ตั้งกระทู้ครั้งแรก หากผิดพลาดขออภัยนะคะ
ขอเล่าความเป็นมาก่อนนะคะ เมื่อปี 57 เคยทำงานเป็นพนักงานขายหรือเรียกว่า PC ประจำหน้าร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งรับเงินเดือนและค่าคอมฯจากบริษัท แต่ต้องมาประจำตามหน้าร้านที่บริษัทจัดหาให้ ช่วงที่มาประจำร้านแรกๆไม่ได้ขายของหน้าร้านเลยเพราะเราเป็นเด็กใหม่ เจ้าของร้านให้ไปทำอย่างอื่นซะส่วนใหญ่ เช่น เลี้ยงลูก ทำกับข้าว ทำความสะอาด แต่ก็ทำด้วยความเต็มใจเพราะเราต้องอาศัยร้านเขาขาย ผ่านมา 2 เดือนเริ่มมีปัญหากับบริษัทเพราะยอดขายไม่ถึงเป้า พอมีโอกาสเราเริ่มเข้าหาลูกค้ามากขึ้นและปิดการขายให้เจ้าของร้านเห็นว่าเราสามารถยืนขายหน้าร้านได้ หลังจากนั้นก็ได้อยู่หน้าร้านมาตลอดโดยไม่ต้องไปทำงานอย่างอื่นอีกต่อไป ยอดขายดีขึ้นทุกไตรมาสและได้รับรางวัลทุกไตรมาสมาตลอดระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้นเจ้าของเริ่มขยายร้าน มีงานใหม่ๆเพิ่มมามากขึ้นให้เรารับผิดชอบ เช่น งานบัญชี สต็อกสินค้าบางส่วน งานภาษี งานเคลม งานซ่อม บลาๆๆๆ แล้ววันที่โชคร้ายก็มาถึง สินค้าในส่วนที่เรารับผิดชอบหายไปในวันที่เราหยุดมูลค่า 7,000 กว่าบาท เขาจะให้เรารับผิดชอบค่าสินค้า ซึ่งก่อนที่เราจะหยุดเรานับสต็อกส่งให้เขาเซ็นแล้วว่าครบ ซึ่งวันหยุดมันก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของคนที่เซ็นรับของต่อจากเราอยู่แล้ว แต่เขาอ้างว่าเขาก็เซ็นไปงั้นไม่ได้นับ เราไม่ยอมรับผิดเขาจึงตำหนิเราเสียๆหายๆและคำว่า Eขี้ข้า ก็หลุดออกมาจากปากของเขา เราจึงส่งเมลไปลาออกจากบริษัทและไม่ไปทำงานที่ร้านนั้นอีก แต่บริษัทยื่นข้อเสนอว่าให้เราย้ายร้านแทนไม่ต้องลาออก จึงได้ไปทำงานกับร้านใหม่ เจ้าของร้านเก่ารู้ก็โพสต์เฟสบุ๊คด่าเราแต่เราไม่เคยตอบโต้เรื่องก็เงียบไป ตอนนี้ร้านเก่าที่เราเคยยืนปิดกิจการไปประมาณ 1 ปีแล้ว เราจึงเช่าตึกนั้นเพื่อเปิดกิจการของเราเอง เรื่องถึงหูเจ้าของเดิมก็ตามระรานเราเช่นเคย ด่าว่าเราไม่สำนึกบุญคุณ แช่งเราสารพัด และโทรไปหาเจ้าของตึกที่เราเช่าว่ายอมจ่ายค่าเสียหายถ้ายกเลิกสัญญาเช่ากับเรา เจ้าของตึกขอร้องให้เราเปิดกิจการอื่นไปก่อน 6 เดือน เพื่อตัดปัญหา ซึ่งเราก็ไม่มีความสามารถทางด้านอื่นๆ ไม่รู้จะทำอะไรเพราะไม่ถนัดอะไรเลย และก็อยากได้ทำเลตรงนี้มากๆ หรือเราผิดที่เราเปิดทับที่เขา


