สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่หนูพยายามสมัครpantipมาเพื่อถามทุกคน และขอคำแนะนำค่ะ
ตอนนี้หนูอายุ17ปี พึ่งจบม.6และกำลังจะศึกษาต่อในมหาลัย ชีวิตหนูถูกครอบครัวตีกรอบมาตั้งแต่เด็ก
แทบจะไม่ได้เลือกหรือตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเลย ทุกๆวันที่กลับจากโรงเรียนพ่อแม่และยายมักทะเลาะกันตลอด
พวกเขาชอบพูดว่าลูกของคนนั้นดีแบบนี้ ชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น(เวลาที่พ่อกับแม่ไปเจอคนอื่นแล้วเค้า
พูดถึงลูกของเค้า) ชอบบอกว่าทำไมไม่เหมือนน้าบ้าง สมัยน้าเด็กๆ เรียบร้อย,ไม่เคยออกไปเที่ยว,ชอบเข้าวัดเข้าวา
ภูมิใจแทนพ่อแม่เขา ตั้งแต่เด็กจนโตถูกห้ามไม่ให้ใส่กางเกงขาสั้น ไม่ให้คุยกับใครหรือมีแฟนเพราะกลัวเสียหน้าเสียชื่อครอบครัว
ไม่ให้เที่ยวงานกับเพื่อน ส่วนตัวหนูมักชอบอยู่แต่ในห้อง ไม่ค่อยอยากเจอกน้าพ่อเพราะมักทะเลาะและเปรียบเทียบกับคนอื่นตลอด
ตอนเด็กหนูพยายามทำตัวให้อยู่ในกรอบ เป็นในสิ่งที่ทุกคนอยากให้เป็นแม้มันไม่ใช่ตัวหนูก็ตาม บุคลิกตอนนั้นเป็นเด็กเรียบร้อยมาก
เจอใครที่ไม่รู้จักจะอ่อนน้อมและเกรงทำตัวไม่ถูก,อึดอัด เครียดกับการมีชีวิตในครอบครัวนี้ เคยคิดอยากผูกคอตายมาแล้ว2ครั้ง
พอเริ่มมาม.ปลาย บุคลิกเราเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย เริ่มไม่เดินตามกรอบ พยายามเลือกและตัดสินใจเองทุกๆอย่าง
ไม่ใช่เด็กเรียบร้อยแต่รุนแรง คำพูดห้าวๆ กิริยาท่าทางกลายเป็นคนนิ่งๆและขรึม หนีเที่ยวกับเพื่อนบ่อยมาก ทำทุกอย่างที่อยากทำเลยก็ว่าได้
แต่ไม่เคยทิ้งการเรียน(เราเรียนสายวิทย์-คณิต) ไม่เคยติดร,0เลย เราเริ่มละเทาะกับคนในครอบครัว เริ่มเถียงและอารมณ์รุนแรง โกรธง่าย
สักพักรู้สึกน้อยใจร้องให้เองบ้าง เครียดกับเรื่องอะไรก็ไม่รู้ โมโหใส่ทุกอย่างรอบข้าง อยู่ๆก็มีความสุขหัวเราะออกมาเอง ควบคุมอารมณ์โกรธไม่ได้
ชอบขึ้นเสียงด้วย
**และเหตุการณ์ในตอนนี้ที่อยากจะเล่าคือปรึกษากับครอบครัวว่าจะลองสมัครมหาลัยแห่งหนึ่งในรอบที่1พ่อกับแม่พาไปสอบสัมภาษณ์แล้วติด ตอนนั้น
มีหลายเหตุผลเลยบอกกับทุกคนว่ายังไม่เอาได้มั้ยเพราะยังไม่โอเคกับม.นี้ ขอสละสิทธิ์ก่อน ตอนนั้นทุกคนในบ้านพร้อมใจกันพูด กดขี่การตัดสินใจ
