เราแค่อยากเล่าประสบการณ์ อันเลวร้ายของเราให้ฟังค่ะ
ย้อนไปเมื่อ2ปีที่แล้ว...
วันนี้31ส.ค.60 เป็นวันสุดท้าย ของการทำงาน เพราะเรากำลังจะลางานเพื่อเตรียมงานแต่ง อีก3วันจะถึงวันงาน.. กำหนดแต่ง 3กันยา 60 เตรียมตัวรีบเคลียร์งาน แล้วกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน มีสายเข้าจาก....รักที่สุด (ตอนนั้นเราตั้งแบบนั้น) รับสาย เสียงปลายสายเป็นเสียงน้องทหารคนสนิทของเเฟน บอกว่าพี่จ่าถูกรถชน กระดูกขาหัก ชี่โครงหัก และอีกมากมาย อีก10นาทีหมอจะเอาเข้าห้องผ่าตัดด่วน เราได้ยินแบบนั้น แขนขาเราไม่มีแม้แต่เเรงเดิน รีบโทรบอก พ่อแม่แฟนให้ตามไป เราไปถึงโรงพยาบาล ประมาน5โมงเย็น เค้ามาพักที่ห้องแล้ว เค้าอยุ่กับน้องคนที่โทรหาเรา เรารีบเข้าไปกอดแฟนทันที เค้าร้องไห้ และพูดว่าเค้าขอโทษ.. เราบอกจะขอโทษทำไมมันไม่ใช่ความผิดของที่รักเลย ร้องไห้กันใหญ่จนเตียงข้างๆมอง เราก็ถามไถ่ เรื่องราวว่ามันเป็นมายังไงรถชนได้ยังไง เค้าเล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดหน้า รพ ศิริราช ระหว่างขับมอไซกลับบ้าน มีรถเก๋งมาชนเค้าแล้วตัวเค้ากระเด็นไปอยุ่ใต้ท้องรถเมล์ที่กำลังขับผ่านมาอีกฝั่งนึง รถเก๋งชนแล้วหนี เราก็ถามหากล้องว่าน่าจะมีกล้องนะ เผื่อจะเห็นทะเบียนรถเก๋ง เราจะได้เอาผิดเค้าได้ น้องทหารที่โทรหาเรา บอกว่า ดูแล้ว กล้องเสียพี่ เลยไม่เห็นทะเบียน

เสียตลอด ซึ่งก็เราเชื่อ100%โดยไม่มีข้อสงสัย
อาการของเค้าก็ มีแผล ถลอกตามตัว มีรอยซ้ำ รอยขีดข่วน มีกระดูกขาหัก และเข่าหลุด ระหว่างเราเช็ดตัวให้เค้า เราทำไม้ค้ำยัน เค้าร่วงลงกับพื้น ชึ่งมันยังไม่ได้ถูกแกะออกจากถุง เราหยิบขึ้นมาแล้วก็อ่านสติ๊กเกอร์ มันจะบอกชื่อคนไข้ วันเวลาที่เบิกอุปกรณ์ ลงเวลา 31 ส.ค60 เวลา 10:45 น. เราเลยถาม อ้าว สรุปรถล้มกี่โมงอ่ะ แฟนบอกตอนบ่าย3ครึ่ง แล้วทำไมเค้าลงเวลาตอนนี้ แสดงว่ามาก่อนป่าว แฟนบอก สงสัยเค้าพิมวันที่ผิด เลยเงียบไป สักพัก พ่อกับแม่เค้ามาถึง แล้วก็คุยเรื่องงานเเต่ง จะเอาไง เราบอกคงต้องเลื่อนเเหละ เพราะหมอบอกห้ามลุก1วัน แต่แฟนบอกว่าไม่เลื่อน ยังไงก็จะเเต่ง เค้านั่งรถเข็นได้ เราบอกแล้วจะถ่ายรูปยังไง จะเดินยังไงใครจะมาหามตลอดเวลา รอให้หายก่อนไม่ได้หรอ เค้าตอบกลับมาชุดใหญ่เลย ก็แต่งไปเลย แค่วันเดียว จะได้จบๆไป รูปก็ตัดไปเลยไม่ต้องถ่าย เอาแค่พิธีสงฆ์ก็พอ จะมาห่วงถ่ายรูปหรอ รับไม่ได้หรอที่รูปแต่งงาน เจ้าบ่าวนั่งรถเข็น เจ้าบ่าวพิการ . เราก็เออ ออตามเค้าไป เเต่งก็แต่ง (แต่ในใจเราค้านสุดขีด ก็ครั้งนึงในชีวิตป่ะ) ก็ตกลง เรากับพ่อ กลับบ้านมาเตรียมงาน ส่วนแม่เฝ้าแฟนอยุ่ รพ. แฟนบอกให้เรารีบกลับเพราะต้องรีบไปรับของ เพราะเรานัดรับวันเดียวกันทุกอย่าง
พอกลับมาบ้าน เราก็คุยกับพ่อนะ เรื่องไม้ค้ำยัน ถามความคิดเห็นพ่อ พ่อกับเราคิดเห็นเหมือนกัน ว่าเเฟนเราไม่น่าจะโดนรถชนวันนี้ เพราะแผลตามตัวแห้งหมดแล้ว ไม่ใช่แผลเพิ่งเกิด แล้วจะโกหกทำไม แสดงว่าไปไหนมาแน่เลย พ่อก็พูดมาว่า อย่าคิดมากเลย เหนื่อยมาเยอะแล้ว พักผ่อน พรุ้งนี้ต้องทำงานอีกเยอะเลยเพราะเราต้องไปเอาของคนเดียว
