อยู่ ม.5 ค่ะ สายศิลป์คำนวน ควรเรียนอะไรดีคะ

กระทู้คำถาม
เรากดดันและเครียดมากๆ เราตามใจพ่อแม่ทุกอย่างนะ ตั้งแต่ที่เขาอยากให้เรามาเรียนม.ปลายที่กรุงเทพ เราก็มาเรียนให้ เราเลือกศิลป์คำนวนเพราะเรารู้ว่าเราเรียนวิทย์คณิตที่นี่ไม่ไหวแน่ๆ แล้วก็คงสอบเข้าไม่ได้ด้วย จนตอนนี้เราจะจบม.5 แล้ว เราเคยอยากเป็นครู นักจิตวิทยา แม้กระทั่งนักเขียน นักแปล แต่พ่อกับแม่ไม่เห็นด้วยเลย เขาก็มีเหตุผลของเขาเราเข้าใจ ศิลป์คำนวนมันก็ควรเรียนบัญชีใช่ไหมคะ เราค่อนข้างโอเคกับบัญชีนะ ตอนม.4 เราทำได้ดีทีเดียวล่ะค่ะ แต่พ่อกับแม่บอกว่าอนาคตเครื่องจักรมันจะมาทำงานแทนคน แล้วพวกนี้ก็จะตกงาน คือถ้าเครื่องจักรมันทำได้ถึงขึ้นนั้นทุกอาชีพมันก็ตกงานเหมือนกันนั่นแหละ ศิลป์คำนวนเรียนเภสัชกับทันตะได้ไหมคะ เราเจอมาว่าเรียนไม่ได้ แต่แม่ดูเหมือนอยากให้เราเรียน ที่แน่ๆคือเราไม่เอาทันตะ แต่เภสัชเราค่อนข้างเฉยๆ ไม่ได้อยากเป็น แต่ถ้าจะให้เป็นก็ได้ พ่อเราอยากให้เราเรียนเศรษฐศาสตร์ แต่เรารู้แล้วว่าตัวเองไม่เหมาะแน่ๆ

เราไม่เก่งคณิตเท่าไหร่(เลขพื้นฐานได้ค่อนข้างดี แต่เลขเสริมไม่) ภาษาได้แค่อังกฤษกับไทย เราชอบภาษา เรารู้สึกว่าภาษาแต่ละภาษามีความงดงามในแบบของมันเอง อาจเป็นเพราะเราชอบอ่านด้วยส่วนหนึ่ง เราชอบประวัติศาสตร์ เรารู้สึกว่าการได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีตมันสนุกดี พระพุทธศาสนาเราชอบมาก ด้วยความที่เราชอบเข้าวัด ชอบฟังธรรมมาตั้งแต่เด็กๆ วิชานี้ไม่ยากสำหรับเราเลย วิทยาศาสตร์เราทำความเข้าใจบทเรียนได้เร็ว แต่พวกโครงงานเราไม่สู้ อันนี้ไม่ไหวจริงๆ ถ้าต้องคิดเองทั้งหมด ตายตั้งแต่หัวข้อแล้ว

เราชอบทำอะไรคนเดียว เราชอบอยู่เงียบๆ ถ้าอยู่กับคนอื่นเรามักเป็นผู้ฟังและเป็นผู้ตาม เราไม่ค่อยแอคทีฟ ไม่ค่อยติดตามข่าวสารบ้านเมือง ชอบความสงบ เรากลัวความไม่มั่นคง มีเพื่อนน้อย มีเพื่อนสนิทคนเดียว และบางครั้งเราเหมือนกันตัวเองออกมาจากคนอื่นโดยไม่รู้ตัว ไม่ใช่คนที่มีความคิดสร้างสรรค์(หรืออาจจะเคยมีเมื่อนานมากแล้ว) ความจำเราไม่แย่(ถ้าฝึกสักหน่อยเราว่าความจำเราก็ค่อนข้างดีนะ) เราว่าตัวเองค่อนข้างมีไหวพริบนะคะ(อาจารย์ของเราก็เคยบอก) เราชอบแปลนะ ชอบเขียน ชอบบอกเล่าเรื่องราวต่างๆผ่านตัวอักษร ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านชิ้นงาน เราชอบอ่าน ชอบวิเคราะห์เรื่องราว ซึมซับความรู้สึกที่ผู้เขียนต้องการสื่อสารออกมา เราอยากเข้าใจความรู้สึกของเขา อยากปลอบประโลมจิตใจของคนที่กำลังโศกเศร้า แต่เราก็ทำได้แค่นั่งเงียบๆ เราคุยกับคนอื่นไม่ได้ ทำได้แค่รับฟัง และร้องไห้ไปกับเรื่องราวอันน่าเศร้าเหล่านั้น

