ประสบการณ์ครั้งแรกของการปฏิบัติกรรมฐาน ณ วัดอัมพวัน

ทีแรกแม่อ้อตั้งใจจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่อง โรคมะเร็งปอดที่แม่อ้อเผชิญอยู่ แต่หลังจากได้เข้าปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ตั้งแต่วันที่15-18กพ.62 จำเป็นต้องนำเรื่องนี้มาตั้งเป็นกระทู้แรกเพราะมันมีเหตุปัจจัยให้ต้องมาเผยแพร่และอยากชวนให้ทุกคนได้ลองมาถือศีลปฏิบัติธรรมตามที่รับปากไว้กับ "หลวงพ่อจรัญ" ใช่ค่ะไม่ได้พิมพ์ผิดนะคะ  (ถึงแม้ท่านจะละกายสังขารไปแล้ว แต่ดวงจิตท่านยังอยู่ โปรดใช้วิจารณญานตามความเหมาะสม) แม่อ้อป่วยแต่ทางกายนะคะ แต่สติสัมปชัญญะยังครบสมบูรณ์ดี ใครไม่เชื่อแม่อ้อก็ยังอยากขอให้อ่านแล้วหาเหตุหาผลเอง เพราะครั้งแรกที่แม่อ้อรู้จักหลวงพ่อจรัญก็มาจากหนังสือธรรมะของท่านที่ส่วนใหญ่จะออกมาทางอิทธิปาฏิหารย์ ซี่งพอแม่อ้ออ่านแล้วในครั้งแรกยอมรับเลยว่าออกแนวต่อต้านท่าน และมาเจอท่านอีกที่จากเว๊บไซด์เรื่องของกฏแห่งกรรม หัวข้อนี้แม่อ้อเห็นคล้อยท่านตามด้วย เพราะแม่อ้อเชื่อว่ากฏที่เที่ยงตรงที่สุดที่คนเราหนีไม่ได้ คือ กฏแห่งกรรม มาเข้าเรื่องกันต่อนะ พอแม่อ้อป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย (ไว้มีโอกาศแม่อ้อจะเขียนกระทู้นี้ให้อ่านกันนะคะ)และผลการรักษาไม่ดีขึ้นเท่าที่ควรแม่อ้อต้องหยุดรักษาตัวเองก่อน อ๋อ!!ลืมบอกไปนอกจากป่วยเป็นมะเร็งแล้วแม่อ้อยังต้องเลี้ยงดูลูกสาววัยน่ารักอีก2คน 👩‍👧‍👧 คนโต2ขวบ7เดือน ส่วนคนเล็ก7เดือน ดังนั้นแม่อ้อต้องรักษาชีวิตไว้ให้ได้นานที่สุด แม่อ้อพานอกเรื่องอีกแล้ว 😅😅 แล้วก็บังเอิญมีเพื่อนเข้ามาทำงานในแผนกเพิ่มนางก็แนะนำให้ลองมาถือศีลที่วัดอัมพวัน ฟังนางทีแรกยอมรับเลยว่าเฉยๆนะ ก็รับปากไปลอยๆว่า "ไว้มีโอกาศจะลองไปนะ" หลังจากนั้นแม่อ้อต้องไปให้คีโมครั้งที่5 ที่รพ.พุทธชินราช แน่นอนผลการรักษายังคงเดิมไม่ดีขึ้น ซ้ำร้ายดันไปเจอเชื้อดื้อต่อการให้คีโมอีก มีทางเลือกที่หมอท่านแนะนำคือต้องเปลี่ยนยาคีโมเป็นแบบทาน ซึ่งเป็นตัวยาที่อยู่นอกบัญชียาหลักต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเองประมาณเกือบ50,000/เดือนอ่าวๆๆๆ แม่ออกนอกเรื่องอี๊กกก!!!😅😅 กลับมาๆ...ช่วงระหว่างที่แม่อ้อให้คีโม พยาบาลเจ้าของไข้อยู่ๆนางก็เข้ามาคุยเรื่องนี้อีก... เอ๊ะ!!