เราก็เเยกย้ายกันเข้าห้อง (เราอยุ่พื้นที่เดียวกัน แต่คนล่ะบ้าน)
สิ่งที่เราต้องทำในวันที่1กย60
1.ไปรับชุดแม่เค้าบ่าวที่ถนนเกษตร นวมินทร์
2.ไปรับพานขันหมากที่เพชรเกษม
3.ไปรับชุดเเต่งงานชุดไทยที่บางบอน
4.ไปรับชุดเจ้าสาวที่พัฒนาการ
ตื่นแต่ตี4 ช่วยพ่อเปิดร้าน วันนี้พ่อขอขายก๋วยเตี๋ยวครึ่งวันบ่อยๆเค้าจะไปดูบ้านเราเพื่อเตรียมงาน(เค้าไม่เคยไปบ้านเราเลย)
4รายการ ที่เราต้องไป เราไม่รุ้จะไปไหนก่อนเลย ไปไม่ถูกเลยจริงๆ เราเลยไปหาแฟนเอากับข้าวไปให้ เอาเสื้อผ้าไปให้แม่เปลี่ยน ที่รพ. ซึ่งรพ.อยุ่ฝั่งธน เราอยุ่สุวรรณภูมิ พอไปถึง แฟนบ่นปวดขามาก เมื่อคืนนอนไม่ได้ แม่บอกไข้ขึ้น เช็ดตัวทั้งคืน เราก็ป้อนข้าว ป้อนยา...ก่อนออกจากรพ. ถามแฟนเพื่อความแน่ใจ ว่าไม่เลื่อนชัวร์นะ จะแต่งจริงๆหรอ เค้าบอกอีก2วันคงหายบวม ใส่ชุดได้ก็โอเครแล้ว แล้วเราก็ไปรับชุดไทยที่บางบอน ไปถึง ลองขุดมีแก้ไชส์ให้ เพราะเราอ้วนขึ้น แฟนโทรมาบอก เค้าไม่ไหว ปวดขามาก ขอเลื่อน งานแต่ง (ในใจดีใจนะ) เราก็จัดการโทรเลื่อนชุดต่างๆที่ต้องไปรับ ช่างแต่งหน้าทำผม ฝ่ายดอกไม้ ดนตรี โต๊ะจีน และเพื่อนๆ เลื่อนแบบไม่มีกำหนดไปก่อน ชึ่งทุกคนก็โอเคร เพราะมันเป็นเหตุสุดวิสัย และเพื่อนๆก็ให้กำลังใจ บอกเลย โทรไปเลื่อนสายไหนก็บ่อน้ำตาเเตกกันทั่ว กำลังใจล้นหลามมาก..... กว่าจะกลับมารพ.ใช้เวลานานกว่าไปอีก10เท่าเลย หลงค่ะ ตำรวจจับไป2รอบ เราไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพ เราขับตามแผนที่ มันพาเข้าซอยค่ะ และในซอยเค้าทำถนน ปิดทางอีก ให้ไปอ้อม อ้อมจนหลง พอมาถึงที่รพ แฟนก็บ่นอีกตามเคย ยังไม่ทันจะได้นั่ง บอกอย่างกินส้มตำร้าน.....ชึ่งไกลค่ะ สำหรับเรา แล้วร้านนี้คนเยอะด้วย แต่เค้าอยากกินค่ะ เลยต้องไป เอาใจคนไข้สุดๆ นั่งวินหน้ารพ.ไป ใช้เวลาไปกลับเกือบ2ชั่วโมง มาถึงบอกนานเกิน ทานข้าวรพ. ไปบ้างแล้ว ทานได้นิดเดียวบอก อิ่ม!!!!!! เราก็ งั้นเอาที่เหลือกลับบ้านนะ
แฟนบอก เราเหนื่อยมาทั้งวัน กลับไปพักได้ล่ะ 2ทุ่มครึ่งเราก็กลับบ้าน ก่อนกลับแฟนบอกว่า วันนี้หัดเดินด้วย หมอบอกอาจได้กลับบ้านพรุ้งนี้ เราเลยบอก เคร พรุ้งนี้จะมารับนะ ระหว่างทางกลับบ้าน เราก็นึกถึงแต่เรื่องไม้ค้ำยันนี่ ว่าทำไมรพ.เค้าถึงออกใบไม้ค้ำยันมาตอน10โมง
เลยได้โทรไปคุยเล่าให้พี่สาวที่เรากับแฟนสนิทมาก เค้าก็บอกว่าน่าสงสัย ยิ่งพูดเราก็ยิ่งสงสัย นอนไม่หลับทั้งคืน เข้าวันรุ่งขึ้นเราเลยโทรไปที่รพ. ที่แฟนเรานอนอยุ่ ถามว่าคนนี้ ชื่อนี้เข้ามารักษาตัววันไหน แล้วออกวันไหน ชึ่งได้คำตอบมาว่า เข้ามารักษาตัวที่นี่เมื่อวันที่25สค60. รพศิริราชส่งตัวมา เราก็ตัวสั่น ใจสั่น สันชาตญาณมันบอกว่าแฟนนอกใจขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐาน เราส่งข้อความทางเฟสไปหาน้องคนที่โทรมาบอกเรา ถามว่าทำไมต้องโกหก เค้าบอกเค้าไม่โกหก แล้วก็เงียบไม่ตอบอะไรอีกเลย เราเลยโทรไปหาแฟน แฟนเราคงรุ้ว่า เรารุ้แล้ว เลยไม่รับสายเราโทรไปเป็น10สาย เลยโทรหาแม่เค้า ถามว่าเเม่ แฟนเราเล่าอะไรให้ฟังบ้างไหม ว่าทำไมเค้าถึงถูกรถชนวันที่25 แล้วทำไมต้องโกหกเรา ถึงว่า ช่วงวันที่25-26 วีดิโอคอลไปไม่เคยรับ อ้างเข้าเวรตลอด เราก็มั่วแต่ยุ่งๆเรื่องเตรียมงาน เพราะเราทำเองทุกอย่าง ทำยันสายสิญผูกข้อมือ แม่เค้าบอกเเฟนก็เพิ่งเล่าตอนเราโทรไปเนี่ยเเหละ เค้าเล่าว่าไม่กล้าบอกเรา กลัวเราว่า แม่ถามว่าไปไหนทำไมถึงโดนรถชน เค้าก็บ่ายเบื่ยงที่จะตอบ...