เรื่องมันมีอยู่ว่า เจ้าของกระทู้ต้องการกู้เงิน "โครงการไทรทอง" "ธนาคารชมพู" เพื่อที่ต้องการปิดยอดหนี้อื่นๆเป็นหนี้ทางเดียว โครงการนี้สามารถให้คนค้ำ หรือหลักทรัพย์ค้ำได้ เจ้าของกระทู้จึงยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่หลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำนั้นมันเป็น โฉนด นส.4 จ (มีสลักด้านหลังว่าห้ามโอนภายใน 10 ปี) ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถใช้ค้ำได้หรือเปล่า ได้นำโฉนดไปสอบถามหลายๆธนาคารเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าใช้ไม่ได้ จึงโทรไปสอบถามที่ธนาคารสีชมพูเจ้าหน้าที่บอกได้ ในวันที่ไปสมัครสินเชื่อ เจ้าของกระทู้ก็ยื่นใบโฉนดให้ดูพร้อมย้ำว่ามีสลักหลังใช้ค้ำได้ไหม เจ้าหน้าที่ก็บอกได้ (เจ้าหน้าที่ถามเพื่อนร่วมงานด้วยกันอีกด้วย) จึงทำการสมัครขอสินเชื่อ เวลาผ่านไปประมาณ1สัปดาห์มีเจ้าหน้าที่โทรมาจะเข้าไปประเมิน อ่อ โฉนดที่ใช้ค้ำอยู่ ตจว. ผู้กู้ทำงานที่งานที่ กทม. จึงยื่นกู้ใกล้ที่ทำงานและธนาคารที่ยื่นก็เป็นธนาคารที่เจ้าของกระทู้เป็นลูกค้าอยู่แล้ว หลังเจ้าหน้าที่ประเมินเสร็จสรรพ ผ่านไปสองอาทิตย์ เจ้าของกระทู้โทรตามเรื่องเพราะเห็นว่านานพอสมควรทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่ายังไม่ได้สมุดประเมินราคาทางเขตมาซึ่งเข้าใจว่าถ้าหลักทรัพย์อยู่คนละทีกับที่ยื่นกู้มันต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะต้องส่งเรื่องไปมา ผ่านมานานเกือบเดือนโทรตามอีก ผลปรากฎว่า....ไม่ผ่านจร้าาาา....เหตุผลคือหลักทรัพย์ที่มช้ค้ำใช้ไม่ได้ อ้าววววว....เราก็งงว่าทำไม่ตอนไปยื่นสมัครบอกว่าใช้ได้แล้วตอนนี้ทำไม่ถึงใช้ไม่ได้แล้วเราเสียค่าประเมินไปแล้ว 2200 ก่อนที่จะส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมินสาขาไม่ได้ดูเอกสารก่อนเหรอพอประเมินเสร็จถึงพพึ่งมาดูเหรือ หรือยังไง เราก็ย้ำถามว่าใช้ได้ไหมๆก็ตอบเราว่าได้เราถึงยืน มาถึงตอนนี้ธนาคารจะรับผิดชอบคืนค่าใช้จ่ายให้ไหมซึ่งมันไม่ใช่ความผิดเรา ขั้นตอน Pre Approve ก็ผ่านไม่ติดอะไร สุดท้ายที่ไม่ผ่านเพราะหลักทรัพย์ค้ำใช้ไม่ได้ แล้วค่าใช้จ่ายธนาคารจะคืนให้ไหม ใครเคยประสบณ์ปัญหาแบบนี้บ้างช่วยตอบที่ เจ้าของกระทู้ควรตัดใจหรืออย่างไรดี
ขอเงินค่าประเมินหลักทรัพย์ คืนได้ไหม??