เพล้ง !! เสียงขวดแก้วกระทบฝาห้องดังขึ้นอีกแล้ว นวล แหงนหน้ามองฝาห้องเช่า อย่างเอือมๆ มือที่สอยชายกระโปรง
ด้นด้ายไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดตามสายตา ความเคยชินทั้งเสียงและภาพ ไม่ได้ทำให้สมาธิของนวลสะดุดลง
มีแต่ความหงุดหงิดรำคาญใจที่แผ่ออกมาเป็นระลอกๆ เมื่อเสียงขวดน้ำหรือแก้วน้ำที่เธอไม่อยากเดา ดังมาเป็นคำรบสอง
ปากพ่นลมออกมา เหมือนอยากระบายความเหนื่อยหน่าย และสมองก็สั่งการให้เธอ ระบายความหงุดหงิด ออกมาเป็นคำพูด
“ เฮ้อ..คราวนี้จะเย็บกันกี่เข็มล่ะเนี่ย พี่ปรางค์ “ ลำบากอินวลต้องดูแล อีกแล้วม้างงงงง
บ่นเสร็จ วางมือจากงานที่รับมาทำที่บ้าน แล้ว ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู ยังไงก็เพื่อนข้างห้อง เพื่อนร่วมโลก เคยแบ่งปันของกิน
ของใช้ให้กันมานักต่อนัก คงต้องลุก ไปดูซะหน่อย เผื่อเป็นไรหนักหนาสาหัสสากรรจ์ จะได้เรียกรถพยาบาลได้ทันเวลา
ยังไม่ทันเดินออกจากห้อง ประตูหน้าบ้านก็เปิดสวนเข้ามา ทำเอานวลเกือบชนประตู สันต์ ผู้เป็นสามี กลับมาจากทำงานพอดี
หล่อนมองหน้าเขาเพียงแว๊บเดียว ด้วยหางตา แว๊บเดียวจริงๆ ใจพลันนึก
" เชอะ จะกลับมาทำไมเร็วๆว่ะ ทำไมไม่รอ หนูน้ำกลับมาก่อน จะได้พาลูกไปซื้อขนม "
เงินในกระเป๋าเธอตอนนี้ มีไม่กี่ร้อยบาท พรุ่งนี้ค่าน้ำคงจะมีใบเตือนมาจากเจ้าของห้องเช่า เธอต้องเตรียมไว้ให้เจ้าของห้อง
เพราะผลัดมาหลายวันแล้ว ขืนพรุ่งนี้ ไม่ให้มีหวังโดนไล่ออกจากห้องเช่าแน่ ๆ
ลำพังเงินเดือนที่ สันต์ให้ในแต่ละเดือน แค่ซื้อข้าวสาร อาหารให้ลูกกิน ก็จะไม่พอแล้ว
นวล จึงต้องดิ้นรนขวนขวายรับงานผ้ามาทำที่บ้าน เพื่อหารายได้เพิ่ม
เสียงกรีดร้องของพี่ปรางค์ดังมาอีก เธอละความสนใจจากสามี เดินดุ่มๆ ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
เสียงตุ๊บตั๊บ ตามมาเป็นระยะๆ นอกห้อง นอกจากเธอแล้ว ไม่มีใคร โผล่หน้ามาดู หรือ มาสอบถามเรื่องราว ของพี่ปรางค์
และสามีเลยซักคน นวลคิด ถ้าพี่ปรางค์ หรือ พี่ชาญ ตายคาห้องเช่า จะมีคนรู้รึป่าว ?
