"ธนาธร" เย้ยพวกโจมตีไม่มีไรใหม่ยันจะเข้าสู่การเมืองอย่างสง่า ยกความจริงสู้ข่าวลวง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1372297
“ธนาธร” เย้ยพวกโจมตีเป็นการเมืองแบบเก่า ยันเข้าสู่การเมืองอย่างสง่าผ่าเผย ยกความจริงเข้าสู้ข่าวลวง พร้อมรับฟังคำวิจารณ์ เว้นพวกอคติ ขอบคุณทุกคนช่วยผลักดันอนาคตใหม่ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอนค.ตกเป็นเป้าสาดโคลนของฝ่ายตรงข้าม ว่า คงไม่ได้ไปแก้ข่าวรายประเด็น เพราะสิ่งที่พรรคถูกโจมตีไม่ได้เป็นอะไรใหม่เลย เป็นประเด็นที่โดนมาตลอดตั้งแต่วันที่ตั้งพรรคมาแล้ว เพียงแต่มีการขุดคุ้ยและโหมกระหน่ำในช่วงนี้ แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายที่ตรงข้ามทางความคิดกับเราต้องการจะทำลายเราและลดความนิยมชมชอบของประชาชนที่มีต่ออนค.
“ผมคิดว่าเป็นการทำงานการเมืองแบบเก่า คือการทำงานการเมืองที่จ้องแต่ทำลายกันด้วยข่าวลวง ด้วยการแบ่งแยกประชาชน การทำให้ประชาชนเกลียดชังกัน และการทำการเมืองแบบนี้ทำให้ประเทศไทยอยู่แบบนี้มา 12 ปี แล้ว มันถึงไม่ไปไหน ผมขอชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เดินหน้าทำการเมืองต่อ โดยอย่างแรก คือ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้นไม่ต้องโกหกประชาชน และอย่างที่สอง อย่าใช้ข่าวลวงทำลายคู่แข่ง ตั้งแต่ตั้งพรรคมาอนาคตใหม่ไม่เคยทำลายคู่แข่งด้วยข่าวลวง และเราภูมิใจ เราจะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างสง่าผ่าเผย เพราะเราไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราไม่ซื้อเสียง และเราไม่ทำลายป้ายหาเสียง พรรคไม่โจมตีพรรคอื่นด้วยข่าวเลว เราวิจารณ์ใครด้วยข้อเท็จจริงและหลักการ แม้แต่วิพากษ์วิจารณ์ตัวบุคคลเรายังไม่วิจารณ์เลย เราวิพากษ์สังคมไม่ใช่เพราะเราเกลียดประเทศไทย เราวิพากษ์วิจารณ์สังคมเพราะรู้ว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะไปได้ไกลกว่านี้ และเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันประเทศไทย เราวิพากษ์เพราะเราไม่พอใจว่า ทำไมเรามีศักยภาพเยอะแยะ แต่ทำไมเราถึงเป็นได้แค่นี้ ดังนั้นเรามีแต่ความจริงใจ และมีแต่ความจริงเท่านั้นที่จะต่อสู้กับการเมืองแบบเก่านี้ได้” นาย
ธนาธร กล่าว
เมื่อถามว่า มีศิลปินหรือชนชั้นนำออกมาวิจารณ์การแสดงความเห็น นาย
ธนาธร กล่าวว่า เราฟังทุกเสียงที่วิพากษ์วิจารณ์ เราฟังทุกเสียงและเราพยายามปรับแก้ บางมุมที่เรามองไม่เห็นเราก็พยายามปรับแก้ อะไรที่เราเห็นว่ามันดีทำให้พรรคเข้มแข็งต่อไปเราก็พยายามปรับแก้ ส่วนที่วิจารณ์ด้วยอคติเราคงฟังทุกคนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำงานกันพอดี ทั้งนี้พรรคเรามีจุดยืนที่ชัดเจน มีนโยบายที่ชัดเจน มีทีมงานบริหารที่เป็นมืออาชีพ ดังนั้นเราขายอุดมการณ์ของพรรค เราขายนโยบายและทีมงานที่เป็นมืออาชีพให้กับสาธารณะและให้ประชาชนตัดสินไม่ต้องไปสาดโคลนคนอื่น ไม่ต้องไปทำลายคนอื่น ทำลายคู่แข่งด้วยข่าวลวง หรือทำให้ประชาชนเกลียดชังกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่าในฝ่ายประชาธิปไตย พรรคอนค.จะโดนกระแสโจมตีเยอะที่สุด นาย
