ใครที่เคยโดนเพื่อนเเกล้ง รังแก (bully) โตมาเป็นอย่างไรกันบ้าง

เราเป็นคนหนึ่งที่โดนเพื่อนเล่นร้ายๆแบบนั้น ด้วยเราเป็นเด็กเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร พูดน้อย ถามคำตอบคำ กับผู้ใหญ่บางคนมาคุยด้วยเราก็ไม่ตอบ นิกจากคนในครอบครัวเท่านั้น ขี้อายสุดๆเลยละ  

เริ่มจากอนุบาล ตอนนั้นเรามีพี่สาวอยู่อนุบาล 2 เเละพี่ชาย 2 คนอยู่ ป.6 ในทุกๆวันพี่สาวจะพาเราไปที่ห้องเรียนหลังเลิกเเถว เราไม่ชอบเข้าเเถวห้องตัวเอง ไม่ถึงขั้นว่าติดพี่เพียงเเต่อยู่ด้วยเเล้วสบายใจ ไม่โดนแกล้ง พอเข้าห้องเรียน ทุกคนต่างวิ่งไปเอาของเล่น ส่วนเราไม่ชอบเเย่งกับคนอื่น เลยชอบมานั่งวาดภาพระบายสีคนเดียว เราเคยวิ่งไปเอาของเล่นนะ เช่น ตุ๊กตา ตัวต่อเลโก อะไรทั้งหลายเเหล เเต่เพื่อนก็มาเเย่ง จนเราเบื่อ บางวันหนักหน่อยก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น พอร้องก็โดนล้ออีกว่าขี้เเย มันเป็นเหตุให้เราปลีกตัวมาเล่นคนเดียว เเต่ใช่ว่าจะรอด โดนเพื่อนมาหยิบสีไปซ่อน ถ้าสีเทียน มันหักง่ายก็หักกันซึ่งๆหน้า เราก็ตามสเตปแหละ น้ำตาคลออีก ดูเหมือนว่า พอเราร้องไห้เพื่อนๆสะใจ บ่ิยครั้งที่เราำม่อยากไป รร. เพราะไม่ชอบให้ใครมาว่าเราขี้เเย เเม้เราเป็นอย่างนั้นจริงๆก็เถอะ เราไม่เคยฟ้องครู พ่อเเม่ และพี่ๆของเรา ว่าใครทำเรา นอกจากมีใครมาถาม เราก็บอก บางครั้งเพื่อนเล่นเเรงจนกระดุมเสื้อขาด เราก็ยังปกปิดเเละบอกว่าเราล้มบ้าง เสื้อไปเกี่ยวกับนั่นนี่บ้าง เพราะเราเกรงว่าใครจะไปดุเพื่อน ไม่งั้นถ้าเพื่อนรู้เขาก็ต้องมาหาเรื่องเราอีก ส่วนใหญ่เราจะโดนเเกล้งช่วงพักเที่ยง  ถ้าพี่ชายเรารู้ว่าใครรังเเกเรา เขาจะหาตัวเอาคืนให้ได้ เเต่นั่น เราไม่ค่อยบอกหรอก เราเชื่อเหลือเกินว่า เราอาจจะโดนรังเเกหนักกว่าเดิม อีกช่วงหนึ่งที่โดนคือ ก่อนกลับบ้าน รองเท้าเป็นอะไรที่หายบ่อยมาก ถูกเอาไปซ่อนห้องอื่นบ้าง ในถังขยะ ข้างห้อง หนักสุดเอาไปซ่อนไกลมาก นั่นคือ ในสวนข้างๆอาคาร

วันเเล้ววันเล่า เราก็ยังเป็นเด็กขี้เเยในสายตาเพื่อน อ่อนเเอเเพ้ไปซะทุกเรื่อง

วันเวลาผ่านไป เราก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนเเปลงตัวเองตอนไหน ณ ตอนนี้ เราจำได้ไม่หมด ช่วงประถมปลาย จำได้ว่าไม่ถูกแกล้งเเล้ว เเต่กลับกัน เราเป็นคนช่วยเพื่อน พอเราเห็นเพื่อนชายมาเเกล้งเพื่อนสาวเรา เราก็เล่นเเรง ผลักเพื่อน ตบเเตะ เท่าที่ทำได้ จนเสื้อเพื่อนขาด แฮะ!! รุนเเรงไปนิด ไม่ได้ตั้งใจ โดนครูตีกันระนาว

เราจำได้อย่างหนึ่งว่า ละครที่ว่ามีเเม่เลี้ยงทำร้ายเด็ก ไม่ก็เด็กถูกเพื่อนเเกล้ง มันน่าสงสารมาก เราเลยมองว่า ถ้าเราเข้มเเข็ง ก็ไม่มีใครมารังเเกเราเเล้ว เเม้การถูกกระทำของเราไม่หนักเหมือนละคร เเต่เราไม่อยากจะอ่อนเเอให้ใครเห็น เราต้องเก็บทุกอย่างมาร้องไห้ที่บ้านเท่านั้น บางวันโดนพ่อเเม่ปู่ย่าตายายดุนิดหนึ่งก็ร้องไห้ฟูมฟาย ท่านคงจะตกใจทำไมเล่นใหญ่ขนาดนั้น จริงๆมันรวมความพ่ายเเพ้ทุกอย่างมากองตรงนั้น ได้ทีร้องหนักเลย

ทุกอย่างมันค่อยๆดีขึ้น โดนน้อยลง เเต่ก็มีบ้าง เราพยายามเลี่ยงอยู่ใกล้กับคนที่ไม่ชอบ คนที่มีกหาเรื่องเรา ประมาณว่า ถ้าเขาอยู่ที่ไหน ต้องไม่มีเรา จบ!

