สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอเล่าก่อนเลยว่าเราคบกับแฟนคนนี้มา4ปีก่อนที่จะบอกเลิกกัน ช่วง2ปีแรกเราอยู่กับเค้าที่ไทย หลังเลิกงานก็จะมาเจอกันทุกวัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ต่างคนก็ต่างอยู่บ้าน พอวันหยุดเราก็จะไปหาร้านกินข้าว เที่ยวต่างจังหวัดกันบ่อยๆ เป็นช่วงที่เรามีความสุขมาก ตลอดที่อยู่ด้วยกันแทบไม่มีเรื่องอะไรทะเลาะกันรุนแรงเลย แต่แล้วแฟนสอบชิงทุนไปเรียนที่ออสเตรเลียได้ ตอนนั้นเราก็ทั้งดีใจกับเค้าและเสียใจที่จะต้องไป ซึ่งการไปเรียนที่นั่นใช้ระยะเวลาประมาณ4-5ปี ตอนนั้นเราก็เคยคิดอยู่ว่าการคบห่างกันแบบนี้จะไปกันรอดมั้ย แต่สุดท้ายเพราะว่ายังรักเค้าอยู่และคิดว่าเพื่ออนาคตที่ดีของเค้า เราก็ยังรอเค้าได้
จากตรงนี้ หลังจากที่เค้าไปใช้ชีวิตอยู่ออสเตรเลีย เราก็ยังติดต่อหากันตลอด โดยการโทร Line/ แชท face/ Video call บ้าง สลับกันไป โดยเฉพาะช่วงแรก เราติดเค้ามาก โทรไปร้องไห้เกือบทุกวัน เค้าก็ปลอบเราว่าให้เราเข้มแข็งไว้ รอวันที่จะมาอยู่ด้วยกัน.. แต่แล้วเวลาผ่านไป จากที่โทรหากันทุกวัน ก็เปลี่ยนเป็น โทรหากันบ้างวันเว้นวัน หรือถ้ามีธุระ เค้าติดเรียนหรือเราติดงาน ก็โทรมาหากันเมื่อมีเวลาว่าง.. แต่สำหรับเรา เราก็ยังรักเค้าอยู่เหมือนเดิม แต่เหมือนพอไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เรื่องคุยหรือความสัมพันธ์กันในชีวิตประจำวันมันก็เริ่มน้อยลง แต่เราก็ยังไม่คิดเริ่มหาใครใหม่ เพราะนึกถึงเวลาที่เคยอยู่ด้วยกัน ก็ยังรักเค้าอยู่
ปีแรกผ่านไป.. เค้ากลับมาที่เมืองไทย3แาทิตย์มาหาญาติและมาหาเรา ตอนนั้นเราดีใจมากที่ได้เจอกัน หลังจากไม่ได้เจอกันตัวเป็นๆมา1ปี ก็ไปกินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวกันปกติ ตามประสาแฟน **แต่เค้าก็เริ่มพูดประโยคนึงกับเราแบบซีเรียสว่า "อาจจะไม่กลับมาที่ไทย" เราถามเหตุผลเค้าว่าทำไม? ไม่อยากกลับมาหาเราแล้วหรอ.. เค้าให้เหตุผลว่า พอเค้าไปอยู่ที่โน้น เห็นอะไรหลายๆอย่างซึ่งน่าจะเหมาะกับตัวเค้ามากกว่า ทั้งเรื่อง การทำงาน การใช้ชีวิตหลังจากเรียนจบ ซึ่งมีมากกว่าหากกลับทำงานที่ไทย.. ตอนนั้นเราก็อึ้งไปนิด เลยถามว่าไม่เกี่ยวกับมีคนใหม่ใช่มั้ย? แฟนเราบอกไม่มี ไม่มีจริงๆ แต่อยากไปใช้ชีวิตที่โน้น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเอาเราไปอยู่ด้วย แต่ในเป็นไปไม่ได้ไง เพราะเราก็มีงาน มีพ่อแม่ มีญาติที่ต้องดูแลอยู่ที่นี่ ตอนนั้นเราเริ่มเสียใจอีกครั้งที่เค้ามีความคิดแบบนี้ แต่ก็ยังไม่ได้เลิกกัน เราก็เลือกที่จะไม่คุยเรื่องนี้กับเขา เพราะไม่ได้ต้องการเลิก
หลังจากที่เค้ากลับไป.. เรายอมรับว่าความรู้สึกที่มีต่อเค้าไม่เหมือนเดิม ในใจก็โกรธที่เหมือนเค้าผิดสัญญา แต่พอคิดไปเราก็ไม่อยากขวางความเจริญก้าวหน้าของอนาคตเค้า มีบ้างที่เรากลัวเค้าไม่กลับมา เราก็เริ่มคุยกับคนอื่น แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้คบกับใครจริง เพราะยังรักเค้าอยู่ ช่วงนี้เราเริ่มมีงอนเค้าบ้างผ่านทางการคุยโทรศัพท์ ต่างคนต่างเริ่มคุยกันน้อยลง แต่ก็ยังติดต่อกันเรื่อยๆ
จนมาล่าสุด ปีที่2.. เค้ากลับมาที่ไทยอีกครั้ง เราเริ่มไม่แน่ใจตัวเองว่าเรายังรักเค้าอยู่หรือเปล่า มันไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือรู้สึกดีเหมือนที่เจอกันปีแรก มันเหมือนเฉยๆ แต่ก็พากันไปเที่ยว กินข้าวตามปกติ พอเค้ากลับไปเราเริ่มถามเค้าเองอีกครั้งว่า ยังคิดจะไปอยู่ที่โน้นถาวรอีกหรือเปล่า ถ้าให้เรารอเราก็ยังรอได้ แต่ต้องมีระยะเวลากำหนดสิ ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ แต่ถ้าเราต้องอยู่คนละประเทศแบบนี้มันจะคบกันได้ไง เค้าตอบกลับมาว่า เค้ายังติดสินใจไม่ได้ เค้าอยากเอาเรา เอาพ่อแม่ไปอยู่ที่นั่นด้วยถ้าเป็นไปได้ เราเลยบอกให้เค้ากลับไปคิดใหม่ก่อน ว่าได้คุ้มเสียหรือเปล่า..
