สัญญาเช่าอพาร์ทเมนท์ทั้งหลัง (ยกเว้นบางส่วน) 10 ปี ยังไม่ทันไปเซ็นที่กรมที่ดิน แต่คุณแม่เสียก่อน คู่สัญญาอ้างว่า...

สวัสดีค่ะ มีเรื่องขอคำปรึกษาค่ะ

เมื่อกลางปีที่แล้ว.. คุณแม่ได้ตกลงจะให้เช่าอพาร์ทเมนท์ทั้งหลัง ยกเว้นส่วนดาดฟ้า และอีก 1 ห้อง เก็บไว้อาศัยเอง คุณแม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาดำเนินกิจการ ช่วงเดือนกันยา - ธันวา 2561 โดยไม่คิดค่าเช่า (คือช่วงระหว่างนี้ลูกค้าเดิมเป็นของฉัน ลูกค้าใหม่เป็นของเธอ) คู่สัญญาเป็นลูกของพี่สาวแม่ (เท่ากับเป็นลูกพี่ลูกน้องกับดิฉัน) สัญญาได้ถูกเขียนขึ้นประมาณเดือน กรกฎา.. แล้วก็แก้สัญญาไปมา ผิดตรงนั้นที ผิดตรงนี้ แต่ผิดแบบฝั่งนั้นได้เปรียบตลอด แก้หลายรอบมาก (4 รอบ) ตกลงกันว่าจะไปเซ็นที่กรมที่ดิน เนื่องจากเป็นสัญญาเช่าที่เกิน 3 ปี โดยที่คู่สัญญาจะไม่ไปเอง (อายุ 54) คุณแม่ดิฉันก็จะไม่ไปเอง (แก่แล้ว 72 แล้ว) ก็ทำใบมอบฉันทะให้น้องชายของคู่สัญญาไปทำ แต่ในใบมอบฉันทะก็ผิดแล้วผิดอีก ผิดแต่ละทีก็ฝ่ายนั้นได้เปรียบ เช่น ไม่ได้ตัด 1 ห้องที่จะเก็บไว้อยู่อาศัยเองออก พอแก้ใหม่ ตัด 1 ห้องที่จะอาศัยเองออก แต่เขียนว่าเช่า 10 ปี ระยะเวลาตั้งแต่ มกราคม 2562 - ธันวาคม 2571 เป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท (สองแสนห้าหมื่นบาท) โดยชำระเดือนละ 25,000 บาท (สองหมื่นห้ามพันบาท)
** อพาร์ทเมนท์ตั้งอยู่บนที่ดิน 2 โฉนด ทำสัญญาแยกกันเป็น 2 ฉบับ ฉบับละ 25,000 ต่อเดือน ราคาเต็มคือ 50,000 บาทต่อเดือน **