เราเข้มเเข็งขึ้น ไม่ร้องไห้ ขี้เเย งอเเง เเต่ก็ยังเป็นเด็กขี้อาย มีปัญหากับการออกมาพูดหน้าชั้นตลอด จนกระทั้งเราเข้ามัธยม ค่อยๆปรับตัว ด้วยที่ว่า ม.ต้น อยู่ รร.หญิงล้วน ก็เลยไม่มีเรื่องบรรทอนจิตใจ พอเข้า ม.ปลาย ย้าย รร. มีเพื่อนชายบ้าง พวกเขาเรียบร้อย เด็กเรียน บางคนสายบันเทิง เข้ากับทุกคนได้ ทำให้เราลืมภาพเพื่อนชายเกเรวัยประถมไปเลย ส่วนเรื่องความขี้อาย ไม่กล้าเเสดงออก เราค่อยๆปรับตัว จนรู้สึกมั่นใจมากขึ้น อาจเป็นเพราะว่า โตๆกันเเล้ว ไม่มานั่งจ้องจับผิดกัน มีเเต่ให้กำลังใจกัน นับว่าโชคดีของเรา ได้อยู่โรงเรียนที่ดี

เเละเเล้วมาถึงช่วงมหาวิทยาลัย เรามีความด้อยอีกข้อหนึ่งคือ ไม่ชอบงานเข้าสังคม เเละกิจกรรม ดูเหมือนว่า โชคเล่นตลก เพื่อนมาขอร้อง อ้อนวอน ให้เป็นคณะกรรมการรุ่นของสาขา ตั้งเเต่นั้นมา เราไม่สามารถออกจากวังวนกิจกรรมได้อีกเลย ตั้งปีเเรกยันปีสุดท้าย พูดถึงกิจกรรมในระดับมหาวิทยาลัย มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆเเล้ว นอกจากจะจับเพื่อนรุ่นเดียวกัน ไปจนถึงรุ่นพี่รุ่นน้อง เพื่อนพ้องต่างสาขาดึงเข้าร่วมกิจกรรม รวมๆเเล้วก็สนุกดี เเต่แอบเครียดไม่น้อย ไหนจะต้องแบกเรียนเเบกกิจกรรม ไหนจะฟีดเเบคกิจกรรมที่ทำอีก

ความเข้มเเข็งมีเพิ่มเรื่อยๆ จนตอนนี้อายุใกล้เลขสามเเล้ว มองย้อนกลับไป เราว่าเราเข้าใจคนในหลายๆเรื่อง หนึ่งในนั้นคือการเป็นเด็กที่ถูก bully.

เรากลายเป็นคนเห็นใจคนอื่น เกลียดการเอาเปรียบ และอ่อนโยนกับคนที่อ่อนเเอกว่า จริงๆใครก็เป็นคนแบบนี้ เราไม่เเย้งคะ เพียงเเต่เราเคยอยู่ในจุดที่เเย่ จนเรารับรู้ถึงความเจ็บปวดนั้น

เวลาเห็นน้องๆมาตั้งกระทู้โดนรังเเก หรือไม่ก็ผู้ใหญ่เองกังวลเรื่องลูกหลานที่โดนเเบบนี้ เราสงสารเเละเห็นใจมากๆ เราไม่รู้เหมืนกันว่า จะหาทางออกกันอย่างไรดี เเต่เรามองเห็นอย่างหนึ่งว่า การที่ได้อยู่ในสังคมที่ดี ช่วยได้เยอะ บาง รร.ครูคุมไม่ทั่วถึง ลำพังภาระงานครูอย่างก็หนัก หากเป็น รร.ใหญ่ๆ มีครูฝ่ายปกครอง ดูเเล นร.โดยเฉพาะ เเบบนี้อุ่นใจได้บ้าง

บางอย่างมันเกิดจากพ่อเเม่เด็กเอง ทำให้เด็กถูกล้อถูกรังแก บางครอบครัวพ่อเเม่ขัดเเย้งตลอดจนเป็นเหตุให้เด็กเกิดรู้สึกเเปลกแยกกับคนอื่น ่บางคนครอบครัวดีเเล้ว เเต่อาจได้รับการเลี้ยงดูที่ถะนุถนอมจนเกินไป ทำให้เด็กไม่กล้าที่จะตัดสินใจเอง   หรืออาจเป็นเรื่องอื่นอีกมากมาย จริงๆสภาพเเวดล้อมเเต่ละคนไม่เหมือนกัน คงต้องเเก้ไขเป็นเคสๆไป

. . . อยากให้ทุกคนเข้มเเข็งนะคะ . . .
เพี้ยนสวัสดีเพี้ยนแข็งแรงเพี้ยนเย้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่