เราโมโหมาก แม่บอกวันนี้หมอให้กลับบ้านล่ะ เราเลยบอกงั้นเดียวไปรับ เสียงแฟนเเว่วเข้ามา ว่าเดี๋ยวเพื่อนมารับ ไม่ต้องมารับ... แม่บอกออยว่า วันที่ออยไปรับของ เค้าเห็นแฟนเราคุยแต่โทรศัพท์ทั้งวันเอาผ้าปิดหน้า คุยเบาๆ ช่วงที่ใช้เราไปซื้อส้มตำก็มีพยาบาลมาหา ถามพี่เป็นไงบ้าง แม่คิดว่าเป็นเพื่อน เลยไม่ได้อะไร และบอกเราใจเย็นๆนะ เราพูดไม่ออก เลยบอกแม่แค่นี้ก่อนค่ะ เรากระวนกระวายใจมากๆ ไม่อยากเจอหน้าแฟนเลย เลยขับไปหาพี่สาว คนที่คุยเมื่อคืน เล่าให้เค้าฟัง ไปหาที่ทำใจ กลับมาบ้านแฟนก็มาอยุ่บ้านละ เรา2คนไม่คุยกัน แต่เราก็ยังทำทุกอย่างให้ปกตินะแต่ไม่ค่อยได้คุย มีถามคำ ตอบคำ จนเค้าบอกเราว่า เชื่อใจเค้านะ เค้าไม่ได้มีใคร พูดแค่นี้ เราก็โอเครในระดับหนึ่ง ดูแลเค้าปกติ วันที่2กย60 แม่เรามา ญาติเรา เพื่อนเรา มาเยื่ยมเค้าที่บ้าน
วันเกิดเหตุ.......
วันที่ 2ก.ย60 หลังทานข้าวเย็น ประมาน2ทุ่ม เราเช็ดตัว ล้างเเผล ทายา ชึ่งเรากำลังนวดลดบวม ให้เค้าอยุ่ที่ขา ปลายเท้า เราเห็นเค้าเล่นมือถืออยุ่ เราเลยถาม จะเล่นอะไรนักหนา โทรศัพท์ไม่เคยห่างตัวเลย มีไรในโทรศัพท์หรอ เค้าบอกจะมีไรล่ะ เพื่อนถามว่าหายยัง ก็ตอบเพื่อนอยุ่ เราก็โอเคร สักพักเค้าดึงผ้ามาคุมหน้า เหมือนแอบคุยโทรศัพท์ เราเลยดึงผ้าออก จริงค่ะ!!! เค้าคุยโทรศัพท์จริงๆด้วย แต่เราไม่รุ้ว่าคุยกับใคร ธรรมดาแหละ เราไม่รุ้ เค้าเลยไม่ยอมรับ บอกคุยกับผู้ชาย พอเราขอดูเค้าก็ไม่ให้ดู จนเราแย่งโทรศัพท์กัน เค้าเริ่มโมโหแล้วด่าเรา จะลองดีกับกูหรอ อย่ามายุ่งกับโทรศัพท์กู จะไม่ปล่อยใช่ไหม เค้าเลยเอามือมาตบหน้าเรา 1ทีค่ะ เลือดกบปากเราเลย เเล้วแฟนเราก็ยืนค่ะ ยืนจริงๆนะ ยืนเหมือนขาไม่หักเลย หลังจากนั้นก็นัวกันเลยค่ะ เค้าหยิบอะไรได้ก็เหวี่ยงมาที่เราหมดค่ะ ระบมทั้งตัวค่ะ เสียงด่ากันลั่นซอย จนพ่อแม่เค้าเข้ามาห้ามค่ะ แม่เค้าบอกมีอะไรกัน ค่อยๆคุยกัน แฟนเราบอกเลิกกับกูไปเลย กูไม่แต่งงานเเล้ว พ่อเค้าจับแยก จับแฟนเราไปบ้านพ่อ แล้วเเม่อยุ่กับเราในบ้าน คุยกับเราบอกอย่าไปไหนนะ อยุ่คุยกัน. วินาทีนั้น อยุ่ไม่ไหวแล้ว เราเก็บเสื้อผ้าแล้วไปอยุ่หอใกล้ที่ทำงาน ขับรถออกจากบ้านไปเลย ถึงหอ แม่เค้าก็โทรมาถามว่าถึงยัง ช่วงนี้ก็แยกกันอยุ่ไปก่อนนะ พงศ์มันบอกว่ามันไม่ได้มีผู้หญิง แม่เชื่อว่ามันคงไม่มีหรอก มันคงคุยเล่นๆ ตอนนี้มันก็โทรให้เพื่อนมารับไปอยุ่กรมทหาร เราวางสาย แล้วก็นั่งร้องไห้อย่างหนักหน่วง สักพักมีข้อความเฟสดัง เป็นแฟนเก่าของน้องทหารที่โทรมาบอกเราว่าแฟนเราถูกรถชน โทรมาบอกให้เราใจเย็นๆนะ อ่อ คือหลังจากทะเลาะกันเราก็โพสเฟสค่ะ เนื้อหาคือสิ้นสุดทางรัก... เราเคยเจอน้องคนนี้ตอนเรากลับมาคืนดีกับแฟนครั้งแรก คือเรากับแฟนเราเคยเลิกกันไปแล้วรอบหนึ่ง ช่วงที่เราเลิกกัน แฟนเราพาน้องคนนี้ไปไหนมาไหนกันบ่อย แหมือนจะทำให้เราเข้าใจว่าน้องคนนี้เป็นแฟนใหม่ และมาบอกทีหลังว่าเป็นแฟนน้องทหารอีกคน เอามาควงแกล้งเราเฉยๆ
