผมเป็นครูที่คนรู้จักเยอะ จึงพาผมไปฝากเข้าเรียนกับครูในโรงเรียนที่รู้จักกัน
ผมจะเดินไปโรงเรียนเองเพราะไม่ไกลแค่หน้าปากซอยบ้าน ส่วนน้องสาว พ่อจะไปส่งเพราะโรงเรียนไกล ผมมีหน้าที่หลักคือ ตื่นเช้าตี 5 เดินไปซื้อกับข้าว
ที่ตลาดมาให้น้องๆกินก่อนไปโรงเรียน มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเดินไปซื้อกับข้าวที่ตลาดคนเดียว ผมก็วิ่งข้ามถนนโดยไม่ระวัง รถเก่งหรูคันนึง วิ่งมาอย่างเร็ว
ผมไม่ทันเห็น เบรคต่อหน้าผม เสียงดังลั่น คนหันมามองกัน แต่รถไม่ได้ชนผม คนขับถอนหายใจ ผมขอโทษคนขับ ผมกลัวมาก แล้วก็รีบเดินไปในตลาด
ถ้าวันนั้นผมโชคไม่ดี ผมอาจจะไม่ได้มานั่งเขียนเรื่องราวนี้ให้คุณอ่านแล้วล่ะ และยังมีคนบ้าที่ชอบเดินถอดเสื้ออยู่แถวตลาด เขาจะชอบเดินมาจับผม ผมรู้สึกกลัว พอผมเจอเขาผมจะหลบ บางทีเขาเดินมาใกล้ผมไม่ทันเห็น ผมตกใจวิ่งเข้าไปกอดผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขาถามผมเป็นอะไรหนู ผมกลัวคนบ้าคนนั้น
จะจับผม ไอ้คนนี้มันชอบแกล้งเด็ก พ่อแม่หนูไปไหน ทำไมให้หนูมาคนเดียว ระวังตัวด้วย ผมพูดขอบคุณครับ แล้วก็รีบเดินหนีไป ผมยังมีหน้าที่อื่นอีกในบ้าน ทั้งล้างจาน ซักผ้าให้ทุกคนในบ้าน เก็บขยะ กรอกน้ำ ผมจะคอยช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านทุกอย่าง

มีวันหนึ่งผมยืนตากผ้าอยู่คนเดียว ยายที่อยู่ใกล้ๆบ้านผมเดินผ่านมา ทักทายผม “ลูกเก่งจังเลย ซักผ้าให้ทุกคนในบ้านเลยเหรอ ” ผมยิ้มแล้วตอบรับว่า ครับผมซักประจำจนชินแล้วครับยาย ยายยิ้มแล้วก็เดินผ่านไปผมมาอยู่ได้เกือบเดือน ก็เริ่มมีเพื่อน ช่วงที่ผมว่างจากงานบ้านผมก็จะไปเล่นกับเด็กรอบๆบ้านผม ทั้งลูกครู ลูกภารโรงที่สนิทกัน ใกล้บ้านจะมีคลอง บ้างครั้งเราก็ไปเล่นน้ำคลองกัน มีก๋วยเตี๋ยวเรือลุงคนขายจะพาเรือมาทุกวัน เราก็จะซื้อกินกัน รู้สึกว่าอร่อยมาก เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือดั้งเดิมที่พายขายในคลองจริงๆ ลุงคนขายจะพายไปเรื่อยๆ มีไอติมด้วยอร่อยมาก สมัยนี้หาบรรยากาศแบบนั้นคงหายากแล้ว นึกย้อนไปน้ำลายไหล คิดถึงวิถีชีวิตริมคลองดั้งเดิม(รอตามต่อตอนหน้านะครับจะมาเล่าต่อ)

ใกล้จันทร์ moonstar
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่