ทำอย่างไร ? เมื่ออยากมีรถสักคัน แต่ไม่อยาก ...ทุกข์… กับค่าผ่อนที่มี
โพสนี้เรามี เคล็ดลับผ่อนรถสบายๆ ด้วยค่าเดินทาง ทำอย่างไรไปดูกัน
1.ถามตัวเองก่อนว่าจะมีรายได้ต่อเนื่องพอจะผ่อนครบกำหนดไหม
2.คำนวณค่าเดินทางต่อเที่ยว × 2 = ค่าเดินทางต่อวัน จากนั้น × 31 = ค่าเดินทางต่อเดือน
ตัวเลขตรงนี้แหละที่จะบอกว่าเราผ่อนได้เท่าไร
ยกตัวอย่างเช่น
เราเดินทางด้วย วินมอไซต์ ต่อรถเมย์ ต่อวิน = 47 บาทต่อเที่ยว ×2 = 94 บาทต่อวัน ×31 = 2,917 บาทต่อเดือน
เคล็ดลับสำคัญ คือ ค่าผ่อน < ค่าเดินทาง
หรือก็ คือ ค่าผ่อนต้องไม่มากกว่า 2,917 บาทนั้นเอง
3.หารถที่ถูกใจสักคัน แต่ถ้าหาแล้ว ค่าผ่อนสูงกว่า 2,917 บาท
เรามี 2 วิธี ที่จะทำให้ค่าผ่อน < ค่าเดินทาง
วิธีที่ 1
ลดค่าผ่อนลง เช่น
- ลดราคารถที่ต้องการลง ( ลดรุ่นลงมา เปลี่ยนยี่ห้อ ลดฟังชั่น ลดขนาด)
- เพิ่มระยะเวลาผ่อน
- ซื้อรถมือสอง เป็นต้น
วิธีที่ 2
เพิ่มเงินดาวน์ด้วยเงินออม วางแผนไว้ก่อนจะซื้อสักหน่อย จะได้มีเวลาเก็บออมให้ถึงเป้าหมายที่เราต้องการจะดาวน์
หรือ จะใช้ทั้ง 2 วิธีเลยก็ได้ แต่ถ้าทำแล้ว ค่าผ่อนยังสูงกว่าค่าเดินทางมาก แสดงว่า เราไม่จำเป็นต้องซื้อรถ เพราะค่าเดินทางถูกอยู่แล้ว หรือ เราอยากได้รถที่ราคาสูงกว่าความจำเป็น เราก็ต้องเพิ่มเงินดาวน์ ยิ่งสูงกว่าค่าเดินทางเท่าไร ก็ยิ่งต้องเพิ่มเงินดาวน์มากขึ้น จนกว่าค่าผ่อนจะไม่มากกว่าค่าเดินทาง
ถามว่ามากกว่าค่าเดินทางได้ไหม ตามจริงก็ได้ครับ แต่เราจะไม่ผ่อนชิลนะ ต้องลดค่าใช้จ่ายเพื่อความสุขลง เพื่อมาทดแทนส่วนนี้ ทั้งนี้อย่างมีปัจจัยอื่นที่ต้องนำมาพิจารณา เช่น ค่าจอดรถ ค่าน้ำมัน เป็นต้น
เคล็ดลับ ผ่อนรถสบายๆ ด้วยค่าเดินทาง
โพสนี้เรามี เคล็ดลับผ่อนรถสบายๆ ด้วยค่าเดินทาง ทำอย่างไรไปดูกัน
1.ถามตัวเองก่อนว่าจะมีรายได้ต่อเนื่องพอจะผ่อนครบกำหนดไหม
2.คำนวณค่าเดินทางต่อเที่ยว × 2 = ค่าเดินทางต่อวัน จากนั้น × 31 = ค่าเดินทางต่อเดือน
ตัวเลขตรงนี้แหละที่จะบอกว่าเราผ่อนได้เท่าไร
ยกตัวอย่างเช่น
เราเดินทางด้วย วินมอไซต์ ต่อรถเมย์ ต่อวิน = 47 บาทต่อเที่ยว ×2 = 94 บาทต่อวัน ×31 = 2,917 บาทต่อเดือน
เคล็ดลับสำคัญ คือ ค่าผ่อน < ค่าเดินทาง
หรือก็ คือ ค่าผ่อนต้องไม่มากกว่า 2,917 บาทนั้นเอง
3.หารถที่ถูกใจสักคัน แต่ถ้าหาแล้ว ค่าผ่อนสูงกว่า 2,917 บาท
เรามี 2 วิธี ที่จะทำให้ค่าผ่อน < ค่าเดินทาง
วิธีที่ 1
ลดค่าผ่อนลง เช่น
- ลดราคารถที่ต้องการลง ( ลดรุ่นลงมา เปลี่ยนยี่ห้อ ลดฟังชั่น ลดขนาด)
- เพิ่มระยะเวลาผ่อน
- ซื้อรถมือสอง เป็นต้น
วิธีที่ 2
เพิ่มเงินดาวน์ด้วยเงินออม วางแผนไว้ก่อนจะซื้อสักหน่อย จะได้มีเวลาเก็บออมให้ถึงเป้าหมายที่เราต้องการจะดาวน์
หรือ จะใช้ทั้ง 2 วิธีเลยก็ได้ แต่ถ้าทำแล้ว ค่าผ่อนยังสูงกว่าค่าเดินทางมาก แสดงว่า เราไม่จำเป็นต้องซื้อรถ เพราะค่าเดินทางถูกอยู่แล้ว หรือ เราอยากได้รถที่ราคาสูงกว่าความจำเป็น เราก็ต้องเพิ่มเงินดาวน์ ยิ่งสูงกว่าค่าเดินทางเท่าไร ก็ยิ่งต้องเพิ่มเงินดาวน์มากขึ้น จนกว่าค่าผ่อนจะไม่มากกว่าค่าเดินทาง
ถามว่ามากกว่าค่าเดินทางได้ไหม ตามจริงก็ได้ครับ แต่เราจะไม่ผ่อนชิลนะ ต้องลดค่าใช้จ่ายเพื่อความสุขลง เพื่อมาทดแทนส่วนนี้ ทั้งนี้อย่างมีปัจจัยอื่นที่ต้องนำมาพิจารณา เช่น ค่าจอดรถ ค่าน้ำมัน เป็นต้น