โดนทำร้ายเกือบตาย เราต้องอยู่ต่อเพื่อลูก หรือออกไปจากชีวิตเค้า

เราคบกันมา 2 ปี มีลูกด้วย 1 คน น้องพึ่งได้ 3 เดือน เรื่องมีอยู่ว่า เค้ากับเราทะเลาะกันมาพักนึงแล้วล่ะ ตั้งแต่ท้อง ตอนท้องเค้าเคยทำร้ายร่างกาย โดยการต่อยหน้า ให้เรานอนนอกห้อง แบบไม่มีผ้าห่ม ไม่มีหมอน หรืออะไรเลย แล้วตอนท้องได้ 7 เดือน เค้าทำร้ายร่างกายที่ริมถนนลาก ผลักลงจากรถแล้วก็เตะ บางครั้งเราหิว เค้าก็จะพูดว่า จะกินอะไรนักหนา แล้วก็ให้เราอดทั้งที่ท้อง เค้าติดการพนัน กินน้ำกระท่อม บางวันหายจากบ้านไปแต่บ่ายกลับมา ตี 3-4 ปล่อยให้เราอดข้าว พอเราบ่นเค้า เค้าก็จะพูดว่า เค้ากินมาตั้งแต่ไหนแต่ไร กลับบ้านตอนไหนก็ได้ เป็นใครมาสั่งกู แล้วคำพูดเค้าจะพูดไม่สนใจความรู้สึกเรา พอเราบอกว่า พูดหัดคิดถึงความรู้สึกกันบ้างสิ เค้าจะพูดอีกว่า รับไม่ได้ก็เลิก จนหลังจากคลอดลูก มาถึงวันนี้ เค้าบ่นเราเรื่องไฟที่เปิดในบ้าน เค้าบอกให้ปิดมันร้อน แต่เราเปิดเพราะให้ลูกรู้จักกลางวัน กลางคืน แล้วอยู่ๆดีเราก็โมโห เหมือนคนเกือบกด เตะเค้าไป 2 ครั้ง เค้ามองหน้าแล้วลุกขึ้นเตะเรา กระทืบขาเรา เตะท้อง ต่อยจนข้างตาบวม หาของมาฟาดขาเรา ตบหัวเรา แล้วสักพักเค้าก็ขับรถออกไปข้างนอก โดยที่ไม่สนว่าเราจะเลี้ยงลูกได้มั้ย ปวดแผลหรือป่าว ที่จริงมันมีหลายอย่างแต่เอาแค่นี้พอนะค่ะ
#จะไปต่อหรือพอแค่นี้ดีค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ทนเพื่อลูกหรือตัวเองใจไม่แข็งพอที่จะยอมเลิกกันแน่คะ
เลิกเอาลูกมาอ้างเถอะค่ะ เป็นแม่คนแล้วน่าจะคิดเองได้ว่าการที่ปล่อยให้ลูกเติบโตในครอบครัวที่เป็นแบบนี้มันดีกับลูกจริงรึเปล่า
ถ้าไม่มีลูกด้วยกัน คุณอยากทนก็ทนไปเถอะค่ะ เจ็บก็เจ็บคนเดียว ถ้าคุณเป็นอะไรไปคงไม่มีใครสนใจ
แต่เมื่อมีลูก คุณจะต้องให้ลูกมาทนกับคุณทำไมคะ แถมยังอ้างว่าทนเพื่อลูกด้วย
ถ้าลูกโตมาเห็นสภาพแบบนี้ในครอบครัวพร้อมกับคำพูดที่บอกว่าที่แม่ทนอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะลูก
คิดว่าลูกจะมีความสุขได้เหรอคะที่ตัวเองกลายเป็นต้นเหตุให้แม่โดนพ่อทำร้าย

ความจริงผู้ชายแบบนี้ไม่สมควรจะเอามาเป็นพ่อของลูกเลยด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อมันเกิดพลาดไปแล้วคุณต้องหาทางแก้ไข
ไม่ใช่ทนอยู่ต่อไปเรื่อยๆแบบจะเกิดอะไรก็ช่าง แบบนี้คุณก็แย่ไม่ต่างจากคนที่เป็นพ่อเด็กเลยค่ะ

เราอาจจะพูดแรงไปหน่อยนะคะ แต่อยากเตือนสติคุณค่ะ อย่าเอาลูกมาอ้าง อย่าสร้างตราบาปให้ลูกเลย
คุณเป็นแม่ควรจะตัดสินใจเองได้ว่าสิ่งไหนกันแน่ที่เหมาะสมกับลูก
ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับพี่น้องหรือเพื่อนสนิทคุณ คุณจะแนะนำให้เค้าทนรึเปล่าคะ

แล้วที่อ้างว่าเค้าไม่ยอมให้เอาลูกไปด้วย เค้าล่ามโซ่ไว้รึเปล่าคะ หรือคุณแค่กลัวไปเอง หรือจริงๆคุณแค่ใช้เป็นข้ออ้างเพื่อจะไม่ยอมไปไหน
ถ้าคุณจะเอาลูกออกมาจริงๆทำไมจะทำไม่ได้คะ ตัวเค้าก็ไม่ได้อยู่บ้านตลอด
คุณก็อาศัยจังหวะที่เค้าไม่อยู่บ้านพาลูกออกมาเลยสิคะ จะกลัวอะไรนักหนา
พ่อแม่เพื่อนฝูงญาติพี่น้องพอจะมีใครให้ที่พึ่งพิงได้บ้างมั้ย เล่าความจริงทั้งหมดให้เค้ารู้คงจะมีใครซักคนที่ยอมช่วยแน่ๆ
แต่ถ้าคุณยังบอกว่าไม่กล้าเล่าเพราะอาย หรือเพราะกลัวพ่อแม่จะเป็นห่วงล่ะก็
เราจะไม่แนะนำอะไรแล้วล่ะค่ะ เพราะคุณกำลังสร้างเงื่อนไขต่างๆนานเพื่อที่จะทนอยู่กับผู้ชายคนนั้น
สงสารแต่ลูกที่มีพ่อแบบนี้แล้วแม่ยังอ่อนแออีก
ความคิดเห็นที่ 22
สถานที่ มูลนิธิช่วยเหลือค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่