😲😲 เริ่มแปลกใจ เหมือนมีใครมาดลบันดาลให้เป็นแบบนี้ หลังให้คีโมแม่อ้อเลยตัดสินใจหยุดพักงานรักษาตัวดีกว่า และได้ตัดสินใจสิ้นสุดชีวิตคู่ลงในคราวเดียวกันด้วยเลย เพราะป่วยกายแล้วยังจะต้องมาทนกับสภาพชีวิตที่มองไม่เห็นทางที่จะเดินร่วมกันได้ ทำให้ร่างกายเรามันแย่ลงไปอีก นอกจากไม่ช่วยรักษาชีวิตเราแล้วยังมาสร้างเรื่องราวให้เราทุกข์ใจได้ทุกวี่ทุกวัน ซึ่งเรามองว่ามันแย่และเห็นแก่ตัวมากเกินไป สุดท้ายแม่อ้อเลยต้องหาทางหนีออกมาจากอีกฝ่ายหนึ่งเอง เพราะแม่อ้อให้อีกฝ่ายนึงออกไปจากบ้านแม่อ้อแล้วแต่เขายังหน้าด้านไม่ไปไหนแถมยึดรถที่แม่อ้อเป็นคนออกเงินดาวน์เองทั้งหมดไปขับอวดใครๆอย่างหน้าตาเฉย และยังให้ญาติโกโหติกามาด่าว่าเราอีกว่าเรามีหน้ามีตาอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะใครถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายเขา...น้าาาน!!!เป็นงั้นไป ถึงขั้นต้องหอบลูกหนีออกจากบ้านกันเลยทีเดียว แต่อีกฝ่ายนึงก็ยังคงนอนอยู่ที่บ้านเราหน้าตาเฉยเหมือนเดิม หวังว่าถ้าเห็นกระทู้นี้คงจะย้ายออกนะ 😅😅 ขนาดเจ้าของบ้านเขายังทนอยู่ไม่ได้เลย อ้าาาาว!!!มือลั่น พิมพ์ผิด 😏😏  (ปาฏิหารย์ 1: ช่วงวันแรกของการนั่งกรรมฐานจิตแม่อ้อไม่นิ่งมากๆๆวนอยู่แค่เรื่องครอบครัว😭😭 จนช่วงเย็นท่านเจ้าอาวาส พระครูปลัดสิทธิวรวัฒน์ เมตตาลงให้โอวาทแสดงปาฐกถาธรรม แล้วท่านได้ตอบโจทย์ที่ติดอยู่ในใจแม่อ้อได้ตรงกับที่นั่งกรรมฐานเป๊ะเลย ไม่รู้ว่ามันบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบได้ แม่อ้อจะแนบคลิปวันที่ท่านแสดงปาฐกถาธรรมของวันที่16กพ.ไว้นะ แล้วเลื่อนไปฟังช่วงนาทีที่ 2.20.30 - 2.24 โดยเฉพาะ นาทีที่ 2.22.30- 2.24 นี่ตรงสุดๆๆๆเลย ถ้าแนบคลิปไม่ได้ให้เข้าไปดูที่หน้าเฟสบุ๊ค วัดอัมพวัน จะมีโพสต์ไลฟ์สดของวันที่16กพ.62อยู่) https://www.facebook.com/amphawantemple/videos/2137950336320998/... สุดท้ายคนที่ถูกเลือก คือ แม่อ้อค่ะ ที่ต้องไปที่วัดอัมพวัน น้องชายขับรถพาไปส่ง ขอให้นางได้รับผลบุญกุศลไปด้วยกันนะ เราไปถึงที่วัดประมาณเที่ยงครึ่ง ซึ่งทางแผนกรับลงทะเบียนปิดทำการพอดีต้องรอรอบบ่ายโมง (ระเบียบการขั้นตอนปฏิบัติ ตามรูปนะจ๊ะ)

