***กระทู้แรกของการเล่าเรื่องเที่ยว ใช้ประโยชน์กระทู้เที่ยวของคนอื่นมาก็เยอะ อยากลองทำบ้าง เก็บไว้เป็นความทรงจำ๕๕๕
***และจุดประสงค์จริงๆ ก็คือ อยากรีวิวรถบัสนอน ที่เดินทางไปกลับจากเชียงใหม่-หลวงพระบาง มันฮามาก
ทริปนี้เป็นทริปที่ก็ไม่รู้จะพาพ่อกับแม่ไปไหน อยากพาไปเที่ยวด้วย แต่ช่วงนี้งบน้อย แต่อยู่เฉยๆ แม่ก็เดินไปทำพลาสปอร์ตโดยที่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหน
ไม่เคยพาพ่อแม่ไปต่างประเทศโดยไม่มีทัวร์หรือคนจัดการให้ ลอง ทริปนี้ทริปแรก **ทริปหลอกแม่เดินดอย แบบประหยัดจึงเกิดขึ้น
เกริ่นนำก่อน เรากับพ่อเป็นคนชอบเดินขึ้นเขาดูพระอาทิตย์ขึ้น-ตกหรือทะเลหมอกเป็นปกติอยู่แล้ว แต่แม่ไม่เคยไปด้วยเลย
ทริปนี้คือทริปแรกที่แม่ไป ด้วยเหตุคำคำเดียว..แม่ๆ มันคือไฮไลท์
ค่าเสียหายรวมทั้งหมด ๓ คน ๗ วัน ๗ คืน นับตั้งแต่ก้าวออกจากคอนโดเดินทางไปสนามบิน จน วันกลับเหยียบคอนโด ไม่รวมค่าของฝาก ของช้อปปิ้ง
เป็นเงิน ๒๖๗๘๕.๓๓ บาท ทริปนี้เน้นประหยัด๕๕๕
วันแรก (๑) เดินทางโดยจากดอนเมืองสู่สนามบินแม้ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย เครื่องออกประมาณ ๑๓.๕๕ ถึงเชียงราย ประมาณ ๑๕.๐๐
ก็นัดโรงแรมไว้ให้มารับ ระหว่างรอรถโรงแรมบังเอิญ~~บังเอิญจริงๆ เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีรถ city bus ด้วย เลยถ่ายรูปไว้ เผื่อใช้เป็นทางเลือกเดินทางจาก บขส มาสนามบิน

รูปรถก็เป็นเยี่ยงนี้นะค้า ๒๐ บาทตลอดสาย
พอถึงที่พัก เราพักที่เชียงราย คล็อก ทาวเวอร์ โฮเทล เน้นประหยัด เพราะมานอนแป๊บๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เดินทางไปหลวงพระบางต่อ
โรงแรมเสียอยู่ ๒ อย่าง คือไม่มีลิฟท์ต้องยกของขึ้นเองกับข้ำไหลค่อยต้องใจเย็นนิดนึ่งเวลาอาบน้ำ ห้องเราที่จองไว้อยู่ชั้น ๔
เก็ยของเสร็จเราเลยเช่าจักรยาน สามคันปั่นเล่นรอบเมือง แต่ๆ ร้อนมากเลยค้า

สุดท้ายกินข้าวที่ MK central Chiangrai ไปไกลมาก สุดท้ายกิน MK
แฮปปี้ดี้ด้าไปคร้าก่อนจะไปลำบาก นอนบนรถนอนทั้งวัน
ขับจักรยานไปไนท์บลาช่า เดินดูของนิดหน่อย
ตอนกลับที่พักขับจักรยานกลับก็มืดแล้ว ได้ถ่ายรูปหอนาฬิกาไว้ สวยเยี่ยงนี้แล

เสร็จแล้วเราก็ไปตลาดเตรียมซื้อของกินเผื่อการเดินทางพรุ่งนี้ เพราะเป็นการเดินทางที่ยาวนานมากกกกก
จบไป หนึ่งวัน
วันที่สอง (๒) ขอตื่นสายหน่อยแต่งตัวเก็บของเสร็จก็ ๑๐.๐๐ น. พวกเราก็กินข้างร้านไกลๆ ตามสั่งจานละประมาณ ๖๐ บาท
รถทัวร์ก็เป็นตามโบว์ชัว นี้

