สวัสดีครับ จขกท อยากจะมาระบายและขอคำปรึกษา คือเรื่องมีอยู่ว่าในช่วง5ปีที่ผ่านมา พ่อกับแม่ของผมได้ตัดสินใจแยกทางกัน แม่ผมตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพกับน้องชาย ส่วนผมอยู่ต่างจังหวัดกับพ่อ
ซักพักหนึ่งแม่ได้ตัดสินใจคบหากับผู้ชายคนหนึ่ง(สมมุติชื่อL) โดยแม่ผมทำงานเอกชน ส่วนLทำเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง สถานะของLจึงมาเป็นพ่อเลี้ยงของผม แต่ด้วยความที่ผมอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัดผมจึงไม่ค่อยได้เจอLมากนัก จะเจอกันปีละครั้งช่วงผมปิดเทอม ผมไม่ค่อยชอบLเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะนิสัยที่แทบจะตรงกันข้ามกันทุกอย่าง แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ปีแรกที่ผมได้ไปอยู่กับแม่ทุกอย่างก็ดูปกติ ก่อนผมกลับต่างจังหวัดLสัญญากับผมว่าจะดูแลแม่และน้องเป็นอย่างดี
ปีถัดมา อย่างที่ทุกคนประสบเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง มันเริ่มกระทบกับธุระกิจของL บ้านเช่าหลังใหม่ที่เล็กลงจากเดิม Lบอกผมว่าเป็นธรรมดาของธุรกิจมีขึ้นก็มีลง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็อยู่กันไปเท่าที่มี
ปีถัดมาซึ่งตอนนั้นยังไม่ปิดเทอม แม่เริ่มทนไม่ไหวกับปัญหาที่ออฟฟิต Lจึงขอให้แม่ลาออกมาทำธุรกิจด้วยกัน แต่ต่อมา แม่และL ทะเลาะกันหนักมาก แม่เราเล่าให้ฟังว่าธุรกิจเขาไปได้ไม่ดี มันเริ่มเจ๊ง ของในบ้านเริ่มถูกเอาไปขายและจำนำเพื่อเอาเงินไปหมุน Lที่เป็นคนอารมณ์รุนแรงอยู่แล้ว พอเจอสถานการณ์แบบนี้เขายิ่งรุนแรง หยาบคายกับแม่ ขึ้นเสียงกันอยู่บ่อย จนถึงจุดนึงเขาจะเอาpsp หริออะไรของน้องเรานี่แหละไปขาย แม่ผมเริ่มรับไม่ได้ จนตอนที่Lเผลอ แม่กับน้องก็หนีออกมา ไปขออยู่อาศัยกับเพื่อนของแม่ Lตกใจมากตามหาแม่กับน้องไม่เจอจนขับรถมาตามหาผมที่ต่างจังหวัด บุกมาถึงในมหาลัยผม ผมได้รับสายจากเจ้าหน้าที่ๆคณะว่าคุณพ่อจะมาขอพบ ผมงงมากว่าทำไมพ่อไม่โทรมาเอง แต่พอคณะยื่นสายให้คนที่อ้างว่าเป็นพ่อผม แต่เสียงนั้นเป็นเสียงของL ตอนนั้นผมเรียนอยู่ตึกของอีกคณะผมจึงรีบตอบปัดแล้วตัดสายไป แล้วรีบติดต่อแม่ แม่จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ผมเห็นLเดินวนเวียนอยู่แถวๆคณะ3-4วัน จนเขาหายไป ช่วงปิดเทอมก็มาถึงพอดี ผมก็ไปกรุงเทพก็ได้อยู่ที่บ้านของเพื่อนแม่ แม่ซึ่งกำลังหางานใหม่แต่ก็ยังไม่ได้ เงินเริ่มหมดลง ประกอบกับL ที่กำลังพยายามง้อแม่ผมอยู่ แม่จึงยอมใจอ่อนกลับไปอยู่กับL ในช่วงที่ผมอยู่ด้วยก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