ระหว่างที่คุณแม่ไม่ยอมเซ็นใบมอบฉันทะ ให้เขากลับไปแก้มาใหม่ (รอบที่ 4) ใบมอบฉันทะฉบับใหม่ยังไม่มา.. คุณแม่ก็เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกาฯ 2561 คุณแม่ไม่ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ แต่ได้สั่งเสียคู่สัญญา ญาติๆ เพื่อนๆ คนรู้จักว่าดอกผลทั้งหลาย ค่าเช่าต่างๆ ให้จ่ายที่ดิฉันคนเดียว หลังจากที่คุณแม่เสีย.. พี่สาว (คู่สัญญา) ก็เริ่มหาลูกค้าเข้ามาเช่าห้อง ระหว่างช่วงพฤศจิกา-ธันวา ดิฉันเก็บเขาแค่ค่าไฟ-ค่าน้ำในส่วนที่ลูกค้าของเขาใช้เท่านั้น พอเดือนมกราคม 2562 ในสัญญาคือเขาต้องเริ่มจ่ายค่าเช่า 50,000 บาท แต่ช่วงกลางๆ เดือนเขาโทรมาบอกดิฉันว่าสัญญายังไม่เรียบร้อย เนื่องจากยังไม่มีการตั้งผู้จัดการมรดก ที่ดินส่วนที่เป็นของคุณแม่ต้องเป็นชื่อของดิฉัน เขาต้องทำสัญญากับดิฉัน เขาจะจ่ายต่อเมื่อสัญญาเรียบร้อย (ประมาณปลายเดือนกุมภา ศาลนัด 25 กุมภา แต่งตั้งผู้จัดการมรดก) ดิฉันก็รู้สึกว่า.. มันใช่เหรอ?? หงุดหงิดๆ ก็บอกเขาว่าสัญญามันควรจะเสร็จตั้งแต่ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่แล้ว ผิดไม่รู้กี่รอบ จนแม่ตาย แล้วเอามาอ้าง แต่ก็ไม่อยากอะไรมากเพราะเป็นญาติกัน เขาบอกว่าถ้ามีอะไรผิดพลาดอีกที่สาเหตุมาจากเขา เดือนมีนาเขาจะจ่ายให้ 50,000 บาท (อ้าว แล้วมกรา กุมภา??) ซึ่งก่อนหน้านี้เขาต่อรองขอลดค่าเช่าจากที่เคยเขียนไว้ในสัญญากับแม่ด้วยว่า ปีละ 50,000 ขึ้นทุกปี ปีละ 10% เป็น 3 ปีแรกไม่ขึ้น ดิฉันบอกว่าดิฉันให้ 2 ปี (24 เดือนแรก 50,000 เดือนที่ 25 = 55,000) วันที่เขาบอกว่าเขาจะเริ่มจ่ายเมื่อสัญญาเสร็จ (คือเสร็จปลายกุมภา เริ่มจ่ายมีนา) เขายังขอลดอีกว่า.. ขอปีที่ 3 ขึ้น 5% ดิฉันรู้สึกว่าแค่ 50,000 ก็ถูกมากแล้ว ราคานี้คือราคาที่แม่ดิฉันเมตตาเพราะความเป็นหลานสุดๆ แล้ว และดิฉันก็ไม่ใช่ลูกคนเดียว มีพี่ๆ อีก ถึงแม่จะบอกว่าค่าต่างๆ ให้จ่ายที่ดิฉัน ก็ไม่ได้หมายความว่าดิฉันควรเอาสมบัติแม่มาให้คนอื่นกดราคาขนาดนี้ ดิฉันไม่ให้ เขาบอกว่าเขาจะทำสัญญาใหม่ เปลี่ยนตัวเลขค่าเช่าที่ดิฉันให้ 2 ปีแรก 50,000 และเปลี่ยนวันที่ และขอสัญญายาวกว่าเดิม 10 เดือน เพราะเริ่มมีนา 2562 ให้ไปจบที่ปลายปี 2572 ซึ่งดิฉันโอเคเรื่องยืดสัญญาขึ้นอีก 10 เดือน เขาบอกกับดิฉันว่าต้องเปลี่ยนชื่อไฟฟ้าและประปาด้วย เขาจะได้นำมาหักภาษีได้ ที่ยังไม่จ่ายค่าเช่าดิฉันเพราะสัญญาไม่เรียบร้อย ชื่อยังเปลี่ยนไม่ได้ นำมาหักค่าใช้จ่ายไม่ได้