เราโทรจองไว้แล้ว สามที่ จองล่วงหน้านานก็ไม่ได้นะ พี่คนขายบอกให้โทรไปก่อนวันเดินทางสัก ๑ วัน
พอถึง เราก็ยื่น พลาสปอร์ต ๓ คน ซื้อตั๋ว ๓ ใบ ใบละ ๙๕๐ บาท เสร็จก็นั่งรอรถที่รถจะมาจอดที่ช่องจอดที่สาม
ระหว่างนี้ก็นั่งรอไปค่าาาา รถมาถึง ๑๒.๓๐ แต่กว่ารถจะออกก็ ๑๓.๔๕
รถเต็มและแออัดไปด้วยฝรั่งมังคาที่เค้ามาเที่ยวบ้านเราและประเทศเพื่อนบ้าน สภาพคือรถนอนของแท้.. รถบังคับนอน เป็นเตียงสองชั้น ให้นอนช่องละ ๒ คน เป็น ๑ ล็อค ๔ คน ๒ บน ๒ คนล่าง เราก็อยู่ช่องเดียวกับแม่ ส่วนพ่อก็ไปอยู่กันคนญี่ปุ่นแล้ว ๕๕๕


เราต้องลงรถก่อนข้ามประมาณ ๒ ครั้งเพื่อผ่านตม ออกนอกประเทศไทย และเข้าประเทศลาว

เงินเราแลกที่ตมไทยขาออก แลกไปแค่ ๒๐๐๐ บาท ๑ บาท เท่ากับ ๒๖๕ กีบ ที่เหลือแลกเป็นแบงค์ ๒๐ บาทไทย
จะแลกไปไม่เยอะได้นะคะ เพราะในตัวเมืองหลวงพระบางมีที่ให้แลกเงินเยอะมาก เผลอได้เรทดีกว่าตรงตมอีก
แต่แนะนำแลกไปสักหน่อยก่อนเพราะเราต้องกินข้าวก่อนถึงหลวงพระบาง เข้าห้องน้ำ จ่ายเป็นเงินกีบจะถูกกว่า
เพราะเขาตี ๕๐๐๐ กีบ เท่ากับ ๒๐ บาท แต่ถ้าจ่ายเป็นกีบก็จะถูกว่านิดหน่อย
บังเอิญระหว่างทางที่รถกำลังขึ้นเขาไปนั้นมีอุบัติเหตุรถชนกัน ทำให้เราต้องจอดรอตำรวจเครียร์ทางอีกประมาณเกือบชั่วโมง
ระหว่างนี้หิวไส้ขาดเลยค่ะ เพราะกว่ารถจะถึงที่กินข้างก็ตอนสามทุ่ม ดีที่เราเตรียมพร้อมเพราะรีวิวในพันทิปมาว่ากว่าจะได้กินข้าวเลยซื้อกล้วยที่เชียงรายมาครึ่งหวี ลำใยอบแห้ง

ปั้พ ก็พอรองท้องได้บ้าง แต่ก็หิวข้าวอยู่ดี
พอถึงที่กิน ก็มีร้านตามสั่งเหมือนบ้านเรา ฉนนราคากระเพรา จานละ ๒๐๐๐๐ กีบ ก็ จานละ ๘๐ บาทนั่นแหละค่ะ เอาไข่ดาวก็เพิ่มอีก ๕๐๐๐ แต่ก็อร่อยพอกินได้นะค่ะ อิ่มแล้ว เราก็แปรงฟัน เข้าห้องน้ำ ค่าห้องน้ำ ๑๐ บาท หรือ ๒๐๐๐ กีบ แล้วแต่จะเลือกจ่ายค่ะ คือใช้เงินไทยก็ได้
กินแล้วก็นอนยาวต่อไปเลยจ้าาา
สุดดท้ายเราก็ถึงบขสหลวงพระบาง ตอนประมาณตีห้าวันใหม่ (๓)
นี่รูปรถของเรา ได้ถ่ายไว้ก็ตอนลง

ก็จะมีรถสามล้อมารอผู้โดยสารเข้าเมือง ค่าเสียหายคนละ ๒๐๐๐๐ กีบ โดยไม่มีทางเลือก เพราะตอนนั้นเป็นทางเดียวที่จะเข้าเมืองได้
พอคนเต็มรถเข้าก็ออกไปส่งตามที่พักที่แต่ละคนบอกไว้
นี่ที่พักเราคุ้มเซียงทอง บูทิก วิล่า ฉนนราคาสามคน หนึ่งคืน ๑๓๑๙ บาท เราจองห้องสามคนมา ห้องยังไม่ว่างเพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน
แต่เจ้าบ้านใจดี ให้ที่แปรงฟัน ตอนกลับเข้ามาก็เปลี่ยนเป็นห้องชั้นบนให้นอนได้ ๔ คนด้วย สงสัย ห้องนี้ ทำความสะอาดเสร็จก่อน
นี่รูปห้องพักยืมมาจาก AGODA ก็สะอาดตามรูปนะคะ แต่ไม่มีดอกไม้ไว้ตอนรับ และเหมือนแม่บ้านจะลืมวางผ้าเช็ดท้าไว้ให้ และพวกเราก็ดันขี้เกียจไปขอ

