พรรคนี้ไม่มีวันลา เที่ยวพัทยา ก็มาดิครับบบบ

[SR] พรรคนี้ไม่มีวันลา เที่ยวพัทยา ก็มาดิครับบบบ

กระทู้รีวิว

พัทยา เที่ยวไทย เที่ยวทะเล ร้านอาหาร ภาพถ่าย

หน้าร้อนแบบนี้สถานที่ท่องเที่ยวที่เรานึกถึงอันดับแรกก็คือ ‘ทะเล’ และหากพูดถึงทะเลใกล้กรุงเทพฯ ก็คงหนีไม่พ้น ทะเลพัทยา เพราะอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ แค่ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงแล้ว เรียกง่ายๆ ว่าไม่ต้องมีวันลา ไม่ต้องมาวันหยุดก็สามารถชวนเพื่อน ชวนแฟนมาเที่ยวได้ทุกวันตลอดทั้งปี ส่วนใครที่ถามว่านอกจากแสงสียามค่ำคืนแล้ว พัทยามีอะไรให้เราเที่ยวอีกหว่า? ก่อนหน้านี้เราก็มีคำถามนี้อยู่ในใจเหมือนกัน แต่หลังจากได้มาทริปพัทยาในครังนี้บอกได้เลยว่า เหยยยย~ จริงๆ แล้วพัทยาก็มีอะไรให้ทำเยอะเหมือนกันนะ

ทริปนี้เราใช้เวลาทั้งหมด 2 วัน 1 คืน แต่จริงๆ ใครจะปรับทริปนี้เป็น One Day Trip ก็ได้เหมือนกัน

เพราะแพลนไม่แน่นเกินไป เน้นกินเที่ยวแบบชิลล์ๆ มากกว่า แพลนคร่าวๆ ของเราก็ประมาณนี้

Day 1 | เดินทางจากกรุงเทพฯ - ปราสาทสัจธรรม - Surf & Turf Beach Club & Restaurant - The Ravindra Beach Resort & Spa - KAAN Show

Day 2 | ล่องเรือยอชต์ Blue Voyage Yacht Pattaya - Blue Voyage Yacht Toy Park - Café Del Mar Pattaya

เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปเที่ยวพัทยากันเลย

เช้าวันแรกเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตอน 8.30 มาถึงพัทยาเกือบ 11 โมง จุดมุ่งหมายในวันนี้ของเราคือ ปราสาทสัจธรรม (Sanctuary of Truth) ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมืองพัทยาประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที จากถนนเส้นหลัก (ถนนสุขุมวิท) เข้ามาก็จะต้องลัดเลาะตรอกซอกซอยหน่อยๆ ทางซอยนาเกลือ 12 แล้วตรงมาทางที่จะไปริมทะเลได้เลย เพราะปราสาทตั้งอยู่ริมทะเลสวยงามตามท้องเรื่องแบบในภาพเด๊ะ

ผ่านประตู ซื้อตั๋วเข้ามา 500 บาท เข้ามาถึงก็จะมีพี่วิทยากรมาอธิบายความเป็นมาให้พวกเราฟัง ที่นี่เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2524 นับมาจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 40 ปีแล้ว ซึ่งปราสาทที่เราเห็นตรงหน้านี้ทำมาจากไม้ทั้งหมด แม้แต่ตัวเชื่อมไม้ตรงจุดต่างๆ ก็ยังเป็นการใช้ไม้สลักเข้าเดือยแบบไทย เนื่องจากปราสาทอยู่ใกล้ทะเล ถ้าใช้ตะปูนานไปจะโดนความเค็มของทะเลกัดเซาะจนขึ้นสนิมนั่นเอง

และนี่คือตัวอย่างการเข้าไม้แบบโบราณ ซึ่งพี่วิทยากรก็ได้สาธิตการเข้าสลักให้เราดูด้วย

เห็นแล้วก็ขอชื่นชมภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนจริงๆ

ก่อนจะเข้าไปในปราสาทเราเดินมาดูทางด้านนี้กันก่อน

ตรงจุดนี้คือจุดที่ช่างจะตอกและแกะไม้ทีละส่วนๆ จากนั้นก็ค่อยเอาไปประกอบในปราสาทอีกที

อย่างอันนี้คือประติมากรรมไม้แกะสลักที่จะนำไปประกอบเป็นรายละเอียดภายในตัวปราสาท

ซึ่งมีทั้งประติมากรรมนูนต่ำ นูนสูง และแบบลอยตัวครบ เรามองแค่ตาก็รู้สึกได้ถึงงานละเอียดสมกับระยะเวลาการสร้างที่ยาวนานจริงๆ

ได้เวลาโยกย้ายเข้าไปชมด้านในปราสาทกันแล้ว อ่อ ลืมบอกว่าถึงที่นี่จะไม่ใช่วัดแต่เนื่องจากด้านในปราสาทมีองค์พระธาตุประดิษฐานอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นมาเที่ยวที่นี่ก็ต้องแต่งตัวสุภาพกันนิดนึงด้วยเสื้อมีแขนและกางเกงขายาว แต่ถ้าใครใส่ขาสั้นมาเขาก็มีผ้าถุงให้สวมทับได้ ไม่เสียเงิน แต่มีค่ามัดจำ 200 บาท รวมถึงต้องใส่หมวกนิรภัยกันเศษไม้ด้วยเนื่องจากด้านในยังมีการก่อสร้างอยู่

เดินเข้ามาในปราสาทแล้วก็จะอารมณ์ประมาณนี้ ภายในก็จะประกอบไปด้วยศิลปะ

ที่สะท้อนเรื่องราวของสัจธรรมและคุณค่าของชีวิตต่างๆ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ 'ปราสาทสัจธรรม'

ตรงกลางคือที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งพี่วิทยากรได้ชี้ให้เราสังเกตด้านบนของบุษบุกทรงสถูปไม่มีมีลวดลายแกะสลักเหมือนจุดอื่นๆ เลย นั่นก็เพราะต้องการสื่อถึงความว่างเปล่าและความหลุดพ้นที่เมื่อเราตายไปแล้วก็ไม่สามารถเอาอะไรไปได้นั่นเอง

นอกจากเยี่ยมชมด้านในปราสาทแล้ว ที่นี่ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ รองรับนักท่องเที่ยวด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย ที่จะมีวันละ 2 รอบ (รอบ 11.30 และรอบ 15.30) รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่มีค่าตั๋วเพิ่มเติมอย่างเช่น นั่งเรือสปีทโบ้ทชมรอบๆ ปราสาท, นั่งรถม้า หรือใครจะนั่งหลังน้องช้างชมรอบๆ ปราสาทก็ดูน่าสนุกดีเหมือนกัน