แต่ก็น่าเห็นใจคนเช่าห้อง พี่ชาญกับพี่ปรางค์ ตีกันทุกวัน เมื่อเมา จนทำให้คนข้างห้องเอือมระอา
จากเสียงทะเลาะโหวกเหวกโวยวาย และ ทั้งคู่ ก็เมาแอ๋ ทุกวันซะด้วย สองคนนี้ช่างเป็นคู่เวรคู่กรรมจริ๊ง จริง
ประตูห้องเปิดผลั๊วะออกมา พี่ปรางค์ปาดเหงื่อบนใบหน้า และถ่มเลือดในปากทิ้ง เธอเดินสะเปะสะปะ มานั่งที่โต๊ะหินหน้าบ้าน
ผมเผ้า หยุ่งเหยิง หน้าตาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ นวลเดินเข้าไปถาม
“ เป็นไงบ้างพี่ ไหวป่าว ไปหาหมอมั้ย พี่ “
ปรางค์หญิงสาววัยกลางคน ร่างผอมบาง โบกมือเป็นสัญญาณว่า ไม่ ยังไม่ทันที่ ทั้งสอง จะพูดอะไรต่อ
ชาญ ผู้เป็นสามีก็เดินออกตามภรรยา มาที่โต๊ะ และกล่าวว่า
“ ปางง เพ่บอกแล้วว่า อย่าไปคุยกับมัน ไอ้อ๊อด มันมีเมียแล้ว ปางก้อม่ายเชื่อ พี่รู้นะ ว่ามันชอบปางง อึ๊ก “
พูดไปก็สะอึกไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทั้งยังยืนโงนเงนด้วยอานุภาพของเหล้าที่ดื่มเข้าไป ปรางค์ผู้เป็นเมีย ตอบด้วยอาการเมาเต็มที่
เหมือนกัน
" กรูม่ายด้าย ชอบมันเว่ย มันแค่มาถามหาเมียมัน กรูบอก
ตั้งกี่ร้อยคร้างงง เข้าใจบ้างป่ะ หา “
พูดจบ ก็ถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างโมโห ชาญผู้เป็นสามี เดินเซ เข้ามากอดภรรยาอย่างสำนึกผิด และเอาใจ
นวลเห็นว่าทั้งสองน่าจะปรับความเข้าใจจนเข้ารูปเข้ารอยกันแล้ว คือทะเลาะกันแล้วก็กอดกันเข้าห้องเหมือนเดิม เธอจึงเดินกลับห้อง
ตอนนี้น่าจะได้เวลาไปรับ น้องน้ำ ลูกสาวคนเดียวแล้ว เออ แต่ สันต์กลับมาพอดี แล้วความคิด ก็ฉุกขึ้นมา
ให้พ่อของลูกไปรับลูกดีกว่า เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้น ถ้าพ่ออยู่กับลูกบ่อยๆ สันต์อาจกลับมาเหมือนเดิม
เท้าไวเท่าความคิด เธอรีบเดินไปหาสามีในห้อง และเอ่ยปาก
” พี่สันต์ ไปรับลูกหน่อยสิ เดี๋ยวนวลจะทำอะไรอร่อยๆให้กิน “
สันต์ผู้เป็นสามี กำลังติดกระดุมเสื้อ แหงนหน้ามองเมีย ด้วยสายตาเฉยเมย
“ ไม่ทันแล้ว พี่จะรีบไป นายรออยู่ นวลก็ไปรับเองเถอะ เอาไว้พี่ว่าง พี่จะไปรับ “
พูดจบเขาก็สะพายกระเป๋า หลบสายตาเมีย แล้วผลุบออกจากประตูไป
นวล น้ำตารื้นไหลลงแก้ม ด้วยความน้อยใจ แต่ก็ไม่วายตะโกนถามสามี
“ แล้วพี่จะกลับบ้านอีกเมื่อไหร่ “
สามีไม่ตอบกลับมา ยิ่งทำให้ นวล หญิงสาวผู้อาภัพ กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ บ่อน้ำตาเธอทะลักออกมาเป็นสาย
สี่ปีที่ อยู่กับสามี เธอไม่เคยได้รับความรักอย่างจริงใจกับเค้าเลย สามีเปลี่ยนผู้หญิงบ่อย เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า
และด้วยน้องน้ำ ที่เกิดมา ทำให้เธอและเขา ต้องมีโซ่ เป็นพันธนาการ ต่อกัน โดยที่ความรัก ละลายหายไปทุกวัน...
...............................