ทางวัดจะต้องให้กรอกใบลงทะเบียนซึ่งต้องระบุวันที่เข้าออกให้ชัดเจนนะมันสำคัญมาก ถือว่าเป็นสัจจะที่ให้ไว้กับหลวงพ่อท่านเลยนะ สำหรับชุดขาวทางวัดมีเตรียมไว้ให้ทั้งชายและหญิงเลยค่ะ
ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ตอนกลับบ้านใครประสงค์จะช่วยค่าซักผ้าก็ได้นะคะตามกำลังศรัทธา Conceptของวัดคือมาอยู่วัดให้สบายใจทุกอย่างฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายขอให้มาเถอะ แม่อ้อพิสูจน์แล้วข้อนี้จริงค่ะ ไม่มีการเรี่ยไรใดๆทั้งสิ้น และทุกคนในวัดไม่มีใครพูดถึงการรับบริจาคใดๆเลยด้วย ทุกสิ่งอย่างอยู่ที่เราหมดเลย แต่เป็นที่หน้าแปลกมากข้าวของภายในวัดมีมาอย่างไม่ขาดสายแถมยังมีมากพอจนทำเป็นโรงทานทุกๆวันให้ทุกคนที่มาที่วัดได้ทานจนอิ่ม และมีมากพอให้กับผู้ที่มาถือปฏิบัติธรรมวันละเกือบเป็นพันคนได้อีกต่างหาก


แม่อ้อได้เข้าพักที่ตึกแม่ใหญ่ชั้น1หมายเลขที่นอน23
ภายในห้องมีที่นอนทั้งหมด30ที่ แบ่งเป็นสองข้างๆละ15ที่ (ตามรูปเลยค่ะ)



แม่อ้อแอบคิดในใจที่นอนจริงๆถ้าขยับพลิกตัวนี่คงได้นอนเกยกันอ่ะสำหรับใครที่ตัวใหญ่ไซส์XL โชคดีที่แม่อ้อตัวมีอยู่นิดเดียวไซส์S ภายในห้องมีหมอน ผ้าห่ม ผ้ารองนอน เตรียมไว้ให้ค่ะ เรียกได้ว่าหิ้วกระเป๋ามาเข้าอยู่ได้เลย 😁😁 แนะนำว่าท่านที่มาถึงก่อนสี่โมงเย็นให้ทานอาหารให้พร้อมเพราะหลังจากสี่โมงเย็นที่ท่านเปลี่ยนมาสวมใส่ชุดขาวแล้ว ห้าม!!ทานอาหาร ยกเว้น น้ำ/น้ำปานะ(น้ำผลไม้)/นม จากนั้นหกโมงเย็นทุกท่านที่มาใหม่เข้าทำพิธีรับศีล8โดยพร้อมเพรียงกัน และเริ่มฝึกปฏิบัติวิธีเข้ากรรมฐานทั้งท่ายืน ท่านั่ง และท่านอน จนครบตามกำหนดเวลาคือ21น.ถึงได้แยกย้ายพักผ่อนตามอัธยาศัย คืนแรกของแม่อ้อผ่านไปแบบหิวโหยมากมาย  โชคดีที่พี่ที่นอนข้างกันคอยช่วยแนะนำให้เพราะพี่เค้าเคยมาปฏิบัติ แม่เลยอยากเขียนกระทู้นี้เผื่อใครที่อยากศึกษาข้อมูลก่อนมาปฏิบัติธรรม เพิ่มอีกนิด ควรออกกำลังกายเพื่อเป็นการวอร์มร่างกายก่อนเข้าสู่สนามจริง เรี่องนี้แม่อ้อแนะนำนะว่าควรทำอย่างยิ่ง เพราะเมื่อคุณมาทางสายปฏิบัติแบบนี้แล้วทางวัดนี้เรียกได้ว่าของจริงล้วนๆไม่มีปลอมปนตลอดทั้งวันถ้าวัดเป็นระยะทางได้แม่ว่าแม่คงเดินถึงเชียงใหม่แล้ว😵😵แต่สำหรับมือใหม่ทั้งหลายไม่ต้องกลัวนะคะที่วัดจะมีร้านค้า2ร้านที่จะอยู่คอยบริการคุณจนถึงประมาณสี่ทุ่ม ส่วนของทางวัดจะมีกาแฟ/โอวัลติน/ไมโล เตรียมไว้ให้ที่บริเวณจุดลงทะเบียน รวมถึงตอนเช้าด้วยนะคะ