ปีถัดมา ปิดเทอมมาถึงผมขึ้นกรุงเทพ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือบ้านเช่าใหม่ที่เล็กที่สุด แต่มีสวนให้หมาแมววิ่งเล่น แม่ชอบบ้านหลังนี้ ส่วนLตอนนี้คือเจ๊งแบบเต็มตัว กลายเป็นคนตกงานมาเป็นพ่อบ้าน ไม่มีรถขับแล้ว ส่วนแม่ไปทำงานเอกชนซึ่งไกลจากบ้านมาก ประมาณ50กิโล นั่งรถตู้ ดีหน่อยที่ตำแหน่งแม่ค่อนข้างไม่ซีเรียสเรื่องเวลาเข้างานมากนัก แต่แม่ก็ต้องออกตีห้าและกลับถึงบ้านเกือบ3ทุ่มทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ ส่วนLดูแลบ้านอย่างดี
ปีถัดมา(ปีที่แล้ว) ผมเรียนจบแล้วขึ้นมาหางานทำที่กรุงเทพ ส่วนL เริ่มมีงานเข้ามา สถานการณ์เหมิอนว่าจะดีขึ้น จนกระทั่งLยืมเงินแม่เราไปลงทุนงานใหม่ แต่มันเจ๊งยับเยิน
รถไม่มีขับ แต่ปีนี้ไม่เหมือนปีที่แล้ว Lตกงานแต่ไม่ทำงานบ้าน อาจจะเป็นเพราะมีผมคอยทำอยู่แล้วด้วย สองสามเดือนนั้นจึงได้กินกันแต่ของแห้ง พวกหมูฝอย ต้องเอาเงินที่ได้เป็นของขวัญจากญาติช่วงรับปริญญามาซื้อข้าวกิน แม่กับLก็มีปัญหากันมาซักพัก เพราะแม่ต้องแบกหน้าไปขอยืมเงินคนนู้นคนนี้ ส่วนLช่วยอะไรไม่ค่อยได้ อยู่บ้านฟังแต่ดวงชตาราศี มีวันนึงเราออกจากบ้านไปสมัครงาน กลับมาเจอขี้แมวในครัว3กอง ขยะหลังบ้านล้น กับL ที่นอนดูyoutube วันนั้นในใจคือโมโหมากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมอึดอัดมาตลอดหลายเดือนที่ต้องอยู่ร่วมกับL อาจจะเป็นเพราะบ้านหลังเล็กด้วยแหละ 4คนนอนห้องเดียวกันหมด แต่ช่วงที่Lกลับต่างจังหวัด ผม แม่และน้องมีความสุขมาก ความรักที่แม่มีต่อLผมเดาว่ามันหมดลงนานแล้ว ผมไม่อยากให้Lกลับมาอีก แม่และน้องก็คิดเหมือนกัน
ช่วงที่Lไม่อยู่ ผมได้งานทำพอดี ถึงจะเครียดจากงานแต่กลับบ้านมาเจอหน้าแม่และน้อง
ก็หายเหนื่อยแล้ว ความทุกข์มาเยือนอีกครั้งเมื่อLกลับมา การกลับบ้านไม่แฮปปี้เหมือนเคย ทุกคนออกจากบ้านไปทำงาน ยังต้องกลับมาเจอLที่ดูyoutube ไม่ช่วยงานบ้าน ขี้แมวไม่เก็บ ข้าวหมาไม่ให้ เวลากินข้าวล้างแต่จานตัวเอง จานคนอื่นไม่ล้างให้ ส่วนผ้าผมก็ซักให้ช่วงวันเสาร์ทั้งของครอบครัวผมและของL ทุกคนทั้งแม่ ผม และน้องเอิอมระอาเต็มทน แต่ไล่ยังไง แสดงออกยังไง เขาก็ไม่ยอมไปอยู่ที่อื่นเลย
ตอนนี้แม่เครียดมาก ล่าสุดทะเลาะกันอีก แม่จะเป็นฝ่ายไป ผมและน้องก็ต้องไป แต่ที่อยู่ที่เลี้ยงสัตว์ได้และไม่ไกลจากที่ทำงานแม่และผมหายากมาก ถึงมีก็แพงมากกก แม่ตัดสินใจจะทิ้งหมาแมว แต่ผมกับน้องไม่โอเคเลย ตัดใจทิ้งพวกมันไม่ลงจริงๆ ทำไมต้องทิ้งพวกมันเพื่อหนีคนหน้าทนคนนึงด้วย ค่าบ้านค่าไฟ แม่ก็จ่ายทั้งนั้น Lอยู่ฟรีๆแถมติดหนี้แม่อีก
ผมพอจะทำอะไรหรือมีวิธีไหนเพื่อให้Lออกไปจากชีวิตครอบครัวผมได้บ้างไหมครับ ขอก็แล้ว ไม่มีใครพูดด้วยก็แล้ว เขาตามติดไม่ยอมไปไหน เครียดมากเพราะแมวเยอะทิ้งไม่ลงจริงๆ เครียดที่เห็นแม่ไม่สบายใจ ไม่มีความสุข
