อ่านกระทู้ด้านล่างแล้วก็สงสัยตัวเองเหมือนกัน ว่าเริ่มหมดความสนใจกับ BNK48 ไปเมื่อไหร่?

กระทู้คำถาม
กระทู้นี้เล่าความคิดเห็นและใส่ความรู้สึกส่วนตัวลงไป ยาวไปไม่อยากอ่านข้ามไปก่อนครับ5555 คิดเห็นยังไงคอมเม้นท์ไว้นะครับ อยากเห็นมุมมองของคนอื่นบ้างว่าเริ่มหมดความสนใจเพราะอะไร

     ด้วยตัวผมตั้งหน้าตั้งตารอเด็กๆมาตั้งแต่ยังไม่มีประกาศรับสมัครใดๆ จนกระทั่งประกาศสร้าง BNK48 ที่กรุงเทพ
บอกตรงๆตอนนั้นตื่นเต้นมาก จนออกเพลงและมีกิจกรรมร่วมกับแฟนๆ ได้เห็นน้องที่ยังเป็นเด็กข้างบ้านจริงๆ สกิลยังไม่เก่งกันเลย เคอะเขิน อาย ดูเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาในสายตาผม

    จนมาถึงซิง kimiwa melody ผมกลับเริ่มรู้สึกเบื่อแล้ว เพราะตามดูพัฒนาการน้องๆตลอด จนตอนนี้น้องเก่งกันแล้ว แล้วเพลงของวงพี่ผมก็ไม่ค่อยอยากฟังเท่าไหร่(ฟังจนเบื่อจริงๆ) และก็มีเรื่องแฟนคลับที่มากขึ้น ไม่ได้บอกไม่ดีนะครับ แต่กลับรู้สึกว่าตัวเราออกมาห่างจากน้องมากขึ้น จากที่ตามช่วงแรกๆ ที่ได้เห็นได้ไปอยุ่ใกล้ๆ แต่ตอนนี้ไปกิจกรรมไหน ก็อยู่หลังๆ เห็นแต่ทะเลกล้องและตัวน้องที่หดเด็กลง

     ดราม่าเริ่มถาโถมเข้ามา และมีเยอะขึ้นทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่ใน pantip ที่ตั้งกระทู้ดราม่าจนต้องเลิกตามไปช่วงนึง เพราะรับไม่ไหว ไม่มีความสุขเลย จากตามน้องเพลินๆ กลับได้ความคิดและความรู้สึกติดลบมาเต็มๆ สงสารน้องๆที่ต้องรับมือกับดราม่าไม่เว่นแต่ละวัน รวมถึงเพจกลักหลายเพจที่เอาน้องไปลง ได้แต่อ่านคอมเม้นท์แล้วก็เสียใจแทนน้องๆที่เยาวชนและผู้ใหญ่หลายคนในสังคมตาม bully และใช้ถ้อยคำหยาบคายใส่น้องๆ ก็เลยเลิกตามเพจหลักๆไปพักใหญ่ ตอนนั้นความรู้สึกคือ เราได้อะไรกลับมาวะเนี่ย? ขนาดเลิกตามพันทิป ยังเจอในโซเซียลอีก

    ความสนุกในการเชียร์เด็กๆเริ่มลดลงทันทีหลังงานเลือกตั้ง เพราะแบ่งแรงค์กันชัดเจน และคิดว่าความสามารถหลังจากนี้จะไม่สำคัญเท่ารูปร่างหน้าตาและบุคคลิก เพราะยังไงมันก็คือธุรกิจ ก็เข้าใจ อฟซ แหละ แต่ก็เหมือนหมดแรงเชียร์เด็กๆไปด้วย ขอเล่าตอนเชียร์เด็กอันเดอร์หน่อย ตอนนั้นเชียร์เจ้าโมเพราะดูเด็กคนนี้มีพยายามและด้วยบุคคลิกน้องที่ยังดูไม่มั่นใจ พูดติดๆขัดๆ ก็เลยอยากสนับสนุน แต่ใครจะไปคิดว่าซิง 2 เด็กที่เชียร์จะได้เป็นเซนเตอร์ ไอเราก็ทึ่งไปเลยเพราะไม่คิดว่าจะได้เป็น ตอนนั้นดีใจมากน้ำตาไหลตามน้องเลย จุดนี้ประทับใจมากครับ^-^

