[CR] เที่ยวเวียงจันทน์(Vientiane-Laos) วันเดียว แบบบ้าบิ่น #คนเดียวก็เที่ยวได้ #นั่งรถไฟเที่ยว

เที่ยวเวียงจันทน์(Vientiane-Laos) วันเดียว แบบบ้าบิ่น #คนเดียวก็เที่ยวได้ #นั่งรถไฟเที่ยว อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16

เท้าความนิดนึงนะ ทริปนี้อาจดูบ้าบิ่นไปนิดนะครับ เนื่องจากที่จริงนอนขาหักอยู่บ้าน แล้วนั่งดูรีวิวท่านอื่นเพลินๆ อมยิ้ม16
    เวลาตอนนั้นก็ซักประมาณบ่าย 4 โมงเย็นได้  ก็เลยเปิดดูตารางรถไฟที่จะไปหนองคายดูครับ
        ทราบเวลารถไฟจะเข้าสถานีรถไฟรังสิตประมาณ 19:34 น. ครับ เอาแล้ว...ไปดีมั้ยนะ?
    ทีนี้พอตัดสินใจได้ก็เอาเลยครับ เสื้อกางเกงอย่างละ 2 ชุด โลชั่น แป้งสีฟัน อาบน้ำ แต่งตัว เสร็จก็ปาไป 6 โมงครึ่งแล้ว
        เลยเดินออกมาเรียก Taxi หน้าหมู่บ้านแถวลำลูกกาคลองสี่ Texi ก็น้อยเหลือเกิน พอขึ้นมาได้ก็มุ่งหน้าไปสถานีรถไฟกันเลย
             ถึงสถานีแบบฉิวเฉียดครับ เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 นาทีได้ เลยเดินไม่ซื้อตั๋วรถไฟชั้น 2 แอร์ ขบวนด่วน 77 ราคา 487 บาท

เพี้ยนไม่อยากจะเล่า ที่จริงก็แค่คิดว่าตัวเองดวงไม่ค่อยดีมากนักเลยอยากออกไปไหว้พระทำบุญกับคนอื่นเขาบ้าง อมยิ้ม16

เมื่อได้ตั๋วรถไฟแล้ว แปปเดียวรถไฟก็เข้าสถานีครับ ลุยกันเลย!!!!!!!!!!![:อมยิ้ม17:][:อมยิ้ม17:][:อมยิ้ม17:]
     ทีนี้แหละครับ จะหากล้องมาถ่ายเอ้า!!!!!!!ลืมเอามา!!!!!!! เพี้ยนเซ็งเป็ด เลยต้องใช้กล้อง iPhone 8Plus เอา
     ขึ้นรถไฟก็หาที่นั่งครับ และเข้าโหมดหลับตลอดทาง เนื่องจาก 2 ข้างทางมืดมาก มองอะไรไม่เห็นเลยอมยิ้ม20
พอรถเลยขอนแก่นมาได้ ก็นอนไม่ค่อยจะหลับเท่าไหร่นักครับ รถไฟแอร์เสียตลอดทางเลยจร้า ร้าก!!!!!ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้
     เอาหละถือว่าเป็นประสบการณ์อมยิ้ม16 และแล้วรถไฟก็เข้าสถานีหนองคายครับ ตอนนั้นเวลาประมาณ 04:50 น. ครับ
          ล่าช้าไปนิดครับ แต่ถือว่าทำได้ดีครับ
     จากนั้นแบตมือถือก็เริ่มจะหมดลงครับ ก็เลยไปตามหาที่ชาร์ตแบตมือถือ จะมีมั้ยนะ?
          และแล้วก็หาเจอ ***สถานีหนองคายจะมีจุดที่ผู้โดยสารมาชาร์ตแบตมือถือเยอะครับ อยู่ตรงข้ามห้องขายตั๋ว ***
               นอนรอและแล้วก็หลับไปครับ ตื่นมาก็ประมาณ 6:30 น. ได้ครับ อากาศประมาณ 22ํC ครับ อมยิ้ม02
นั้งดูรถไฟเพลินๆ ก็รู้สึกดีแล้วครับ เอาหละไปกันต่อเลยครับ แบตมือถือเต็มละ อิอิ[:อมยิ้ม17:]
     เดินออกมาหน้าสถานีหนองคายก็จะเจอกับรถสกายแล็บครับ ผมเดินทางคนเดียว ก็เลยโดนไปแพงเลยครับ
          ปกติแล้วถ้ามาเยอะจากสถานีไปด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ก็ประมาณ 30 บาท แต่ผมไปคนเดียวก็ 50 บาทครับ
พี่สกายแล็บเขาจะส่งเราด้านหน้าของด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว(ด่านพรมแดนหนองคาย) ครับ เราจะต้องเดินต่อไปอีกนิดนึง

