2คน 2คัน 4วัน 3คืน - น่านเนิบๆ

2คน​ 2คัน​ กับ1,989 กิโล​ 4วัน3คืน​
พัทยา-พิษณุโลก-หมู่บ้านประมงปากนาย-ดอยเสมอดาว-น่าน-บ่อเกลือ-สะปัน-ปัว-ขุนสถาน-พิจิตร-พัทยา
จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือประโยคสั้นๆ​ 2ประโยค​ "เฮ่ย! แจ็ค​ ไปน่านกัน" กับ​ "ไปดิ" ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก​ แค่หาวันลา​ ใกล้วันเดินทางรู้สึกตื่นเต้นปนกับความคิดว่า"จะไหวไหมวะ" เคยขี่ไกลสุดพัทยา-เกาะช้าง, ภูเก็ต-พังงา​ แต่ตั้งใจจะออกไปแตะขอบฟ้าแล้ว​ จะถอยได้งัย เพราะมอเตอร์ไซค์ไม่มีเกียร์ถอย แฮร่!!!

ตี3ครึ่งของวันเสาร์ที่ 22 มกราคม 2561 สตาร์ทรถออกจากบ้าน นัดเจอเพื่อนที่มาจากนครปฐมที่ปั้มปตทไฮเทค.บางปะอิน​ หลังจากนั้นการเดินทางของชายวัยกลางคน 2 คนก็เริ่มขึ้น เรา2คน ใช้เส้นเอเชีย ผ่านอ่างทอง-สิงห์บุรี-นครสวรรค์-พิจิตร ป้ายแรกคือมื้อเที่ยงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาพิษณุโลก2แคว ติดวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ตามในรีวิวของเพื่อนๆในหลายๆกระทู้ แต่!!! ไปถึงร้าน คนมหาศาลมาก ก็เลยตัดสินใจขี่รถวนๆดูก็ไปเจอเข้ากับ ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาต้นน้ำ ที่อยู่เลยเข้าไปข้างใน คนไม่เยอะมาก นั่งสบาย อร่อยใช้ได้

เถลไถลกันอยู่พอสมควร ก็ออกเดินทางต่อ แต่ไม่ลืมที่จะแวะกราบสักการะพระพุทธชินราชเพื่อความเป็นศิริมงคล

เดินทางต่อเข้าอุตรดิตถ์ เลี้ยวขวาเข้าอ.น้ำปาด เพื่อไปข้ามแพที่หมู่บ้านประมงปากนาย
ถึงปากนายกันประมาณ6โมงเย็น ลุ้นว่าแพข้ามฟากจะหมดหรือยัง โชคดีที่ยังไม่หมด คุณลุงที่บังคับแพข้ามฟากบอกว่าให้บริการถึง2ทุ่ม ไปถึงรอแพมารับ มีเวลาถ่ายรูปเล่นกันพักนึง




ใช้เวลาประมาณไม่นาน เราก็ข้ามมาฝั่งอ.นาหมื่น ก็เริ่มมืดแล้ว แวะกินมื้อเย็นกันในตลาด รู้สึกเหมือนก้าวข้ามมาอีกโลก ทุกอย่างเงียบสงบ อากาศเย็นๆ อาหารตามสั่งราคาแค่30บาท ไม่มีรังสีของความเร่งรีบ อิ่มก็ได้เวลาเดินทางต่อ ที่นอนคืนแรกคือที่ดอยเสมอดาว ในคืนที่เต้นท์ถูกกางเต็มพื้นที่ คนเยอะมาก เราไม่ได้จองล่วงหน้า ไปถึง2ทุ่มก็เดินไปจ่ายค่ากางเต้นท์แล้วหาที่ๆพอจะกางเต้นท์ได้ หนาวจนไม่อยากอาบน้ำ แต่เอาวะ ขันแรก!!!บรื๋อ!!! อาบน้ำเสร็จ นั่งคุยกันสักพักก็แยกย้าย เพื่อจะตื่นขึ้นมาดูทะเลหมอกท่ามกลางทะเลนักท่องเที่ยวในตอนเช้า


เก็บของเสร็จ 9โมงเช้าเดินทางออกจากดอยเสมอดาว แวะเสาดินนาน้อย ก่อนที่ป้ายต่อไปคือตัวเมืองน่าน จังหวัดที่ยังไม่เคยมาเยือน
เกือบเที่ยงเดินทางถึงน่าน แวะวัดพระธาตุเขาน้อย วัดภูมินทร์ ซุ้มลีลาวดี สักการะพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุประจำปีเถาะ ฝากท้องกันที่ร้านข้าวซอยรสโบราณน้ำเงี้ยวในตัวเมืองน่าน สั่งเส้นข้าวซอยน้ำเงี่ยว ซึ่งแม่ค้าก็เอ๊ะนิดนึง แต่ก็ทำให้ตามสั่ง มารู้ทีหลังว่ามันไม่มีเมนูนี้นะเฮ้ย แต่แม่ค้าใจดีทำให้ ^^




อิ่มแล้วออกเดินทางต่อ ปลายทางของวันที่2คือที่บ้านสะปัน บ่อเกลือ เราขึ้นทาง อ.สันติสุข ขี่ไปแวะถ่ายรูปไป ใช้เวลาไปกับเส้นทางนี้ค่อนข้างเยอะ ก็ทางมันสวยนี่เนอะ คนที่เห็นแต่ทะเลอย่างเราก็ต้องตื่นเต้นสิ