   แต่ถ้าถามว่าตอนนี้อยากเห็นอะไรจาก BNK48? คงไม่มีครับ เพราะรู้สึกว่าน้องๆทำมาหมดแล้วมั้ง แล้วเพลงผมก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ เพราะฟังวงพี่จนเบื่อไปแล้ว แต่ถ้ามีเพลงออริจินอลและมีกิจกรรมอะไรแปลกใหม่คงจะมีความรู้สึกอยากตามจริงจังอีกครั้ง เพราะตอนนี้เหมือนรู้จักวง BNK48 มากพอแล้ว อารมณ์ตอนนี้เหมือนน้องๆรุ่น 1 ปลดล็อคตัวเองหมดอล้ว และพัฒนาการสกิลแต่ละด้านจนเก่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ถ้าให้เปรียบคงเหมือนเทรนนี่เกามั้ง ที่ฝึกฝนจนเก่งและตัวตนชัดเจนเลยไม่มีอะไรให้ลุ้นให้ติดตาม หวังแค่เพลงดีๆส่งน้องไปตลอดรอดฝั่ง เพราะกระแสคุกกี้ดร็อปไปแล้ว ผมน่าจะมีแรงตามจริงจังอีกครั้ง ตอนเด็กรุ่น3มา ตอนนี้ขอพักบ้างตามบ้างไปก่อน

    ปล.คิดเห็นยังไงคอมเม้นท์ไว้นะครับ อยากอ่านความคิดเห็นท่านอื่นๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เราสายถ่ายรูปค่ะ บอกตามตรงว่าก็มีเรื่องให้รู้สึกเสียใจ และเสียความรู้สึกเยอะนะ
ยกจากกระทู้ล่างมาตอบละกัน

เราถ่ายรูปน้องเพราะเราอยากถ่าย แต่บางทีเวลาไปงาน ก็เจอคนเป็นกลุ่มที่คุณก็รู้ว่าใคร ที่ดูไม่เกรงใจใคร
เพราะบางคนมีชื่อเสียง เป็นเพจใหญ่ เราเคยโดนบ้านใหญ่บ้านนึงทำให้เจ็บตัว (เพราะเค้ามัวแต่เล่นกันเอง)
จนเรามองตาขวางถึงได้ขอโทษมา มากันหลายคน ทำอะไรที่รบกวนคนอื่นแล้วไม่เกรงใจ
ไม่รวมกิริยาที่ตะโกนคุยกันข้ามหัวคนอื่น จองที่กั๊กให้เพื่อน แทรกตัวเข้าไปบัง และอื่นๆอีกมากมาย

ตามมาเป็นปี แต่ไม่รู้จักวงในหรือคนในกลุ่มตากล้องนะ
(คือส่วนนึง ถึงจะเจอบ่อย แต่ไม่อยากเข้าไปตีสนิทหรือคุ้นเคยอะไรด้วย  เพราะเรามองว่าไม่น่าคบหา
ถ้าต้องไปเลียแข้งเลียขา/ออดอ้อนใคร เพื่อให้ได้ตารางงานน้องก็คงไม่ไหวค่ะ)
ทำได้แต่ทำใจ และไปแค่งานเปิดที่ทางออฟฟิเชียลแจ้งค่ะ
ถ่ายเท่าที่ถ่ายได้ (และมีโอกาสถ่าย)
ตู้ปลาไม่ได้ไป เพราะขาประจำเค้าจองไว้หมดแล้ว มาทีวางยาวไป10บันได แล้วคนเหล่านี้เป็นกลุ่มก้อน
เวลาไปตามงานก็ดูเป็นพวกพ้อง

งานลับมีเฉพาะแค่คนบางกลุ่มที่รู้  ไฟลท์บินไม่เคยทราบ
(แต่เท่าที่สืบดู บางคนคือสุ่มเวลาไปสนามบิน หรือไปสแตนบายรอ
กับ บางคนที่รู้เวลาจริงๆเลยก็มี)

เรื่องสิทธิ์การเข้าถึงและถ่ายภาพน้องๆ ดูจะเป็นเรื่องผลประโยชน์เข้าไปทุกทีนะคะ
เพราะยิ่งเพจใหญ่ๆ ก็ยิ่งได้รับการสนับสนุนมาก ไม่ว่าจะเป็นบัตรเข้างาน โอกาสในการถ่ายรูปต่างๆมากกว่าคนอื่นๆ
ซึ่งเกณฑ์คัดตากล้อง/เพจเข้างาน อฟช.ไม่เคยประกาศ (จริงๆอยากให้ประกาศนะ)
ส่วนใหญ่คือปากต่อปาก รู้กันแค่คนเหล่านั้น
อย่างการคัดบ้านเข้าไปในการถ่ายรูปในงานเลือกตั้ง งานคอน หรืองาน asia festival ที่ผ่านมา
(แฟนคลับบางบ้านได้เข้าไปถ่าย ในขณะที่บางบ้านไม่ได้ ส่วนใหญ่บ้านตัวท๊อปจะได้เข้าไป
แต่ก็แปลกใจที่เห็นรูปมีเครดิต จากแอคเค้าที่เป็นแอคเค้าชื่อคน (แอคส่วนตัว) ไม่ได้ลงเพจแฟนคลับก็มี
จริงๆการเข้าไปถ่ายแบบนี้ เวลานำรูปออกมา ควรลงในเครดิตของบ้านแฟนคลับ(เป็นอย่างน้อย)
หรือ เครดิตชื่อสื่อเท่านั้นนะคะ

จะว่าไปการให้บ้านแฟนคลับเข้าไปถ่ายก็ค่อนข้างแปลกแล้ว เพราะเคยดูคอนเสิร์ตมาตลอดชีวิต
(ยกตัวอย่าง เช่นคอนเสิร์ตของศิลปินแกรมมี่ หรือคอนใดๆในโลกก็ตาม )
ปกติก็จะมีแค่ตากล้องที่ออฟฟิเชียลจ้าง / สื่อเท่านั้น
คนที่ออฟฟิชเชียลจ้างเข้าไปก็ไม่ควรนำรูปออกมาเผยแพร่ด้วยเครดิตตัวเอง (เพราะมันไม่เหมาะสมจริงๆนะ)
เรารู้สึกว่า มันไม่มีความแฟร์ และทำงานกันแบบไม่มืออาชีพเลย  

วันงานคอน asia festival ที่น้องๆใส่ชุดไทย ตอน event Hi5 มีตากล้องของน้องแต่ละบ้านเข้าไปถ่าย
ในขณะที่คนธรรมดาอย่างเรา เข้าไป Hi5 โดนเร่งให้รีบๆแตะมือน้อง ไม่มีโอกาสจะพูด
มองหน้าน้องแต่ละคนยังไม่ได้ทันด้วยซ้ำ (เรารอคิวและจ่ายเงินเพื่อเข้ากิจกรรมนะคะ)
ในขณะที่มีคนกลุ่มหนึ่งได้เข้าไปถ่ายน้องระยะ ประชิด ชุดพิเศษ(ใส่ชุดไทย) ในโอกาสพิเศษ น้องมองกล้อง
ภาพดีมาก  สิ่งที่เรารู้สึก คือ มันก็ไม่ต่างกับ "ตู้ปลาส่วนตัว" ที่อฟช.จัดให้คนเหล่านี้เลย
เราเข้าใจว่า อยากได้ภาพเพื่อโปรโมตน้องๆนะ  แต่ก็อยากให้เห็นใจ/สนใจความรู้สึกแฟนคลับคนอื่นๆด้วย
ถ้าอฟช.จะให้บ้านแฟนคลับหรือเพจดังๆบางเพจเข้าไป  ควรแจ้งเงื่อนไขให้ทราบโดยทั่วกันรึเปล่า?
ว่าเกณฑ์การคัดบ้าน/คัดเพจเข้าไป คือ เกณฑ์อะไรบ้าง  ไม่ต้องพูดถึงตอนที่ AKB48 ออกมาจัดอีเว้นด้านนอกฮอล (เรื่องเกมส์ออนไลน์)
ซึ่งงานนี้เค้าไม่ได้คนทั่วไปเอากล้องเข้า . แล้วเจอบ้านแฟนคลับ BNK บ้านนึง แทรกตัวเอากล้องเข้าไปถ่าย AKB ด้วย (ซึ่งตรงนั้นเราเข้าใจว่าให้คนทั่วไป ถ่ายด้วยมือถือได้ แต่กลายว่าบัตร Press ที่อฟช.ให้คนเหล่านี้ไป  เค้าถือว่าเอากล้องเข้างานได้ ก็เอาไปถ่ายวงพี่ หาประโยชน์เข้าตัวเอง)
เราเคยคิดว่าทางญี่ปุ่นน่าจะซีเรียสเรื่องลิขสิทธิ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพนะคะ แต่ดูเหมือนอฟช.จะขอสิทธิ์ให้ตากล้องเหล่านี้ด้วย
จะทำอะไรอยากให้ดูความเหมาะสมเยอะๆค่ะ
(อฟช. ควรกำหนดขอบเขตการถ่ายรูปมั้ย ว่าถ่ายเฉพาะ BNK หรืออะไรน่ะค่ะ )

