สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป
วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ การขอวีซ่าและไปอเมริกาครั้งแรกในชีวิต แต่มันจะไม่ธรรมดานิสนึงเพราะว่า.... มันเป็นการขอวีซ่าจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่จากประเทศไทย เห้ยยย!! เป็นออแพร์ที่ยุโรปก็ขอวีซ่าไปเที่ยว USA ได้อ่ะแกร์!
ถ้าใครอยากข้ามไปดูวิดีโอ ลิ้งนี้เลยจ้า
https://youtu.be/g-T3qQ9Z4kk
เราเป็นออแพร์ที่ประเทศเบลเยี่ยม ตอนนั้นมาได้เกือบๆจะ 3 เดือนแล้ว ช่วงนั้นมีแพลนว่าจะไปช่วงวันคริสต์มาส เห็นเทศกาลนี้ที่ยุโรปแล้ว อยากเปลี่ยนไปเห็นแถบทวีปอเมริกาบ้าง คือจริงๆจะไปหาพี่บ่าวด้วยน่ะแร่ะ 555
ตอนแรกคือเราไม่แน่ใจเลยว่ามันจะสามารถขอวีซ่าไปประเทศนึง จากอีกประเทศนึงที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิดได้ด้วยหรอวะ เราเลยทำการศึกษาพอสมควรไม่ว่าจะจากในเน็ตหรือกลุ่มเพจต่างๆ ก็เลยได้ข้อสรุปมาว่า มันสามารถทำได้เว้ยเห้ย ถ้าเรามี Residence card ของประเทศที่เราจะไปยื่นขอ (ขออธิบายให้สำหรับคนที่อาจจะไม่ทราบว่าถ้าเราไปอยู่ในประเทศไหนที่มากกว่า 6 เดือน เราจะได้ Residence card มาครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าออแพร์ นักเรียน ทำงาน หรือแต่งงาน **ถ้าผิดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ) เราก็สามารถยื่นขอได้ และถ้ามี Work Permit ด้วยก็ไม่น่าจะมีปัญหา
แล้วเราก็จัดการเตรียมเอกสารทุกอย่างให้เรียบร้อย ตามที่เว็บไซร์ของสถาณทูตได้ระบุไว้ว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง สำหรับคนที่เป็นออแพร์ แนะนำว่าควรจะเตรียมพวก Work permit หนังสือเชิญและสัญญาจ้างที่ทำไว้กับโฮสแฟมิลี่ แทนใบรับรองการทำงาน แต่ถ้าเป็นนักเรียนก็คงจะต้องขอหนังสือรับรองการเป็นนักเรียนจากมหาลัย เตรียมไว้ทุกอย่างเผื่อเค้าขอดู เราคิดว่าทุกอย่างก็คงจะเหมือนทำที่ไทย
พอถึงวันนัดสัมภาษณ์ ตอนเราเข้าไปเจอคนหลากหลายประเทศมาก คนไทยด้วยกันก็ยังเจอเลย ส่วนคนเบลเยี่ยมนั้น คงไม่ต้องถาม ไม่มีหรอก เพราะพาสปอร์ตแบบเค้านั้น ทำการ Apply ในระบบออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องมาสัมภาษณ์ที่สถาณทูต
พอถึงคิวเราเรียกสัมภาษณ์แล้ว เข้าไปยังไม่ทันได้กระพิบตาเลย เสร็จแล้ว! 555 คือเร็วมากกกก!
คำถามก็มีไม่กี่คำถามเลย
จนท. : พูดภาษาอะไรได้ครับ อังกฤษ/ฝรั่งเศส/ดัตช์ ? (คนเบลเยี่ยมพูด 2 ภาษา ฝรั่งเศส กับ ดัตช์)
เรา : อังกฤษค่ะ
จนท. : จะไปไหนครับ รัฐอะไร และไปกี่วัน?
เรา : รัฐแคลิฟอเนียค่ะ ประมาณ 2 อาทิตย์
จนท. : เดินทางคนเดียวใช่ไหม มีญาติหรือครอบครัวอยู่ที่นั่นหรือป่าว?