เสียงจี๊ดๆ กุกกัก กุกกัก ดังอยู่มุมห้อง นวลตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ...เจ้าหนูตัวแสบ เข้ามาหาอาหารกินในห้องอีกแล้ว
หลายคืนมานี้ เธอนอนหลับน้อยลงมาก เพราะนอกจากเสียงหนูที่รบกวนเธอแล้ว ความรู้สึกอัดอั้น ที่สามีไม่เคยสนใจดูแลเธอ..
ก็ทำให้เธอเครียดอยู่บ่อยๆ อีกทั้ง เสียงทะเลาะของพี่ปรางค์ข้างห้อง ยิ่งทำให้สุขภาพจิต เธอแย่ลงทุกวัน
พรุ่งนี้ เธอคงต้องทำอะไรบางอย่าง !
.................
เช้าแล้ว นวลงัวเงียลุกขึ้น อย่างมึนงง เสียงทะเลาะข้างห้อง ดังมาอีกแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้า เสียงด่าทอ พึมพำ
ของพี่ปรางค์และพี่ชาญ ยังไม่หยุดลงเลย ดีแต่ว่า ไม่มีเสียงข้าวของเครื่องใช้ แตกให้เธอหนวกหู
เธอปลุกน้องน้ำ เพื่ออาบน้ำแต่งตัวไป โรงเรียน ลูกสาวเป็นเด็กดี ไม่เคยงอแง ให้เธอลำบากใจ เธอจึงรักลูกมาก
อย่างน้อยเธอก็มีน้องน้ำอยู่เป็นเพื่อน แม้สามีจะไม่อยู่ด้วยก็ตาม สันต์ทำงานทีไหน อย่างไร นวลไม่เคยถาม
เขาเคยบอกไว้ว่า ถ้าวันหนึ่งเขาไม่กลับมา หรือเป็นอะไรไป ก็ให้นวลเอาประกันชีวิต ไปเบิกเงิน เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงลูก
เขาไม่เคยตบตีเธอแม้แต่ปลายก้อย มีแต่เรื่องผู้หญิงเท่านั้นที่เธอเจ็บช้ำน้ำใจ ทำไมเธอรู้เหรอ? ว่าเค้านอกใจเธอ
เพราะเขาไม่เคยปิดบังเธอเลย สันต์จะพาผู้หญิงกลับมาด้วย และผู้หญิง พวกนั้น รออยู่ ข้างนอกห้อง และเมื่อสันต์
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ พวกเค้าก็พากันไป ทิ้งให้นวลเก็บความช้ำใจไว้กับตัวเอง
นวลเดินจูงลูกไปส่งที่โรงเรียน โชคดีที่ โรงเรียนอยู่ใกล้ เธอจึงประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ วันนี้คงต้องแวะตลาด
เพื่อซื้อ สะตอมเก็บไว้ และซื้อขนมไว้ให้ลูก
กลับมาถึงห้อง เห็นสามียืนรออยู่ นวลดีใจมากรีบปรี่เข้าไปหาเค้า ยังไม่ทันพูดอะไร หญิงสาว ที่สันต์ติดพัน ก็เดินออกมาจากห้อง
เธองุนงง และสงสัยมาก ปรกติ สันต์ไม่เคยพาใครเข้าห้อง แล้วคราวนี้ทำไม พาหล่อนเข้ามา
นวลเริ่มมีอาการ สะอื้น น้ำตาเจ้ากรรมไม่ยอมเหือหาย มันกลับยิ่งไหลลงมาอาบแก้ม เธออยากกรีดร้อง แต่ก็ร้องไม่ออก
สันต์เอง ก็คงรู้ว่าถ้าขืนอยู่ต่อไป นวลคงระเบิดอารมณ์ใส่เขาเป็นแน่แท้ เขาบอกเธอว่า
" พี่แวะเอาเงินมาให้น่ะ พอดีได้งานพิเศษ เดี๋ยวเย็นนี้ พี่มากินข้าวด้วยนะ “
พูดจบก็เอาเงินยัดใส่มือเธอ และจูงมือผู้หญิงคนใหม่ของเขา จากไป....