เดินเข้ามาแล้ว ก็เข้า ต.ม. ได้เลยครับ ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที เสร็จครับ
     เดินออกมาจากห้องก็จะเจอเข้ากับโต๊ะขายตั๋วรถบัสที่จะไปส่งที่ฝั่งด่านลาว 20 บาทครับ ไม่ได้ถ่ายภาพไว้ แต่คิดว่าไม่น่าหลงครับ
          นี่คือสภาพภายในรถครับ ก็ไม่ได้แย่อย่างที่เค้าว่ากันมาเท่าไหร่นัก
          นั่งรถข้ามมา และแล้วก็เห็นฝั่งลาวแล้วครับ ดูได้จากธงชาติข้างสะพานเปลี่ยนเป็นธงชาติลาวแล้วครับ

พอมาถึงฝั่งลาวแล้วเราก็ลงรถครับ ไปนำใบ ต.ม. ลาวมาเขียน จะมีคนลาวนำมาให้ครับ ขั้นตอนการเขียนก็ไม่ยากครับ อ่านเข้าใจ
     เพี้ยนปักหมุดทุกคนคงทราบกันว่าการเข้าประเทศลาวสามารถเข้าได้ 2 รูปแบบครับ(สำหรับผมใช้ passport ครับ)
           1. สำหรับคนที่มี passport ก็เข้า-ออกปกติ เหมือนประเทศอื่นๆ โดยประเทศลาว สำหรับคนไทยไม่ต้องทำวีซ่าครับ อยู่ได้ 30 วัน
           2. สำหรับคนที่ไม่มี passport ต้องยื่นเรื่องขอทำบัตรผ่านแดน หรือ Border pass จากฝั่งไทยนั่นเองครับ
               **กรณีเข้าไปทำเองก็ 40 บาทครับ จ้างเขาทำก็ 100-150 บาท แล้วแต่ที่ อยู่ในลาวได้ 3 วัน 2 คืนเท่านั้นครับ
     หลังจากเข้า ต.ม. แล้วออกมาจะต้องมาจ่ายภาษีแดนลาว อีกคนละ 50 บาทครับ และก็เข้าลาวได้เลย ไม่ยุ่งยากครับ

ไปตามหาตู้แลกเงินกันครับ เดินออกมาจากจุดจ่ายเงินภาษี มองไปทางซ้ายก็เจอเลยครับ แต่ต้องรอ 8:30 น. ตอนนี้ก็เกือบๆ 8โมงละ
ผมแลกกับธนาคารลาวครับ สีเหลืองเขียวขวามือครับ เลทโอเคครับ 1000 บาท ได้มา 270,000 กว่ากีบครับ

08:30น. แลกเงินเสร็จแล้วก็ตามหารถเมล์สาย 14 ครับ เพื่อที่จะไปตลาดเช้า
     เดินออกมาจาก ต.ม. มองไปทางขวามือ จะมีป้ายรถเมล์อยู่ครับ ด้านหลังจะเป็นร้านขายข้าว เบอร์สายรถเมล์จะไม่ตรงกับสายที่วิ่งจริง
           หากใครกังวลกลัวขึ้นผิด ก็ถามกระเป๋ารถเมล์ได้เลยครับ ว่า"ไปตลาดเช้าหรือไม่"พูดไทยไปได้เลยครับ เขาเข้าใจ
           ค่ารถเมล์จาก ด่านลาว ไป ตลาดเช้า 8,000 กีบ ครับ ประมาณ 30 บาท

พอถึงตลาดเช้าก็ตามหารถรับจ้างครับ เนื่องจากขายังไม่หายดี ก็เลยเหมามอไซค์รับจ้าง ในราคา 120,000 กีบครับ ประมาณ 400 บาทไทย
     อาจจะดูแพงไปสำหรับหลายท่านครับ เพราะเดินเองก็ได้ แต่ตอนนั้นก็ต้องยอมไปครับ แต่พี่วินรับจ้างน่ารักครับ พาไปเที่ยวทั่วเมือง
          แนะนำโน้นนี่นั่น เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ลาวให้ฟังตลอดทางเลยครับ คือได้ไกด์ส่วนตัวไปเลยเพี้ยนเย้