เรา : คนเดียว / ไม่มีค่ะ
จนท. : ใครออกค่าใช้จ่ายให้?
เรา : ออกเองค่ะ (ในแบบฟอร์มที่กรอกไว้ระบุว่าได้เงินเดือน 500 ยูโรต่อเดือน)
จนท. : วีซ่าของคุณอนุมัติ 6 เดือน
เสร็จแล้วก็สแกนลายนิ้วมือ เอกสารอะไรที่เตรียมไปแม้แต่เอกสารการเงินไม่ขอดูเลยสักนิด (แต่เตรียมไปไว้เผื่อก็จะดีมากๆ)
คือง่ายมาก เร็วมาก แบบไม่ได้คาดคิด อาจจะเป็นเพราะว่าเราก็กรอกข้อมูลทุกอย่างไว้ในแบบฟอร์มไว้เรียบร้อยแล้ว และเค้าก็แค่ถามทวนๆดู และอาจจะเพราะเราแนบใบ Work Permit ไว้ในพาสปอร์มอยู่แล้ว เค้าเลยอาจจะไม่ขอดูหลักฐานอย่างอื่นมากมายมั้ง แต่ก็ได้มาแบบ งงๆ จริงๆแอบหวังว่าจะได้สัก 10 ปี แหมนะ 555 ได้แค่นี้ก็ดีใจแล่ว ดีกว่าโดนปฎิเสธเนาะ แล้วหลังจากนั้นเราก็ได้รับพาสปอร์ตคืนภายในสองวัน
ตอนที่เดินออกมาจากสถาณทูตเจอ จนท.ที่รับฝากกระเป๋าเป็นผู้ทอมตาน้ำข้าวเม้าส์ให้ฟังว่านางก็กิ๊กสาวไทยอยู่เหมือนกันนะ แหม่พ่อคุณ555
เอาล่ะทุกคนนนนนนน ถึง ณ ตอนที่เครื่องกำลังจะลง
เราบินไปลงสนามบิน LAX นะคะ ที่ลอสแองเจอลิส พอลงเครื่องปุ๊บ ก่อนที่เราจะไปถึง ตม. เราจะต้องกรอกข้อมูลขาเข้าประเทศก่อน ซึ่งที่ LA นั้นไม่มีกรอกแบบกระดาษแล้ว ทำผ่านตู้คอม ก็จะต้องสแกนพาสปอร์ตข้อมูลทั่วไปที่ต้องกรอก เสร็จแล้วก็จะมีใบขาวๆคล้ายใบเสร็จปริ้นออกมา เอาติดไปด้วยนะคะ เพราะต้องให้ในด่านผู้ตรวจกระเป๋า
โอเคพอได้ใบมาเราก็เดินไปที่ ตม.เลยจ้า บอกตรงๆว่าตื่นเต้นนะ เพราะอ่านมาเยอะกับชื่อเสียงเรื่องลือของ ตม. ที่อเมริกา แต่ก็ทำใจร่มๆ ใจดีสู้เสือเข้าไว้
จนท. : อยู่นานแค่ไหน?
เรา : กลับกลางเดือนมกราคมค่ะ (ตอนนั้นคือต้นเดือนพฤศจิกายน ณ วันที่ไปถึง)
จนท. : โห นานนะเนี่ย นานจังอ่ะ
เรา : ก็พักร้อนอ่ะค่ะ หยุดพักผ่อน
จนท. : พักกับใครที่ไหน ?
เรา : บ้านเพื่อน แล้วก็โรงแรมด้วย เพราะจะต้องเดินทางหลายที่ แต่ส่วนมากก็บ้านเพื่อนค่ะ
จนท. : มาวีซ่าอะไร B อะไร 1,2 ?
เรา : วีซ่าท่องเที่ยวค่ะ ไม่แน่ใจว่า B อะไร จำไม่ได้
จนท. : ทำงานอะไร?
เรา : ออแพร์ที่เบลเยี่ยมค่ะ
จนท. : มีตั๋วกลับไหม?
เรา : มีค่ะ (ยื่นให้ดู แต่ไม่ดู)
จนท. : มาวีซ่าทำงานที่นี่หรือป่าว? (หลอกถามย้ำๆ)
เรา : ไม่ค่ะ แค่มาเที่ยว
จนท. : มีเงินมาเท่าไหร่ ?
