>>>> ขอพูดเล่าเรื่องนิดนึง <<<<<
ผมกับแฟนเรียนอยู่โรงเรียนเตรียมแห่งหนึ่ง ซึ่งเราทั้งคู่ต่างกำลังเรียน ปวช.3 โดยกฎของวิทยาลัยฯ ก็จะให้นอนหอในตั้งแต่ ปวช.1-3 (แยกหอชายและหญิง) เราทั้งคู่คบกันมาได้
1 ปี 2 เดือน 28 วัน ที่ผ่านมาเราทั้งคู่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามากมาย มีการทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง และในทุกๆครั้งผมเองจะพูดคำว่า "เลิก" ตลอด (ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่อยากให้เลิก เหมือนเป็นการขู่อีกฝ่าย) ผมไม่รู้เลยว่าการที่ผมพูดคำๆนี้บ่อยครั้งมันจะทำให้คนหนึ่งต้องรู้สึกแย่และ Fail มากๆ และเมื่อวาน 18/2/2019 ผมและแฟนได้มีเรื่องทะเลาะกันเกิดขึ้นและผมได้เอ่ยคำเดิมๆออกไปอีก
"เลิก" จนแฟนผมคนนี้ได้หมดความอดทนจนเธอจะเลิกจริงๆ ผมเสียใจมากที่เธอจะเลิกกับผม และเธอก็ให้เหตุผลว่า การที่ผมบอกเลิกเธออยู่บ่อยครั้งมันทำให้จิตใจของเธอย่ำแย่และบอบช้ำ จนเอทนไม่ไหวอีกต่อไป ผมก็พยายามง้อและขอโทษเธอ ได้โทรไปง้อ พิมพ์ไลน์ไปง้อ เป็นเวลา 2 ชั่วโมงได้แหละ แต่ผลก็คือ เธออยากอยู่คนเดียวและขอเป็นเพื่อนกันต่อไปก่อน ผมนอนร้องไห้ทั้งคืนเลยอ่ะ ข้าวเย็นก็ไม่ยอมกิน มันทรมานหัวใจและจิตใจผมไปหมด ผมสำนึกผิดและยอมรับผิดมากกับสิ่งที่ผมทำ ผมง้อขอโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองสักครั้งนึง แต่เธอก็ไม่ให้โอกาส ก็นั่นแหละครับ ผลกรรมที่ผมสมควรได้รับ คืนนั้นทั้งคืนเท่าที่ผมนับได้ ผมนอนไม่ถึง 4 ชั่วโมง เอาแต่ร้องไห้และคิดสำนึกผิดอยู่ตลอด (ผมก็โพสรูปคู่ของผมและเธอลงเฟสพร้อมด้วยข้อความเตือนใจที่ยาวมากก เพื่อจะเป็นสิ่งเตือนใจผมไปตลอด) สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันทำให้ผมได้รับบทเรียนที่สำคัญมากที่สุด แฟนคนนี้ไม่ใช่คนที่เฟอร์เฟคอะไรเลยครับ แต่ผมรู้สึกรักเขามากกว่าคำว่า เพื่อน และ แฟน ด้วยซ้ำไป เธอเป็นเหมือนครอบครัวผมคนนึงเลยแหละ แต่ด้วยความที่ผมรักเธอมาก และรู้สึกับเธอมาก ผมก็ตามง้อเธอ และผมก็ตั้งมั่นในความคิดผมตลอดตั้งแต่วันแรกที่เราได้คบกัน คือ "ถ้าวันใดวันหนึ่งผมและเธอต้องเลิกกัน ผมจะตามง้อเธอไปจนกว่าเธอจะเจอกับคนใหม่ที่เธอพร้อมเปิดใจให้"
>>>> 19/2/2019 <<<<<
เช้าวันนี้ผมตื่นมาตอนประมาณ 7 โมงกว่าๆ ผมรีบโทรหาเธอแต่เธอยังงัวเงียกับการที่ยังไม่ตื่น ผมจึงทักเธอไปขอเธอเพื่อขอให้เธอมาคุยกับผมอีกครั้ง แต่เป็นการคุยกันแบบต่อหน้า ผมขอร้องเธอตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่ายสามกว่าๆ ในที่สุดเธอก็ยอมที่จะพูดคุยกับผมต่อหน้าอีกครั้ง ผมคุยกับเธอเกือบๆ 1 ชั่วโมงได้ครับ แต่ในการพูดครั้งนี้มันทำให้ผมได้มีความหวังเล็กๆน้อยๆ คือ เธอให้โอกาสผมได้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้เธอเห็น ให้ผมได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แต่ยังขอคงความเป็นเพื่อนกันก่อน และต่างฝ่ายต่างอยู่ (ยังทักกันทุกวัน ยังโทรหากันทุกวันได้ แต่ไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน) ผมก็รู้สึกดีขึ้นมามากเลยครับ อย่างน้อยผมก็ขอพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ว่ามีเวลาเพียงแค่ 3 สัปดาห์ (ไม่รวมสัปดาห์นี้) เพราะเธอและผมตกลงกันว่าจะมาคุยกันและตกลงกันว่าจะคบกันต่อหรือจบลง ก่อนการสอบ Final ซึ่งผมก็ไม่รอช้า หลังจากส่งเธอเข้าหอพักเสร็จ ผมก็รีบกลับหอเพื่อที่จะทักไปคุยกับเธอ แต่ก็ไม่ได้คุยกันเยอะครับ เธอก็ทำงานทำการบ้านด้วย และที่มันดีมากที่สุดเลย คือ ผมขอ Video Call กับเธาก่อนนอนด้วย ที่โชคดีก็คือ เธอยอมที่จะ Video Call คุยกับผม ผมดีใจมากเลยแหละ 55555555 เหมือนความสุขและความหวังมันเพิ่มขึ้นมามาก หลังจากที่กดวางสายเสร็จผมก็ยิ้มแกล้มปริไปดิ๊

(หลังจากนั้นก็รีบมาตั้งกระทู้เพื่อเป็นบันทึกของการตามง้อแฟนที่ผมรัก หรือจะเรียกว่า การเปลี่ยนแปลงเพื่อจะดึง
FAN ZONE กลับมาเพราะตอนนี้ยังเป็น
FRIEND ZONE อยู่เลย)
>>>> 20/2/2019 <<<<<
วันนี้ก็ขอตั้งต้นเล่าก่อนเลยว่า เธอโทรมาปลุกผมตามที่เธอบอกผมด้วยแหละ ไม่ใช่สายเดียวนะ แต่โทรมาจนกว่าผมจะตื่นอ่ะ ดีใจม๊ากกกก !! แค่ขนาดแค่เธอโทรมาปลุกผมเองนะ 555555555 จากนั้นผมก็ขอเธอไปกินข้าวเช้าด้วย แต่เธอก็ขอจะไปกินกับเพื่อนผู้หญิงของเธอแหละครับ ผมเองก็รู้สึกเฟลๆไปบ้าง แล้วในวันนี้คาบแรกผมและเธอได้เรียนวิชาเดียวกัน (ผมและเธออยู่คนละห้องกันนะครับ) ซึ่งปกติแล้วเธอจะนั่งข้างผมและสอนผมไปด้วย แต่อาทิตย์นี้เธอขอนั่งกับเพื่อน หลังจากนั้นเธอจะมานั่งเหมือนเดิม (ผมก็โอเคตามที่เธอขอ แต่พอถึงเวลาเรียนคาบแรกจริงๆ ผมกลับงอแงไม่เข้าเรื่อง และบ่นให้เธอบลาๆ แต่สุดท้ายผมก็สำนึกแหละครับ 5555555555555 ผมรีบขอโทษเธอเลย และช่วงใกล้ๆเที่ยง ผมก็โทรไปหาเธออีกถามว่าเธออยู่ไหน ทำอะไรอยู่ แต่เธอก็ตอบแบบรีบๆว่า กำลังทำงานอยู่ ขอทำงานก่อน อะไรมาณนี้ครับ แล้วผมก็โอเค จากนั้นผมก็ไปกินข้าวกับเพื่อน และช่วงใกล้ๆบ่ายผมเจอกับเธอที่อาคารเรียนพอดี แต่เธอกำลังทำงานอยู่ ผมก็ถามไปนะว่ากินข้าวยังอะไรงี้ แต่เธอก็ตอบมาว่าไม่ได้กิน เดี๋ยวสักแปปจะไปกิน ซึ่งผมเองมีเรียนอีกทีก็ช่วงบ่ายโมงครึ่ง ผมก็เลยขอเธอไปอยู่ด้วย ไปนั่งเป็นเพื่อนเธอกินข้าว แต่ตอนที่กำลังเดินไป เธอรีบเดินไปหาเพื่อน และไม่สนใจอะไรผมเลย ปล่อยให้ผมเดินอยู่ข้างหลังตามเธอ แต่ด้วยความน้อยใจของผม ผมเองก็เลยตัดสินใจที่จะเดินกลับไปรอเรียนทันที แล้วก็ทักไปประมาณว่า ผมเข้าใจแล้วที่เธอทำอยู่ตอนนี้ เธออาจจะไม่อยากคุยกับผม ไม่อยากอยู่กับผมอีก บลาๆๆๆประมาณนี้ครับ เธอก็กลับมาว่า ทำไมไม่เดินตาม ก็ไม่ได้ว่าอะไรที่จะาด้วยกัน ผมก็ขอให้เธอเห็นผมอยู่ในสายตาของเธอบ้าง แต่เธอก็ตอบมาประมาณว่า ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ผมและเธออยู่ในสถานะไหนกัน และควรทำตัวยังไง (จะทำตัวแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว) ผมก็เศร้ามากกก เสียใจมากก น้อยใจมากก แต่ก็คิดตามที่เธอพูด ผมก็คิดได้เลยครับ ว่าผมควรเข้าใจความรู้สึกเธอตอนนี้ ไม่ควรไปพูดอะไรพวกนี้เลย ผมก็รีบขอโทษเธอ แทบจะสารภาพบาปเลย 55555555 แต่ตอนเย็นมาผมก็ได้โทรหาเธออยู่บ่อยครั้ง เป็นครั้งเป็นคราว (ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันควรไหมที่ทำแบบนี้) เธอก็ทำงานอยู่ตามเคยแหละครับ ผมเองก็ซ้อมบอลรอเธอ พอถึงช่วงพักผมก็ซื้อน้ำไปให้เธอบ้าง เพราะเห็นเธอเหนื่อยกับงานมากๆ ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรเยอะ แต่ก็อยากให้เธอรู้ว่าเธอยังมีผมอยู่ข้างๆเธอเสมอ คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ และก็ได้มีโอกาสเดินไปส่งเธอกลับที่หอพักหญิง ระหว่างเดินกลับผมก็จับแก้มเธอ เปิดเหม่งเธอบ้าง และผมก็ขอจับมือเธอด้วย แต่ที่มันน่ารักก็คือ อย่างน้อยเธอจะไม่ให้ผมจับมือกันแบบเต็มๆมือ แต่เธอยื่นนิ้วก้อยมาให้ผมจับ (รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กเลยอ่ะ 555555555) ผมอยากบอกเลยว่าผมโคตรดีใจ รู้สึกว่าเธอน่ารักกับผม รู้สึกมีความหวังเพิ่มมาอีกแหละ พอเดินส่งเธอเสร็จ ผมก็กลับหอพักของตัวเอง แล้วก็รับทักเธอไป เตือนให้เธอกินข้าว อาบน้ำ และพักผ่อนบ้างไม่ใช่เอาแต่ทำงานอย่างเดียว และก็ขอเธอโทรคุยก่อนนอนเหมือนเดิมครับ ผมก็รอไปเรื่อยๆแหละครับ ถามว่าผมง่วงมากไหม ผมง่วงมากๆครับ แต่ผมก็อยากโทรคุยกับเธอ (จนตอนนี้ที่ผมกำลังนั่งพิมพ์ ก็เวลาประมาณ 00.15 ได้ละครับ) ผมก็ทักเธอไปว่า ยังไม่นอนอีกหรอ เพราะพรุ่งนี้เช้าเธอก็ตื่นเช้า แต่เธอก็ยังไม่ตอบเลยครับ ผมก็รอที่จะคุยกับเธอเสมอแหละครับ ต่อให้มันดึกแค่ไหน เดี๋ยววันนี้ผมขอตัดจบไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะ ผมขอตัวไปโทรถามเธอก่อน เพราะมันดึกมากแล้ว ไม่รู้ว่าเธอยังทำงานอยู่ไหม สำหรับวันนี้ผมมีความสุขมากๆอีกวันนึง ยังไงผมก็จะสู้เพื่อกู้ความรู้สึกของเธอให้กลัมาเป็นเหมือนเดิม และยังยึดคำที่ผมพูดเสมอครับ ต่อให้ผมต้องรอเธออีกกี่ปีก็ตาม (ถ้าเธอยังไม่มีใครนะ 55555555)
>>>> 21/2/2019 <<<<<
ก่อนอื่นเลยผมจะเล่าถึงเรื่องที่โทรหาเธอตอนเมื่อคืนครับ หลังจากผมได้พิมพ์กระทู้ของเมื่อวานเสร็จ เธอก็ทักผมมาครับ ว่า "เธอง่วง เธอจะนอนละ" ผมก็รีบกด VideoCall ไปเลย แต่ได้คุยกับเธอแค่ 2.09 นาที ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่ก็ทำให้ผมมีความสุขมากๆเลยครับ ซึ่งผมมารู้ตอนเช้าว่าเธอตื่นตอนตี 2 เพื่อเตรียมตัวแต่งหน้า แต่งชุดสำหรับการเดินขบวนกีฬาสี (ชุดเธอแต่งไม่เยอะครับ แต่งหน้าก็ไม่ค่อยเยอะ) แต่จะได้ไปช่วยแต่งหน้าให้คนอื่นๆเธอจึงต้องตื่นเช้า ผมเป็นห่วงเธอมากๆเลยครับบ และเธอเคยบอกผมว่าเธอลงแข่งวิ่งอีก 2 รายการ แล้วหลังจากเดินขบวนเสร็จ ผมก็ไปหาเธอที่สแตนแล้วเห็นเท้าเธอบวมนิดๆ เนื่องจากใส่ส้นสูง ผมจึงรีบไปเอายาทาแก้ปวดเพื่อที่จะมาทา และนวดให้เธอ แต่เธอกลับปฏิเสธความหวังดีและเป็นห่วง (ผมก็รู้สึกน้อยใจและเสียใจนิดๆแหละครับ) ผมก็พยายามที่จะพูดให้เธอยอมอยู่หลายหน แต่เธอก็ปฏิเสธเหมือนเดิม สุดท้ายผมก็ยอมเพราะเธอเริ่มมีอาการชักสีหน้า และมีอารมณ์เริ่มโมโหใส่ผม (บอกเลยว่าน้อยใจมากกกกกกกกกกกกกกก) หลังจากนั้นพอเธอลงแข่งวิ่ง ผมก็ไม่รออะไรเลย รีบไปรอเธอที่จุดเข้าเส้นชัยเพราะจะได้เช็ดหน้า จะได้คอยดูแลเผื่อเป็นอะไรขึ้นมา แต่เธอก็ชักสีหน้าตามเคยครับ แล้วผ่านไปสักเกือบๆชั่วโมงเธอก็ลงแข่งรายการต่อไป