น้องคนนี้ ส่งข้อความมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วพูดมาว่าพี่เค้ายังไม่เลิกคุยกับผญ อีกหรอ เราเลยถาม รุ้อะไรเล่ามาให้หมด น้องเค้าเลยเล่ายาวเลยค่ะ ร้องไห้ตลอดเวลาที่คุยกัน ไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่เราจะแต่งงานด้วยจะทำเราเเบบนี้ เราคุยกันตั้งแต่5ทุ่ม ถึง8โมงเช้า น้องเค้าถามไปบวชชีไหมพี่ เราเลยตกลง และไปรับน้องเค้าที่บ้านตอนนั้นเลย แล้วไปวัดขอบวชวันนั้นกันเลยค่ะ
วันนี้เป็นวันที่3ก.ย60 ตามความจริงคือวันเเต่งงาน แต่ต้องมาใส่ชุดแม่ชี บวชชีอยุ่ที่วัด หวังเอาธรรมะข่มใจ เราบวชอยุ่3วัน มีแต่เรื่องนี้เต็มหัวไปหมด จิตใจไม่สงบแม้แต่นิดเดียว แม่เราไม่รุ้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราไม่ได้บอกอะไรท่านเลยแม้แต่นิด มีแต่แม่เค้าที่โทรมาคุย โทรมาถาม น้องที่มาบวชกับเรา เค้าส่งไลน์ถามแฟนเราว่า.
บทสนทนา
น้องที่มาบวชด้วยกัน :พี่เป็นอย่างที่พี่เค้าโพสในเฟสป่าว ทำไมพี่ทำอย่างนั้น
แฟนเรา: ใช่ พี่คุยกับผญจริงๆ เค้าถามพี่เป็นยังไงบ้าง แล้วแฟน จับได้พี่โมโหเลยตบหน้าเค้าไป
น้องที่มาบวชด้วยกัน :ไหนพี่ว่าจะเลิกคุยไง ถ้าแต่งงานเเล้ว
แฟน :ก็ตอนนี้พี่ยังไม่แต่ง หลังแต่งพี่เลิกแน่นอน เชื่อไหม ตั้งแต่พี่ถูกรถชน ออยไม่เคยมาดูแลพี่เลยนะ หาข้าวหาปลา ล้างแผลแม่พี่ทำตลอด ออยไม่เคยทำเลย ตอนทะเลาะกัน ออยทุบตีแต่แผลพี่ รุ้ทั้งรุ้ว่าพี่ขาหักก็ทุบแต่ขาพี่ พี่สู้อะไรเค้าไม่ได้เลย พี่ให้เค้าทำพี่ฝ่ายเดียว พี่คงเลิกกับเค้าจริงๆแล้วรอบนี้
สตอสุดๆ เราเลยให้น้องแคบบทสนทนานี้ไว้ แล้วส่งมาให้เรา...
วันที่เราสึก วันที่5กย60 เราก็ไปหาเพื่อนทุกคน ไปเอาชุดไทยคืน เพื่อจะส่งคืนทางร้าน เพื่อนเรา เล่าให้ฟังว่า ทางแฟนเราโพสเฟสประมานว่า พอเห็นเราพิการก็ทิ้งกันไป ไปพร้อมเงินก้อนสุดท้ายที่มี ขอบคุณที่ทำให้เห็นธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้ แล้วเพื่อนเค้าก็แห่ไปคอมเม้นกันยกใหญ่ ดีแล้วที่เลิกกันบ้างแหละ
ไม่น่าเชื่อเลยว่าพี่เค้าจะทำแบบนี้บ้างแหละขอให้เจอรักใหม่ที่ดีกว่ารักนี้10เท่านะพี่
เราเห็นแล้วเจ็บใจมาก โมโห ในความ

สุดๆ ไม่คิดว่าเค้าจะ

คนอื่นได้ขนาดนี่...เราเล่าให้เพื่อนคนนี้ฟังหมดเปลือก ว่าเราได้เงินมา5แสน เค้ากู้จากสหกรณ์มาใช้จ่ายเกี่ยวกับงานแต่ง และก่อนที่จะได้เงินก้อนนี้มา เราก็ได้จ่ายหลักๆ
1.ค่ามัดจำโต๊ะจีนไป 40,000-
2.ค่าพรีเวด40,000กว่าบาท
3.ค่าแบล็คดรอป15,000บาท
4.มัดจำค่าชุดไทยวันงาน5,000บาท
5.มัดจำค่าชุดแต่งงาน6,000บาท
ไม่รวมสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราชื้อของมาทำเองทั้งหมด
เราได้เงินก้อนมาจริง500,000 เเต่จ่าย
1.เราชื้อโทรศัพท์ใหม่2เครื่อง30,000-
2.จ่ายค่ายานอกบัญชีให้แม่เค้า70,000บาท
3.จ่ายหนี้สินที่ติดอาเค้าไว้70,000บาท
เนื้อหายาวเกินส่งไม่ผ่าน เดี๋ยวมาต่อค่ะ
วันเเต่งงานกับวันที่เลิก วันเดียวกัน
ย้อนไปเมื่อ2ปีที่แล้ว...
