ก็ตามประสาคนชอบเที่ยว ที่อะไรก็หยุดเราไม่ได้
วาเลนไทน์ไม่ได้เป็นข้อจำกัดให้คนโสดต้องหลีกทาง เราไม่ได้เหม็นสาบความรัก เราโรแมนติค เราแค่โสด อิอิ
หนอนฯและเพื่อนรุ่นน้องที่เป็นคนชนเผ่าแบกเป้ ก็วางแผนไปเหล่ๆส่องๆบรรยากาศวันวานเลนไทน์ในประเทศที่เรียกได้ว่าเป็นปลายทางของชนเผ่าฮันนีมูน
มัลดีฟส์คือคำตอบด้วยราคาตั๋วกระแทกใจแต่สบายกระเป๋า (เราได้ราคา 7,030 บาท)
เงื่อนไขสองเรามีแค่ ห้ามเกินสองหมื่นบาท สำหรับเวลา 4 คืนค่ะ
เรากลับมาด้วยความ
ที่จ่ายสองหมื่นแล้วเหลือตังค์ทอนค่ะ
ประทับใจกับที่พักด้วย ก็เลยอยากเอามาแนะนำค่ะ
เราบินวันที่12ก.พ. คืนแรกค้างที่โรงแรม Novina ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองมาเล่
ทำเลดีค่ะ อยู่ในย่านการค้า ใกล้ตลาด และใกล้ท่าเรือ speed boat ที่จะไปเกาะ อยู่ในระยะเดินแป้ปเดียวถึง
ราคาห้องเตียงคู่ที่เราได้ คือสองพันต้นๆ มีอาหารเช้าให้ และไปรับที่สนามบิน
เราให้ทางที่พักจัดการจองเรือspeed boat ไปเกาะ Mafushi ให้ (ราคาอยู่ในช่วง20-25 USD) มีให้เลือกหลายรอบ โดยเราใช้บริการเรือของ icom ที่มีหลายรอบให้เลือก และใช้เวลาเดินทางราว 45 นาที
เมื่อถึงเกาะMafushi เราขึ้นฝั่งก็เดินไปทางขวา ใกล้นิดเดียวค่ะเราก็จะถึงบ้านพักขนาดเล็กแสนธรรมดาหันหน้าออกทะเล ที่หนอนฯและเพื่อนถูกใจ เลยอยากเอามาแนะนำ
ที่พักของเราชื่อ Arora Inn ค่ะ จองจาก Agoda ได้ราคาเกือบสองพันต่อคืน (คนละเก้าร้อยบาท) ห้องเตียงคู่ ห้องน้ำในตัว แอร์ แต่ไม่มีทีวี wifi แรงดีเล่นเนตในห้องได้สบายค่ะ
เราพักที่นี่สามคืน เจ้าของและน้องบ่าวทีมงานสุภาพ นิสัยดี มีหัวใจบริการ
อาหารเช้าเหมือนกันทุกวัน มีขนมปังปิ้ง paratha เนย แยม ไส้กรอกทอด ถั่ว น้ำส้ม(หวานมากไป) ชาและกาแฟมีบริการให้ทั้งวันค่ะ
เราชอบที่นี่ ที่เงียบสงบและสะอาดมาก แอร์เย็นฉ่ำ สำคัญมากเลยค่ะตอนเราหลบแดดแรงตอนกลางวันน่ะ ที่สำคัญคือราคาถูกดีจัง อิอิ
เราซื้อทัวร์ออกทะเล (ซื้อจากโรงแรมค่ะ ) ในราคา35 USD น้องบ่าวทีมงานสองคนพาสองเราออกทะเลด้วยspeed boatลำกระทัดรัด แบบไม่มีคนอื่นร่วมทาง ก็นั่งเป็นนางพญากันไป