4โมงเย็น ถึงอ.บ่อเกลือ แวะดูชาวบ้านต้มเกลือสินเธาว์ ชิมไข่ต้มเกลือ หมูย่างมะแขว่น อันหลังนี่เด็ด

ออกเดินทางต่อไปหมู่บ้านสะปัน หมู่บ้านเล็กๆ กลางอ้อมกอดของขุนเขา ที่ทุกอย่างเหมือนจะเคลื่อนที่ไปช้าๆ คืนนี้เราพักที่ บ้านสะปัน​ retreat ของรุ่นพี่ สวัสดี พูดคุย ถามไถ่ถึงสารทุกข์สุขดิบ ใช้เวลาหมดไปกับการซึมซับบรรยากาศของหมู่บ้าน และการสนทนาธรรมพร้อมเครื่องดื่มยามดึก จบด้วยการหามุมสงบๆกางเต้นท์เล็กๆนอนฟังเสียงน้ำว้าไหลเอื่อยๆ กลางอุณหภูมิ 12 องศา!!!







เมื่อถึงเวลาก็ต้องจากกัน เพราะการเดินทางของเรา2คนยังไม่สิ้นสุด กินข้าว พูดคุย ร่ำลา แล้วก็เดินทางต่อ ป้ายต่อไปคือ อ.ปัว ใช้เส้นทางถนนลอยฟ้าที่เคยได้ยินแต่ชื่อ ครั้งนี้ได้มาเห็นจริงๆกับตาเสียที




เล่นโค้งกันเพลินๆสลับแวะถ่ายรูป เผลอแป๊บเดียวก็ลงมาถึงอ.ปัว แวะวัดภูเก็ตแต่อยู่ที่น่าน ^^ กับร้านกาแฟไทลื้อ แล้วออกเดินทางต่อ เพราะเป้าหมายวันนี้คือจะไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่วันที่4จะได้ไม่ต้องถึงบ้านดึกมากจนเกินไป

เราใช้เส้นทางกลับทางแพร่ ซึ่งก็มีทำถนนบางช่วง แต่บางทีชีวิตก็ไม่ได้เป็นไปตามแผน ระหว่างกำลังทำความเร็วกันเพลินๆ เพื่อนก็เหลือบไปเห็นป้าย"ขุนสถาน" จังหวะติดไฟแดง เพื่อนจอดรถเทียบแล้วบอกว่า "อยากแวะขุนสถานว่ะ อยากเห็นดอกนางพญาเสือโคร่ง" ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากมาย พยักหน้าแล้วบอกว่า "เอาดิ" เลี้ยวซ้าย แล้วเรา2คนก็ขี่รถขึ้นเขากันอีกครั้ง พอขึ้นมาถึงจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่เริ่มทะยอยออกดอก ก็ได้แต่คิดในใจว่า"ถ้าไม่ตัดสินใจขึ้นมาคงเสียดายน่าดู"




นั่งอ้อยอิ่ง กันพักใหญ่ๆ ก็ออกเดินทางต่อ ตามเป้าเดิมว่าจะไปให้ได้ไกลที่สุด แล้วเราก็มาสิ้นสุดกันที่โรงแรมเล็กๆติดถนน เลยแยกเข้าตัวเมืองพิจิตรประมาณ10กว่าโล นาฬิกาบอกเวลา4ทุ่มครึ่ง เราพูดพร้อมกัน "พักเหอะว่ะ" เช็คอิน อาบน้ำ เข้านอนมุมใครมุมมัน ตื่นเช้า เดินทางต่อเพื่อกลับบ้าน เดินทางถึงชัยนาท ก็ได้เวลาแยกย้ายเพื่อไปทำหน้าที่ของแต่ละคน ก่อนแยกย้ายหลังการจับมือร่ำลา เพื่อนพูดว่า "ทริปหน้า เบตงมั้ย?" ตอบทันทีว่า"เดี๋ยวๆ ยังไม่ถึงบ้านเลยนะ" 555 ต่างคนต่างสตาร์ทรถแล้วก็แยกไปตามเส้นทางกลับบ้านของตัวเอง รู้สึกหวิวๆนะ ที่ต้องขี่กลับบ้านคนเดียว แต่เอาน่ะ เดี๋ยวก็กลับมาเจอกันใหม่ เลือกใช้เส้นวังน้อย-หนองเสือ-ธัญบุรี-หนองจอก-สุวินทวงศ์-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี เพื่อเลี่ยงกรุงเทพ ถึงบ้านพัทยา 6โมงเย็นพอดี

แวะทะเลก่อนเข้าบ้านพร้อมกับส่งรูปและข้อความไปหารุ่นพี่ว่า "พี่ผมพาสะปันมาถึงทะเลแล้วนะ ไว้พบกันเมื่อเวลามาถึง"
ไปในที่ที่ไม่เคยไป​ เห็นหลายๆสิ่งที่ไม่เคยเห็น​ ไปให้ลมตีหน้า​ ไปตากแดด​ ไปเหนื่อย​ ไปง่วง​ ไปหนาว แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความสุข​ ความทรงจำที่ดี ที่คงไม่มีวันลืม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่