" ปิดคดีปั่นหุ้น BA " - สุนันท์ ศรีจันทรา

....." ปิดคดีปั่นหุ้น BA ".....

          ที่มา   :   https://mgronline.com/stockmarket/detail/9620000015462
                        ( เผยแพร่: 13 ก.พ. 2562 14:54   ปรับปรุง: 13 ก.พ. 2562 15:11   โดย: ผู้จัดการออนไลน์ )
                        (  สุนันท์ ศรีจันทรา )
          _________________________________________________________________________________________________

          คดีปั่นหุ้น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ปิดฉากไปเรียบร้อย หลังจากผู้ที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการ
กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษปรับ 3 รายตกลงยินยอมจ่ายค่าปรับ จำนวน 499.45 ล้านบาท แลกกับ
การถูกส่งเรื่องให้อัยการส่งฟ้องทางแพ่ง

คดีปั่นหุ้น BA มีผู้เกี่ยวข้อง 3 ราย ประกอบด้วย นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือหมอเสริฐ น.ส.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ
และนางนฤมล ใจหนักแน่น โดย ก.ล.ต.ได้ดำเนินมาตรการทางแพ่ง สั่งปรับเป็นเงิน จำนวน 499.45 ล้านบาท

ความผิดในการสร้างราคาหุ้น ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นความผิดทางอาญา ซึ่งสามารถดำเนินมาตรการ
ลงโทษได้ ทั้งทางแพ่งและอาญา

แต่ ก.ล.ต. เลือกที่จะดำเนินมาตรการลงโทษในทางแพ่ง โดยสั่งปรับตามฐานความผิด ถ้าพฤติกรรมความผิดสูง สร้างความ
เสียหายมาก จะสั่งปรับเงินเป็นจำนวนมาก และเคยสั่งปรับแก๊งปั่นหุ้น AJA หรือหุ้น บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด
(มหาชน) ประกอบด้วยผู้บริหารและพวกรวม 40 คน เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 1,727.38 ล้านบาท

และถือเป็นการสั่งปรับคดีปั่นหุ้น เป็นเงินจำนวนสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่นายอมร มีมะโน อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ AJA
และพวกรวม 40 คน ยังไม่ได้จ่าย โดยอยู่ระหว่างการขยายเวลาชำระค่าปรับ

การที่ ก.ล.ต.เลือกที่จะดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง ทั้งที่รู้ดีว่า ไม่ได้ทำให้แก๊งปั่นหุ้นเกิดความเกรงกลัว และไม่ใช่แนวทาง
ที่จะปราบปรามการปั่นหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับการดำเนินมาตรการลงโทษทางอาญา เนื่องจาก ก.ล.ต. มีบทเรียน
จากกล่าวโทษทางอาญา

เพราะคดีที่ ก.ล.ต. ร้องทุกข์กล่าวโทษทางอาญา มักจะไม่เข้าไปสู่การพิจารณาในชั้นศาล เพราะส่วนใหญ่ถูกตัดตอนอยู่ที่ขั้นตอน
การสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นับสิบคดีที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ แก๊งปั่นหุ้นมักหลุด
รอดลอยนวล เพราะกรมสอบสวนคดีพิเศษ ใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้อง

และกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่เคยชี้แจงต่อสาธารณชน ถึงเหตุผลการไม่สั่งฟ้องคดีปั่นหุ้น หรือพฤติกรรมความผิดร้ายแรงอื่นตาม
พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ทั้งที่แต่ละคดี สร้างความเสียหายให้ประชาชนผู้ลงทุนจำนวนมาก และเป็นคดีที่เป็นภัยต่อระบบเศรษฐกิจ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใช้เวลานานเป็นปีๆ ในการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลหลักฐานความผิดของแก๊งปั่นหุ้น ก่อน
จะส่งเรื่องให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลหลักฐาน และจัดทำสำนวนร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งใช้เวลาอีกนานนับปี

แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. ต้องเหนื่อยเปล่า สำนวนที่ทำมาอย่างรัดกุม ข้อมูลหลักฐานความผิดที่แน่นหนา แต่เมื่อส่งผ่าน
ไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ กลายเป็นสำนวนอ่อน ข้อมูลหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสั่งฟ้อง เอาผิดกับแก๊งปั่นหุ้นได้