เราอาจเคยร่าเริง เราเคยเป็นคนพูดเก่ง แต่เราก็ไม่รู้ว่าเราเปลี่ยนไปได้ยังไง ตอนนี้เราเหมือนคนเก็บกด คิดมาก บางครั้งก่อนจะพูดอะไรเราคิดแล้วคิดอีก กลัวจะไปทำร้ายความรู้สึกของใครไหม จะมีใครรู้สึกแย่กับการกระทำและคำพูดของเราไหม เรากังวลสารพัดก่อนจะจบลงด้วยการปิดกั้นตัวเอง ไม่พูดไม่ถาม จมอยู่กับตัวเองเงียบๆ เราเป็นคนที่คนที่อยากรู้เรื่องอะไรต้องรู้ให้ได้ บางครั้งเสียเวลาเป็นวันๆกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรามักค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต

เรารักสัตว์ ครั้งหนึ่งเราเคยอยากเป็นสัตวแพทย์ สำหรับเราสัตว์เลี้ยงไม่ใช่แค่สัตว์ พวกเขาเป็นเพื่อน ความผูกพัน ความเจ็บปวดจากการสูญเสียเราเข้าใจดี เราผ่านมันมาครั้งแล้วครั้งเล่า เราอยากช่วยเหลือพวกเขา กลับกันเราเป็นแพทย์รักษาคนไม่ได้แน่ๆ เราไม่ได้รังเกียจ เราแค่ไม่สามารถปรนนิบัติบุคคลที่ไม่ใช่คนในครอบครัวได้ เราเป็นเพื่อนคุยได้ แต่เราดูแลพวกเขาไม่ได้ เราเข้าใจพวกเขาได้ แต่เราไม่สามารถรักพวกเขาเหมือนที่เรารักสัตว์ แม้แต่คนที่มีความผูกพันทางสายเลือดที่ไม่ได้ใกล้ชิดเรายังไม่รู้เลยว่าเราจะปรนนิบัติเขาให้ดีได้หรือเปล่า พวกเขาเป็นเหมือนคนแปลกหน้า ความจริงแล้วเราผูกพันกับคนง่ายนะ เราเป็นคนอ่อนไหว เราร้องไห้บ่อย ตอนที่เริ่มเขียนกระทู้ก็ร้องไห้อยู่เลยจะพิมพ์แปลกๆไปหน่อยต้องขอโทษด้วย

ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ขอโทษด้วยที่เขียนยืดยาว อาจจะไร้สาระไปหน่อย เราแค่อยากเขียน อยากระบายออกมาให้ใครสักคนฟัง เราอยากได้คำแนะนำมากจริงๆ เราไม่รู้จะพูดให้ใครฟังดีแล้ว เรารู้ว่าพ่อกับแม่เหนื่อยกับเรามามาก เราเคยมีความฝันแต่มันนานแสนนานจนเราเองก็คิดไม่ออกแล้ว เราจินตนาการภาพตัวเองในอีก 5 ปี 10 ปี 20 ปีข้างหน้าไม่ออกเลย เราชอบเขียน แต่การเป็นนักเขียน เราอาจทำมันเป็นอาชีพเสริมก็ได้ อาชีพหลักเราจะทำยังไงดี ได้โปรดช่วยเราที เราควรเรียนอะไร
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่