มีต่อค่ะ...
เรื่องสั้น : หลอนซ่อนซาก...
เพล้ง !! เสียงขวดแก้วกระทบฝาห้องดังขึ้นอีกแล้ว นวล แหงนหน้ามองฝาห้องเช่า อย่างเอือมๆ มือที่สอยชายกระโปรง
ด้นด้ายไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดตามสายตา ความเคยชินทั้งเสียงและภาพ ไม่ได้ทำให้สมาธิของนวลสะดุดลง
มีแต่ความหงุดหงิดรำคาญใจที่แผ่ออกมาเป็นระลอกๆ เมื่อเสียงขวดน้ำหรือแก้วน้ำที่เธอไม่อยากเดา ดังมาเป็นคำรบสอง
ปากพ่นลมออกมา เหมือนอยากระบายความเหนื่อยหน่าย และสมองก็สั่งการให้เธอ ระบายความหงุดหงิด ออกมาเป็นคำพูด
“ เฮ้อ..คราวนี้จะเย็บกันกี่เข็มล่ะเนี่ย พี่ปรางค์ “ ลำบากอินวลต้องดูแล อีกแล้วม้างงงงง
บ่นเสร็จ วางมือจากงานที่รับมาทำที่บ้าน แล้ว ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู ยังไงก็เพื่อนข้างห้อง เพื่อนร่วมโลก เคยแบ่งปันของกิน
ของใช้ให้กันมานักต่อนัก คงต้องลุก ไปดูซะหน่อย เผื่อเป็นไรหนักหนาสาหัสสากรรจ์ จะได้เรียกรถพยาบาลได้ทันเวลา
ยังไม่ทันเดินออกจากห้อง ประตูหน้าบ้านก็เปิดสวนเข้ามา ทำเอานวลเกือบชนประตู สันต์ ผู้เป็นสามี กลับมาจากทำงานพอดี
หล่อนมองหน้าเขาเพียงแว๊บเดียว ด้วยหางตา แว๊บเดียวจริงๆ ใจพลันนึก
" เชอะ จะกลับมาทำไมเร็วๆว่ะ ทำไมไม่รอ หนูน้ำกลับมาก่อน จะได้พาลูกไปซื้อขนม "
เงินในกระเป๋าเธอตอนนี้ มีไม่กี่ร้อยบาท พรุ่งนี้ค่าน้ำคงจะมีใบเตือนมาจากเจ้าของห้องเช่า เธอต้องเตรียมไว้ให้เจ้าของห้อง
เพราะผลัดมาหลายวันแล้ว ขืนพรุ่งนี้ ไม่ให้มีหวังโดนไล่ออกจากห้องเช่าแน่ ๆ
ลำพังเงินเดือนที่ สันต์ให้ในแต่ละเดือน แค่ซื้อข้าวสาร อาหารให้ลูกกิน ก็จะไม่พอแล้ว
นวล จึงต้องดิ้นรนขวนขวายรับงานผ้ามาทำที่บ้าน เพื่อหารายได้เพิ่ม
เสียงกรีดร้องของพี่ปรางค์ดังมาอีก เธอละความสนใจจากสามี เดินดุ่มๆ ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
เสียงตุ๊บตั๊บ ตามมาเป็นระยะๆ นอกห้อง นอกจากเธอแล้ว ไม่มีใคร โผล่หน้ามาดู หรือ มาสอบถามเรื่องราว ของพี่ปรางค์
และสามีเลยซักคน นวลคิด ถ้าพี่ปรางค์ หรือ พี่ชาญ ตายคาห้องเช่า จะมีคนรู้รึป่าว ?