คืนแรกของแม่อ้อเพลียเอาเรื่องเลย แต่ยังไม่ถึงขั้นสลบนะอาจจะเป็นเพราะแปลกที่ด้วย ตอนเช้าเรามีนัดกันตอนตีสี่😨😨จะตื่นตอนไหนก็เรื่องของคุณ แต่ต้องมาให้ทันทำวัตรเช้าตอนตีสี่  ในห้องที่แม่อ้อพักนั้นมีทั้งหมด30ชีวิตค่ะ โอ้แม่จ้าววว😨😨แน่นอนสิ่งที่เกิดขึ้นคือการแย่งกันใช้ห้องน้ำซึ่งในห้องนั้นมีห้องน้ำเพียงแค่3ห้อง ต้องออกมาใช้ห้องน้ำด้านนอกเพิ่ม แต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องแย่งอะไรกันมากมาย ช่วงระหว่างที่เข้านอนจะมีผู้สูงอายุท่านนึงนอนอยู่มุมด้านตรงข้ามฝั่งประตูเข้าออก ซึ่งจะอยู่คนละมุมกับห้องน้ำ แกจะตื่นราวๆตี1 แล้วถือไฟฉายเปิดนำทางมาที่ห้องน้ำ เป็นแบบนี้ทุกวัน แม่อ้อคิดในใจ (อีกแล้ว😆😆)ทำไมยายไม่เกรงใจคนอื่นบ้างนะเปิดไฟส่องมาอาบน้ำเสียงดังตั้งแต่ตี1 (ปาฏิหารย์ 2: แม่มาได้คำตอบวันสุดท้ายคือตีหนึ่งของวันที่18นางตื่นมาเวลาประจำ แต่ครั้งนี้นางเปลี่ยนมาเดินฝั่งที่แม่นอนอยู่ แล้วจู่ๆนางก้เปลี่ยนใจหมุนตัวกลับ แต่ไม่รู้อีท่าไหนนางล้มลงก้นกระแทก ข้าวของกระจาย โชคดีที่ศีรษะนางกระแทกไปโดนขาอวบๆของป้าที่นอนข้างๆแม่ แต่ลักษณะการล้มของนางแปลกมากๆคือค่อยๆล้มตัวลง ถ้าเป็นทางการแพทย์คือนาง
มีทักษะในการเชฟตัวเองที่จะล้มอ่ะ แต่คิดดูดิคนอายุ70-80แล้วจะรู้ขนาดนั้นเลยหรา แล้วช่วงเวลาเกิดเหตุไวมาก ยกเว้นตอนที่ล้มนี่แหละมันเหมือนมีคนคอยประคองหลังนางไว้เลยแล้วมันทำให้แม่เด้งลุกขึ้นมารับนางได้ทัน แม่ได้แต่คิดในใจอธิฐานจิตคิดว่าหลวงพ่อท่านช่วยไว้ด้วยแน่ๆ) วันที่2ของการปฏิบัติกรรมฐาน วันนี้จัดเต็มทั้งวัน ช่วงที่เดินกรรมฐานเป็นช่วงที่แม่สงบและควบคุมจิตได้มากกว่าการนั่งกรรมฐาน พอถึงช่วงจังหวะที่เปลี่ยนมานั่งกรรมฐานจิตแม่จะฟุ้งซ่านคิดนู้นคิดนี่ไปหมดบางครั้งก็ใช้วิธีแอบอธ้ฐานขอพรไปด้วย (ปาฏิหารย์ที่3 : ขณะที่นั่งกรรมฐานแล้วฟุ้งซ่านนั้น อยู่ๆแม่ก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อแม่ "อ้อ" สั้นๆแต่ดังชัดเจนเป็นเสียงผู้ชายทุ้มๆลักษณะคนสูงวัย แต่เสียงไม่คุ้นหูเลย และให้กลับไปฟังปาฐกถาธรรมของท่านเจ้าอาวาสนาทีที่ 1.57- 1.58 ซึ่งบังเอิญท่านได้กล่าวถึงเรื่องการขอพรขณะนั่งกรรมฐานไว้ แปลกเนอะมันช่างตรงกับแม่จริงๆ) วันนี้ แม่มีโอกาสได้คุยกับกัลยาณมิตรคนหนึ่งซึ่งนางนอนอยู่ข้างๆกัน นางนอนที่หมายเลข24 จู่ๆนางก็เล่าให้แม่ฟังว่าเหตุที่นางมานั้นเนื่องจากนางต้องการขายที่แปลงนึงซึ่งสวยมากๆติดทะเลโดยไม่ผ่านนายหน้า ถ้าสำเร็จได้ราคาตามที่นางต้องการ นางจะถวายวัด50ล้านเพื่อสร้างเจดีย์ให้หลวงพ่อจรัญ😲😲(คิดเอาเองนะว่าที่นางสวยขนาดไหนถึงได้ราคาสูงขนาดนั้นจนมีพอที่จะถวายให้วัดได้เยอะมากมาย)ลำพังตัวนางเองก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากมายขนาดนั้นเพราะนางเป็นเจ้าของกิจการเองอยู่แล้ว (ขออนุญาตไม่แจ้งนะคะว่ากิจการอะไร)พอถึงคราวที่ค้องเล่าเรื่องราวของแม่บ้าง แม่บอกนางว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายและมีลูกน้อยที่ต้องดูแลอีกสองคนพอได้ฟังแค่นี้นางก็ตกใจบอกแม่ดูไม่ค่อยเหมือนคนป่วยเลย ดูเป็นคนอารมณ์ดี อัธยาศัยดี แล้วนางก็เลยบอกให้แม่ขอพรกับหลวงพ่อนะจะได้หายไวไว แล้วนางเล่าเรื่องปาฏิหารย์ของหลวงพ่อจรัญให้แม่ฟัง แม่ถึงได้รู้ว่าดวงจิตของหลวงพ่อยังอยู่ นางเล่าว่าได้มีโอกาสรู้จักกับอดีตแม่ชีคนนึงซึ่งท่านชอบไปปฏิบัติกรรมฐานในป่าบ้างหรือบางครั้งก็ป่าช้า แล้วท่านก็ได้มีโอกาสบังเอิญได้ไปสนธนากับหลวงพ่อจรัญ ทีแรกท่านไม่ทราบว่าพระรูปนั้นคือใคร แต่ท่านมาเจอจากปกหนังสือที่นางถืออยู่เป็นรูปหลวงพ่อจรัญพอดี หลังจากนั้นบางครั้งนางก็สื่อสารทางจิตผ่านทางอดีตแม่ชีท่านนั้น... เช้าวันที่3ของการปฏิบัติกรรมฐานช่วงทำวัตรเช้า เนื่องจากคนเยอะมากพอถึงเวลาปฏิบัติกรรมฐานแม่จะแยกตัวออกมาปฏิบัติที่ใต้ต้นโพธิ์
เพราะโล่งสบาย สามารถเข้ากรรมฐานได้ดีกว่า ระหว่างเดินกรรมฐานนั้นแม่เกิดปวดอยากผายลมมากๆๆ😨😨สุดท้ายก็ต้องปล่อยออกมาไม่งั้นสมาธิหายหมด😅😅 บุ๊งงง!! เรียบร้อยสบายใจ แต่พอแม่เดินไปได้สองรอบ แปะๆๆมีบางอย่างหบ่นใส่หัว และไหล่ของแม่ 🤢🤢 ใช่ค่ะ ขี้นก!! แม่ถูกเอาคืนอ่ะ จะถือเป็นปาฏิหารย์ที่4 ดีมั้ยเนี่ย🤣🤣 ช่วงทำวัตรเย็น ขณะจะปล่อยตัวให้แยกย้ายพักผ่อนพระอาจารย์พี่เลี้ยงท่านเอ่ยส่งท้ายว่าหากท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติกรรมฐานที่อาตมาไม่สามารถอธิบายได้ละเอียดก็ให้ลองฝึกปฏิบัติแล้วอธิฐานจิตสอบถามท่านพระเดชพระคุณเจ้าเอง(หลวงพ่อจรัญ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่