ศก.ทุบผู้ผลิตเครื่องเงินอ่วม ซ้ำต้นทุนวัตถุดิบซิลเวอร์พุ่ง
https://www.prachachat.net/economy/news-293491
ส.เครื่องเงินฯ ตั้งเป้าดันส่งออกปี”62 พลิกบวก 5% วอนรัฐเลิก VAT 7% เพิ่มสภาพคล่อง หลังต้นทุนวัตถุดิบเงินพุ่ง 15 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
นาย
วิบูลย์ หงษ์ศรีจินดา นายกสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทยกล่าวว่า ตั้งเป้าหมายการส่งออกเครื่องประดับเงินในปี 2562 ขยายตัว 5% จากปีที่ผ่านมาที่ติดลบ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจส่งผลต่อความต้องการบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องประดับ แต่ในปีนี้ตลาดส่งออกสำคัญทั้งสหรัฐ ยุโรป และฮ่องกง ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อสูง ทั้งยังมีการขยายการส่งออกไปยังตลาดอื่น เช่น กลุ่มยุโรปตะวันออก
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเรื่องราคาวัตถุดิบมีผลต่อการแข่งขัน โดยราคาวัตถุดิบปัจจุบันอยู่ที่ 15 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ จากช่วงปี 2561 ที่ราคาเฉลี่ย 10 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ตามสถานการณ์ตลาดโลก ส่วนปัญหาเรื่องของแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่มีฝีมือยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องแก้ไขร่วมกัน
“สิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนเรื่องการยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% เพื่อให้ผู้ประกอบการเกิดสภาพคล่องซึ่งภาครัฐยังไม่ให้การสนับสนุนเรื่องนี้ รวมถึงการสนับสนุนการออกงานแสดงสินค้า ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ภาครัฐจะสนับสนุนเฉพาะงานแสดงสินค้าใหม่ ๆ โดยเห็นว่าเป็นการทำตลาดลำบาก เพราะกว่าจะได้รับลูกค้าสั่งซื้อสินค้าต้องใช้เวลา ส่วนงานแสดงสินค้าเดิม เช่น ฮ่องกง กลับไม่ค่อยได้รับการสนับสนุน ทั้งที่เป็นงานที่เติบโตและศูนย์รวมการซื้อขาย ซึ่งต้องการให้รัฐสนับสนุนต่อไป ส่วนการออกแสดงสินค้าบางกอกเจมส์ ผู้ประกอบการเข้าร่วมเฉลี่ย 30% ของสมาชิกทั้งหมด 100 ราย ซึ่งลดลงจากที่ผ่านมา เพราะสภาพเศรษฐกิจและการลดต้นทุนของผู้ประกอบการเอง สมาคมจึงเร่งอบรมสมาชิกให้หาช่องทางการทำตลาดใหม่ ๆ”
นางสาว
ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าในการจัดงานแสดงสินค้า Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 63 ระหว่างวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2562 ภายใต้แนวคิด
“Thailand”s Magic Hands” มีผู้เข้าร่วมแสดง 800 บริษัท 1,800 คูหา คาดมีผู้เข้าชมงาน 20,000 รายจาก 130 ประเทศ เกิดมูลค่าสั่งซื้อทันทีไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ มูลค่า 7,682 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 1% จากปีที่ผ่านมาส่งออกได้ 7,606.45 ล้านเหรียญสหรัฐ
“เชื่อว่าการส่งออกยังขยายตัวไปได้แม้ว่าจะมีสงครามการค้าสหรัฐ-จีน การแยกตัวออกจากอียูของอังกฤษ (Brexit) ความผันผวนของเศรษฐกิจและค่าเงิน”
โดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมอัญมณีของไทยตามนโยบายส่งเสริมไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับของโลก (jewelry hub) ซึ่งมีมาตรการ 3 ด้านหลัก ได้แก่
1) การปลดล็อกภาษีและกฎระเบียบ
2) การพัฒนาผู้ประกอบการ สินค้า/วัตถุดิบ และแรงงาน
และ 3) การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและความสามารถด้านการตลาด และจะเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและส่งเสริมด้านการตลาด
โดยมีเป้าหมายขยายสู่กลุ่มเป้าหมายลูกค้า super rich ในอาเซียน เอเชียใต้ และจีน และกลุ่มที่มีความสนใจเฉพาะทาง เช่น เครื่องประดับสำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ในจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐ เครื่องประดับสำหรับสัตว์เลี้ยงสังคมผู้สูงอายุ และสังคมคนโสด กลุ่มความเชื่อและศาสนาในอาเซียนและจีนเป็นต้น โดยวางแผนขยายช่อทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญต่อการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ หรือ new faces ผลักดัน SMEs พัฒนาสินค้าแต่ละจังหวัดมีเอกลักษณ์แต่ยังขาดโอกาสและช่องทางขายสู่เวทีสากล ทั้งนี้ การส่งออกในปี 2561 เพิ่มขึ้น 6.96% โดยสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ เครื่องประดับทอง เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับ อัญมณีเทียม และเพชร ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง ลดลง1.17% สหรัฐ ขยายตัว 15.72% เยอรมนี 16.24% อินเดีย 2.23% เป็นต้น