เราว่ายน้ำไม่เป็น น้องบ่าวก็บอกไม่เป็นไร น้องๆดูแลเราแบบที่ทำให้หนอนฯผู้ซึ่งเป็นโรคกลัวน้ำ กล้าลงไปลอยตุ๊บป่องๆ
ทะเลมัลดีฟส์งามจริง และที่เด็ดกว่านั้นคือ บนเกาะMafushi และออกทะเลไปจุดดำน้ำและเล่นน้ำที่สันทรายกลางทะเล เนตแรงมากค่ะ พอดีหนอนฯงานค่อนข้างยุ่งช่วงนั้น ทั้งไลน์ทั้งเมลล์จากคู่ค้าเข้ามารัวๆ หนอนฯนั่งตอบเมล์ ส่งไฟล์งานบนเรือกลางทะเลแบบไม่ติดขัด มันใช่เลย เกาะนี้ตอบโจทย์คนอยากเที่ยว แต่ทำงานหาเงินได้ไม่ขาดเนต หนอนฯรับออร์เดอร์ใหม่มาเล็กน้อย แต่สร้างความหมั่นไส้มากให้คู่ค้า เพราะส่งภาพทะเลสีฟ้าจัดไปให้ตอนที่บอกว่า โทรเบอร์ไม่ได้ ต้องใช้ไลน์เพราะเปลี่ยนsimค่ะ
Half day tour 4 จุด คือดูปะการัง ชมฝูงโลมา (เยอะมากกกกกก น่ารักที่สุด) ดำดูเต่า (รุ่นน้องเห็นตัวเดียว หนอนฯไม่ได้ลงจุดนี้ เพราะมัวแต่รับออร์เดอร์) และไปเล่นน้ำที่สันทราย ที่สวยมากๆ มีเราสองคนบนเกาะจิ๋วๆ เพราะน้องบ่าวทิ้งเราไว้แล้วแล่นเรือหนีไปพักนึง ปล่อยให้เรามีเวลาเป็นส่วนตัวสุดๆ เป็นเจ้าของสันทรายสีขาวนั้นพักใหญ่ ทำให้สองเราถือโอกาสถ่ายรูปในชุดทูพีชกันเต็มที่ ( อิอิ จัดไปชุดว่ายน้ำขาสั้นแขนยาว )
เวลาเหลือเยอะเพราะกลุ่มเราเล็กจิ๋วแค่สองคน พอน้องบ่าวชวนซื้อออฟชั่น15 USD เที่ยวเกาะเล็กๆเพื่อเดินเล่นและกินข้าว เราก็
ค่ะ
ตั๋วเรือเพื่อกลับไปสนามบินเราก็ซื้อจากที่พักค่ะ ราคามาตรฐาน และบริการดีงาม เรือนั่งสบายกว่าขามาด้วย เป็นของ Go Mafushi
เราพักที่Mafushiสามคืน พักกายพักใจ วันที่ไม่ออกทะเลก็เล่นน้ำบริเวณ บิกินี่ บีช ที่น้ำใสมากกก
หนอนฯชอบบรรยากาศดีๆที่เกาะนี้ ที่ไม่มีบาร์เบียร์ ไม่มีเสียงดัง ไม่มีโป๊เปลือยมากเกินงาม ตามสถานที่นอกเขตบิกินี่ บีช นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แต่งกายสุภาพให้เกียรติเจ้าบ้านชาวพื้นเมืองบนเกาะที่เป็นมุสลิมค่ะ
บ้านเรือนและร้านค้า ก็ถ่ายรูปออกมาสวยค่ะ ขนาดหนอนฯปกติไม่ชอบถูกถ่ายรูป ครั้งนี้ยังเต๊ะเท่ให้น้องถ่ายรูปสวยๆตามกำแพงและประตูบ้านชาวบ้านมาหลายรูปอยู่
บนเกาะมีทุกอย่างเพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยว มินิมาร์ท มีร้านขายยา โรงเรียน คลินิค ธนาคาร อย่างสุดท้ายไม่อยากได้ แต่เขามีให้คือ คุก!