ผมก็ทำตามเดิมครับ แล้วก็ไปถามว่าเหนื่อยไหม ไหวไหมอะไรประมาณนี้ เธอก็ชัดสีหน้าเหมือนเดิมครับ จากนั้นตอนเที่ยงหลังที่ผมกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไปหาเธอที่สแตนสีของเธอ เธอก็ดูง่วงๆไม่มีอารมณ์ทำอะไร ผมก็ถามเธอว่า เธอจะนอนตักผมไหม แต่เธอก็ตอบว่าไม่ แล้วไปเอากระเป๋าและเสื้อกันหนาวมารองหัวแทน (ผมก็เข้าใจในส่วนนี้นะครับว่า มีอาจารย์เต็มไปหมด เธอก็คงไม่อยากให้เราทั้งคู่ดูไม่ดี) แต่เนื่องด้วยอากาศร้อนด้วยเลยทำให้เธออารมณ์ไม่ค่อยจะดีและเธอเลยชักสีหน้า ผมก็เลยไปหาหมวกมาเพื่อจะพัดให้เธอหายร้อนและก็ไปเอาเสื้อกันหนาวของผมมาด้วยเพื่อจะเอามาปกขาเธอ เพราะเธอใส่กางเกงขาสั้น ที่ผมจำได้ผมนั่งพัดให้เธอก็ประมาณเกือบๆชั่วโมง (ผมปวดแขนมากนะครับ แต่เพื่อคนที่ผมรักต่อให้นานแค่ไหนก็จะทำ) จากนั้นเธอก็สะดุ้งตื่นเพื่อจะดูหลีดของสีตัวเอง ผมก็โอเค แล้วเธอก็ไปนั่งในสแตนของตัวเอง ผมเองก็ไม่อยากรบกวนเธอมาก ก็เลยยืนดูข้างหลังเธอแบบห่างๆ และเมื่อหลีดทุกสีได้แสดงหมด ผมก็ต้องไปเตรียมตัวแข่งฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่า ก่อนที่ผมจะไปเตรียมตัวผมก็เลยไปขอให้เธออยู่ดูผมแข่ง (ผมแค่อยากได้กำลังใจจากเธอแค่นั้นเองครับ) เธอก็โอเคที่จะอยู่ดู แต่อยู่บนสแตนของสีตัวเองดูผมอยู่ห่างๆ ซึ่งตอนผมแข่งผมหันไปมองเธอทีไร ผมนี่ดีใจมาก และชื่นใจมาก กำลังใจมาเต็มเปลี่ยมเกิน 100% ด้วยซ้ำ 55555555555 (จะว่าผมขี้โม้ก็ได้นะ ฮ่าๆๆ) หลังจากผมแข่งบอลเสร็จ ก็ทำพิธีปิดการแข่งขันกีฬาสี และเก็บของทั้งหมด แต่หลังจากนั้นผมก็เดินไปหาเธอ ผมไปนั่งหลังเธอ แล้วสะกิดเธอให้หันมาหาผม แต่เธอก็ชักสีหน้านิดนึง และพูดบอกว่า อย่าเพิ่งกวนเธอ (ผมนี่โคตรน้อยใจอ่ะ อยากร้องไห้มากๆเลยแหละ 5555555555555) จากนั้นตอนเดินไปโรงอาหารด้วยกันสองคน ผมก็จับมือเธอเหมือนเดิมครับ แล้วก็ถามเธอตรงๆว่า ทำไมถึงชอบหงุดหงิดใส่ผม แล้วทำไมพูดกับผมไม่ดีเลย มันต่างกับที่เธอพูดกับเพื่อนของเธอมาก แต่เธอก็ตอบมาว่า ผมชอบทำให้เธอหงุดหงิดตรงที่ว่า ผมมักจะไม่เข้าใจเธอ (ผมก็แอบ งงๆ นะครับว่าผมไม่เข้าใจเธอตอนไหน) แต่ก็ยอมครับ เพราะคนนึงร้อน ก็ต้องมีคนนึงที่เย็น และยอมขอโทษทั้งๆที่ไม่ได้ผิด จากนั้นเอาข้าวที่โรงอาหารเสร็จบวกกับยกของกลับหอด้วย ผมก็อาสายกให้เธอครับ ของในนั้นมันหนักมาก ผมจึงไปยกไปส่งที่หน้าหอเธอเลย แต่เธอก็โมโหใส่ว่า ไม่ต้องยกไปส่งถึงหน้าหอ ผมนี่ไม่ฟังเลยครับเพราะของมันหนัก จนเธอต้องยอมให้ไปส่งหน้าหออ่ะ 555555555 หลังจากนั้นผมก็กลับหอของผมตามปกติ แล้วก็ทักไปบอกเธอให้อาบน้ำ กินข้าวให้เรียบร้อยและบอกให้เธอว่าอย่าเครียดให้มาก เพราะผมเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของเธอครับ ซึ่งตอนนี้ที่ผมกำลังพิมพ์ในส่วนของวันนี้ก็เวลา 21.11 น. แล้วครับ เธอก็ยังไม่โทรมาหาผมเลย ไว้ยังไงผมจะมาเล่าทีหลังนะครับ ตอนนี้ผมก็ขอตัวไปกินข้าวและลองโทรไปหาเธอก่อนนะครับ
ปล. ช่วงตั้งแต่ผมเล่าเรื่องจนถึงวันที่ 20/2/2019 งานที่เธอทำคือ งานทำฉากทำแสตนกีฬาสีครับ เพราะกีฬาสีจัดวันที่ 21/2/2019
