ก็นะนี้เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกของผมยังไงมีไรผิดพลาดก็อย่าว่ากันเด้อ^^
นี้เป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดขี้นในชีวิต ตอนนี้ก็เป็นอยู่ คือการอยู่คนเดียวมาซัก 1-2 ปีและก็จะชินแล้วละ ไม่มีเพื่อนสนิทเลย เพื่อนก็มีแต่เป็นเพื่อนเรียนเฉยๆคงเข้าใจนะ เพื่อนสนิทแบบ ม.ปลายที่ไปไหนไปกัน กินข้าวที่โรงอาหารด้วยกันเป็นกลุ่มๆ รอเพื่อนออกห้องเรียนพร้อมกันตอนนี้ไม่มีเลย ก็ไปไหนคนเดียวหมด ทำไรคนเดียวหมด 55+
เรื่องมันมีที่มาแหละก็ขอเล่าความหลังและกัน
ที่จริง ม.ปลายมีเพื่อน กลุ่มผู้ชายอยู่เยอะ เหมือนคนอื่นทั่วไปแหละ ชีวิตม.ปลายดีที่สุด (ถ้าอยากกับไปได้อยากกลับไปมากๆ) ไปไหนไปกัน เล่นเกมส์ด้วยกัน เตะบอลไรงี้สนุก มาก เราตอนม.ปลายเลือกเรียนสายศิลป์ภาษา คือภาษาญี่ปุ่น ตอนแรกก็จะเอาวิทย์คณิตแหละแต่ไม่ได้เลยเอาญี่ปุ่นนี้แหละเราเรียนมา3ปีคิดว่า ญี่ปุ่นยากมากเลยไม่เอาและไปสายอื่นดีกว่า ไปถามเพื่อนมันบอกจะเอา โลจิสติกส์เราก็เลยเลือกลองดูเพราะ มอ เราก็มีสาขานี้อยู่ เป็น มอเล็กๆไม่ดังมากก็อยากจะตามไปแต่ทำไม่ได้ก็เรื่องเงินอยากที่ว่า ครอบครัวไม่ค่อยมีฐานะปลานกลาง
เราก็ไปสอบที่ มหาลัยนั้นรอบโคต้าก็ติด โลจิสติกส์ ลำดับที่ 1 เลยส่วนเพื่อนก็ไป มอ อื่น ที่เป็นคณะที่ดังๆ กันหมดก็เราไปคนเดียว ไปเจอเพื่อนใหม่ๆ เยอะแยะ สนิทกันเพราะตอนรับน้องก็รับน้องด้วยกันก็สนิทกันเร็ว กับเพื่อนผู้ชายในกลุ่ม ผู้หญิงก็มีบ้าง เราเริ่มเรียน โลจิสติกส์ก็ไปได้ดี เหมือนชีวิต เด็กมหาลัยปกติ แต่มีเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทตอนม.ปลาย ได้ชวนเรามาเรียนญี่ปุ่นเพราะว่ามันเริ่มเรียนใหม่เลยมันไม่ยากอยากที่คิด นับ1ใหม่ตอนแรกเราไม่รู้คิดว่ามันน่าจะเริ่มจากยากๆก็เลยคิดผิด แถมพ่ออยากให้เรียนญี่ปุ่นด้วย ก็เชื่อเพื่อนก็เลย(เป็นการตัดสินใจที่ผิดมาก) ย้ายไปเรียนญี่ปุ่นเลยทั้งๆที่เรียนโลจิสติกส์ก็ทำเรื่องย้ายจ่ายเงินใหม่หมดเลย มันย้ายได้ง่ายๆ เพราะทาง สาขาภาษาญี่ปุ่นเด็กปีนั้นมันน้อยเค้าอยากได้คนเพื่มเลย ทำเรื่องสะดวกเราก็เลยตัดสินใจไปเรียน ก็ไปเข้าเรียนกลางเทอมได้ มีคนเรียน ไม่ถึง20คนเลย แต่ก็มีเพื่อนสนิท1คนเลยไม่ได้คิดไรมาก กับชอบญี่ปุ่นด้วยซ้ำเพราะถ้าตั้งใจเรียนใหม่มันไม่ยากอยากที่คิดสนุกกับภาษาญี่ปุ่นปี1เราได้ A ญี่ปุ่นหมดเลย คิดว่าพอไหวไปได้แน่นอนสบายแหละเพื่อนมีน้อยแต่ก็ยังมีเพื่อนสนิท สบายๆ