ให้เราเลือกม.นี้ เพราะเสียค่ารถไปสัมภาษณ์ตั้งเยอะ และม.นี้ไม่ค่อยมีที่เที่ยวด้วย แม่ทิ้งท้ายด้วยคำพูดว่า “เรียนที่นี่แหละ พ่อเป็นคนหาเงินให้เรียน
เค้าเลือกที่ไหนให้ก็ต้องเรียนไป “ เราน้ำตาไหลแล้วถามกลับไปอีกครั้งว่า “ต้องเรียนที่พ่อเลือกเพราะพ่อเป็นคนส่งเรียนใช่มั้ย” ตอนนั้นเลยยอมกดยืนยันสิทธิ์
ม.นั้นไป ผ่านมาสักพักแม่เริ่มพูดถึงเรื่องค่าเทอมว่าแพงนะต้องใช้เงินประหยัดมากๆ หอต้องนอนกันเยอะๆจะได้หารออกมาถูกหน่อย และไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้เราเครียดไปกว่าเดิมเพราะอยู่ๆพ่อให้มานั่งคุยกันว่าจะให้เปลี่ยนม.เพราะอยู่ไกลเวลาเจ็บป่วยจะไปหายาก เราแทบจะร้องให้เพราะยืนยันสิทธิ์และ
หมดเวลาสละสิทธ์แล้ว ไม่มีสิทธิ์ยื่นรอบที่2ต้องไปรอรอบรับตรงรอบ3ที่เสี่ยงจะเป็นเด็กซิ่ว เรายิ่งต้องทำgat และ pat ให้ดีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
และเมื่อวานจากการสอบทำให้เราเครียดกว่าเดิมเพราะpat1คณิตศาสตร์ เราทำไม่ได้เลยเพราะยากมาก เห็นข่าวเด็กโดดตึกแล้วเรารู้สึกแบบนั้นเลย
พอกลับบ้านมาเราเทอารมณ์ทั้งโกรธ ทั้งเครียด เหวี่ยง ร้องไห้ ออกมาหมดเลยควบคุมไม่ได้เลย เราควรทำยังไงกับชีวิตดี ทุกอย่างมันมืดไปหมดจริงๆ
เป็นแบบนี้เรียกว่าไบโพล่าหรือเปล่า?
ตอนนี้หนูอายุ17ปี พึ่งจบม.6และกำลังจะศึกษาต่อในมหาลัย ชีวิตหนูถูกครอบครัวตีกรอบมาตั้งแต่เด็ก
แทบจะไม่ได้เลือกหรือตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเลย ทุกๆวันที่กลับจากโรงเรียนพ่อแม่และยายมักทะเลาะกันตลอด
พวกเขาชอบพูดว่าลูกของคนนั้นดีแบบนี้ ชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น(เวลาที่พ่อกับแม่ไปเจอคนอื่นแล้วเค้า
พูดถึงลูกของเค้า) ชอบบอกว่าทำไมไม่เหมือนน้าบ้าง สมัยน้าเด็กๆ เรียบร้อย,ไม่เคยออกไปเที่ยว,ชอบเข้าวัดเข้าวา
ภูมิใจแทนพ่อแม่เขา ตั้งแต่เด็กจนโตถูกห้ามไม่ให้ใส่กางเกงขาสั้น ไม่ให้คุยกับใครหรือมีแฟนเพราะกลัวเสียหน้าเสียชื่อครอบครัว
ไม่ให้เที่ยวงานกับเพื่อน ส่วนตัวหนูมักชอบอยู่แต่ในห้อง ไม่ค่อยอยากเจอกน้าพ่อเพราะมักทะเลาะและเปรียบเทียบกับคนอื่นตลอด
ตอนเด็กหนูพยายามทำตัวให้อยู่ในกรอบ เป็นในสิ่งที่ทุกคนอยากให้เป็นแม้มันไม่ใช่ตัวหนูก็ตาม บุคลิกตอนนั้นเป็นเด็กเรียบร้อยมาก
เจอใครที่ไม่รู้จักจะอ่อนน้อมและเกรงทำตัวไม่ถูก,อึดอัด เครียดกับการมีชีวิตในครอบครัวนี้ เคยคิดอยากผูกคอตายมาแล้ว2ครั้ง