ไปที่แรกกันเลยครับ พี่วินขับพามาที่วัดพระธาตุหลวงครับ ที่นี่เสียค่าเข้า 10,000 กีบครับ


พระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี (ลาว: ທາດຫລວງ หรือ ลาว: ພຣະທາດຫລວງ) นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออก สถานที่นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างของประเทศลาว ดังปรากฏว่าตราแผ่นดินของลาวที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีรูปพระธาตุหลวงเป็นภาพประธานในดวงตรา

ที่ที่สอง คือ ปะตูไซครับ ถ้าถ่ายรูปหน้าลานน้ำพุ หรือบริเวณรอบไม่เสียเงินครับ แต่ถ้าขึ้นไปด้านบนปะตูไซเสียคนละ 3,000 กีบครับ ถ้าไปคนเดียวไม่มีคนถ่ายรูปให้ไม่ต้องกลัวนะครับ มีคนรับจ้างถ่ายรูปเยอะมาก และได้รูปเลยด้วยครับ น่าจะประมาณ 100 บาทได้ ***แต่สำหรับผมให้นักศึกษาลาวถ่ายให้ 555+เพี้ยนหัวเราะ



ปะตูไซ (ลาว: ປະຕູໄຊ; ในอดีตเรียกว่า "อะนุสาวะลี") เป็นอนุสรณ์สถานตั้งอยู่ท้ายสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถนนล้านช้าง ใจกลางนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ก่อสร้างในระหว่างปี ค.ศ. 1957 ถึงปี ค.ศ. 1968[ต้องการตรวจสอบความถูกต้อง] เพื่อเป็นการสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส ปะตูไซถูกตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านช้าง นำสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธ เช่น กินรี และพญานาค เป็นต้น และเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มาตกแต่ง บริเวณโดยรอบมีลานจัดการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีและสวนปะตูไซ

ที่ที่สาม คือ หอคำ หรือ ทำเนียบประธานประเทศ เข้าด้านในไม่ได้ครับ

หอคำหรือทำเนียบประธานประเทศ เคยเป็นประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเจ้าศรีสว่างวัฒนา เมื่อครั้งเสด็จจากหลวงพระบางมาเยือนนครเวียงจันทน์ ปัจจุบันนี้รัฐบาลลาวใช้หอคำเป็นที่รับรองอาคันตุกะต่างประเทศ และท่านประธานประเทศไม่ได้พำนักอยู่ที่หอคำแล้ว ทั้งนี้ ทางรัฐบาลลาวไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมภายในทำเนียบได้

ที่ที่สี่ คือ วัดสีสะเกด ที่นี่จะอยู่ตรงข้ามกับหอพระแก้วครับ  เสียค่าเข้าชม 10,000 กีบครับ





  วัดสีสะเกด (Wat Sisaket) หรือวัดสะตะสะหัสสาราม (วัดแสน)  เป็นวัดที่สร้างขึ้นแห่งแรกในนครเวียงจันทน์ สตสหัสส  แปลว่า 100,000,  อาราม แปลว่า วัด,  วัดสตสหัสสาราม จึงแปลว่า วัดแสน  ในอดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช (ลาว)   ศักดิ์ของวัดนี้เทียบเท่าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ฯ ท่าเตียน ของไทย)  เหตุที่ชื่อวัดแสนก็เพราะว่า  พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชและพุทธศาสนิกชนชาวลาวในอดีต  ทรงสร้างพระพุทธรูปทั้งองค์เล็กและองค์ใหญ่ประดิษฐานไว้ทั่ววัด 100,000 องค์  ดังนั้นจึงมีชื่อเล่นว่าวัดแสน  แต่ปัจจุบันมีเหลืออยู่ประมาณ 10,000 กว่าองค์เท่านั้น  ไกด์บางคนบอกว่ามี 6,000 กว่าองค์  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม  วัดนี้ก็มียังมีพระพุทธรูปมากที่สุดในนครหลวงเวียงจันทน์

ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวมาต่อ พึ่งกลับมายังไม่ทันได้ทานข้าวเลย นอนอย่างเดียวเพี้ยนกินมาม่าเพี้ยนกินมาม่าเพี้ยนกินมาม่า
ชื่อสินค้า:   หนองคาย-เวียงจันทน์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่