เรื่องมันจากตรงนี้แหละ ตอนปิดเทอม ใหญ่ของปี1ที่จะขึ้นปี2 จำได้เลยวันนั้น ไปกินหมูกระทะกับเพื่อนสมัยเด็ก อยู่ดีๆ ก็มี LINE กลุ่มภาษาญี่ปุ่นเด้งมา ว่า ให้เด็กสาขาภาษาญี่ปุ่นปี1 เลือกสาขาอื่น เพราะสาขาญี่ปุ่นจะ ยุบลง เนื่องจากเหตุณ์ผลบางอย่าง พออ่าน งง บอกเลย เอ๋ - ไปไม่ถูกอ่าวอยู่ดีๆ โดนทิ้งไว้กลางทาง ก็นัดเพื่อนในสาขาไปหาครูถามว่าเกิดไรขึ้นก็ได้ข้อสรุปมาคือ
-มันเป็น กฏ กระทรวงศึกษาธิการที่เปลี่ยนหลักสูตรการสอนใหม่ว่า การจะเปิดสาขาเรียนได้ต้องมีครูอย่างน้อย 5 คน ซึ่ง ครูสาขาตอนนี้มี 4 คนไม่นับครูเจ้าของภาษา ออกไป 1 และไม่อยู่ 1 มีครูลาออกไปทำงานบริษัท และครูอีกคนไปศึกษาต่อ1ปีและจะกลับมาสอนได้
-ทางหัวหน้าครูภาษาญี่ปุ่นเค้าไม่อยากให้เรียนต่อที่จริงก็เรียนต่อได้แต่ถ้าหากหาครูไม่ได้ครบ5คน พวกเราก็จะเป็นนักศึกษาเถื่อนเค้าเลยไม่กล้าจะเปิดการเรียนได้ ถ้าเรียนยันปี4และครูไม่ครบ5คนก็เรียนฟรี อดใบใบปริญญา
-อาจจะมีคนสงสัย ส่วนปี2-3-4ละ มันเป็นหลักสูตรเก่า มันเลยไม่มีปัญหา(โชคดี

)
-ส่วนที่เหลืออยากเรียนที่ มอ นี้ต่อได้แต่ไม่ใช้สาขานี้อยากเรียนคณะไหนอะไรเลือกได้เลย และจะให้อยู่ปี2ไม่ได้ปี1เพราะไม่ใช้ความผิดของ นักศึกษา
-แต่ถ้าใครอยากเรียนญี่ปุ่นต่อ สามารถเรียนได้แต่ไป มอ จ. อื่นเค้าจะทำเรื่องให้
ผมนั้น งง มากเลยมาคุยกับเพื่อน เพื่อนบอกว่าจะเรียนญี่ปุ่นต่อเพราะเราเลือกมาแล้ว ผมก็อยากเรียน ญี่ปุ่นแต่ทำไม่ได้ทางบ้านไม่ยอม เพราะว่าค่าใช้จ่ายมันสูงคงไม่มีเงินส่งและอาจจะเป็นหนี้ผมก็จะไม่ยอมแต่ทำไงได้ก็คงต้องทำใจ
สรุปเพื่อนในสาขาแบ่งเป็น2กลุ่มใหญ่ๆ คือไป เรียนญี่ปุ่นที่ มอ ต่าง จังหวัด กับเรียนที่ มอ นี้เลือกสายภาษา อังกฤษ4ปี
ส่วนผมนั้นไม่ค่อยอยากเรียน อังกฤษกับเพื่อนเพราะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่อ่านออกเขียนได้ แต่ถ้าให้ไปเรียนจ๋าๆคงไม่ไหว ไม่น่าเอาตัวรอดแน่
จะกลับ โลจิสติกส์ก็ถามเพื่อนในนั้น แต่ย้ายคณะเลยมันทำเรื่องยากมาก และถ้าไปเรียนโห ยากมากคงตามไม่ทันแน่ๆ ให้ไปอยู่ปี2เลยเรียนตามไม่ได้ แต่จะไปเรียบนปี1ใหม่ก็เคยคิดว่าจะกลับไปเรียนใหม่แต่ก็ เสียดายเวลาที่เสียไป (อาจจะคิดผิดก็ได้ แต่ก็สายไปแล้ว)
สุดท้ายก็เลือกภาษาจีน คนเดียวเลยเพราะคิดว่ามันเริ่มนับ1ใหม่และตัวคันจิก็มาจากจีน ก็ไปคุยเค้าให้เรียได้ก็ไปเรียนปี1ใหม่คือวิชาหลักแต่วิชา ศท. ไม่ต้องเรียนก็ไปเก็บกับปี2บางวิชา