ธนาธร กล่าวว่า ตนไม่แปลกใจเพราะสิ่งที่เรากำลังทำ เรากำลังขยับเพดานของสังคมจากที่มันถูกปิดทับมานาน วาระที่ก้าวหน้าในสังคมไทยไม่มีใครกล้าพูด เมื่อเรากล้าพูดย่อมกระทบกับผู้ถือประโยชน์ในปัจจุบัน ดังนั้นการโจมตีเราจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถือว่าวาระของเราได้รับการยอมรับในสังคมเขาจึงโจมตีเราเพื่อดิสเครดิต ทำให้สิ่งที่เราพูดไม่น่าเชื่อถือ
เมื่อถามว่า เกือบ 1 ปีที่ตั้งพรรคมาถือว่าเกิดเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ นาย
ธนาธร กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกคนที่มีส่วนผลักดันหรือสนับสนุนไม่ว่าข้างหน้าหรือข้างหลัง มีคนมากมายจริงๆที่ผลักดันเรามาถึงตรงนี้ได้ เพราะภารกิจในการนำสังคมที่เท่าเทียมเป็นธรรม ภารกิจในการนำประชาธิปไตยมาสู่สังคมไทย ทำคนเดียวไม่ได้แต่ต้องช่วยกันทำ ต้องค่อยๆสร้าง เลือกตั้งครั้งนี้ก็ไม่สำเร็จ เพราะเป็นการเดินทางที่ยาว ถ้าโชคดีอาจจะสำเร็จใน 5 ปี แต่ถ้าโชคร้าย 20 ปี เราอาจทำไม่สำเร็จต้องส่งต่อภารกิจนี้ให้รุ่นต่อไปทำ เราไม่รู้แต่ว่าเราทำงานกับประชาชนด้วยความจริงใจ และขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนเราและก้าวต่อไปด้วยกัน และหวังว่าวาระที่เสนอจะเป็นวาระหลักในสังคมได้ และเมื่อเป็นวาระหลักเราจะมีคะแนนเสียงนั่นคือสิ่งที่คนสนับสนุนเราช่วยกันทำมาโดยตลอด
สนช.สั่งปิดประชุมซะงั้น! ทั้งที่กำลังถึงคิวถก'พ.ร.บ.ข้าว'
https://www.dailynews.co.th/politics/694319
สนช.สั่งปิดประชุมดื้อๆ ทั้งๆ ที่กำลังจะถึงคิวถกกฎหมายข้าว
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่รัฐสภา ภายหลังจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติผังเมือง พ.ศ. ... ในวาระ 2 และ 3 เสร็จสิ้น ตามระเบียบวาระการประชุมจะต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัติข้าว พ.ศ. .... ต่อไป แต่ปรากฎว่านาย
สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุมอยู่ในขณะนั้น ได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 14.30 น. โดยไม่ได้แจ้งรายละเอียดต่อที่ประชุมสนช.ว่าจะเลื่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติข้าวไปเป็นวันใด อย่างไรก็ตาม เมื่อสั่งปิดการประชุมแล้ว ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสนช. (วิปสนช.) ที่มีนาย
พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานด้วย
ด้าน นาย
นัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะเลขาธิการสนช. ให้สัมภาษณ์ว่า ในเวลา 14.30 น. จะมีการประชุมวิปสนช.ที่มีนาย
พรเพชรเป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องปิดการประชุมสนช.เร็วเพราะสนช.หลายท่านต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัติในชั้นกรรมาธิการฯ หลายฉบับ ซึ่งอาจมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ดังนั้น ประธานสนช.จึงขอปิดการประชุมไปก่อน ส่วนกรณีที่ร่างพระราชบัญญัติข้าว ถูกกระแสคัดค้านจากชาวนานั้นคงไม่เกี่ยวและไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้สนช.สั่งปิดการประชุมไปก่อนที่จะถึงวาระการพิจารณาตามที่กำหนดไว้ในระเบียบวาระประชุม.