อยากบอกว่า
เหนือกว่าเก้าอี้... เหนือกว่าบันได 5 ชั้น... ก็คือ คนเหล่านี้ค่ะ
มีเพื่อนหลายคนก็ถอยออกไปแล้วเหมือนกัน
ส่วนเราก็ยังตามถ่ายน้องๆอยู่ ช่วยโปรโมตเท่าที่ทำได้  บ่อยครั้งที่รู้สึกแย่นะ เหมือนเป็นเรื่อง โอตะ VIP
แต่เป็นเวอร์ชั่นตากล้องน่ะ  ไม่แปลกใจเลยที่เคยมีดราม่า โอตะ VIP มาก่อนหน้านี้

สุดท้าย อยากฝากให้อฟช. พิจารณา ความเหมาะสมของการให้สิทธิ์ในการเข้าถึงน้องๆมากกว่านี้นะคะ
เพื่อตัวท่านเอง เราเชื่อว่าอฟช.มีเงินจ้างตากล้องค่ะ  แล้วถ้าจ้างเข้ามาถ่ายรูป  ควรให้รูปที่ออกมา ออกมาในฐานะสื่อหรืออฟช.เท่านั้น
ไม่ควรเอาไปลงเครดิตชื่อตัวเองได้ค่ะ

เพิ่มเติม
หลายๆครั้งที่เจอความไม่แฟร์ก็รู้สึกว่า เรายังควรสนับสนุน อฟช. ต่อไปแค่ไหน
เหมือนตอน Hi5 ที่โดนไล่ๆเร่งๆ เหมือนไปขอเค้ากิน (โดนปฏิบัติเหมือนเราเป็นแฟนคลับที่เค้าจะทำอะไรก็ได้)
ในขณะที่เหล่า VIP ได้ทุกอย่าง ได้ผลประโยชน์ แม้แต่ได้การจดจำได้จากน้องๆ
(ได้เจอกับน้องใกล้ๆ ได้อยู่เล่นกับน้องนานมาก จับมือ100ใบจะคุ้มเท่านี้มั้ย ยังไม่แน่ใจเลย)
รวมถึงได้เข้างานฟรี เผลอๆมีบัตรไปแจกคนอื่นด้วย ...

ถึงจะชอบน้องๆมาก แต่เราไม่ได้ตาบอดหรือเสียสติค่ะ บางทีตามแล้วเสียความรู้สึกก็คงต้องถอยๆออกมาบ้าง
รักน้องเท่าเดิม แต่คงอุดหนุนทุกอย่างน้อยลงค่ะ คนปรับทุกข์ด้วยก็ไม่ค่อยมีนะ . เพราะเพื่อนที่เคยตามวงด้วยกัน ไปหมดแล้ว
ด้วยเหตุผล(และดราม่าที่เจอ)ต่างๆกันไป  เวลาไปคุยก็โดนถามกลับว่าจะทนอยู่ทำไมอีก ก็ได้แต่เก็บความเศร้าไว้เงียบๆค่ะ T.T
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่รู้ว่าที่สุดแล้ว สิ่งที่ได้มาของการ VIP ให้เพจเหล่านี้มันคุ้มกับสิ่งที่ได้รับกลับมาหรือเปล่าแฮะ
----

------- ส่วนตัวคิดว่าที่ตามน้อยลงมากๆ คือระบบโปรโมตมันทำให้ดูน่าเบื่อ
เซ็ทเพลงออกงาน ก็ไม่ได้ถึงกับว่าต้องติดตามอะไรเป็นพิเศษ
เพราะไม่ต้องลุ้นเลย BNK48/KFC/ซิงปัจจุบัน/ซากุระ
ส่วนตัวมองว่าเอาจริงๆก็ต้องเรียกว่า "แอบงก" นั่นแหล่ะ
เพราะแพคเกจขายงาน 45 นาที ยังไงมันได้แค่ 4 เพลงอยู่แล้ว
ดังนั้นพอไม่ต้องลุ้นว่าเพลงจะได้ยินอะไร ความน่าดูส่วนตัวผมก็ไม่เหลือเลย
แล้วด้วยเวลาที่ให้ไม่ได้มาก ช่วง MC ก็ไม่สามารถมีอะไรได้มากอีก