สุดท้ายหลังจากนั้นประมาณ1อาทิตย์ เราโทรไปคุยกับเค้าตามปกติ เค้าเลยบอกว่าเค้ากลับไปคิดดูแล้ว เค้าขอบอกเลิกเราเลยดีกว่า เพราะไม่อยากรั้งกันไว้ เพราะมองอนาคตกันคนละแบบ และคบกันแบบทางไกลแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ เราตอบเค้าไปว่า เราเข้าใจเหตุผลและพยายามจะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่จริงๆแล้วเราทำใจยากมากเลย ยิ่งรู้ว่าจะต้องเลิกกันจริงๆภาพเก่าๆที่เคยทำด้วยกันมันก็เวียนอยู่ในหัว เค้าบอกเราว่า ถึงจะเลิกกับเราแต่ยังรักเราอยู่เหมือนเดิม ขอห่างกันซักพักเพื่อทำใจ และเมื่อพร้อมจะทักเราไป เหมือนเราจะพยายามเข้าใจ แต่มันทำยากมากเลย บางทีเราอยู่คนเดียวเราก็ร้องไห้คิดถึงเค้า ถ้าย้อนเวลากลับไปเราก็อยากจะเอาใจใส่เค้ามากขึ้นกว่านี้ ผ่านมาเกือบ2อาทิตย์ เราไม่ได้คุยกันเลย เหมือนคนไม่รู้จักกัน เราเริ่มอึดอัดทนไม่ไหว จนอยากโทรไปขอกลับไปคบกันเหมือนเดิม แต่อีกใจก็คิดว่าเราจะรับได้หรอ ถ้าต้องคบกันอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางแบบนี้ต่อไป ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากให้เค้าเปลี่ยนความคิดกลับมาหาเราเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรหาทางออกอย่างไร ขอความเห็นหน่อยครับ
ปล.คู่ของผม เป็น ช ช นะครับ
เลิกกันกับแฟนเพราะระยะทาง ควรกลับไปขอคืนดีมั้ย?
จากตรงนี้ หลังจากที่เค้าไปใช้ชีวิตอยู่ออสเตรเลีย เราก็ยังติดต่อหากันตลอด โดยการโทร Line/ แชท face/ Video call บ้าง สลับกันไป โดยเฉพาะช่วงแรก เราติดเค้ามาก โทรไปร้องไห้เกือบทุกวัน เค้าก็ปลอบเราว่าให้เราเข้มแข็งไว้ รอวันที่จะมาอยู่ด้วยกัน.. แต่แล้วเวลาผ่านไป จากที่โทรหากันทุกวัน ก็เปลี่ยนเป็น โทรหากันบ้างวันเว้นวัน หรือถ้ามีธุระ เค้าติดเรียนหรือเราติดงาน ก็โทรมาหากันเมื่อมีเวลาว่าง.. แต่สำหรับเรา เราก็ยังรักเค้าอยู่เหมือนเดิม แต่เหมือนพอไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เรื่องคุยหรือความสัมพันธ์กันในชีวิตประจำวันมันก็เริ่มน้อยลง แต่เราก็ยังไม่คิดเริ่มหาใครใหม่ เพราะนึกถึงเวลาที่เคยอยู่ด้วยกัน ก็ยังรักเค้าอยู่
ปีแรกผ่านไป.. เค้ากลับมาที่เมืองไทย3แาทิตย์มาหาญาติและมาหาเรา ตอนนั้นเราดีใจมากที่ได้เจอกัน หลังจากไม่ได้เจอกันตัวเป็นๆมา1ปี ก็ไปกินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวกันปกติ ตามประสาแฟน **แต่เค้าก็เริ่มพูดประโยคนึงกับเราแบบซีเรียสว่า "อาจจะไม่กลับมาที่ไทย" เราถามเหตุผลเค้าว่าทำไม? ไม่อยากกลับมาหาเราแล้วหรอ.. เค้าให้เหตุผลว่า พอเค้าไปอยู่ที่โน้น เห็นอะไรหลายๆอย่างซึ่งน่าจะเหมาะกับตัวเค้ามากกว่า ทั้งเรื่อง การทำงาน การใช้ชีวิตหลังจากเรียนจบ ซึ่งมีมากกว่าหากกลับทำงานที่ไทย.. ตอนนั้นเราก็อึ้งไปนิด เลยถามว่าไม่เกี่ยวกับมีคนใหม่ใช่มั้ย? แฟนเราบอกไม่มี ไม่มีจริงๆ แต่อยากไปใช้ชีวิตที่โน้น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเอาเราไปอยู่ด้วย แต่ในเป็นไปไม่ได้ไง เพราะเราก็มีงาน มีพ่อแม่ มีญาติที่ต้องดูแลอยู่ที่นี่ ตอนนั้นเราเริ่มเสียใจอีกครั้งที่เค้ามีความคิดแบบนี้ แต่ก็ยังไม่ได้เลิกกัน เราก็เลือกที่จะไม่คุยเรื่องนี้กับเขา เพราะไม่ได้ต้องการเลิก