ใช่ค่ะ บนเกาะนี้มีคุกใช้คุมขังนักโทษอยู่ด้วย
อย่างเดียวที่ดูขาดสีสันไปหน่อยสำหรับสองเรา คือเรื่องของอาหาร ร้านอาหารส่วนใหญ่มีเมนูคล้ายกันไปหมด อยู่สามวันเลยออกจะเบื่อๆ และราคาค่อนข้างสูง โดยเฉลี่ยเรากินกันตกคนละราว 15๊USD สำหรับอาหารจานเดียวแสนธรรมดา ถ้าเป็นพวกอาหารทะเลย่าง ทอด จะราคาสูงขึ้นค่ะ
ช่วงที่เราไปเป็นวาเลนไทน์ มีนักเดินทางมาเป็นคู่ๆเยอะเชียว ตอนค่ำร้านอาหารริมชายหาดจุดเทียนวับวาม ความรักของคนอื่นเริ่มทำรุ่นน้องหนอนฯจมูกฟุดฟิด นางบอกว่า"เหม็นสาบความรัก" เป็นงั้นไป
เรื่องสุดท้ายที่อยากแนะนำคือ หากจะไป ให้เตรียม10 20 50 USD ไปจะใช้ง่าย
หนอนฯเอง ถือไปแต่100 USD ใหม่เอี่ยม เจอทอนมาเป็น20 USD ใบหนึ่งมีตำหนิหน่อยนึง เอาไปใช้ต่อไม่ได้ ไม่มีร้านไหนรับเลย
เอาEuro ใช้ ก็ขาดทุนเพราะหลายร้านใช้เรทเดียวกับUSD ค่ะ
สองเราใช้เงินไปดังนี้
ค่าตั๋ว 7,030
ค่าที่พักรวม 4 คืน (หารสอง) ประมาณ 5,000
และอีกคนละ 200 USD สำหรับค่ากิน ค่าทัวร์ ค่าเรือไปกลับสนามบิน
ไม่รวม15๊ USD ค่าsim card , กินข้าวที่สนามบินตอนรอบินกลับ และช้อปปิ้งส่วนตัวค่ะ
เรื่องที่พัก เราพบว่ามีราคาถูกกว่านี้อีกนะคะ
แต่หนอนฯและเพื่อนคิดว่าที่ได้พักนี้ก็ราคาดีงามและถูกใจมากๆแล้ว เลยเอามาแนะนำค่ะ
ถ้าท่านใดคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหนดี ลองส่องตั๋วมัลดีฟส์ดูนะคะ
ทะเลงาม ผู้คนน่ารัก ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี เดินทางสะดวกสบาย เที่ยวง่ายจริงๆค่ะ
ขอให้สนุกสนาน
... ทริปวาเลนไทน์ จ่ายเบาๆ @ มัลดีฟส์ ...
วาเลนไทน์ไม่ได้เป็นข้อจำกัดให้คนโสดต้องหลีกทาง เราไม่ได้เหม็นสาบความรัก เราโรแมนติค เราแค่โสด อิอิ
หนอนฯและเพื่อนรุ่นน้องที่เป็นคนชนเผ่าแบกเป้ ก็วางแผนไปเหล่ๆส่องๆบรรยากาศวันวานเลนไทน์ในประเทศที่เรียกได้ว่าเป็นปลายทางของชนเผ่าฮันนีมูน
มัลดีฟส์คือคำตอบด้วยราคาตั๋วกระแทกใจแต่สบายกระเป๋า (เราได้ราคา 7,030 บาท)
เงื่อนไขสองเรามีแค่ ห้ามเกินสองหมื่นบาท สำหรับเวลา 4 คืนค่ะ
เรากลับมาด้วยความ
ประทับใจกับที่พักด้วย ก็เลยอยากเอามาแนะนำค่ะ
เราบินวันที่12ก.พ. คืนแรกค้างที่โรงแรม Novina ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองมาเล่
ทำเลดีค่ะ อยู่ในย่านการค้า ใกล้ตลาด และใกล้ท่าเรือ speed boat ที่จะไปเกาะ อยู่ในระยะเดินแป้ปเดียวถึง
ราคาห้องเตียงคู่ที่เราได้ คือสองพันต้นๆ มีอาหารเช้าให้ และไปรับที่สนามบิน