------- ผมว่าอฟซ. ยอมให้ตากล้อง Take Credit มากเกินไปเยอะ
คือจริงๆ สิทธิ์ในการถ่ายรูปตามอีเวนท์ แบบ reserved slot แบบนี้
ต้องลง AKS/BNK และชื่อเพจตัวเล็กๆ (แบบที่เห็นจากรูปคอน Asia Fes)

พอได้สิทธิ์เยอะ ก็มีเพจอยากแจ้งเกิดจากการเกาะ BNK เยอะตามไป
และ connection เส้นสาย ก็ทำให้กลายเป็นรบกวน

------- สินค้ายิ่งไม่ต้องสืบเลย ของส่วนใหญ่ ถ้าเป็น Limited คือ
คนที่ตามจริงๆต้องรอ Resale เท่านั้น เพราะมักเปิดขายวันธรรมดา เวลาที่ซื้อยาก
ยอดจำกัดการซื้อ ก็สูง (สูง คือระดับที่จำกัดคนซื้อเหลือแค่ 1000-2000 Order เป็นส่วนมาก
ยกเว้น ซิงเลือกตั้งมี 50k ต่อวัน .. ออร์เดอร์นึงได้ 10 = 5000 คน
ลัคกี้แบ๊ก ให้ซื้อได้คนนึงถึง 5 ทั้งที่มีแค่ 5 พันใบ และคนอยากสุ่มเป็นหมื่นๆ คึอให้สุ่มหมดก็เกิน ขายหมดอยู่แล้วอ่ะ
แล้วพวกรูปสุ่มที่ไปซื้อหน้างาน ก็ยังจำกัดคนแคมป์แค่ 1000-2000 คน (คนละ 10 ชุด พันคน ก็หมด)
ยังไม่นับพวกจ้างต่อคิว บลาๆอีก ... คือระบบมันออกแบบไว้ใช้กับคนญี่ปุ่นผู้มีวินัยและเคารพสิทธิ์ไง
ต่างกันกับคนไทย ข้าต้องได้ ข้ามา ข้าลงทุน ข้ามีปัญญาจ้าง .. แล้วทุนจ้างทุนต้องได้มันถูกผลักมาให้คนตามจริงๆหมด

ทั้งที่คนตามวงมีถึง สี่ห้าแสน ระบบมันออกแบบเอาเปรียบผู้บริโภค เอื้อประโยชน์พ่อค้าซะจน โอเค
งั้นให้พ่อค้าไป ของไม่ต้องมีก็ได้ ..

สุดท้าย ในฐานะคนซื้อ ก็มองว่ามันไม่คุ้มแล้วอ่ะ คือจ่าย 480 ได้เสื้อตัว กลายเป็น 1500 ได้ตัว
เท่ากับว่าค่าแย่งชิงที่ อฟซ.ยอมให้เกิดคือ 1020 .... กลายเป็นสินค้าทุกชิ้นแพงเวอร์ไป ทั้งที่จริงๆ 480 ก็แพงอยู่แล้ว
ระยะยาวแล้ว คนที่เคยอยากสนับสนุนจะทยอยหายไปเรื่อยๆ เอง โดยที่ อฟซ.ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันหายไปแล้ว
ก็เหลือแต่ขายให้พ่อค้าก็พอ ... แต่ความผูกพันในฝั่งคนตาม มันไม่เกิดนะ เพราะมันไม่ได้มีภาวะอิน หรือต้องซื้ออีกแล้วไง
ไปเมื่อไรก็ได้อ่ะแหล่ะ
)


รวมๆกันหลายอย่าง ผมก็ลดระดับมาเหลือตามเผินๆ เจอเฉพาะงานจับมือ
และเสพดราม่าเพลินๆในพันทิพ (aka official overground โม่ง แฟนคลับ)

----------- ที่สำคัญวงนี้ตรรกะดีครับ
คนตามที่เอาเปรียบคนอื่นมักใช้วลีว่า ไปเหอะ คนที่เค้ารับได้ ยังมี
ดังนั้นปลายทาง มันเป็นสังคมแห่งการเอาเปรียบแน่นอน
เพราะคนที่เคารพสิทธิ์คนอื่นอ่ะ เค้าไปกันหมดนั่นแหล่ะ
ความคิดเห็นที่ 13
อย่าหาว่าผมอะไรเลยนะ ทำไมพักนี้เริ่มมีกระทู้ทำนองนี้มาเรื่อยๆ แทนที่จะจบในกระทู้หรือ2กระทู้

แต่กับมีมาเรื่อยๆ ได้กลิ่นแปลกๆไงไม่รู้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่