แต่ก็น่าเห็นใจคนเช่าห้อง พี่ชาญกับพี่ปรางค์ ตีกันทุกวัน เมื่อเมา จนทำให้คนข้างห้องเอือมระอา
จากเสียงทะเลาะโหวกเหวกโวยวาย และ ทั้งคู่ ก็เมาแอ๋ ทุกวันซะด้วย สองคนนี้ช่างเป็นคู่เวรคู่กรรมจริ๊ง จริง
ประตูห้องเปิดผลั๊วะออกมา พี่ปรางค์ปาดเหงื่อบนใบหน้า และถ่มเลือดในปากทิ้ง เธอเดินสะเปะสะปะ มานั่งที่โต๊ะหินหน้าบ้าน
ผมเผ้า หยุ่งเหยิง หน้าตาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ นวลเดินเข้าไปถาม
“ เป็นไงบ้างพี่ ไหวป่าว ไปหาหมอมั้ย พี่ “
ปรางค์หญิงสาววัยกลางคน ร่างผอมบาง โบกมือเป็นสัญญาณว่า ไม่ ยังไม่ทันที่ ทั้งสอง จะพูดอะไรต่อ
ชาญ ผู้เป็นสามีก็เดินออกตามภรรยา มาที่โต๊ะ และกล่าวว่า
“ ปางง เพ่บอกแล้วว่า อย่าไปคุยกับมัน ไอ้อ๊อด มันมีเมียแล้ว ปางก้อม่ายเชื่อ พี่รู้นะ ว่ามันชอบปางง อึ๊ก “
พูดไปก็สะอึกไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทั้งยังยืนโงนเงนด้วยอานุภาพของเหล้าที่ดื่มเข้าไป ปรางค์ผู้เป็นเมีย ตอบด้วยอาการเมาเต็มที่
เหมือนกัน " กรูม่ายด้าย ชอบมันเว่ย มันแค่มาถามหาเมียมัน กรูบอก
พูดจบ ก็ถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างโมโห ชาญผู้เป็นสามี เดินเซ เข้ามากอดภรรยาอย่างสำนึกผิด และเอาใจ
นวลเห็นว่าทั้งสองน่าจะปรับความเข้าใจจนเข้ารูปเข้ารอยกันแล้ว คือทะเลาะกันแล้วก็กอดกันเข้าห้องเหมือนเดิม เธอจึงเดินกลับห้อง
ตอนนี้น่าจะได้เวลาไปรับ น้องน้ำ ลูกสาวคนเดียวแล้ว เออ แต่ สันต์กลับมาพอดี แล้วความคิด ก็ฉุกขึ้นมา
ให้พ่อของลูกไปรับลูกดีกว่า เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้น ถ้าพ่ออยู่กับลูกบ่อยๆ สันต์อาจกลับมาเหมือนเดิม
เท้าไวเท่าความคิด เธอรีบเดินไปหาสามีในห้อง และเอ่ยปาก ” พี่สันต์ ไปรับลูกหน่อยสิ เดี๋ยวนวลจะทำอะไรอร่อยๆให้กิน “
สันต์ผู้เป็นสามี กำลังติดกระดุมเสื้อ แหงนหน้ามองเมีย ด้วยสายตาเฉยเมย
“ ไม่ทันแล้ว พี่จะรีบไป นายรออยู่ นวลก็ไปรับเองเถอะ เอาไว้พี่ว่าง พี่จะไปรับ “
พูดจบเขาก็สะพายกระเป๋า หลบสายตาเมีย แล้วผลุบออกจากประตูไป
นวล น้ำตารื้นไหลลงแก้ม ด้วยความน้อยใจ แต่ก็ไม่วายตะโกนถามสามี “ แล้วพี่จะกลับบ้านอีกเมื่อไหร่ “
สามีไม่ตอบกลับมา ยิ่งทำให้ นวล หญิงสาวผู้อาภัพ กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ บ่อน้ำตาเธอทะลักออกมาเป็นสาย
สี่ปีที่ อยู่กับสามี เธอไม่เคยได้รับความรักอย่างจริงใจกับเค้าเลย สามีเปลี่ยนผู้หญิงบ่อย เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า
และด้วยน้องน้ำ ที่เกิดมา ทำให้เธอและเขา ต้องมีโซ่ เป็นพันธนาการ ต่อกัน โดยที่ความรัก ละลายหายไปทุกวัน...
...............................