ไปถึงก็ไปรับน้อง กระจะหาเพื่อนเต็มที่ สุดท้ายเพื่อนที่เป็นผู้ชายหายหมด มีแต่ผู้หญิง ปี1 ไม่มีผู้ชายเลยซักคน(มีแต่ไม่ใช้ผู้ชายแต่ก็คุยได้55+) สุดท้ายมีแต่ผู้หญิง ก็แบบเราสนิทแต่ผู้ชายผู้หญิงก็คุยได้แต่จะสนิทก็ยาก เวลาเจอกันก็น้อย เรียนกับปี1แค่วิชาเอก เรียนกับปี2 แค่วิชาเดียวงี้ ก็เที่ยวบินที่เจอกันบ่อยๆไม่มีก็หางเหิน สุดท้ายก็อยู่คนเียว ตารางเรียนเทอม1มี 4คาบ เทอม2 นี้มี 3 คาบเอง บางวิชาก็แยกไปเรียนกับสาขาอื่นคนเดียวตอกย้ำไปอีกกับการอยู่คนเดียว วันๆไปมอก็เหมือนไปเรียนและกันเฉยๆ ไปดูหนังคนเดียว กินข้างคนเดียว คาบวิชาเรียนก็ออกจากห้องไม่มีใครรอซักคน ก็เข้าใจคนไม่ได้เจอหน้าบ่อยๆก็งี้ ตอนมีกิจกรรม มหาลัยก็ไปเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง ก็อยากจะมีเพื่อน แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ทุกวันนี้ก็อยู่คนเดียวจนชินชา (แฟนไม่ต้องพูด โสดมา5ปี นก โดนเทตลอด ชินไปหมด 55+) และภาษาจีนที่เรียนเป็นปัญหามากๆ เทอม1 ได้ C+ วิชาเอกควรจะB+หรือAแต่ตัวจีนยาก

ตั้งใจเรียนนะแต่แบบคงไม่ใช่ทางจำได้ แต่ไม่ไหวเยอะไป และไปเรียนกระโดด สอนอ่านพินอินแปปเดียวกระโดดไป ตัวอัษรจีนเลย ยังอ่านไม่ออกเลย ก็อยากจะออกแหละ เพื่อนก็ไม่มี เรียนก็ไม่ไหว พี่รหัสไม่รู้จักใครเลย ควรออกไปเรียนอยากอื่นหรือสู้กับมันดี ?
สุดท้ายก็ขอบคุณที่อ่านมาจนจบ ขอบคุณมากๆครับ ย้ายมา 2 เอก ในปีเดียวมีที่ไหน เหมือนพระเจ้าเล่นตลก55+
จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ?
นี้เป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดขี้นในชีวิต ตอนนี้ก็เป็นอยู่ คือการอยู่คนเดียวมาซัก 1-2 ปีและก็จะชินแล้วละ ไม่มีเพื่อนสนิทเลย เพื่อนก็มีแต่เป็นเพื่อนเรียนเฉยๆคงเข้าใจนะ เพื่อนสนิทแบบ ม.ปลายที่ไปไหนไปกัน กินข้าวที่โรงอาหารด้วยกันเป็นกลุ่มๆ รอเพื่อนออกห้องเรียนพร้อมกันตอนนี้ไม่มีเลย ก็ไปไหนคนเดียวหมด ทำไรคนเดียวหมด 55+
เรื่องมันมีที่มาแหละก็ขอเล่าความหลังและกัน
ที่จริง ม.ปลายมีเพื่อน กลุ่มผู้ชายอยู่เยอะ เหมือนคนอื่นทั่วไปแหละ ชีวิตม.ปลายดีที่สุด (ถ้าอยากกับไปได้อยากกลับไปมากๆ) ไปไหนไปกัน เล่นเกมส์ด้วยกัน เตะบอลไรงี้สนุก มาก เราตอนม.ปลายเลือกเรียนสายศิลป์ภาษา คือภาษาญี่ปุ่น ตอนแรกก็จะเอาวิทย์คณิตแหละแต่ไม่ได้เลยเอาญี่ปุ่นนี้แหละเราเรียนมา3ปีคิดว่า ญี่ปุ่นยากมากเลยไม่เอาและไปสายอื่นดีกว่า ไปถามเพื่อนมันบอกจะเอา โลจิสติกส์เราก็เลยเลือกลองดูเพราะ มอ เราก็มีสาขานี้อยู่ เป็น มอเล็กๆไม่ดังมากก็อยากจะตามไปแต่ทำไม่ได้ก็เรื่องเงินอยากที่ว่า ครอบครัวไม่ค่อยมีฐานะปลานกลาง