คดีปั่นหุ้นนับสิบๆ คดี จึงถูกตัดตอน ปิดคดีกันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

หลายปีแล้วที่ ก.ล.ต. หลีกเลี่ยงร้องทุกข์กล่าวโทษคดีปั่นหุ้นในทางอาญา แต่เลือกดำเนินมาตรการทางแพ่ง โดยสั่งปรับตาม
มูลฐานความผิด ซึ่งผู้ที่ถูกกล่าวโทษ มีทั้งยินยอมจ่ายค่าปรับและไม่ยินยอม

คดีปั่นหุ้น BA หมอปราเสริฐ คงประเมินแล้วว่า ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปต่อสู้ในชั้นศาล ไม่คุ้มที่จะถูกส่งเรื่องฟ้องให้เป็นข่าว
กระทบชื่อเสียง และค่าปรับไม่ใช่เงินจำนวนมากมายจนขนหน้าแข้งร่วง

เมื่อผิด ยอมรับ จ่ายค่าปรับ ทุกอย่างก็จบ และยังได้การยอมรับจากสังคมที่ยอมรับผิดเสียอีก

ส่วนคดีปั่นหุ้นรายอื่นๆ ที่ดื้อแพ่งไม่ยอมจ่ายค่าปรับ ก.ล.ต.จะส่งเรื่องให้อัยการฟ้องในทางแพ่ง และอยู่ระหว่างขั้นตอนการ
พิจารณาของอัยการนับสิบคดี และหากอัยการสั่งไม่ฟ้อง ก.ล.ต.ก็สามารถฟ้องเองได้

แตกต่างจากการร้องทุกข์กล่าวโทษทางอาญา เพราะหากกรมสอบสวนคดีพิเศษสั่งไม่ฟ้อง คดีจะสิ้นสุดลงทันที และข้อมูล
การร้องทุกข์กล่าวโทษ จะต้องถูกลบออกจากสารบบ ก.ล.ต.

ประชาชนทั่วไปจึงไม่อาจหาข้อมูลจากสารบบของ ก.ล.ต.ได้ว่า แก๊งปั่นหุ้นกลุ่มไหนบ้างที่เคยถูกกล่าวโทษ หุ้นตัวไหนบ้างที่
เคยถูกกล่าวโทษเป็นหุ้นปั่น

ยังไม่มีข่าวว่า อัยการสั่งฟ้องคดีปั่นหุ้นคดีใดบ้าง แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะ ก.ล.ต. มีเงื่อนเวลา ถ้าคดีใกล้หมดอายุความ ก.ล.ต.
จะยื่นเรื่องสั่งฟ้องเอง ไม่รอจนคดีหมดอายุความ ทำให้แก๊งปั่นหุ้นลอยนวล

แต่สิ่งที่หลายฝ่ายกำลังเฝ้ารอดูอยู่คือ การฟ้องการปั่นหุ้นคดีทางแพ่ง บทสรุปจะเป็นอย่างไร ศาลจะตัดสินคดีอย่างไร

เพราะยังไม่มีการปั่นหุ้นคดีใดที่มีข้อยุติตามคำพิพากษาของศาล แต่อีกไม่นานคงมี เพราะคดีปั่นหุ้นรอส่งฟ้องในทางแพ่งนับสิบๆ คดี

แก๊งปั่นหุ้นที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนในตลาดหุ้นนับหมื่นนับแสนคน ก.ล.ต. คงทำได้เพียงการลงโทษในทางแพ่ง
เพราะการร้องทุกข์กล่าวโทษในทางอาญา เพื่อให้แก๊งปั่นหุ้นรับโทษหนัก จนเกิดความหลาบจำทำไม่ได้

เพราะร้องทุกข์กล่าวโทษไปทีไร กรมสอบสวนคดีพิเศษตัดตอนเฮี้ยน จนไม่เหลือคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาลแม้แต่คดีเดียว
แก๊งปั่นหุ้นจึงผยองจนถึงวันนี้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่