มีเพจๆหนึ่งตั้งกระทู้หัวข้อขึ้นมาว่า มีเฮ จะมีโครงการถนนลาดยางพาราแอสฟัลท์หมู่บ้านละ1กม.
ถามว่าเราควรจะดีใจหรือว่าไม่ดีใจ
เราทราบกันมั้ยว่า ถนนลาดยางธรรมดาคือใช้ยางAC60/70ผมมกับหินตามขนาดและอัตราส่วนที่หน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นผู้กำหนดเช่นกรมทางหลวงหรือกรมโยธาธิการและถนนลาดยางที่มีส่วนผสมของน้ำยางพารามันแตกต่างกันอย่างไร
ที่มาของยางพาราแอสฟัล(Nature  Rubber Ashalt)คือการนำน้ำยางพารามาผสมกับน้ำยางมะตอย(AC60/70)ในอัตราส่วน5%คือน้ำยางAC60/70 95กก.ใส่น้ำยางพารา5กก.รวมกันเป็น100%โดยผ่านกรรมวิธีการผสมของโรงงานผสมน้ำยาง ไม่ใช่โรงงานผสมแอสฟัลท์ติกคอนกรีตนะ
เราเคยมองกลับมาหรือไม่ว่า ราคาน้ำยางAC60/70ที่ใช้กันแต่ดั้งแต่เดิมอยู่ที่ราคาตันละประมาณ13,500บาทขึ้นๆลงๆตามราคาน้ำมันดิบ แต่ถ้าเขานำน้ำยางพารามาผสมลงไป5%ราคามันขยับขึ้นไปไม่ต่ำกว่า20,000บาทต่อตัน
ถามว่าชาวบ้านชาวสวนยางได้กี่บาทน้ำยางพารา5กก.
งบประมาณในการสร้างถนนต้องเพิ่มพูลขึ้นมาอีกตั้งเท่าไหร่
งบประมาณแผ่นดินมาจากไหน
ถ้าใช้ยางAc60/70เราอาจจะได้ถนนเกือบ2กม.แต่ถ้าใช้พาราแอสฟัลท์เราจะได้ถนนแค่1กม.ในราคางบประมาณที่เท่ากัน
แล้วเราชาวบ้านอยากได้ถนนแบบไหนล่ะ
ผู้รับเหมาทำถนนเขาก็ไม่ได้อะไรมากขึ้นมากว่าเดิมเขาทำตามค่าวัสดุที่ต้องนำมาใช้สร้างถนน
ชาวสวนยางได้ขายมากขึ้นจริงหรือในเมื่อโครงสร้างของพาราแอสฟัลท์ใส่น้ำยางพาราแค่5%พูดง่ายๆน้ำยางมะตอย100กก.มีส่วนผสมของน้ำยางพารา5กก.
ถามว่าใครได้ประโยชน์จากพาราแอสฟัลท์เป็นหลัก
ทำไมราคาน้ำยางพาราแอสฟัลท์ไม่ปรับลงให้ใก้ลเคียงกับราคาน้ำยางAC60/70ทั้งๆที่น้ำยางทั้ง2อย่างนี้ก็เป็นส่วนผสมหลักของถนนลาดยางมะตอยเหมือนกัน
ใครได้ใครเสีย เราลองนึกดู
"ทำยังไงเราจะช่วยชาติบ้านเมืองได้อย่างแท้จริง"