เราให้ทางที่พักจัดการจองเรือspeed boat ไปเกาะ Mafushi ให้ (ราคาอยู่ในช่วง20-25 USD) มีให้เลือกหลายรอบ โดยเราใช้บริการเรือของ icom ที่มีหลายรอบให้เลือก และใช้เวลาเดินทางราว 45 นาที
เมื่อถึงเกาะMafushi เราขึ้นฝั่งก็เดินไปทางขวา ใกล้นิดเดียวค่ะเราก็จะถึงบ้านพักขนาดเล็กแสนธรรมดาหันหน้าออกทะเล ที่หนอนฯและเพื่อนถูกใจ เลยอยากเอามาแนะนำ
ที่พักของเราชื่อ Arora Inn ค่ะ จองจาก Agoda ได้ราคาเกือบสองพันต่อคืน (คนละเก้าร้อยบาท) ห้องเตียงคู่ ห้องน้ำในตัว แอร์ แต่ไม่มีทีวี wifi แรงดีเล่นเนตในห้องได้สบายค่ะ
เราพักที่นี่สามคืน เจ้าของและน้องบ่าวทีมงานสุภาพ นิสัยดี มีหัวใจบริการ
อาหารเช้าเหมือนกันทุกวัน มีขนมปังปิ้ง paratha เนย แยม ไส้กรอกทอด ถั่ว น้ำส้ม(หวานมากไป) ชาและกาแฟมีบริการให้ทั้งวันค่ะ
เราชอบที่นี่ ที่เงียบสงบและสะอาดมาก แอร์เย็นฉ่ำ สำคัญมากเลยค่ะตอนเราหลบแดดแรงตอนกลางวันน่ะ ที่สำคัญคือราคาถูกดีจัง อิอิ
เราซื้อทัวร์ออกทะเล (ซื้อจากโรงแรมค่ะ ) ในราคา35 USD น้องบ่าวทีมงานสองคนพาสองเราออกทะเลด้วยspeed boatลำกระทัดรัด แบบไม่มีคนอื่นร่วมทาง ก็นั่งเป็นนางพญากันไป
เราว่ายน้ำไม่เป็น น้องบ่าวก็บอกไม่เป็นไร น้องๆดูแลเราแบบที่ทำให้หนอนฯผู้ซึ่งเป็นโรคกลัวน้ำ กล้าลงไปลอยตุ๊บป่องๆ
ทะเลมัลดีฟส์งามจริง และที่เด็ดกว่านั้นคือ บนเกาะMafushi และออกทะเลไปจุดดำน้ำและเล่นน้ำที่สันทรายกลางทะเล เนตแรงมากค่ะ พอดีหนอนฯงานค่อนข้างยุ่งช่วงนั้น ทั้งไลน์ทั้งเมลล์จากคู่ค้าเข้ามารัวๆ หนอนฯนั่งตอบเมล์ ส่งไฟล์งานบนเรือกลางทะเลแบบไม่ติดขัด มันใช่เลย เกาะนี้ตอบโจทย์คนอยากเที่ยว แต่ทำงานหาเงินได้ไม่ขาดเนต หนอนฯรับออร์เดอร์ใหม่มาเล็กน้อย แต่สร้างความหมั่นไส้มากให้คู่ค้า เพราะส่งภาพทะเลสีฟ้าจัดไปให้ตอนที่บอกว่า โทรเบอร์ไม่ได้ ต้องใช้ไลน์เพราะเปลี่ยนsimค่ะ
Half day tour 4 จุด คือดูปะการัง ชมฝูงโลมา (เยอะมากกกกกก น่ารักที่สุด) ดำดูเต่า (รุ่นน้องเห็นตัวเดียว หนอนฯไม่ได้ลงจุดนี้ เพราะมัวแต่รับออร์เดอร์) และไปเล่นน้ำที่สันทราย ที่สวยมากๆ มีเราสองคนบนเกาะจิ๋วๆ เพราะน้องบ่าวทิ้งเราไว้แล้วแล่นเรือหนีไปพักนึง ปล่อยให้เรามีเวลาเป็นส่วนตัวสุดๆ เป็นเจ้าของสันทรายสีขาวนั้นพักใหญ่ ทำให้สองเราถือโอกาสถ่ายรูปในชุดทูพีชกันเต็มที่ ( อิอิ จัดไปชุดว่ายน้ำขาสั้นแขนยาว )
เวลาเหลือเยอะเพราะกลุ่มเราเล็กจิ๋วแค่สองคน พอน้องบ่าวชวนซื้อออฟชั่น15 USD เที่ยวเกาะเล็กๆเพื่อเดินเล่นและกินข้าว เราก็