เรา : ตอนนี้มีเงินสด 1,000 ยูโรค่ะ (แต่ก็ไม่ขอดู)
จนท. : จะมาเป็นออแพร์ที่อเมริการึป่าว ?
เรา : ไม่ค่ะ ยังไม่หมดสัญญาที่นู้นเลย (ที่จริงแล้วคือไม่กลับไปเบลเยี่ยมแล้ว หลังจากอเมริกาก็กลับไทยเลย)
จากนั้นเค้าก็ปั้มให้อยู่ได้ถึง 6 เดือน เกินวันที่วีซ่าจะหมดอายุไปอีก (วีหมด เดือนมีนา ปั้มให้ถึงพฤาภาคม) แต่ปัจจุบันกลับไทยมาแล้วจ้า
เสร็จแล้วก็ไปด่านตรวจกระเป๋าเรียกเก็บใบขาเข้าที่ปริ้นออกมาจากตู้ แล้วก็ถามเราว่าถุงนั้นคืออะไร เราบอกว่า ช็อคโกแลต และก็ปล่อยเราผ่านมา
เอาจริงๆทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ผ่านมาได้อย่างฉลุยนะ ไม่ติดขัดปัญหาอะไรเลย ทุกอย่างง่ายมาก ง่ายไปหมด
ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆคนไหนที่เข้ามาอ่านได้ข้อมูลที่อาจจะเป็นประโยชน์นะคะ
เรายังมีวิดีโอวันคริสต์มาส และเรื่องราวของเราขณะที่อยูในอเมริกา และวิดีโอท่องเที่ยวทั้งใน USA และประเทศอื่นๆ เพื่อนๆคนไหนสนใจ ฝากติดตาม เข้าไปรับชมกันได้นะคะ
https://www.youtube.com/channel/UCbpI3igJkNRxBS01I0ucxYw?view_as=subscriber 
ขอวีซ่าไปอเมริกาง่ายมาก! จากประเทศในยุโรป / ปสก ตม. ที่อเมริกา ฉบับอัพเดต 2018-2019
วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ การขอวีซ่าและไปอเมริกาครั้งแรกในชีวิต แต่มันจะไม่ธรรมดานิสนึงเพราะว่า.... มันเป็นการขอวีซ่าจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่จากประเทศไทย เห้ยยย!! เป็นออแพร์ที่ยุโรปก็ขอวีซ่าไปเที่ยว USA ได้อ่ะแกร์!
ถ้าใครอยากข้ามไปดูวิดีโอ ลิ้งนี้เลยจ้า https://youtu.be/g-T3qQ9Z4kk
เราเป็นออแพร์ที่ประเทศเบลเยี่ยม ตอนนั้นมาได้เกือบๆจะ 3 เดือนแล้ว ช่วงนั้นมีแพลนว่าจะไปช่วงวันคริสต์มาส เห็นเทศกาลนี้ที่ยุโรปแล้ว อยากเปลี่ยนไปเห็นแถบทวีปอเมริกาบ้าง คือจริงๆจะไปหาพี่บ่าวด้วยน่ะแร่ะ 555
ตอนแรกคือเราไม่แน่ใจเลยว่ามันจะสามารถขอวีซ่าไปประเทศนึง จากอีกประเทศนึงที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิดได้ด้วยหรอวะ เราเลยทำการศึกษาพอสมควรไม่ว่าจะจากในเน็ตหรือกลุ่มเพจต่างๆ ก็เลยได้ข้อสรุปมาว่า มันสามารถทำได้เว้ยเห้ย ถ้าเรามี Residence card ของประเทศที่เราจะไปยื่นขอ (ขออธิบายให้สำหรับคนที่อาจจะไม่ทราบว่าถ้าเราไปอยู่ในประเทศไหนที่มากกว่า 6 เดือน เราจะได้ Residence card มาครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าออแพร์ นักเรียน ทำงาน หรือแต่งงาน **ถ้าผิดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ) เราก็สามารถยื่นขอได้ และถ้ามี Work Permit ด้วยก็ไม่น่าจะมีปัญหา