วันนี้31ส.ค.60 เป็นวันสุดท้าย ของการทำงาน เพราะเรากำลังจะลางานเพื่อเตรียมงานแต่ง อีก3วันจะถึงวันงาน.. กำหนดแต่ง 3กันยา 60 เตรียมตัวรีบเคลียร์งาน แล้วกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน มีสายเข้าจาก....รักที่สุด (ตอนนั้นเราตั้งแบบนั้น) รับสาย เสียงปลายสายเป็นเสียงน้องทหารคนสนิทของเเฟน บอกว่าพี่จ่าถูกรถชน กระดูกขาหัก ชี่โครงหัก และอีกมากมาย อีก10นาทีหมอจะเอาเข้าห้องผ่าตัดด่วน เราได้ยินแบบนั้น แขนขาเราไม่มีแม้แต่เเรงเดิน รีบโทรบอก พ่อแม่แฟนให้ตามไป เราไปถึงโรงพยาบาล ประมาน5โมงเย็น เค้ามาพักที่ห้องแล้ว เค้าอยุ่กับน้องคนที่โทรหาเรา เรารีบเข้าไปกอดแฟนทันที เค้าร้องไห้ และพูดว่าเค้าขอโทษ.. เราบอกจะขอโทษทำไมมันไม่ใช่ความผิดของที่รักเลย ร้องไห้กันใหญ่จนเตียงข้างๆมอง เราก็ถามไถ่ เรื่องราวว่ามันเป็นมายังไงรถชนได้ยังไง เค้าเล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดหน้า รพ ศิริราช ระหว่างขับมอไซกลับบ้าน มีรถเก๋งมาชนเค้าแล้วตัวเค้ากระเด็นไปอยุ่ใต้ท้องรถเมล์ที่กำลังขับผ่านมาอีกฝั่งนึง รถเก๋งชนแล้วหนี เราก็ถามหากล้องว่าน่าจะมีกล้องนะ เผื่อจะเห็นทะเบียนรถเก๋ง เราจะได้เอาผิดเค้าได้ น้องทหารที่โทรหาเรา บอกว่า ดูแล้ว กล้องเสียพี่ เลยไม่เห็นทะเบียน
อาการของเค้าก็ มีแผล ถลอกตามตัว มีรอยซ้ำ รอยขีดข่วน มีกระดูกขาหัก และเข่าหลุด ระหว่างเราเช็ดตัวให้เค้า เราทำไม้ค้ำยัน เค้าร่วงลงกับพื้น ชึ่งมันยังไม่ได้ถูกแกะออกจากถุง เราหยิบขึ้นมาแล้วก็อ่านสติ๊กเกอร์ มันจะบอกชื่อคนไข้ วันเวลาที่เบิกอุปกรณ์ ลงเวลา 31 ส.ค60 เวลา 10:45 น. เราเลยถาม อ้าว สรุปรถล้มกี่โมงอ่ะ แฟนบอกตอนบ่าย3ครึ่ง แล้วทำไมเค้าลงเวลาตอนนี้ แสดงว่ามาก่อนป่าว แฟนบอก สงสัยเค้าพิมวันที่ผิด เลยเงียบไป สักพัก พ่อกับแม่เค้ามาถึง แล้วก็คุยเรื่องงานเเต่ง จะเอาไง เราบอกคงต้องเลื่อนเเหละ เพราะหมอบอกห้ามลุก1วัน แต่แฟนบอกว่าไม่เลื่อน ยังไงก็จะเเต่ง เค้านั่งรถเข็นได้ เราบอกแล้วจะถ่ายรูปยังไง จะเดินยังไงใครจะมาหามตลอดเวลา รอให้หายก่อนไม่ได้หรอ เค้าตอบกลับมาชุดใหญ่เลย ก็แต่งไปเลย แค่วันเดียว จะได้จบๆไป รูปก็ตัดไปเลยไม่ต้องถ่าย เอาแค่พิธีสงฆ์ก็พอ จะมาห่วงถ่ายรูปหรอ รับไม่ได้หรอที่รูปแต่งงาน เจ้าบ่าวนั่งรถเข็น เจ้าบ่าวพิการ . เราก็เออ ออตามเค้าไป เเต่งก็แต่ง (แต่ในใจเราค้านสุดขีด ก็ครั้งนึงในชีวิตป่ะ) ก็ตกลง เรากับพ่อ กลับบ้านมาเตรียมงาน ส่วนแม่เฝ้าแฟนอยุ่ รพ. แฟนบอกให้เรารีบกลับเพราะต้องรีบไปรับของ เพราะเรานัดรับวันเดียวกันทุกอย่าง
พอกลับมาบ้าน เราก็คุยกับพ่อนะ เรื่องไม้ค้ำยัน ถามความคิดเห็นพ่อ พ่อกับเราคิดเห็นเหมือนกัน ว่าเเฟนเราไม่น่าจะโดนรถชนวันนี้ เพราะแผลตามตัวแห้งหมดแล้ว ไม่ใช่แผลเพิ่งเกิด แล้วจะโกหกทำไม แสดงว่าไปไหนมาแน่เลย พ่อก็พูดมาว่า อย่าคิดมากเลย เหนื่อยมาเยอะแล้ว พักผ่อน พรุ้งนี้ต้องทำงานอีกเยอะเลยเพราะเราต้องไปเอาของคนเดียว
เราก็เเยกย้ายกันเข้าห้อง (เราอยุ่พื้นที่เดียวกัน แต่คนล่ะบ้าน)