ตั๋วเรือเพื่อกลับไปสนามบินเราก็ซื้อจากที่พักค่ะ ราคามาตรฐาน และบริการดีงาม เรือนั่งสบายกว่าขามาด้วย เป็นของ Go Mafushi
เราพักที่Mafushiสามคืน พักกายพักใจ วันที่ไม่ออกทะเลก็เล่นน้ำบริเวณ บิกินี่ บีช ที่น้ำใสมากกก
หนอนฯชอบบรรยากาศดีๆที่เกาะนี้ ที่ไม่มีบาร์เบียร์ ไม่มีเสียงดัง ไม่มีโป๊เปลือยมากเกินงาม ตามสถานที่นอกเขตบิกินี่ บีช นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แต่งกายสุภาพให้เกียรติเจ้าบ้านชาวพื้นเมืองบนเกาะที่เป็นมุสลิมค่ะ
บ้านเรือนและร้านค้า ก็ถ่ายรูปออกมาสวยค่ะ ขนาดหนอนฯปกติไม่ชอบถูกถ่ายรูป ครั้งนี้ยังเต๊ะเท่ให้น้องถ่ายรูปสวยๆตามกำแพงและประตูบ้านชาวบ้านมาหลายรูปอยู่
บนเกาะมีทุกอย่างเพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยว มินิมาร์ท มีร้านขายยา โรงเรียน คลินิค ธนาคาร อย่างสุดท้ายไม่อยากได้ แต่เขามีให้คือ คุก!
ใช่ค่ะ บนเกาะนี้มีคุกใช้คุมขังนักโทษอยู่ด้วย
อย่างเดียวที่ดูขาดสีสันไปหน่อยสำหรับสองเรา คือเรื่องของอาหาร ร้านอาหารส่วนใหญ่มีเมนูคล้ายกันไปหมด อยู่สามวันเลยออกจะเบื่อๆ และราคาค่อนข้างสูง โดยเฉลี่ยเรากินกันตกคนละราว 15๊USD สำหรับอาหารจานเดียวแสนธรรมดา ถ้าเป็นพวกอาหารทะเลย่าง ทอด จะราคาสูงขึ้นค่ะ
ช่วงที่เราไปเป็นวาเลนไทน์ มีนักเดินทางมาเป็นคู่ๆเยอะเชียว ตอนค่ำร้านอาหารริมชายหาดจุดเทียนวับวาม ความรักของคนอื่นเริ่มทำรุ่นน้องหนอนฯจมูกฟุดฟิด นางบอกว่า"เหม็นสาบความรัก" เป็นงั้นไป
เรื่องสุดท้ายที่อยากแนะนำคือ หากจะไป ให้เตรียม10 20 50 USD ไปจะใช้ง่าย
หนอนฯเอง ถือไปแต่100 USD ใหม่เอี่ยม เจอทอนมาเป็น20 USD ใบหนึ่งมีตำหนิหน่อยนึง เอาไปใช้ต่อไม่ได้ ไม่มีร้านไหนรับเลย
เอาEuro ใช้ ก็ขาดทุนเพราะหลายร้านใช้เรทเดียวกับUSD ค่ะ
สองเราใช้เงินไปดังนี้
ค่าตั๋ว 7,030
ค่าที่พักรวม 4 คืน (หารสอง) ประมาณ 5,000
และอีกคนละ 200 USD สำหรับค่ากิน ค่าทัวร์ ค่าเรือไปกลับสนามบิน
ไม่รวม15๊ USD ค่าsim card , กินข้าวที่สนามบินตอนรอบินกลับ และช้อปปิ้งส่วนตัวค่ะ
เรื่องที่พัก เราพบว่ามีราคาถูกกว่านี้อีกนะคะ
แต่หนอนฯและเพื่อนคิดว่าที่ได้พักนี้ก็ราคาดีงามและถูกใจมากๆแล้ว เลยเอามาแนะนำค่ะ
ถ้าท่านใดคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหนดี ลองส่องตั๋วมัลดีฟส์ดูนะคะ
ทะเลงาม ผู้คนน่ารัก ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี เดินทางสะดวกสบาย เที่ยวง่ายจริงๆค่ะ
ขอให้สนุกสนาน