JJNY : 4in1 ธนาธรเย้ยพวกโจมตี/สนช.ปิดประชุมคิวพ.ร.บ.ข้าว/ผู้พิพากษาชี้พรบ.ไซเบอร์ผ่านละเมิดสิทธิแรง/โพสต์ทูเดย์ปิดตัว
https://www.matichon.co.th/politics/news_1372297
“ธนาธร” เย้ยพวกโจมตีเป็นการเมืองแบบเก่า ยันเข้าสู่การเมืองอย่างสง่าผ่าเผย ยกความจริงเข้าสู้ข่าวลวง พร้อมรับฟังคำวิจารณ์ เว้นพวกอคติ ขอบคุณทุกคนช่วยผลักดันอนาคตใหม่ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอนค.ตกเป็นเป้าสาดโคลนของฝ่ายตรงข้าม ว่า คงไม่ได้ไปแก้ข่าวรายประเด็น เพราะสิ่งที่พรรคถูกโจมตีไม่ได้เป็นอะไรใหม่เลย เป็นประเด็นที่โดนมาตลอดตั้งแต่วันที่ตั้งพรรคมาแล้ว เพียงแต่มีการขุดคุ้ยและโหมกระหน่ำในช่วงนี้ แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายที่ตรงข้ามทางความคิดกับเราต้องการจะทำลายเราและลดความนิยมชมชอบของประชาชนที่มีต่ออนค.
“ผมคิดว่าเป็นการทำงานการเมืองแบบเก่า คือการทำงานการเมืองที่จ้องแต่ทำลายกันด้วยข่าวลวง ด้วยการแบ่งแยกประชาชน การทำให้ประชาชนเกลียดชังกัน และการทำการเมืองแบบนี้ทำให้ประเทศไทยอยู่แบบนี้มา 12 ปี แล้ว มันถึงไม่ไปไหน ผมขอชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เดินหน้าทำการเมืองต่อ โดยอย่างแรก คือ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้นไม่ต้องโกหกประชาชน และอย่างที่สอง อย่าใช้ข่าวลวงทำลายคู่แข่ง ตั้งแต่ตั้งพรรคมาอนาคตใหม่ไม่เคยทำลายคู่แข่งด้วยข่าวลวง และเราภูมิใจ เราจะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างสง่าผ่าเผย เพราะเราไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราไม่ซื้อเสียง และเราไม่ทำลายป้ายหาเสียง พรรคไม่โจมตีพรรคอื่นด้วยข่าวเลว เราวิจารณ์ใครด้วยข้อเท็จจริงและหลักการ แม้แต่วิพากษ์วิจารณ์ตัวบุคคลเรายังไม่วิจารณ์เลย เราวิพากษ์สังคมไม่ใช่เพราะเราเกลียดประเทศไทย เราวิพากษ์วิจารณ์สังคมเพราะรู้ว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะไปได้ไกลกว่านี้ และเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันประเทศไทย เราวิพากษ์เพราะเราไม่พอใจว่า ทำไมเรามีศักยภาพเยอะแยะ แต่ทำไมเราถึงเป็นได้แค่นี้ ดังนั้นเรามีแต่ความจริงใจ และมีแต่ความจริงเท่านั้นที่จะต่อสู้กับการเมืองแบบเก่านี้ได้” นายธนาธร กล่าว
เมื่อถามว่า มีศิลปินหรือชนชั้นนำออกมาวิจารณ์การแสดงความเห็น นายธนาธร กล่าวว่า เราฟังทุกเสียงที่วิพากษ์วิจารณ์ เราฟังทุกเสียงและเราพยายามปรับแก้ บางมุมที่เรามองไม่เห็นเราก็พยายามปรับแก้ อะไรที่เราเห็นว่ามันดีทำให้พรรคเข้มแข็งต่อไปเราก็พยายามปรับแก้ ส่วนที่วิจารณ์ด้วยอคติเราคงฟังทุกคนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำงานกันพอดี ทั้งนี้พรรคเรามีจุดยืนที่ชัดเจน มีนโยบายที่ชัดเจน มีทีมงานบริหารที่เป็นมืออาชีพ ดังนั้นเราขายอุดมการณ์ของพรรค เราขายนโยบายและทีมงานที่เป็นมืออาชีพให้กับสาธารณะและให้ประชาชนตัดสินไม่ต้องไปสาดโคลนคนอื่น ไม่ต้องไปทำลายคนอื่น ทำลายคู่แข่งด้วยข่าวลวง หรือทำให้ประชาชนเกลียดชังกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่าในฝ่ายประชาธิปไตย พรรคอนค.