เราก็ไปสอบที่ มหาลัยนั้นรอบโคต้าก็ติด โลจิสติกส์ ลำดับที่ 1 เลยส่วนเพื่อนก็ไป มอ อื่น ที่เป็นคณะที่ดังๆ กันหมดก็เราไปคนเดียว ไปเจอเพื่อนใหม่ๆ เยอะแยะ สนิทกันเพราะตอนรับน้องก็รับน้องด้วยกันก็สนิทกันเร็ว กับเพื่อนผู้ชายในกลุ่ม ผู้หญิงก็มีบ้าง เราเริ่มเรียน โลจิสติกส์ก็ไปได้ดี เหมือนชีวิต เด็กมหาลัยปกติ แต่มีเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทตอนม.ปลาย ได้ชวนเรามาเรียนญี่ปุ่นเพราะว่ามันเริ่มเรียนใหม่เลยมันไม่ยากอยากที่คิด นับ1ใหม่ตอนแรกเราไม่รู้คิดว่ามันน่าจะเริ่มจากยากๆก็เลยคิดผิด แถมพ่ออยากให้เรียนญี่ปุ่นด้วย ก็เชื่อเพื่อนก็เลย(เป็นการตัดสินใจที่ผิดมาก) ย้ายไปเรียนญี่ปุ่นเลยทั้งๆที่เรียนโลจิสติกส์ก็ทำเรื่องย้ายจ่ายเงินใหม่หมดเลย มันย้ายได้ง่ายๆ เพราะทาง สาขาภาษาญี่ปุ่นเด็กปีนั้นมันน้อยเค้าอยากได้คนเพื่มเลย ทำเรื่องสะดวกเราก็เลยตัดสินใจไปเรียน ก็ไปเข้าเรียนกลางเทอมได้ มีคนเรียน ไม่ถึง20คนเลย แต่ก็มีเพื่อนสนิท1คนเลยไม่ได้คิดไรมาก กับชอบญี่ปุ่นด้วยซ้ำเพราะถ้าตั้งใจเรียนใหม่มันไม่ยากอยากที่คิดสนุกกับภาษาญี่ปุ่นปี1เราได้ A ญี่ปุ่นหมดเลย คิดว่าพอไหวไปได้แน่นอนสบายแหละเพื่อนมีน้อยแต่ก็ยังมีเพื่อนสนิท สบายๆ
เรื่องมันจากตรงนี้แหละ ตอนปิดเทอม ใหญ่ของปี1ที่จะขึ้นปี2 จำได้เลยวันนั้น ไปกินหมูกระทะกับเพื่อนสมัยเด็ก อยู่ดีๆ ก็มี LINE กลุ่มภาษาญี่ปุ่นเด้งมา ว่า ให้เด็กสาขาภาษาญี่ปุ่นปี1 เลือกสาขาอื่น เพราะสาขาญี่ปุ่นจะ ยุบลง เนื่องจากเหตุณ์ผลบางอย่าง พออ่าน งง บอกเลย เอ๋ - ไปไม่ถูกอ่าวอยู่ดีๆ โดนทิ้งไว้กลางทาง ก็นัดเพื่อนในสาขาไปหาครูถามว่าเกิดไรขึ้นก็ได้ข้อสรุปมาคือ
-มันเป็น กฏ กระทรวงศึกษาธิการที่เปลี่ยนหลักสูตรการสอนใหม่ว่า การจะเปิดสาขาเรียนได้ต้องมีครูอย่างน้อย 5 คน ซึ่ง ครูสาขาตอนนี้มี 4 คนไม่นับครูเจ้าของภาษา ออกไป 1 และไม่อยู่ 1 มีครูลาออกไปทำงานบริษัท และครูอีกคนไปศึกษาต่อ1ปีและจะกลับมาสอนได้
-ทางหัวหน้าครูภาษาญี่ปุ่นเค้าไม่อยากให้เรียนต่อที่จริงก็เรียนต่อได้แต่ถ้าหากหาครูไม่ได้ครบ5คน พวกเราก็จะเป็นนักศึกษาเถื่อนเค้าเลยไม่กล้าจะเปิดการเรียนได้ ถ้าเรียนยันปี4และครูไม่ครบ5คนก็เรียนฟรี อดใบใบปริญญา
-อาจจะมีคนสงสัย ส่วนปี2-3-4ละ มันเป็นหลักสูตรเก่า มันเลยไม่มีปัญหา(โชคดี
-ส่วนที่เหลืออยากเรียนที่ มอ นี้ต่อได้แต่ไม่ใช้สาขานี้อยากเรียนคณะไหนอะไรเลือกได้เลย และจะให้อยู่ปี2ไม่ได้ปี1เพราะไม่ใช้ความผิดของ นักศึกษา