หลังจากที่เค้ากลับไป.. เรายอมรับว่าความรู้สึกที่มีต่อเค้าไม่เหมือนเดิม ในใจก็โกรธที่เหมือนเค้าผิดสัญญา แต่พอคิดไปเราก็ไม่อยากขวางความเจริญก้าวหน้าของอนาคตเค้า มีบ้างที่เรากลัวเค้าไม่กลับมา เราก็เริ่มคุยกับคนอื่น แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้คบกับใครจริง เพราะยังรักเค้าอยู่ ช่วงนี้เราเริ่มมีงอนเค้าบ้างผ่านทางการคุยโทรศัพท์ ต่างคนต่างเริ่มคุยกันน้อยลง แต่ก็ยังติดต่อกันเรื่อยๆ
จนมาล่าสุด ปีที่2.. เค้ากลับมาที่ไทยอีกครั้ง เราเริ่มไม่แน่ใจตัวเองว่าเรายังรักเค้าอยู่หรือเปล่า มันไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือรู้สึกดีเหมือนที่เจอกันปีแรก มันเหมือนเฉยๆ แต่ก็พากันไปเที่ยว กินข้าวตามปกติ พอเค้ากลับไปเราเริ่มถามเค้าเองอีกครั้งว่า ยังคิดจะไปอยู่ที่โน้นถาวรอีกหรือเปล่า ถ้าให้เรารอเราก็ยังรอได้ แต่ต้องมีระยะเวลากำหนดสิ ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ แต่ถ้าเราต้องอยู่คนละประเทศแบบนี้มันจะคบกันได้ไง เค้าตอบกลับมาว่า เค้ายังติดสินใจไม่ได้ เค้าอยากเอาเรา เอาพ่อแม่ไปอยู่ที่นั่นด้วยถ้าเป็นไปได้ เราเลยบอกให้เค้ากลับไปคิดใหม่ก่อน ว่าได้คุ้มเสียหรือเปล่า..
สุดท้ายหลังจากนั้นประมาณ1อาทิตย์ เราโทรไปคุยกับเค้าตามปกติ เค้าเลยบอกว่าเค้ากลับไปคิดดูแล้ว เค้าขอบอกเลิกเราเลยดีกว่า เพราะไม่อยากรั้งกันไว้ เพราะมองอนาคตกันคนละแบบ และคบกันแบบทางไกลแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ เราตอบเค้าไปว่า เราเข้าใจเหตุผลและพยายามจะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่จริงๆแล้วเราทำใจยากมากเลย ยิ่งรู้ว่าจะต้องเลิกกันจริงๆภาพเก่าๆที่เคยทำด้วยกันมันก็เวียนอยู่ในหัว เค้าบอกเราว่า ถึงจะเลิกกับเราแต่ยังรักเราอยู่เหมือนเดิม ขอห่างกันซักพักเพื่อทำใจ และเมื่อพร้อมจะทักเราไป เหมือนเราจะพยายามเข้าใจ แต่มันทำยากมากเลย บางทีเราอยู่คนเดียวเราก็ร้องไห้คิดถึงเค้า ถ้าย้อนเวลากลับไปเราก็อยากจะเอาใจใส่เค้ามากขึ้นกว่านี้ ผ่านมาเกือบ2อาทิตย์ เราไม่ได้คุยกันเลย เหมือนคนไม่รู้จักกัน เราเริ่มอึดอัดทนไม่ไหว จนอยากโทรไปขอกลับไปคบกันเหมือนเดิม แต่อีกใจก็คิดว่าเราจะรับได้หรอ ถ้าต้องคบกันอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางแบบนี้ต่อไป ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากให้เค้าเปลี่ยนความคิดกลับมาหาเราเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรหาทางออกอย่างไร ขอความเห็นหน่อยครับ
ปล.คู่ของผม เป็น ช ช นะครับ