แขกที่ไม่ได้รับเชิญ(ครอบครัว)
ซักพักหนึ่งแม่ได้ตัดสินใจคบหากับผู้ชายคนหนึ่ง(สมมุติชื่อL) โดยแม่ผมทำงานเอกชน ส่วนLทำเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง สถานะของLจึงมาเป็นพ่อเลี้ยงของผม แต่ด้วยความที่ผมอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัดผมจึงไม่ค่อยได้เจอLมากนัก จะเจอกันปีละครั้งช่วงผมปิดเทอม ผมไม่ค่อยชอบLเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะนิสัยที่แทบจะตรงกันข้ามกันทุกอย่าง แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ปีแรกที่ผมได้ไปอยู่กับแม่ทุกอย่างก็ดูปกติ ก่อนผมกลับต่างจังหวัดLสัญญากับผมว่าจะดูแลแม่และน้องเป็นอย่างดี
ปีถัดมา อย่างที่ทุกคนประสบเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง มันเริ่มกระทบกับธุระกิจของL บ้านเช่าหลังใหม่ที่เล็กลงจากเดิม Lบอกผมว่าเป็นธรรมดาของธุรกิจมีขึ้นก็มีลง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็อยู่กันไปเท่าที่มี
ปีถัดมาซึ่งตอนนั้นยังไม่ปิดเทอม แม่เริ่มทนไม่ไหวกับปัญหาที่ออฟฟิต Lจึงขอให้แม่ลาออกมาทำธุรกิจด้วยกัน แต่ต่อมา แม่และL ทะเลาะกันหนักมาก แม่เราเล่าให้ฟังว่าธุรกิจเขาไปได้ไม่ดี มันเริ่มเจ๊ง ของในบ้านเริ่มถูกเอาไปขายและจำนำเพื่อเอาเงินไปหมุน Lที่เป็นคนอารมณ์รุนแรงอยู่แล้ว พอเจอสถานการณ์แบบนี้เขายิ่งรุนแรง หยาบคายกับแม่ ขึ้นเสียงกันอยู่บ่อย จนถึงจุดนึงเขาจะเอาpsp หริออะไรของน้องเรานี่แหละไปขาย แม่ผมเริ่มรับไม่ได้ จนตอนที่Lเผลอ แม่กับน้องก็หนีออกมา ไปขออยู่อาศัยกับเพื่อนของแม่ Lตกใจมากตามหาแม่กับน้องไม่เจอจนขับรถมาตามหาผมที่ต่างจังหวัด บุกมาถึงในมหาลัยผม ผมได้รับสายจากเจ้าหน้าที่ๆคณะว่าคุณพ่อจะมาขอพบ ผมงงมากว่าทำไมพ่อไม่โทรมาเอง แต่พอคณะยื่นสายให้คนที่อ้างว่าเป็นพ่อผม แต่เสียงนั้นเป็นเสียงของL ตอนนั้นผมเรียนอยู่ตึกของอีกคณะผมจึงรีบตอบปัดแล้วตัดสายไป แล้วรีบติดต่อแม่ แม่จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ผมเห็นLเดินวนเวียนอยู่แถวๆคณะ3-4วัน จนเขาหายไป ช่วงปิดเทอมก็มาถึงพอดี ผมก็ไปกรุงเทพก็ได้อยู่ที่บ้านของเพื่อนแม่ แม่ซึ่งกำลังหางานใหม่แต่ก็ยังไม่ได้ เงินเริ่มหมดลง ประกอบกับL ที่กำลังพยายามง้อแม่ผมอยู่ แม่จึงยอมใจอ่อนกลับไปอยู่กับL ในช่วงที่ผมอยู่ด้วยก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
