เมื่อชะนีไปซีบู ดูพี่ฉลามวาฬ พร้อมเดอะแกงค์4 สาวที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก!! (ตอนที่2)

https://pantip.com/forum/new_topic ต่อจากกระทู้แรกเลยนะค่ะ
Day 4

วันนี้เรานัดทัวร์ของ Bohol มารับตอน 7 โมงเช้า และที่แรกที่เราไปก็คือ Chocolate hills ซึ่งบอกเลยว่า สองข้างทางนี่ชิวมาก สองข้างทางเป็นทุ่งนา สีเขียว สีทองตัดกันสวยงาม หมอกเบาๆ อากาศดีสุดๆ เดินทางได้ไม่นานเราก็มาถึง ด่านเก็บค่าเข้าชม ราคา 250 เปโซ
(แสตมป์250เปโซ ...รับขนมจีบ ซาลาเปา เพิ่มมั้ยค่ะ)
มาเป็นแสตมป์เซเว่นเลยจ้าา สองแผ่นครึ่ง วันนั้นอากาศครื้มๆ เหมือนฝนจะตก เพื่อนๆเชื่อมั้ยว่าเราดื่มดำกับธรรมชาติ ถ่ายรูป กันพอกำลังจะลงบันไดขั้นสุดท้าย ฝนตกพอดีจ้า เรารีบเรียกคนรถมารับเป็นอันโดนฝน คนละหยดสองหยด คือถือว่าโชคดีมากๆ

(ทางขึ้นบันไดก็จะสูงๆนะค่ะ แนะนำให้สควอร์ตมาก่อนก็จะดี)
ขอสารภาพตามตรงว่าตอนที่เราดูในรูปมันงั้นๆ เป็นลูกๆ วางกองๆกันไม่ได้ว้าวว่าจะต้องมา แต่พอมาเห็นของจริง.....ไม่มาคือพลาดของพลาด ต้องเอาหัวชนกำแพงอย่างเดียวเลยถึงจะสาสม 555
ที่ต่อไปคือการไปดู น้อง Tarsier ผู้น่ารัก ระหว่างทางจะมี ATV และ Zipline ให้โหนตัวจากที่สูงชมวิว มากมาย แต่พวกเราเลือกที่จะปล่อยผ่านเพราะวันสุดท้ายอยากที่จะชิวๆ  บวกด้วยอากาศที่ คลื้มๆ ฝนตกปรอยๆ เลยแวะที่ Man Made Forest ที่เป็นทางผ่าน บรรยากาศดีมาก คล้ายเราขับรถผ่านสวนยางแต่เปลี่ยนเป็นต้นมะฮอกกะนี ซึ่งนานมาแล้วมีคนมาปลูกเอาไว้เลยตั้งชื่อ Man Made ค่ะ
(กระโดดแบบเกร็งๆ ด้วยว่ารถข้างหลังจะมาตอนไหน55)

ก่อนที่จะถึงน้อง Tarseir เราก้ผ่าน butterfly farm ซึ่งทุกคนลงความเห็นกันว่าผ่าน55555 ภาพรวมภายนอกไม่ต่างกับสุสานหอยเมื่อวาน
และแล้วเราก็ถึง Bohol Tarsier conservation

(เราต้องห้ามใช้แฟลตและห้ามส่งเสียงดังเพราะน้องเค้านอนตอนกลางวันตัวจริงน้องเค้าตัวเล็กมาก เล็กกว่ากระรอกอีก)
ที่นี่เป็นหนึ่งในความประทับใจ เราไม่เคยรู้จักน้อง Tarsier มาก่อนเห็นแต่ในหนัง ไม่คิดว่าตัวจริงจะน่าเอ็นดูขนาดนี้ หากใครมา Bohol chocolate hills /Tarsier คือ MUST GO นะค่ะทุกคน
เวลาตอนนั้นประมาณ 11 โมงเราก็มุ่งหน้าตรงไปที่ Loboc Flating Restaurant คือการล่องเรือชมวิว ทานบุบเฟ่ต์ หัวละ 550 เปโซ พอจ่ายตังเค้าจะมีเบอร์โต็ะให้เราไปนั่งค่ะ
(ท่าเทียบแพ ทั้งขาไปและขากลับ)
ทีนี้เรามาดูอาหารกัน



(ในส่วนของรสชาติ เราขอผ่านนะคะ เพราะมีผลไม้ทดแทนได้ อิอิ)