สิ่งที่เราต้องทำในวันที่1กย60
1.ไปรับชุดแม่เค้าบ่าวที่ถนนเกษตร นวมินทร์
2.ไปรับพานขันหมากที่เพชรเกษม
3.ไปรับชุดเเต่งงานชุดไทยที่บางบอน
4.ไปรับชุดเจ้าสาวที่พัฒนาการ
ตื่นแต่ตี4 ช่วยพ่อเปิดร้าน วันนี้พ่อขอขายก๋วยเตี๋ยวครึ่งวันบ่อยๆเค้าจะไปดูบ้านเราเพื่อเตรียมงาน(เค้าไม่เคยไปบ้านเราเลย)
4รายการ ที่เราต้องไป เราไม่รุ้จะไปไหนก่อนเลย ไปไม่ถูกเลยจริงๆ เราเลยไปหาแฟนเอากับข้าวไปให้ เอาเสื้อผ้าไปให้แม่เปลี่ยน ที่รพ. ซึ่งรพ.อยุ่ฝั่งธน เราอยุ่สุวรรณภูมิ พอไปถึง แฟนบ่นปวดขามาก เมื่อคืนนอนไม่ได้ แม่บอกไข้ขึ้น เช็ดตัวทั้งคืน เราก็ป้อนข้าว ป้อนยา...ก่อนออกจากรพ. ถามแฟนเพื่อความแน่ใจ ว่าไม่เลื่อนชัวร์นะ จะแต่งจริงๆหรอ เค้าบอกอีก2วันคงหายบวม ใส่ชุดได้ก็โอเครแล้ว แล้วเราก็ไปรับชุดไทยที่บางบอน ไปถึง ลองขุดมีแก้ไชส์ให้ เพราะเราอ้วนขึ้น แฟนโทรมาบอก เค้าไม่ไหว ปวดขามาก ขอเลื่อน งานแต่ง (ในใจดีใจนะ) เราก็จัดการโทรเลื่อนชุดต่างๆที่ต้องไปรับ ช่างแต่งหน้าทำผม ฝ่ายดอกไม้ ดนตรี โต๊ะจีน และเพื่อนๆ เลื่อนแบบไม่มีกำหนดไปก่อน ชึ่งทุกคนก็โอเคร เพราะมันเป็นเหตุสุดวิสัย และเพื่อนๆก็ให้กำลังใจ บอกเลย โทรไปเลื่อนสายไหนก็บ่อน้ำตาเเตกกันทั่ว กำลังใจล้นหลามมาก..... กว่าจะกลับมารพ.ใช้เวลานานกว่าไปอีก10เท่าเลย หลงค่ะ ตำรวจจับไป2รอบ เราไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพ เราขับตามแผนที่ มันพาเข้าซอยค่ะ และในซอยเค้าทำถนน ปิดทางอีก ให้ไปอ้อม อ้อมจนหลง พอมาถึงที่รพ แฟนก็บ่นอีกตามเคย ยังไม่ทันจะได้นั่ง บอกอย่างกินส้มตำร้าน.....ชึ่งไกลค่ะ สำหรับเรา แล้วร้านนี้คนเยอะด้วย แต่เค้าอยากกินค่ะ เลยต้องไป เอาใจคนไข้สุดๆ นั่งวินหน้ารพ.ไป ใช้เวลาไปกลับเกือบ2ชั่วโมง มาถึงบอกนานเกิน ทานข้าวรพ. ไปบ้างแล้ว ทานได้นิดเดียวบอก อิ่ม!!!!!! เราก็ งั้นเอาที่เหลือกลับบ้านนะ
แฟนบอก เราเหนื่อยมาทั้งวัน กลับไปพักได้ล่ะ 2ทุ่มครึ่งเราก็กลับบ้าน ก่อนกลับแฟนบอกว่า วันนี้หัดเดินด้วย หมอบอกอาจได้กลับบ้านพรุ้งนี้ เราเลยบอก เคร พรุ้งนี้จะมารับนะ ระหว่างทางกลับบ้าน เราก็นึกถึงแต่เรื่องไม้ค้ำยันนี่ ว่าทำไมรพ.เค้าถึงออกใบไม้ค้ำยันมาตอน10โมง
เลยได้โทรไปคุยเล่าให้พี่สาวที่เรากับแฟนสนิทมาก เค้าก็บอกว่าน่าสงสัย ยิ่งพูดเราก็ยิ่งสงสัย นอนไม่หลับทั้งคืน เข้าวันรุ่งขึ้นเราเลยโทรไปที่รพ. ที่แฟนเรานอนอยุ่ ถามว่าคนนี้ ชื่อนี้เข้ามารักษาตัววันไหน แล้วออกวันไหน ชึ่งได้คำตอบมาว่า เข้ามารักษาตัวที่นี่เมื่อวันที่25สค60. รพศิริราชส่งตัวมา เราก็ตัวสั่น ใจสั่น สันชาตญาณมันบอกว่าแฟนนอกใจขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐาน เราส่งข้อความทางเฟสไปหาน้องคนที่โทรมาบอกเรา ถามว่าทำไมต้องโกหก เค้าบอกเค้าไม่โกหก แล้วก็เงียบไม่ตอบอะไรอีกเลย เราเลยโทรไปหาแฟน แฟนเราคงรุ้ว่า เรารุ้แล้ว เลยไม่รับสายเราโทรไปเป็น10สาย เลยโทรหาแม่เค้า ถามว่าเเม่ แฟนเราเล่าอะไรให้ฟังบ้างไหม ว่าทำไมเค้าถึงถูกรถชนวันที่25 แล้วทำไมต้องโกหกเรา ถึงว่า ช่วงวันที่25-26 วีดิโอคอลไปไม่เคยรับ อ้างเข้าเวรตลอด เราก็มั่วแต่ยุ่งๆเรื่องเตรียมงาน เพราะเราทำเองทุกอย่าง ทำยันสายสิญผูกข้อมือ แม่เค้าบอกเเฟนก็เพิ่งเล่าตอนเราโทรไปเนี่ยเเหละ เค้าเล่าว่าไม่กล้าบอกเรา กลัวเราว่า แม่ถามว่าไปไหนทำไมถึงโดนรถชน เค้าก็บ่ายเบื่ยงที่จะตอบ...