แล้วเราก็จัดการเตรียมเอกสารทุกอย่างให้เรียบร้อย ตามที่เว็บไซร์ของสถาณทูตได้ระบุไว้ว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง สำหรับคนที่เป็นออแพร์ แนะนำว่าควรจะเตรียมพวก Work permit หนังสือเชิญและสัญญาจ้างที่ทำไว้กับโฮสแฟมิลี่ แทนใบรับรองการทำงาน แต่ถ้าเป็นนักเรียนก็คงจะต้องขอหนังสือรับรองการเป็นนักเรียนจากมหาลัย เตรียมไว้ทุกอย่างเผื่อเค้าขอดู เราคิดว่าทุกอย่างก็คงจะเหมือนทำที่ไทย
พอถึงวันนัดสัมภาษณ์ ตอนเราเข้าไปเจอคนหลากหลายประเทศมาก คนไทยด้วยกันก็ยังเจอเลย ส่วนคนเบลเยี่ยมนั้น คงไม่ต้องถาม ไม่มีหรอก เพราะพาสปอร์ตแบบเค้านั้น ทำการ Apply ในระบบออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องมาสัมภาษณ์ที่สถาณทูต
พอถึงคิวเราเรียกสัมภาษณ์แล้ว เข้าไปยังไม่ทันได้กระพิบตาเลย เสร็จแล้ว! 555 คือเร็วมากกกก!
คำถามก็มีไม่กี่คำถามเลย
จนท. : พูดภาษาอะไรได้ครับ อังกฤษ/ฝรั่งเศส/ดัตช์ ? (คนเบลเยี่ยมพูด 2 ภาษา ฝรั่งเศส กับ ดัตช์)
เรา : อังกฤษค่ะ
จนท. : จะไปไหนครับ รัฐอะไร และไปกี่วัน?
เรา : รัฐแคลิฟอเนียค่ะ ประมาณ 2 อาทิตย์
จนท. : เดินทางคนเดียวใช่ไหม มีญาติหรือครอบครัวอยู่ที่นั่นหรือป่าว?
เรา : คนเดียว / ไม่มีค่ะ
จนท. : ใครออกค่าใช้จ่ายให้?
เรา : ออกเองค่ะ (ในแบบฟอร์มที่กรอกไว้ระบุว่าได้เงินเดือน 500 ยูโรต่อเดือน)
จนท. : วีซ่าของคุณอนุมัติ 6 เดือน
เสร็จแล้วก็สแกนลายนิ้วมือ เอกสารอะไรที่เตรียมไปแม้แต่เอกสารการเงินไม่ขอดูเลยสักนิด (แต่เตรียมไปไว้เผื่อก็จะดีมากๆ)
คือง่ายมาก เร็วมาก แบบไม่ได้คาดคิด อาจจะเป็นเพราะว่าเราก็กรอกข้อมูลทุกอย่างไว้ในแบบฟอร์มไว้เรียบร้อยแล้ว และเค้าก็แค่ถามทวนๆดู และอาจจะเพราะเราแนบใบ Work Permit ไว้ในพาสปอร์มอยู่แล้ว เค้าเลยอาจจะไม่ขอดูหลักฐานอย่างอื่นมากมายมั้ง แต่ก็ได้มาแบบ งงๆ จริงๆแอบหวังว่าจะได้สัก 10 ปี แหมนะ 555 ได้แค่นี้ก็ดีใจแล่ว ดีกว่าโดนปฎิเสธเนาะ แล้วหลังจากนั้นเราก็ได้รับพาสปอร์ตคืนภายในสองวัน
ตอนที่เดินออกมาจากสถาณทูตเจอ จนท.ที่รับฝากกระเป๋าเป็นผู้ทอมตาน้ำข้าวเม้าส์ให้ฟังว่านางก็กิ๊กสาวไทยอยู่เหมือนกันนะ แหม่พ่อคุณ555
เอาล่ะทุกคนนนนนนน ถึง ณ ตอนที่เครื่องกำลังจะลง
เราบินไปลงสนามบิน LAX นะคะ ที่ลอสแองเจอลิส พอลงเครื่องปุ๊บ ก่อนที่เราจะไปถึง ตม. เราจะต้องกรอกข้อมูลขาเข้าประเทศก่อน ซึ่งที่ LA นั้นไม่มีกรอกแบบกระดาษแล้ว ทำผ่านตู้คอม ก็จะต้องสแกนพาสปอร์ตข้อมูลทั่วไปที่ต้องกรอก เสร็จแล้วก็จะมีใบขาวๆคล้ายใบเสร็จปริ้นออกมา เอาติดไปด้วยนะคะ เพราะต้องให้ในด่านผู้ตรวจกระเป๋า
โอเคพอได้ใบมาเราก็เดินไปที่ ตม.เลยจ้า บอกตรงๆว่าตื่นเต้นนะ เพราะอ่านมาเยอะกับชื่อเสียงเรื่องลือของ ตม. ที่อเมริกา แต่ก็ทำใจร่มๆ ใจดีสู้เสือเข้าไว้
จนท. : อยู่นานแค่ไหน?