จะโดนกระแสโจมตีเยอะที่สุด นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่แปลกใจเพราะสิ่งที่เรากำลังทำ เรากำลังขยับเพดานของสังคมจากที่มันถูกปิดทับมานาน วาระที่ก้าวหน้าในสังคมไทยไม่มีใครกล้าพูด เมื่อเรากล้าพูดย่อมกระทบกับผู้ถือประโยชน์ในปัจจุบัน ดังนั้นการโจมตีเราจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถือว่าวาระของเราได้รับการยอมรับในสังคมเขาจึงโจมตีเราเพื่อดิสเครดิต ทำให้สิ่งที่เราพูดไม่น่าเชื่อถือ
เมื่อถามว่า เกือบ 1 ปีที่ตั้งพรรคมาถือว่าเกิดเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกคนที่มีส่วนผลักดันหรือสนับสนุนไม่ว่าข้างหน้าหรือข้างหลัง มีคนมากมายจริงๆที่ผลักดันเรามาถึงตรงนี้ได้ เพราะภารกิจในการนำสังคมที่เท่าเทียมเป็นธรรม ภารกิจในการนำประชาธิปไตยมาสู่สังคมไทย ทำคนเดียวไม่ได้แต่ต้องช่วยกันทำ ต้องค่อยๆสร้าง เลือกตั้งครั้งนี้ก็ไม่สำเร็จ เพราะเป็นการเดินทางที่ยาว ถ้าโชคดีอาจจะสำเร็จใน 5 ปี แต่ถ้าโชคร้าย 20 ปี เราอาจทำไม่สำเร็จต้องส่งต่อภารกิจนี้ให้รุ่นต่อไปทำ เราไม่รู้แต่ว่าเราทำงานกับประชาชนด้วยความจริงใจ และขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนเราและก้าวต่อไปด้วยกัน และหวังว่าวาระที่เสนอจะเป็นวาระหลักในสังคมได้ และเมื่อเป็นวาระหลักเราจะมีคะแนนเสียงนั่นคือสิ่งที่คนสนับสนุนเราช่วยกันทำมาโดยตลอด
สนช.สั่งปิดประชุมซะงั้น! ทั้งที่กำลังถึงคิวถก'พ.ร.บ.ข้าว'
https://www.dailynews.co.th/politics/694319
สนช.สั่งปิดประชุมดื้อๆ ทั้งๆ ที่กำลังจะถึงคิวถกกฎหมายข้าว
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่รัฐสภา ภายหลังจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติผังเมือง พ.ศ. ... ในวาระ 2 และ 3 เสร็จสิ้น ตามระเบียบวาระการประชุมจะต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัติข้าว พ.ศ. .... ต่อไป แต่ปรากฎว่านายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุมอยู่ในขณะนั้น ได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 14.30 น. โดยไม่ได้แจ้งรายละเอียดต่อที่ประชุมสนช.ว่าจะเลื่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติข้าวไปเป็นวันใด อย่างไรก็ตาม เมื่อสั่งปิดการประชุมแล้ว ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสนช. (วิปสนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานด้วย
ด้าน นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะเลขาธิการสนช. ให้สัมภาษณ์ว่า ในเวลา 14.30 น. จะมีการประชุมวิปสนช.ที่มีนายพรเพชรเป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องปิดการประชุมสนช.เร็วเพราะสนช.หลายท่านต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัติในชั้นกรรมาธิการฯ หลายฉบับ ซึ่งอาจมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ดังนั้น ประธานสนช.จึงขอปิดการประชุมไปก่อน ส่วนกรณีที่ร่างพระราชบัญญัติข้าว ถูกกระแสคัดค้านจากชาวนานั้นคงไม่เกี่ยวและไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้สนช.สั่งปิดการประชุมไปก่อนที่จะถึงวาระการพิจารณาตามที่กำหนดไว้ในระเบียบวาระประชุม.