พอเริ่มมาม.ปลาย บุคลิกเราเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย เริ่มไม่เดินตามกรอบ พยายามเลือกและตัดสินใจเองทุกๆอย่าง
ไม่ใช่เด็กเรียบร้อยแต่รุนแรง คำพูดห้าวๆ กิริยาท่าทางกลายเป็นคนนิ่งๆและขรึม หนีเที่ยวกับเพื่อนบ่อยมาก ทำทุกอย่างที่อยากทำเลยก็ว่าได้
แต่ไม่เคยทิ้งการเรียน(เราเรียนสายวิทย์-คณิต) ไม่เคยติดร,0เลย เราเริ่มละเทาะกับคนในครอบครัว เริ่มเถียงและอารมณ์รุนแรง โกรธง่าย
สักพักรู้สึกน้อยใจร้องให้เองบ้าง เครียดกับเรื่องอะไรก็ไม่รู้ โมโหใส่ทุกอย่างรอบข้าง อยู่ๆก็มีความสุขหัวเราะออกมาเอง ควบคุมอารมณ์โกรธไม่ได้
ชอบขึ้นเสียงด้วย
**และเหตุการณ์ในตอนนี้ที่อยากจะเล่าคือปรึกษากับครอบครัวว่าจะลองสมัครมหาลัยแห่งหนึ่งในรอบที่1พ่อกับแม่พาไปสอบสัมภาษณ์แล้วติด ตอนนั้น
มีหลายเหตุผลเลยบอกกับทุกคนว่ายังไม่เอาได้มั้ยเพราะยังไม่โอเคกับม.นี้ ขอสละสิทธิ์ก่อน ตอนนั้นทุกคนในบ้านพร้อมใจกันพูด กดขี่การตัดสินใจ
ให้เราเลือกม.นี้ เพราะเสียค่ารถไปสัมภาษณ์ตั้งเยอะ และม.นี้ไม่ค่อยมีที่เที่ยวด้วย แม่ทิ้งท้ายด้วยคำพูดว่า “เรียนที่นี่แหละ พ่อเป็นคนหาเงินให้เรียน
เค้าเลือกที่ไหนให้ก็ต้องเรียนไป “ เราน้ำตาไหลแล้วถามกลับไปอีกครั้งว่า “ต้องเรียนที่พ่อเลือกเพราะพ่อเป็นคนส่งเรียนใช่มั้ย” ตอนนั้นเลยยอมกดยืนยันสิทธิ์
ม.นั้นไป ผ่านมาสักพักแม่เริ่มพูดถึงเรื่องค่าเทอมว่าแพงนะต้องใช้เงินประหยัดมากๆ หอต้องนอนกันเยอะๆจะได้หารออกมาถูกหน่อย และไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้เราเครียดไปกว่าเดิมเพราะอยู่ๆพ่อให้มานั่งคุยกันว่าจะให้เปลี่ยนม.เพราะอยู่ไกลเวลาเจ็บป่วยจะไปหายาก เราแทบจะร้องให้เพราะยืนยันสิทธิ์และ
หมดเวลาสละสิทธ์แล้ว ไม่มีสิทธิ์ยื่นรอบที่2ต้องไปรอรอบรับตรงรอบ3ที่เสี่ยงจะเป็นเด็กซิ่ว เรายิ่งต้องทำgat และ pat ให้ดีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
และเมื่อวานจากการสอบทำให้เราเครียดกว่าเดิมเพราะpat1คณิตศาสตร์ เราทำไม่ได้เลยเพราะยากมาก เห็นข่าวเด็กโดดตึกแล้วเรารู้สึกแบบนั้นเลย
พอกลับบ้านมาเราเทอารมณ์ทั้งโกรธ ทั้งเครียด เหวี่ยง ร้องไห้ ออกมาหมดเลยควบคุมไม่ได้เลย เราควรทำยังไงกับชีวิตดี ทุกอย่างมันมืดไปหมดจริงๆ