ระหว่างที่ดิฉันรอสัญญาฉบับใหม่จากเขา ดิฉันโทรไปถามการไฟฟ้าว่าเปลี่ยนชื่อต้องทำยังไง การไฟฟ้าบอกว่า..ต้องวางเงินประกัน 48,000 บาท เพราะไฟดิฉัน 200 แอมป์ ดิฉันโทรไปบอกเขาว่า.. ค่าประกัน 48,000 บาทนะ เขาตอบดิฉันมาว่า.. ไม่เป็นไร งั้นไม่ต้องเปลี่ยน เดี๋ยวจะถามบัญชีว่าทำยังไงได้บ้าง ดิฉันก็รู้สึกว่า.. ถ้ามันไม่ต้องเปลี่ยน ถามบัญชีได้ ก็ควรต้องถามตั้งแต่ปลายธันวาแล้วมั้ย?? วิถึที่คนมีใจ วิถีที่คนดีๆ จะทำคือ... ปลายปีควรถามบัญชีว่าคุณแม่ของน้องเพิ่งเสีย ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อในไฟฟ้า และประปา เดือนมกราจะต้องเริ่มจ่ายค่าเช่าแล้ว จะทำยังไงได้บ้าง?? ไม่ใช่มัดมือชกไม่จ่ายค่าเช่า อ้างสัญญาไม่เรียบร้อย อ้างไม่ได้เปลี่ยนชื่อ แล้วเพิ่งมาถามเอาตอนตัวเองจะต้องควัก 48,000 บาท ดิฉันรู้สึกว่าไมใช่แระ นี่คือรู้มาก นี่คือตั้งใจเอาเปรียบ ดิฉันเอาสัญญาเดิมมาอ่าน.. มีคำว่า serviced apartment และเช่าช่วง ดิฉันไลน์ไปบอกเขาว่า.. ในสัญญาที่เขาจะส่งมาใหม่ให้ตัดคำว่า serviced apartment ออก และไม่ให้มีคำว่ารายวัน เพราะดิฉันแจ้งไปแล้วว่าทำไม่ได้ ส่วนคำว่าเช่าช่วงก็ให้ใส่ไปด้วยว่าห้องเช่า (เพราะดิฉันจะไม่ยอมให้เขาเอาทั้งตึกไปให้ใครเช่าต่อ) เขาโทรไลน์กลับมาทันที (ไม่ตอบกลับเป็นตัวหนังสือ) ว่าเขาจะไม่เปลี่ยนอะไรทั้งนั้น เขาถือว่าแม่ดิฉันเซ็นไปแล้ว (แม่ดิฉันจบ ป.4 ค่ะ serviced apartment คืออะไรแม่ดิฉันอ่านไม่ออก และไม่รู้จักหรอก และไม่คิดว่าหลานจะเลว)  ดิฉันถามกลับไปว่า..​ตกลงจะให้ดิฉันมีเอี่ยวให้ได้ใช่มั้ยเรื่องทำรายวัน ดิฉันพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าทำไม่ได้ เขาตอบว่าเขาจะใส่เข้าไปว่าไม่ว่าจะมีความผิดเกี่ยวกับบุคคล สถานที่ หรือกฎหมาย บริษัทเขาจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ดิฉันคิดว่า.. ถ้าจะเขียนเพิ่มขนาดนั้น ตัดคำที่ดิฉันไม่ต้องการออกง่ายกว่ามั้ย?? แล้วเขาก็โทรกลับมาอีกทีว่า.. อย่าให้ทนายรู้ เรื่องจะได้ไม่แพร่ออกไป แต่ทุกวันนี้นางหาลูกค้าอยู่ในเว็บ Agent คิดว่ามันจะไม่แพร่?? มาบอกดิฉันว่าอย่าบอกทนาย แสดงว่ารู้ว่าผิด แต่ก็ยังทำ แถมยังจะใส่ไปในสัญญาอันใหม่ (ดิฉันควรเซ็นเหรอ??) อ้างว่า..​ เขาถือว่าแม่ดิฉันเซ็นไปแล้ว ทีงี้จะมาปฏิบัติตามสัญญาเดิม แต่ทีค่าเช่าบอกแม่ตายสัญญาไม่เรียบร้อย


ดิฉันเห็นนิสัยเขาเป็นแบบนี้ไม่อยากเอาด้วยแล้วค่ะ คนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ อะไรที่เป็นประโยชน์ตัวเองก็เอาแบบนั้น เดี๋ยวก็ตามสัญญาเดิม พอเรื่องค่าเช่าก็บอกต้องทำสัญญาใหม่ สัญญาเดิมไม่เรียบร้อย จนกระทั่งตอนนี้... ในสัญญาเดิมที่ว่าต้องมีเงินประกัน เขาก็ยังไม่เคยจ่ายดิฉันสักบาท เท่ากับเขาผิดสัญญาก่อนหรือไม่?? อย่างนี้... ถ้าดิฉันไม่เซ็นสัญญากับเขาแล้ว (ก็เขาพูดเองว่าสัญญาไม่เสร็จต้องทำใหม่) จะมีผลทางกฎหมายอะไรบ้างคะ??
ตกลงสัญญาเดิมมันเสร็จหรือไม่เสร็จ??
ถ้าเสร็จแล้ว.. ไฉนไม่เคยจ่ายตังค์กุเลย ค่าประกันก็ไม่เคยให้ กุยังไม่เคยได้เงินอะไรจากเมิงเลย นอกจากค่าน้ำ-ค่าไฟ ส่วนที่ลูกค้าเมิงใช้ แล้วเมิงก็ได้ค่าเช่าห้องไป
ถ้าสัญญาเดิมยังไม่เสร็จ จะต้องทำสัญญาใหม่ ทำไมเมิงมาอ้างว่าอันเดิมแม่เซ็นไปแล้ว เมิงจะไม่เปลี่ยนข้อความ งั้นก็ต้องจ่ายค่าเช่ากุมามั้ย ถ้าจะถืออย่างนั้น


ตอนนี้ไม่ต้องการเซ็นสัญญาแล้วค่ะ กับคนประเภทนี้ ต่อให้คบแบบไม่เสียตังค์ก็ยังเสียดายเวลาเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่