(ชะนีกินกล้วยไป ฟังเพลงไป ฟังเสียงนกร้อง สายน้ำไหล มันดีต่อใจ จิงๆ)
(แพจอดให้เราชมการแสดงของเด็ก พวกนางเต้นกันน่ารักดี และยังดึงชะนีอย่างเราไปเล่นฟิลิปปินส์กระทบไม้ ขาโดนหนีบมั้ยไม่แน่ใจแต่เสียงกรีดร้องนั้นคือดังเวอร์)
(พอเรือกำลังจะหันหลังกลับ มีน้ำตกจ้าาาาา อยากจะกระโดดไปเลยในบัดดล อิอิ)
อิ่มหนำสำราญ เราก็มุ่งหน้าไปที่ต่อไปคือ Blood Campact แต่เราผ่านโบสถ์ที่อยู่ข้างทางเลยจำชื่อไม่ได้แล้ว แฮะๆแวะซักนิดนึงค่ะ
ข้างๆ Blood compact จะมี ร้านขายจองที่ระลึก ซึ่งราคาถูกว่าที่ Tarsier ค่ะ และยังมีร้านกาแฟให้เราได้นั่งพัก จิบชา ดิวิวกันชิวๆอีก
เป็นอันจบทริป ชะนีแต่พี่ๆ อีกสองคนต้องนั่งเรือ Ocean Jet ราคาจะมี สองราคาคือ economy 500  และ business 1,000[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพื่อข้ามฝั่ง และต่อแทกซี่ไปยังสนามบิน Mactan เพื่อกลับมาไถนาต่อที่ มะนิลา ลืมบอก Bohol-Panglao Airport ก็นั่งมาลง มะนิลาได้แต่ราคาอาจจะสูงกว่าพอควร ทั้งนี้ก้แล้วแต่เพื่อนๆสะดวกค่ะ
จอง Panglao ข้ามไปฝั่ง ซีบูใช้เวลา 2-3 ชม.

(ชั้นบิสิเนส ถือว่าไม่เลวค่ะ)
เวลาเพื่อนๆไปรับตํ่ว เชคอินท์เรียบร้อย พนง.จะทำให้เรามึนและให้เราเข้าใจว่าเราต้อง เอาเป๋าไปฝากแต่เดินขึ้นเรือแบบสวยๆ และก็จ่ายค่าฝากเป๋าไป ซึ่งขอแนะนำให้ถือเข้าไปด้วยเลยเพราะหากใบไม่หนักมากเพราะ เวลาเรือถึงฝั่ง บรรยากาศจะเหมือนการให้อาหารปลา ที่ทุกคนมา มะรุม มะตุ้ม หาเป๋าตัวเองกันวุ่นวาย แต่ชะนีมั่นใจเหลือเกินว่าหากหยิบผิดคงจะไม่มีใครมารับผิดชอบเป็นแน่ เอิ้กๆ
(คนจะจอแจมากกก จุดนี้ถือว่าเสียเวลา)
พอถึงฝั่งรอนั่ง เราเดินข้ามถนนมานั่ง แทกซี่ ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีก็ถึงสนามบิน เข้าห้องน้ำ ทานข้าว เตรียมตัว ปรากฎ  เครื่องดีเลย์ 1 ชมจ้าาาาา พูดเลยว่าเบาๆมาก ไม่สะทงสะท้านเพราะขามาติดอยู่ในเครื่อง 4 ชม. 55555
และแล้วชะนีน้อยอย่างเราก็มาถึง มะนิลาประมาณเที่ยงคืน พรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปสู่โหมด มนุษย์เงินเดือนอีกแล้วเรา
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 9,000  (ไม่รวม ค่าตั๋วเครื่องบิน)
ค่าเช่ารถ+คนขับ 2 feb  cebu-oslob 1000
ค่าเช่ารถ+คนขับ 3 feb  oslob 500
ค่าชมน้องปลาฉลามวาฬ 1000
ค่าเช่ากล้อง.ใต้น้ำ+คนถ่าย 110
ค่าข้ามเกาะ Similon 3,500
ค่า วิยมอไซด์+ค่าเยี่ยมชมน้ำตก 100
ค่าเช่ารถ+คนขับ 4 feb Panglao 360
ค่าเช่ารถ+คนขับ 5 feb Bohol 560
ค่าอาหาร 1,200
อื่นๆ 700
ป.ล. ก่อนจะจบทริปกันไป ขอพูดถึงความประทับใจในทริปนี้หน่อย เอาตั้งแต่ที่เราติดอยู่ในเครื่องถึง 4 ชม.เราไม่เคยขึ้นเครื่องที่ไหนที่อยู่ดีๆ บินขึ้นแล้วบินลงที่เดิม ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้ และการไปดำน้ำดูปลาฉลามวาฬถือเป็นการดำน้ำครั้งแรกในชีวิตของชะนีอย่างเรา เนื่องจากก่อนหน้าเราเคยต้องหามเข้าโรงบาลเพราะเส้นประสาททรงตัวอักเสบ ดังนั้นการโดดลงน้ำถือว่าเป็นการเอาชนะความกลัวของเราได้เป็นอย่างดี แม้เราจะไม่ได้รูปสวยๆ แบบใครๆแต่เราๆได้ภาพความประทับใจมาแบบเต็มๆ ทริปนี้มีแต่เรื่องราวดี สองข้างทางเต็มไปหมด และที่ขาดไม่ได้ คือพี่ๆเดอะแกงค์ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนคนในครอบครัว มันสนุก มันอบอุ่น มันตลก หิว เหนื่อย หอบ ฯลฯ ผ่านเหตุการณ์ทุกอย่างมาด้วยกัน ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะที่ให้ชะนีน้อยอย่างเรามาร่วมทริปในครั้งนี้

See you next trip ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่