JJNY : ศก.ทุบผู้ผลิตเครื่องเงินอ่วม ซ้ำต้นทุนวัตถุดิบซิลเวอร์พุ่ง / 'บีอีซี' อ่วมพลิกขาดทุนกว่า 330 ล้าน
https://www.prachachat.net/economy/news-293491
ส.เครื่องเงินฯ ตั้งเป้าดันส่งออกปี”62 พลิกบวก 5% วอนรัฐเลิก VAT 7% เพิ่มสภาพคล่อง หลังต้นทุนวัตถุดิบเงินพุ่ง 15 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
นายวิบูลย์ หงษ์ศรีจินดา นายกสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทยกล่าวว่า ตั้งเป้าหมายการส่งออกเครื่องประดับเงินในปี 2562 ขยายตัว 5% จากปีที่ผ่านมาที่ติดลบ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจส่งผลต่อความต้องการบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องประดับ แต่ในปีนี้ตลาดส่งออกสำคัญทั้งสหรัฐ ยุโรป และฮ่องกง ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อสูง ทั้งยังมีการขยายการส่งออกไปยังตลาดอื่น เช่น กลุ่มยุโรปตะวันออก
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเรื่องราคาวัตถุดิบมีผลต่อการแข่งขัน โดยราคาวัตถุดิบปัจจุบันอยู่ที่ 15 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ จากช่วงปี 2561 ที่ราคาเฉลี่ย 10 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ตามสถานการณ์ตลาดโลก ส่วนปัญหาเรื่องของแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่มีฝีมือยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องแก้ไขร่วมกัน
“สิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนเรื่องการยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% เพื่อให้ผู้ประกอบการเกิดสภาพคล่องซึ่งภาครัฐยังไม่ให้การสนับสนุนเรื่องนี้ รวมถึงการสนับสนุนการออกงานแสดงสินค้า ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ภาครัฐจะสนับสนุนเฉพาะงานแสดงสินค้าใหม่ ๆ โดยเห็นว่าเป็นการทำตลาดลำบาก เพราะกว่าจะได้รับลูกค้าสั่งซื้อสินค้าต้องใช้เวลา ส่วนงานแสดงสินค้าเดิม เช่น ฮ่องกง กลับไม่ค่อยได้รับการสนับสนุน ทั้งที่เป็นงานที่เติบโตและศูนย์รวมการซื้อขาย ซึ่งต้องการให้รัฐสนับสนุนต่อไป ส่วนการออกแสดงสินค้าบางกอกเจมส์ ผู้ประกอบการเข้าร่วมเฉลี่ย 30% ของสมาชิกทั้งหมด 100 ราย ซึ่งลดลงจากที่ผ่านมา เพราะสภาพเศรษฐกิจและการลดต้นทุนของผู้ประกอบการเอง สมาคมจึงเร่งอบรมสมาชิกให้หาช่องทางการทำตลาดใหม่ ๆ”
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าในการจัดงานแสดงสินค้า Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 63 ระหว่างวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2562 ภายใต้แนวคิด “Thailand”s Magic Hands” มีผู้เข้าร่วมแสดง 800 บริษัท 1,800 คูหา คาดมีผู้เข้าชมงาน 20,000 รายจาก 130 ประเทศ เกิดมูลค่าสั่งซื้อทันทีไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ มูลค่า 7,682 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 1% จากปีที่ผ่านมาส่งออกได้ 7,606.45 ล้านเหรียญสหรัฐ
“เชื่อว่าการส่งออกยังขยายตัวไปได้แม้ว่าจะมีสงครามการค้าสหรัฐ-จีน การแยกตัวออกจากอียูของอังกฤษ (Brexit) ความผันผวนของเศรษฐกิจและค่าเงิน”
โดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมอัญมณีของไทยตามนโยบายส่งเสริมไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับของโลก (jewelry hub) ซึ่งมีมาตรการ 3 ด้านหลัก ได้แก่
1) การปลดล็อกภาษีและกฎระเบียบ
2) การพัฒนาผู้ประกอบการ สินค้า/วัตถุดิบ และแรงงาน
และ 3) การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและความสามารถด้านการตลาด และจะเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและส่งเสริมด้านการตลาด
โดยมีเป้าหมายขยายสู่กลุ่มเป้าหมายลูกค้า super rich ในอาเซียน เอเชียใต้ และจีน และกลุ่มที่มีความสนใจเฉพาะทาง เช่น เครื่องประดับสำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ในจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐ เครื่องประดับสำหรับสัตว์เลี้ยงสังคมผู้สูงอายุ และสังคมคนโสด กลุ่มความเชื่อและศาสนาในอาเซียนและจีนเป็นต้น โดยวางแผนขยายช่อทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญต่อการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ หรือ new faces ผลักดัน SMEs พัฒนาสินค้าแต่ละจังหวัดมีเอกลักษณ์แต่ยังขาดโอกาสและช่องทางขายสู่เวทีสากล ทั้งนี้ การส่งออกในปี 2561 เพิ่มขึ้น 6.96% โดยสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ เครื่องประดับทอง เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับ อัญมณีเทียม และเพชร ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง ลดลง1.17% สหรัฐ ขยายตัว 15.72% เยอรมนี 16.24% อินเดีย 2.23% เป็นต้น