เราโมโหมาก แม่บอกวันนี้หมอให้กลับบ้านล่ะ เราเลยบอกงั้นเดียวไปรับ เสียงแฟนเเว่วเข้ามา ว่าเดี๋ยวเพื่อนมารับ ไม่ต้องมารับ... แม่บอกออยว่า วันที่ออยไปรับของ เค้าเห็นแฟนเราคุยแต่โทรศัพท์ทั้งวันเอาผ้าปิดหน้า คุยเบาๆ ช่วงที่ใช้เราไปซื้อส้มตำก็มีพยาบาลมาหา ถามพี่เป็นไงบ้าง แม่คิดว่าเป็นเพื่อน เลยไม่ได้อะไร และบอกเราใจเย็นๆนะ เราพูดไม่ออก เลยบอกแม่แค่นี้ก่อนค่ะ เรากระวนกระวายใจมากๆ ไม่อยากเจอหน้าแฟนเลย เลยขับไปหาพี่สาว คนที่คุยเมื่อคืน เล่าให้เค้าฟัง ไปหาที่ทำใจ กลับมาบ้านแฟนก็มาอยุ่บ้านละ เรา2คนไม่คุยกัน แต่เราก็ยังทำทุกอย่างให้ปกตินะแต่ไม่ค่อยได้คุย มีถามคำ ตอบคำ จนเค้าบอกเราว่า เชื่อใจเค้านะ เค้าไม่ได้มีใคร พูดแค่นี้ เราก็โอเครในระดับหนึ่ง ดูแลเค้าปกติ วันที่2กย60 แม่เรามา ญาติเรา เพื่อนเรา มาเยื่ยมเค้าที่บ้าน
วันเกิดเหตุ.......
วันที่ 2ก.ย60 หลังทานข้าวเย็น ประมาน2ทุ่ม เราเช็ดตัว ล้างเเผล ทายา ชึ่งเรากำลังนวดลดบวม ให้เค้าอยุ่ที่ขา ปลายเท้า เราเห็นเค้าเล่นมือถืออยุ่ เราเลยถาม จะเล่นอะไรนักหนา โทรศัพท์ไม่เคยห่างตัวเลย มีไรในโทรศัพท์หรอ เค้าบอกจะมีไรล่ะ เพื่อนถามว่าหายยัง ก็ตอบเพื่อนอยุ่ เราก็โอเคร สักพักเค้าดึงผ้ามาคุมหน้า เหมือนแอบคุยโทรศัพท์ เราเลยดึงผ้าออก จริงค่ะ!!! เค้าคุยโทรศัพท์จริงๆด้วย แต่เราไม่รุ้ว่าคุยกับใคร ธรรมดาแหละ เราไม่รุ้ เค้าเลยไม่ยอมรับ บอกคุยกับผู้ชาย พอเราขอดูเค้าก็ไม่ให้ดู จนเราแย่งโทรศัพท์กัน เค้าเริ่มโมโหแล้วด่าเรา จะลองดีกับกูหรอ อย่ามายุ่งกับโทรศัพท์กู จะไม่ปล่อยใช่ไหม เค้าเลยเอามือมาตบหน้าเรา 1ทีค่ะ เลือดกบปากเราเลย เเล้วแฟนเราก็ยืนค่ะ ยืนจริงๆนะ ยืนเหมือนขาไม่หักเลย หลังจากนั้นก็นัวกันเลยค่ะ เค้าหยิบอะไรได้ก็เหวี่ยงมาที่เราหมดค่ะ ระบมทั้งตัวค่ะ เสียงด่ากันลั่นซอย จนพ่อแม่เค้าเข้ามาห้ามค่ะ แม่เค้าบอกมีอะไรกัน ค่อยๆคุยกัน แฟนเราบอกเลิกกับกูไปเลย กูไม่แต่งงานเเล้ว พ่อเค้าจับแยก จับแฟนเราไปบ้านพ่อ แล้วเเม่อยุ่กับเราในบ้าน คุยกับเราบอกอย่าไปไหนนะ อยุ่คุยกัน. วินาทีนั้น อยุ่ไม่ไหวแล้ว เราเก็บเสื้อผ้าแล้วไปอยุ่หอใกล้ที่ทำงาน ขับรถออกจากบ้านไปเลย ถึงหอ แม่เค้าก็โทรมาถามว่าถึงยัง ช่วงนี้ก็แยกกันอยุ่ไปก่อนนะ พงศ์มันบอกว่ามันไม่ได้มีผู้หญิง แม่เชื่อว่ามันคงไม่มีหรอก มันคงคุยเล่นๆ ตอนนี้มันก็โทรให้เพื่อนมารับไปอยุ่กรมทหาร เราวางสาย แล้วก็นั่งร้องไห้อย่างหนักหน่วง สักพักมีข้อความเฟสดัง เป็นแฟนเก่าของน้องทหารที่โทรมาบอกเราว่าแฟนเราถูกรถชน โทรมาบอกให้เราใจเย็นๆนะ อ่อ คือหลังจากทะเลาะกันเราก็โพสเฟสค่ะ เนื้อหาคือสิ้นสุดทางรัก... เราเคยเจอน้องคนนี้ตอนเรากลับมาคืนดีกับแฟนครั้งแรก คือเรากับแฟนเราเคยเลิกกันไปแล้วรอบหนึ่ง ช่วงที่เราเลิกกัน แฟนเราพาน้องคนนี้ไปไหนมาไหนกันบ่อย แหมือนจะทำให้เราเข้าใจว่าน้องคนนี้เป็นแฟนใหม่ และมาบอกทีหลังว่าเป็นแฟนน้องทหารอีกคน เอามาควงแกล้งเราเฉยๆ