-แต่ถ้าใครอยากเรียนญี่ปุ่นต่อ สามารถเรียนได้แต่ไป มอ จ. อื่นเค้าจะทำเรื่องให้
ผมนั้น งง มากเลยมาคุยกับเพื่อน เพื่อนบอกว่าจะเรียนญี่ปุ่นต่อเพราะเราเลือกมาแล้ว ผมก็อยากเรียน ญี่ปุ่นแต่ทำไม่ได้ทางบ้านไม่ยอม เพราะว่าค่าใช้จ่ายมันสูงคงไม่มีเงินส่งและอาจจะเป็นหนี้ผมก็จะไม่ยอมแต่ทำไงได้ก็คงต้องทำใจ
สรุปเพื่อนในสาขาแบ่งเป็น2กลุ่มใหญ่ๆ คือไป เรียนญี่ปุ่นที่ มอ ต่าง จังหวัด กับเรียนที่ มอ นี้เลือกสายภาษา อังกฤษ4ปี
ส่วนผมนั้นไม่ค่อยอยากเรียน อังกฤษกับเพื่อนเพราะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่อ่านออกเขียนได้ แต่ถ้าให้ไปเรียนจ๋าๆคงไม่ไหว ไม่น่าเอาตัวรอดแน่
จะกลับ โลจิสติกส์ก็ถามเพื่อนในนั้น แต่ย้ายคณะเลยมันทำเรื่องยากมาก และถ้าไปเรียนโห ยากมากคงตามไม่ทันแน่ๆ ให้ไปอยู่ปี2เลยเรียนตามไม่ได้ แต่จะไปเรียบนปี1ใหม่ก็เคยคิดว่าจะกลับไปเรียนใหม่แต่ก็ เสียดายเวลาที่เสียไป (อาจจะคิดผิดก็ได้ แต่ก็สายไปแล้ว)
สุดท้ายก็เลือกภาษาจีน คนเดียวเลยเพราะคิดว่ามันเริ่มนับ1ใหม่และตัวคันจิก็มาจากจีน ก็ไปคุยเค้าให้เรียได้ก็ไปเรียนปี1ใหม่คือวิชาหลักแต่วิชา ศท. ไม่ต้องเรียนก็ไปเก็บกับปี2บางวิชา
ไปถึงก็ไปรับน้อง กระจะหาเพื่อนเต็มที่ สุดท้ายเพื่อนที่เป็นผู้ชายหายหมด มีแต่ผู้หญิง ปี1 ไม่มีผู้ชายเลยซักคน(มีแต่ไม่ใช้ผู้ชายแต่ก็คุยได้55+) สุดท้ายมีแต่ผู้หญิง ก็แบบเราสนิทแต่ผู้ชายผู้หญิงก็คุยได้แต่จะสนิทก็ยาก เวลาเจอกันก็น้อย เรียนกับปี1แค่วิชาเอก เรียนกับปี2 แค่วิชาเดียวงี้ ก็เที่ยวบินที่เจอกันบ่อยๆไม่มีก็หางเหิน สุดท้ายก็อยู่คนเียว ตารางเรียนเทอม1มี 4คาบ เทอม2 นี้มี 3 คาบเอง บางวิชาก็แยกไปเรียนกับสาขาอื่นคนเดียวตอกย้ำไปอีกกับการอยู่คนเดียว วันๆไปมอก็เหมือนไปเรียนและกันเฉยๆ ไปดูหนังคนเดียว กินข้างคนเดียว คาบวิชาเรียนก็ออกจากห้องไม่มีใครรอซักคน ก็เข้าใจคนไม่ได้เจอหน้าบ่อยๆก็งี้ ตอนมีกิจกรรม มหาลัยก็ไปเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง ก็อยากจะมีเพื่อน แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ทุกวันนี้ก็อยู่คนเดียวจนชินชา (แฟนไม่ต้องพูด โสดมา5ปี นก โดนเทตลอด ชินไปหมด 55+) และภาษาจีนที่เรียนเป็นปัญหามากๆ เทอม1 ได้ C+ วิชาเอกควรจะB+หรือAแต่ตัวจีนยาก
สุดท้ายก็ขอบคุณที่อ่านมาจนจบ ขอบคุณมากๆครับ ย้ายมา 2 เอก ในปีเดียวมีที่ไหน เหมือนพระเจ้าเล่นตลก55+