ปีถัดมา ปิดเทอมมาถึงผมขึ้นกรุงเทพ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือบ้านเช่าใหม่ที่เล็กที่สุด แต่มีสวนให้หมาแมววิ่งเล่น แม่ชอบบ้านหลังนี้ ส่วนLตอนนี้คือเจ๊งแบบเต็มตัว กลายเป็นคนตกงานมาเป็นพ่อบ้าน ไม่มีรถขับแล้ว ส่วนแม่ไปทำงานเอกชนซึ่งไกลจากบ้านมาก ประมาณ50กิโล นั่งรถตู้ ดีหน่อยที่ตำแหน่งแม่ค่อนข้างไม่ซีเรียสเรื่องเวลาเข้างานมากนัก แต่แม่ก็ต้องออกตีห้าและกลับถึงบ้านเกือบ3ทุ่มทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ ส่วนLดูแลบ้านอย่างดี
ปีถัดมา(ปีที่แล้ว) ผมเรียนจบแล้วขึ้นมาหางานทำที่กรุงเทพ ส่วนL เริ่มมีงานเข้ามา สถานการณ์เหมิอนว่าจะดีขึ้น จนกระทั่งLยืมเงินแม่เราไปลงทุนงานใหม่ แต่มันเจ๊งยับเยิน
รถไม่มีขับ แต่ปีนี้ไม่เหมือนปีที่แล้ว Lตกงานแต่ไม่ทำงานบ้าน อาจจะเป็นเพราะมีผมคอยทำอยู่แล้วด้วย สองสามเดือนนั้นจึงได้กินกันแต่ของแห้ง พวกหมูฝอย ต้องเอาเงินที่ได้เป็นของขวัญจากญาติช่วงรับปริญญามาซื้อข้าวกิน แม่กับLก็มีปัญหากันมาซักพัก เพราะแม่ต้องแบกหน้าไปขอยืมเงินคนนู้นคนนี้ ส่วนLช่วยอะไรไม่ค่อยได้ อยู่บ้านฟังแต่ดวงชตาราศี มีวันนึงเราออกจากบ้านไปสมัครงาน กลับมาเจอขี้แมวในครัว3กอง ขยะหลังบ้านล้น กับL ที่นอนดูyoutube วันนั้นในใจคือโมโหมากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมอึดอัดมาตลอดหลายเดือนที่ต้องอยู่ร่วมกับL อาจจะเป็นเพราะบ้านหลังเล็กด้วยแหละ 4คนนอนห้องเดียวกันหมด แต่ช่วงที่Lกลับต่างจังหวัด ผม แม่และน้องมีความสุขมาก ความรักที่แม่มีต่อLผมเดาว่ามันหมดลงนานแล้ว ผมไม่อยากให้Lกลับมาอีก แม่และน้องก็คิดเหมือนกัน
ช่วงที่Lไม่อยู่ ผมได้งานทำพอดี ถึงจะเครียดจากงานแต่กลับบ้านมาเจอหน้าแม่และน้อง
ก็หายเหนื่อยแล้ว ความทุกข์มาเยือนอีกครั้งเมื่อLกลับมา การกลับบ้านไม่แฮปปี้เหมือนเคย ทุกคนออกจากบ้านไปทำงาน ยังต้องกลับมาเจอLที่ดูyoutube ไม่ช่วยงานบ้าน ขี้แมวไม่เก็บ ข้าวหมาไม่ให้ เวลากินข้าวล้างแต่จานตัวเอง จานคนอื่นไม่ล้างให้ ส่วนผ้าผมก็ซักให้ช่วงวันเสาร์ทั้งของครอบครัวผมและของL ทุกคนทั้งแม่ ผม และน้องเอิอมระอาเต็มทน แต่ไล่ยังไง แสดงออกยังไง เขาก็ไม่ยอมไปอยู่ที่อื่นเลย
ตอนนี้แม่เครียดมาก ล่าสุดทะเลาะกันอีก แม่จะเป็นฝ่ายไป ผมและน้องก็ต้องไป แต่ที่อยู่ที่เลี้ยงสัตว์ได้และไม่ไกลจากที่ทำงานแม่และผมหายากมาก ถึงมีก็แพงมากกก แม่ตัดสินใจจะทิ้งหมาแมว แต่ผมกับน้องไม่โอเคเลย ตัดใจทิ้งพวกมันไม่ลงจริงๆ ทำไมต้องทิ้งพวกมันเพื่อหนีคนหน้าทนคนนึงด้วย ค่าบ้านค่าไฟ แม่ก็จ่ายทั้งนั้น Lอยู่ฟรีๆแถมติดหนี้แม่อีก
ผมพอจะทำอะไรหรือมีวิธีไหนเพื่อให้Lออกไปจากชีวิตครอบครัวผมได้บ้างไหมครับ ขอก็แล้ว ไม่มีใครพูดด้วยก็แล้ว เขาตามติดไม่ยอมไปไหน เครียดมากเพราะแมวเยอะทิ้งไม่ลงจริงๆ เครียดที่เห็นแม่ไม่สบายใจ ไม่มีความสุข