ปล.2 แลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือแชร์ประสบการณ์ได้เลยครับ
บันทึกการทวงคืน FAN ZONE ให้กลับมา !! (พูดคุยและแชร์ประสบการณ์ของแต่ละคนได้เลย)
ผมกับแฟนเรียนอยู่โรงเรียนเตรียมแห่งหนึ่ง ซึ่งเราทั้งคู่ต่างกำลังเรียน ปวช.3 โดยกฎของวิทยาลัยฯ ก็จะให้นอนหอในตั้งแต่ ปวช.1-3 (แยกหอชายและหญิง) เราทั้งคู่คบกันมาได้ 1 ปี 2 เดือน 28 วัน ที่ผ่านมาเราทั้งคู่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามากมาย มีการทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง และในทุกๆครั้งผมเองจะพูดคำว่า "เลิก" ตลอด (ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่อยากให้เลิก เหมือนเป็นการขู่อีกฝ่าย) ผมไม่รู้เลยว่าการที่ผมพูดคำๆนี้บ่อยครั้งมันจะทำให้คนหนึ่งต้องรู้สึกแย่และ Fail มากๆ และเมื่อวาน 18/2/2019 ผมและแฟนได้มีเรื่องทะเลาะกันเกิดขึ้นและผมได้เอ่ยคำเดิมๆออกไปอีก "เลิก" จนแฟนผมคนนี้ได้หมดความอดทนจนเธอจะเลิกจริงๆ ผมเสียใจมากที่เธอจะเลิกกับผม และเธอก็ให้เหตุผลว่า การที่ผมบอกเลิกเธออยู่บ่อยครั้งมันทำให้จิตใจของเธอย่ำแย่และบอบช้ำ จนเอทนไม่ไหวอีกต่อไป ผมก็พยายามง้อและขอโทษเธอ ได้โทรไปง้อ พิมพ์ไลน์ไปง้อ เป็นเวลา 2 ชั่วโมงได้แหละ แต่ผลก็คือ เธออยากอยู่คนเดียวและขอเป็นเพื่อนกันต่อไปก่อน ผมนอนร้องไห้ทั้งคืนเลยอ่ะ ข้าวเย็นก็ไม่ยอมกิน มันทรมานหัวใจและจิตใจผมไปหมด ผมสำนึกผิดและยอมรับผิดมากกับสิ่งที่ผมทำ ผมง้อขอโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองสักครั้งนึง แต่เธอก็ไม่ให้โอกาส ก็นั่นแหละครับ ผลกรรมที่ผมสมควรได้รับ คืนนั้นทั้งคืนเท่าที่ผมนับได้ ผมนอนไม่ถึง 4 ชั่วโมง เอาแต่ร้องไห้และคิดสำนึกผิดอยู่ตลอด (ผมก็โพสรูปคู่ของผมและเธอลงเฟสพร้อมด้วยข้อความเตือนใจที่ยาวมากก เพื่อจะเป็นสิ่งเตือนใจผมไปตลอด) สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันทำให้ผมได้รับบทเรียนที่สำคัญมากที่สุด แฟนคนนี้ไม่ใช่คนที่เฟอร์เฟคอะไรเลยครับ แต่ผมรู้สึกรักเขามากกว่าคำว่า เพื่อน และ แฟน ด้วยซ้ำไป เธอเป็นเหมือนครอบครัวผมคนนึงเลยแหละ แต่ด้วยความที่ผมรักเธอมาก และรู้สึกับเธอมาก ผมก็ตามง้อเธอ และผมก็ตั้งมั่นในความคิดผมตลอดตั้งแต่วันแรกที่เราได้คบกัน คือ "ถ้าวันใดวันหนึ่งผมและเธอต้องเลิกกัน ผมจะตามง้อเธอไปจนกว่าเธอจะเจอกับคนใหม่ที่เธอพร้อมเปิดใจให้"
>>>> 19/2/2019 <<<<<
เช้าวันนี้ผมตื่นมาตอนประมาณ 7 โมงกว่าๆ ผมรีบโทรหาเธอแต่เธอยังงัวเงียกับการที่ยังไม่ตื่น ผมจึงทักเธอไปขอเธอเพื่อขอให้เธอมาคุยกับผมอีกครั้ง แต่เป็นการคุยกันแบบต่อหน้า ผมขอร้องเธอตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่ายสามกว่าๆ ในที่สุดเธอก็ยอมที่จะพูดคุยกับผมต่อหน้าอีกครั้ง ผมคุยกับเธอเกือบๆ 1 ชั่วโมงได้ครับ แต่ในการพูดครั้งนี้มันทำให้ผมได้มีความหวังเล็กๆน้อยๆ คือ เธอให้โอกาสผมได้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้เธอเห็น ให้ผมได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แต่ยังขอคงความเป็นเพื่อนกันก่อน และต่างฝ่ายต่างอยู่ (ยังทักกันทุกวัน ยังโทรหากันทุกวันได้ แต่ไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน) ผมก็รู้สึกดีขึ้นมามากเลยครับ อย่างน้อยผมก็ขอพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ว่ามีเวลาเพียงแค่ 3 สัปดาห์ (ไม่รวมสัปดาห์นี้) เพราะเธอและผมตกลงกันว่าจะมาคุยกันและตกลงกันว่าจะคบกันต่อหรือจบลง ก่อนการสอบ Final ซึ่งผมก็ไม่รอช้า หลังจากส่งเธอเข้าหอพักเสร็จ ผมก็รีบกลับหอเพื่อที่จะทักไปคุยกับเธอ แต่ก็ไม่ได้คุยกันเยอะครับ เธอก็ทำงานทำการบ้านด้วย และที่มันดีมากที่สุดเลย คือ ผมขอ Video Call กับเธาก่อนนอนด้วย ที่โชคดีก็คือ เธอยอมที่จะ Video Call คุยกับผม ผมดีใจมากเลยแหละ 55555555 เหมือนความสุขและความหวังมันเพิ่มขึ้นมามาก หลังจากที่กดวางสายเสร็จผมก็ยิ้มแกล้มปริไปดิ๊
>>>> 20/2/2019 <<<<<
วันนี้ก็ขอตั้งต้นเล่าก่อนเลยว่า เธอโทรมาปลุกผมตามที่เธอบอกผมด้วยแหละ ไม่ใช่สายเดียวนะ แต่โทรมาจนกว่าผมจะตื่นอ่ะ ดีใจม๊ากกกก !! แค่ขนาดแค่เธอโทรมาปลุกผมเองนะ 555555555 จากนั้นผมก็ขอเธอไปกินข้าวเช้าด้วย แต่เธอก็ขอจะไปกินกับเพื่อนผู้หญิงของเธอแหละครับ ผมเองก็รู้สึกเฟลๆไปบ้าง แล้วในวันนี้คาบแรกผมและเธอได้เรียนวิชาเดียวกัน (ผมและเธออยู่คนละห้องกันนะครับ) ซึ่งปกติแล้วเธอจะนั่งข้างผมและสอนผมไปด้วย แต่อาทิตย์นี้เธอขอนั่งกับเพื่อน หลังจากนั้นเธอจะมานั่งเหมือนเดิม (ผมก็โอเคตามที่เธอขอ แต่พอถึงเวลาเรียนคาบแรกจริงๆ ผมกลับงอแงไม่เข้าเรื่อง และบ่นให้เธอบลาๆ แต่สุดท้ายผมก็สำนึกแหละครับ 5555555555555 ผมรีบขอโทษเธอเลย และช่วงใกล้ๆเที่ยง ผมก็โทรไปหาเธออีกถามว่าเธออยู่ไหน ทำอะไรอยู่ แต่เธอก็ตอบแบบรีบๆว่า กำลังทำงานอยู่ ขอทำงานก่อน อะไรมาณนี้ครับ แล้วผมก็โอเค จากนั้นผมก็ไปกินข้าวกับเพื่อน และช่วงใกล้ๆบ่ายผมเจอกับเธอที่อาคารเรียนพอดี แต่เธอกำลังทำงานอยู่ ผมก็ถามไปนะว่ากินข้าวยังอะไรงี้ แต่เธอก็ตอบมาว่าไม่ได้กิน เดี๋ยวสักแปปจะไปกิน ซึ่งผมเองมีเรียนอีกทีก็ช่วงบ่ายโมงครึ่ง ผมก็เลยขอเธอไปอยู่ด้วย ไปนั่งเป็นเพื่อนเธอกินข้าว แต่ตอนที่กำลังเดินไป เธอรีบเดินไปหาเพื่อน และไม่สนใจอะไรผมเลย ปล่อยให้ผมเดินอยู่ข้างหลังตามเธอ แต่ด้วยความน้อยใจของผม ผมเองก็เลยตัดสินใจที่จะเดินกลับไปรอเรียนทันที แล้วก็ทักไปประมาณว่า ผมเข้าใจแล้วที่เธอทำอยู่ตอนนี้ เธออาจจะไม่อยากคุยกับผม ไม่อยากอยู่กับผมอีก บลาๆๆๆประมาณนี้ครับ เธอก็กลับมาว่า ทำไมไม่เดินตาม ก็ไม่ได้ว่าอะไรที่จะาด้วยกัน ผมก็ขอให้เธอเห็นผมอยู่ในสายตาของเธอบ้าง แต่เธอก็ตอบมาประมาณว่า ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ผมและเธออยู่ในสถานะไหนกัน และควรทำตัวยังไง (จะทำตัวแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว) ผมก็เศร้ามากกก เสียใจมากก น้อยใจมากก แต่ก็คิดตามที่เธอพูด ผมก็คิดได้เลยครับ ว่าผมควรเข้าใจความรู้สึกเธอตอนนี้ ไม่ควรไปพูดอะไรพวกนี้เลย ผมก็รีบขอโทษเธอ แทบจะสารภาพบาปเลย 55555555 แต่ตอนเย็นมาผมก็ได้โทรหาเธออยู่บ่อยครั้ง เป็นครั้งเป็นคราว (ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันควรไหมที่ทำแบบนี้) เธอก็ทำงานอยู่ตามเคยแหละครับ ผมเองก็ซ้อมบอลรอเธอ พอถึงช่วงพักผมก็ซื้อน้ำไปให้เธอบ้าง เพราะเห็นเธอเหนื่อยกับงานมากๆ ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรเยอะ แต่ก็อยากให้เธอรู้ว่าเธอยังมีผมอยู่ข้างๆเธอเสมอ คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ และก็ได้มีโอกาสเดินไปส่งเธอกลับที่หอพักหญิง ระหว่างเดินกลับผมก็จับแก้มเธอ เปิดเหม่งเธอบ้าง และผมก็ขอจับมือเธอด้วย แต่ที่มันน่ารักก็คือ อย่างน้อยเธอจะไม่ให้ผมจับมือกันแบบเต็มๆมือ แต่เธอยื่นนิ้วก้อยมาให้ผมจับ (รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กเลยอ่ะ 555555555) ผมอยากบอกเลยว่าผมโคตรดีใจ รู้สึกว่าเธอน่ารักกับผม รู้สึกมีความหวังเพิ่มมาอีกแหละ พอเดินส่งเธอเสร็จ ผมก็กลับหอพักของตัวเอง แล้วก็รับทักเธอไป เตือนให้เธอกินข้าว อาบน้ำ และพักผ่อนบ้างไม่ใช่เอาแต่ทำงานอย่างเดียว และก็ขอเธอโทรคุยก่อนนอนเหมือนเดิมครับ ผมก็รอไปเรื่อยๆแหละครับ ถามว่าผมง่วงมากไหม ผมง่วงมากๆครับ แต่ผมก็อยากโทรคุยกับเธอ (จนตอนนี้ที่ผมกำลังนั่งพิมพ์ ก็เวลาประมาณ 00.15 ได้ละครับ) ผมก็ทักเธอไปว่า ยังไม่นอนอีกหรอ เพราะพรุ่งนี้เช้าเธอก็ตื่นเช้า แต่เธอก็ยังไม่ตอบเลยครับ ผมก็รอที่จะคุยกับเธอเสมอแหละครับ ต่อให้มันดึกแค่ไหน เดี๋ยววันนี้ผมขอตัดจบไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะ ผมขอตัวไปโทรถามเธอก่อน เพราะมันดึกมากแล้ว ไม่รู้ว่าเธอยังทำงานอยู่ไหม สำหรับวันนี้ผมมีความสุขมากๆอีกวันนึง ยังไงผมก็จะสู้เพื่อกู้ความรู้สึกของเธอให้กลัมาเป็นเหมือนเดิม และยังยึดคำที่ผมพูดเสมอครับ ต่อให้ผมต้องรอเธออีกกี่ปีก็ตาม (ถ้าเธอยังไม่มีใครนะ 55555555)
>>>> 21/2/2019 <<<<<
ก่อนอื่นเลยผมจะเล่าถึงเรื่องที่โทรหาเธอตอนเมื่อคืนครับ หลังจากผมได้พิมพ์กระทู้ของเมื่อวานเสร็จ เธอก็ทักผมมาครับ ว่า "เธอง่วง เธอจะนอนละ" ผมก็รีบกด VideoCall ไปเลย แต่ได้คุยกับเธอแค่ 2.09 นาที ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่ก็ทำให้ผมมีความสุขมากๆเลยครับ ซึ่งผมมารู้ตอนเช้าว่าเธอตื่นตอนตี 2 เพื่อเตรียมตัวแต่งหน้า แต่งชุดสำหรับการเดินขบวนกีฬาสี (ชุดเธอแต่งไม่เยอะครับ แต่งหน้าก็ไม่ค่อยเยอะ) แต่จะได้ไปช่วยแต่งหน้าให้คนอื่นๆเธอจึงต้องตื่นเช้า ผมเป็นห่วงเธอมากๆเลยครับบ และเธอเคยบอกผมว่าเธอลงแข่งวิ่งอีก 2 รายการ แล้วหลังจากเดินขบวนเสร็จ ผมก็ไปหาเธอที่สแตนแล้วเห็นเท้าเธอบวมนิดๆ เนื่องจากใส่ส้นสูง ผมจึงรีบไปเอายาทาแก้ปวดเพื่อที่จะมาทา และนวดให้เธอ แต่เธอกลับปฏิเสธความหวังดีและเป็นห่วง (ผมก็รู้สึกน้อยใจและเสียใจนิดๆแหละครับ) ผมก็พยายามที่จะพูดให้เธอยอมอยู่หลายหน แต่เธอก็ปฏิเสธเหมือนเดิม สุดท้ายผมก็ยอมเพราะเธอเริ่มมีอาการชักสีหน้า และมีอารมณ์เริ่มโมโหใส่ผม (บอกเลยว่าน้อยใจมากกกกกกกกกกกกกกก) หลังจากนั้นพอเธอลงแข่งวิ่ง ผมก็ไม่รออะไรเลย รีบไปรอเธอที่จุดเข้าเส้นชัยเพราะจะได้เช็ดหน้า จะได้คอยดูแลเผื่อเป็นอะไรขึ้นมา แต่เธอก็ชักสีหน้าตามเคยครับ แล้วผ่านไปสักเกือบๆชั่วโมงเธอก็ลงแข่งรายการต่อไป ผมก็ทำตามเดิมครับ แล้วก็ไปถามว่าเหนื่อยไหม ไหวไหมอะไรประมาณนี้ เธอก็ชัดสีหน้าเหมือนเดิมครับ จากนั้นตอนเที่ยงหลังที่ผมกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไปหาเธอที่สแตนสีของเธอ เธอก็ดูง่วงๆไม่มีอารมณ์ทำอะไร ผมก็ถามเธอว่า เธอจะนอนตักผมไหม แต่เธอก็ตอบว่าไม่ แล้วไปเอากระเป๋าและเสื้อกันหนาวมารองหัวแทน (ผมก็เข้าใจในส่วนนี้นะครับว่า มีอาจารย์เต็มไปหมด เธอก็คงไม่อยากให้เราทั้งคู่ดูไม่ดี) แต่เนื่องด้วยอากาศร้อนด้วยเลยทำให้เธออารมณ์ไม่ค่อยจะดีและเธอเลยชักสีหน้า ผมก็เลยไปหาหมวกมาเพื่อจะพัดให้เธอหายร้อนและก็ไปเอาเสื้อกันหนาวของผมมาด้วยเพื่อจะเอามาปกขาเธอ เพราะเธอใส่กางเกงขาสั้น ที่ผมจำได้ผมนั่งพัดให้เธอก็ประมาณเกือบๆชั่วโมง (ผมปวดแขนมากนะครับ แต่เพื่อคนที่ผมรักต่อให้นานแค่ไหนก็จะทำ) จากนั้นเธอก็สะดุ้งตื่นเพื่อจะดูหลีดของสีตัวเอง ผมก็โอเค แล้วเธอก็ไปนั่งในสแตนของตัวเอง ผมเองก็ไม่อยากรบกวนเธอมาก ก็เลยยืนดูข้างหลังเธอแบบห่างๆ และเมื่อหลีดทุกสีได้แสดงหมด ผมก็ต้องไปเตรียมตัวแข่งฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่า ก่อนที่ผมจะไปเตรียมตัวผมก็เลยไปขอให้เธออยู่ดูผมแข่ง (ผมแค่อยากได้กำลังใจจากเธอแค่นั้นเองครับ) เธอก็โอเคที่จะอยู่ดู แต่อยู่บนสแตนของสีตัวเองดูผมอยู่ห่างๆ ซึ่งตอนผมแข่งผมหันไปมองเธอทีไร ผมนี่ดีใจมาก และชื่นใจมาก กำลังใจมาเต็มเปลี่ยมเกิน 100% ด้วยซ้ำ 55555555555 (จะว่าผมขี้โม้ก็ได้นะ ฮ่าๆๆ) หลังจากผมแข่งบอลเสร็จ ก็ทำพิธีปิดการแข่งขันกีฬาสี และเก็บของทั้งหมด แต่หลังจากนั้นผมก็เดินไปหาเธอ ผมไปนั่งหลังเธอ แล้วสะกิดเธอให้หันมาหาผม แต่เธอก็ชักสีหน้านิดนึง และพูดบอกว่า อย่าเพิ่งกวนเธอ (ผมนี่โคตรน้อยใจอ่ะ อยากร้องไห้มากๆเลยแหละ 5555555555555) จากนั้นตอนเดินไปโรงอาหารด้วยกันสองคน ผมก็จับมือเธอเหมือนเดิมครับ แล้วก็ถามเธอตรงๆว่า ทำไมถึงชอบหงุดหงิดใส่ผม แล้วทำไมพูดกับผมไม่ดีเลย มันต่างกับที่เธอพูดกับเพื่อนของเธอมาก แต่เธอก็ตอบมาว่า ผมชอบทำให้เธอหงุดหงิดตรงที่ว่า ผมมักจะไม่เข้าใจเธอ (ผมก็แอบ งงๆ นะครับว่าผมไม่เข้าใจเธอตอนไหน) แต่ก็ยอมครับ เพราะคนนึงร้อน ก็ต้องมีคนนึงที่เย็น และยอมขอโทษทั้งๆที่ไม่ได้ผิด จากนั้นเอาข้าวที่โรงอาหารเสร็จบวกกับยกของกลับหอด้วย ผมก็อาสายกให้เธอครับ ของในนั้นมันหนักมาก ผมจึงไปยกไปส่งที่หน้าหอเธอเลย แต่เธอก็โมโหใส่ว่า ไม่ต้องยกไปส่งถึงหน้าหอ ผมนี่ไม่ฟังเลยครับเพราะของมันหนัก จนเธอต้องยอมให้ไปส่งหน้าหออ่ะ 555555555 หลังจากนั้นผมก็กลับหอของผมตามปกติ แล้วก็ทักไปบอกเธอให้อาบน้ำ กินข้าวให้เรียบร้อยและบอกให้เธอว่าอย่าเครียดให้มาก เพราะผมเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของเธอครับ ซึ่งตอนนี้ที่ผมกำลังพิมพ์ในส่วนของวันนี้ก็เวลา 21.11 น. แล้วครับ เธอก็ยังไม่โทรมาหาผมเลย ไว้ยังไงผมจะมาเล่าทีหลังนะครับ ตอนนี้ผมก็ขอตัวไปกินข้าวและลองโทรไปหาเธอก่อนนะครับ
ปล. ช่วงตั้งแต่ผมเล่าเรื่องจนถึงวันที่ 20/2/2019 งานที่เธอทำคือ งานทำฉากทำแสตนกีฬาสีครับ เพราะกีฬาสีจัดวันที่ 21/2/2019
ปล.2 แลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือแชร์ประสบการณ์ได้เลยครับ