เสียงจี๊ดๆ กุกกัก กุกกัก ดังอยู่มุมห้อง นวลตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ...เจ้าหนูตัวแสบ เข้ามาหาอาหารกินในห้องอีกแล้ว
หลายคืนมานี้ เธอนอนหลับน้อยลงมาก เพราะนอกจากเสียงหนูที่รบกวนเธอแล้ว ความรู้สึกอัดอั้น ที่สามีไม่เคยสนใจดูแลเธอ..
ก็ทำให้เธอเครียดอยู่บ่อยๆ อีกทั้ง เสียงทะเลาะของพี่ปรางค์ข้างห้อง ยิ่งทำให้สุขภาพจิต เธอแย่ลงทุกวัน
พรุ่งนี้ เธอคงต้องทำอะไรบางอย่าง !
.................
เช้าแล้ว นวลงัวเงียลุกขึ้น อย่างมึนงง เสียงทะเลาะข้างห้อง ดังมาอีกแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้า เสียงด่าทอ พึมพำ
ของพี่ปรางค์และพี่ชาญ ยังไม่หยุดลงเลย ดีแต่ว่า ไม่มีเสียงข้าวของเครื่องใช้ แตกให้เธอหนวกหู
เธอปลุกน้องน้ำ เพื่ออาบน้ำแต่งตัวไป โรงเรียน ลูกสาวเป็นเด็กดี ไม่เคยงอแง ให้เธอลำบากใจ เธอจึงรักลูกมาก
อย่างน้อยเธอก็มีน้องน้ำอยู่เป็นเพื่อน แม้สามีจะไม่อยู่ด้วยก็ตาม สันต์ทำงานทีไหน อย่างไร นวลไม่เคยถาม
เขาเคยบอกไว้ว่า ถ้าวันหนึ่งเขาไม่กลับมา หรือเป็นอะไรไป ก็ให้นวลเอาประกันชีวิต ไปเบิกเงิน เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงลูก
เขาไม่เคยตบตีเธอแม้แต่ปลายก้อย มีแต่เรื่องผู้หญิงเท่านั้นที่เธอเจ็บช้ำน้ำใจ ทำไมเธอรู้เหรอ? ว่าเค้านอกใจเธอ
เพราะเขาไม่เคยปิดบังเธอเลย สันต์จะพาผู้หญิงกลับมาด้วย และผู้หญิง พวกนั้น รออยู่ ข้างนอกห้อง และเมื่อสันต์
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ พวกเค้าก็พากันไป ทิ้งให้นวลเก็บความช้ำใจไว้กับตัวเอง
นวลเดินจูงลูกไปส่งที่โรงเรียน โชคดีที่ โรงเรียนอยู่ใกล้ เธอจึงประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ วันนี้คงต้องแวะตลาด
เพื่อซื้อ สะตอมเก็บไว้ และซื้อขนมไว้ให้ลูก
กลับมาถึงห้อง เห็นสามียืนรออยู่ นวลดีใจมากรีบปรี่เข้าไปหาเค้า ยังไม่ทันพูดอะไร หญิงสาว ที่สันต์ติดพัน ก็เดินออกมาจากห้อง
เธองุนงง และสงสัยมาก ปรกติ สันต์ไม่เคยพาใครเข้าห้อง แล้วคราวนี้ทำไม พาหล่อนเข้ามา
นวลเริ่มมีอาการ สะอื้น น้ำตาเจ้ากรรมไม่ยอมเหือหาย มันกลับยิ่งไหลลงมาอาบแก้ม เธออยากกรีดร้อง แต่ก็ร้องไม่ออก
สันต์เอง ก็คงรู้ว่าถ้าขืนอยู่ต่อไป นวลคงระเบิดอารมณ์ใส่เขาเป็นแน่แท้ เขาบอกเธอว่า
" พี่แวะเอาเงินมาให้น่ะ พอดีได้งานพิเศษ เดี๋ยวเย็นนี้ พี่มากินข้าวด้วยนะ “
พูดจบก็เอาเงินยัดใส่มือเธอ และจูงมือผู้หญิงคนใหม่ของเขา จากไป....
มีต่อค่ะ...