เคยเป็นลูกจ้าง แล้วออกมาเปิดร้านเอง ผิดไหม
ขอเล่าความเป็นมาก่อนนะคะ เมื่อปี 57 เคยทำงานเป็นพนักงานขายหรือเรียกว่า PC ประจำหน้าร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งรับเงินเดือนและค่าคอมฯจากบริษัท แต่ต้องมาประจำตามหน้าร้านที่บริษัทจัดหาให้ ช่วงที่มาประจำร้านแรกๆไม่ได้ขายของหน้าร้านเลยเพราะเราเป็นเด็กใหม่ เจ้าของร้านให้ไปทำอย่างอื่นซะส่วนใหญ่ เช่น เลี้ยงลูก ทำกับข้าว ทำความสะอาด แต่ก็ทำด้วยความเต็มใจเพราะเราต้องอาศัยร้านเขาขาย ผ่านมา 2 เดือนเริ่มมีปัญหากับบริษัทเพราะยอดขายไม่ถึงเป้า พอมีโอกาสเราเริ่มเข้าหาลูกค้ามากขึ้นและปิดการขายให้เจ้าของร้านเห็นว่าเราสามารถยืนขายหน้าร้านได้ หลังจากนั้นก็ได้อยู่หน้าร้านมาตลอดโดยไม่ต้องไปทำงานอย่างอื่นอีกต่อไป ยอดขายดีขึ้นทุกไตรมาสและได้รับรางวัลทุกไตรมาสมาตลอดระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้นเจ้าของเริ่มขยายร้าน มีงานใหม่ๆเพิ่มมามากขึ้นให้เรารับผิดชอบ เช่น งานบัญชี สต็อกสินค้าบางส่วน งานภาษี งานเคลม งานซ่อม บลาๆๆๆ แล้ววันที่โชคร้ายก็มาถึง สินค้าในส่วนที่เรารับผิดชอบหายไปในวันที่เราหยุดมูลค่า 7,000 กว่าบาท เขาจะให้เรารับผิดชอบค่าสินค้า ซึ่งก่อนที่เราจะหยุดเรานับสต็อกส่งให้เขาเซ็นแล้วว่าครบ ซึ่งวันหยุดมันก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของคนที่เซ็นรับของต่อจากเราอยู่แล้ว แต่เขาอ้างว่าเขาก็เซ็นไปงั้นไม่ได้นับ เราไม่ยอมรับผิดเขาจึงตำหนิเราเสียๆหายๆและคำว่า Eขี้ข้า ก็หลุดออกมาจากปากของเขา เราจึงส่งเมลไปลาออกจากบริษัทและไม่ไปทำงานที่ร้านนั้นอีก แต่บริษัทยื่นข้อเสนอว่าให้เราย้ายร้านแทนไม่ต้องลาออก จึงได้ไปทำงานกับร้านใหม่ เจ้าของร้านเก่ารู้ก็โพสต์เฟสบุ๊คด่าเราแต่เราไม่เคยตอบโต้เรื่องก็เงียบไป ตอนนี้ร้านเก่าที่เราเคยยืนปิดกิจการไปประมาณ 1 ปีแล้ว เราจึงเช่าตึกนั้นเพื่อเปิดกิจการของเราเอง เรื่องถึงหูเจ้าของเดิมก็ตามระรานเราเช่นเคย ด่าว่าเราไม่สำนึกบุญคุณ แช่งเราสารพัด และโทรไปหาเจ้าของตึกที่เราเช่าว่ายอมจ่ายค่าเสียหายถ้ายกเลิกสัญญาเช่ากับเรา เจ้าของตึกขอร้องให้เราเปิดกิจการอื่นไปก่อน 6 เดือน เพื่อตัดปัญหา ซึ่งเราก็ไม่มีความสามารถทางด้านอื่นๆ ไม่รู้จะทำอะไรเพราะไม่ถนัดอะไรเลย และก็อยากได้ทำเลตรงนี้มากๆ หรือเราผิดที่เราเปิดทับที่เขา