น้องคนนี้ ส่งข้อความมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วพูดมาว่าพี่เค้ายังไม่เลิกคุยกับผญ อีกหรอ เราเลยถาม รุ้อะไรเล่ามาให้หมด น้องเค้าเลยเล่ายาวเลยค่ะ ร้องไห้ตลอดเวลาที่คุยกัน ไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่เราจะแต่งงานด้วยจะทำเราเเบบนี้ เราคุยกันตั้งแต่5ทุ่ม ถึง8โมงเช้า น้องเค้าถามไปบวชชีไหมพี่ เราเลยตกลง และไปรับน้องเค้าที่บ้านตอนนั้นเลย แล้วไปวัดขอบวชวันนั้นกันเลยค่ะ
วันนี้เป็นวันที่3ก.ย60 ตามความจริงคือวันเเต่งงาน แต่ต้องมาใส่ชุดแม่ชี บวชชีอยุ่ที่วัด หวังเอาธรรมะข่มใจ เราบวชอยุ่3วัน มีแต่เรื่องนี้เต็มหัวไปหมด จิตใจไม่สงบแม้แต่นิดเดียว แม่เราไม่รุ้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราไม่ได้บอกอะไรท่านเลยแม้แต่นิด มีแต่แม่เค้าที่โทรมาคุย โทรมาถาม น้องที่มาบวชกับเรา เค้าส่งไลน์ถามแฟนเราว่า.
บทสนทนา
น้องที่มาบวชด้วยกัน :พี่เป็นอย่างที่พี่เค้าโพสในเฟสป่าว ทำไมพี่ทำอย่างนั้น
แฟนเรา: ใช่ พี่คุยกับผญจริงๆ เค้าถามพี่เป็นยังไงบ้าง แล้วแฟน จับได้พี่โมโหเลยตบหน้าเค้าไป
น้องที่มาบวชด้วยกัน :ไหนพี่ว่าจะเลิกคุยไง ถ้าแต่งงานเเล้ว
แฟน :ก็ตอนนี้พี่ยังไม่แต่ง หลังแต่งพี่เลิกแน่นอน เชื่อไหม ตั้งแต่พี่ถูกรถชน ออยไม่เคยมาดูแลพี่เลยนะ หาข้าวหาปลา ล้างแผลแม่พี่ทำตลอด ออยไม่เคยทำเลย ตอนทะเลาะกัน ออยทุบตีแต่แผลพี่ รุ้ทั้งรุ้ว่าพี่ขาหักก็ทุบแต่ขาพี่ พี่สู้อะไรเค้าไม่ได้เลย พี่ให้เค้าทำพี่ฝ่ายเดียว พี่คงเลิกกับเค้าจริงๆแล้วรอบนี้
สตอสุดๆ เราเลยให้น้องแคบบทสนทนานี้ไว้ แล้วส่งมาให้เรา...
วันที่เราสึก วันที่5กย60 เราก็ไปหาเพื่อนทุกคน ไปเอาชุดไทยคืน เพื่อจะส่งคืนทางร้าน เพื่อนเรา เล่าให้ฟังว่า ทางแฟนเราโพสเฟสประมานว่า พอเห็นเราพิการก็ทิ้งกันไป ไปพร้อมเงินก้อนสุดท้ายที่มี ขอบคุณที่ทำให้เห็นธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้ แล้วเพื่อนเค้าก็แห่ไปคอมเม้นกันยกใหญ่ ดีแล้วที่เลิกกันบ้างแหละ
ไม่น่าเชื่อเลยว่าพี่เค้าจะทำแบบนี้บ้างแหละขอให้เจอรักใหม่ที่ดีกว่ารักนี้10เท่านะพี่
เราเห็นแล้วเจ็บใจมาก โมโห ในความ
1.ค่ามัดจำโต๊ะจีนไป 40,000-
2.ค่าพรีเวด40,000กว่าบาท
3.ค่าแบล็คดรอป15,000บาท
4.มัดจำค่าชุดไทยวันงาน5,000บาท
5.มัดจำค่าชุดแต่งงาน6,000บาท
ไม่รวมสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราชื้อของมาทำเองทั้งหมด
เราได้เงินก้อนมาจริง500,000 เเต่จ่าย
1.เราชื้อโทรศัพท์ใหม่2เครื่อง30,000-
2.จ่ายค่ายานอกบัญชีให้แม่เค้า70,000บาท
3.จ่ายหนี้สินที่ติดอาเค้าไว้70,000บาท
เนื้อหายาวเกินส่งไม่ผ่าน เดี๋ยวมาต่อค่ะ