เรา : กลับกลางเดือนมกราคมค่ะ (ตอนนั้นคือต้นเดือนพฤศจิกายน ณ วันที่ไปถึง)
จนท. : โห นานนะเนี่ย นานจังอ่ะ
เรา : ก็พักร้อนอ่ะค่ะ หยุดพักผ่อน
จนท. : พักกับใครที่ไหน ?
เรา : บ้านเพื่อน แล้วก็โรงแรมด้วย เพราะจะต้องเดินทางหลายที่ แต่ส่วนมากก็บ้านเพื่อนค่ะ
จนท. : มาวีซ่าอะไร B อะไร 1,2 ?
เรา : วีซ่าท่องเที่ยวค่ะ ไม่แน่ใจว่า B อะไร จำไม่ได้
จนท. : ทำงานอะไร?
เรา : ออแพร์ที่เบลเยี่ยมค่ะ
จนท. : มีตั๋วกลับไหม?
เรา : มีค่ะ (ยื่นให้ดู แต่ไม่ดู)
จนท. : มาวีซ่าทำงานที่นี่หรือป่าว? (หลอกถามย้ำๆ)
เรา : ไม่ค่ะ แค่มาเที่ยว
จนท. : มีเงินมาเท่าไหร่ ?
เรา : ตอนนี้มีเงินสด 1,000 ยูโรค่ะ (แต่ก็ไม่ขอดู)
จนท. : จะมาเป็นออแพร์ที่อเมริการึป่าว ?
เรา : ไม่ค่ะ ยังไม่หมดสัญญาที่นู้นเลย (ที่จริงแล้วคือไม่กลับไปเบลเยี่ยมแล้ว หลังจากอเมริกาก็กลับไทยเลย)
จากนั้นเค้าก็ปั้มให้อยู่ได้ถึง 6 เดือน เกินวันที่วีซ่าจะหมดอายุไปอีก (วีหมด เดือนมีนา ปั้มให้ถึงพฤาภาคม) แต่ปัจจุบันกลับไทยมาแล้วจ้า
เสร็จแล้วก็ไปด่านตรวจกระเป๋าเรียกเก็บใบขาเข้าที่ปริ้นออกมาจากตู้ แล้วก็ถามเราว่าถุงนั้นคืออะไร เราบอกว่า ช็อคโกแลต และก็ปล่อยเราผ่านมา
เอาจริงๆทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ผ่านมาได้อย่างฉลุยนะ ไม่ติดขัดปัญหาอะไรเลย ทุกอย่างง่ายมาก ง่ายไปหมด
ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆคนไหนที่เข้ามาอ่านได้ข้อมูลที่อาจจะเป็นประโยชน์นะคะ
เรายังมีวิดีโอวันคริสต์มาส และเรื่องราวของเราขณะที่อยูในอเมริกา และวิดีโอท่องเที่ยวทั้งใน USA และประเทศอื่นๆ เพื่อนๆคนไหนสนใจ ฝากติดตาม เข้าไปรับชมกันได้นะคะ https://www.youtube.com/channel/UCbpI3igJkNRxBS01I0ucxYw?view_as=subscriber