ไว้มาต่อ วันนี้ขอไปกินข้าวก่อนน้า
เที่ยวเชียงราย หลวงพระบาง ๗ วัน ๗ คืน
***และจุดประสงค์จริงๆ ก็คือ อยากรีวิวรถบัสนอน ที่เดินทางไปกลับจากเชียงใหม่-หลวงพระบาง มันฮามาก
ทริปนี้เป็นทริปที่ก็ไม่รู้จะพาพ่อกับแม่ไปไหน อยากพาไปเที่ยวด้วย แต่ช่วงนี้งบน้อย แต่อยู่เฉยๆ แม่ก็เดินไปทำพลาสปอร์ตโดยที่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหน
ไม่เคยพาพ่อแม่ไปต่างประเทศโดยไม่มีทัวร์หรือคนจัดการให้ ลอง ทริปนี้ทริปแรก **ทริปหลอกแม่เดินดอย แบบประหยัดจึงเกิดขึ้น
เกริ่นนำก่อน เรากับพ่อเป็นคนชอบเดินขึ้นเขาดูพระอาทิตย์ขึ้น-ตกหรือทะเลหมอกเป็นปกติอยู่แล้ว แต่แม่ไม่เคยไปด้วยเลย
ทริปนี้คือทริปแรกที่แม่ไป ด้วยเหตุคำคำเดียว..แม่ๆ มันคือไฮไลท์
ค่าเสียหายรวมทั้งหมด ๓ คน ๗ วัน ๗ คืน นับตั้งแต่ก้าวออกจากคอนโดเดินทางไปสนามบิน จน วันกลับเหยียบคอนโด ไม่รวมค่าของฝาก ของช้อปปิ้ง
เป็นเงิน ๒๖๗๘๕.๓๓ บาท ทริปนี้เน้นประหยัด๕๕๕
วันแรก (๑) เดินทางโดยจากดอนเมืองสู่สนามบินแม้ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย เครื่องออกประมาณ ๑๓.๕๕ ถึงเชียงราย ประมาณ ๑๕.๐๐
ก็นัดโรงแรมไว้ให้มารับ ระหว่างรอรถโรงแรมบังเอิญ~~บังเอิญจริงๆ เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีรถ city bus ด้วย เลยถ่ายรูปไว้ เผื่อใช้เป็นทางเลือกเดินทางจาก บขส มาสนามบิน
พอถึงที่พัก เราพักที่เชียงราย คล็อก ทาวเวอร์ โฮเทล เน้นประหยัด เพราะมานอนแป๊บๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เดินทางไปหลวงพระบางต่อ
โรงแรมเสียอยู่ ๒ อย่าง คือไม่มีลิฟท์ต้องยกของขึ้นเองกับข้ำไหลค่อยต้องใจเย็นนิดนึ่งเวลาอาบน้ำ ห้องเราที่จองไว้อยู่ชั้น ๔
เก็ยของเสร็จเราเลยเช่าจักรยาน สามคันปั่นเล่นรอบเมือง แต่ๆ ร้อนมากเลยค้า
แฮปปี้ดี้ด้าไปคร้าก่อนจะไปลำบาก นอนบนรถนอนทั้งวัน
ขับจักรยานไปไนท์บลาช่า เดินดูของนิดหน่อย
ตอนกลับที่พักขับจักรยานกลับก็มืดแล้ว ได้ถ่ายรูปหอนาฬิกาไว้ สวยเยี่ยงนี้แล
เสร็จแล้วเราก็ไปตลาดเตรียมซื้อของกินเผื่อการเดินทางพรุ่งนี้ เพราะเป็นการเดินทางที่ยาวนานมากกกกก
จบไป หนึ่งวัน
วันที่สอง (๒) ขอตื่นสายหน่อยแต่งตัวเก็บของเสร็จก็ ๑๐.๐๐ น. พวกเราก็กินข้างร้านไกลๆ ตามสั่งจานละประมาณ ๖๐ บาท
รถทัวร์ก็เป็นตามโบว์ชัว นี้
พอถึง เราก็ยื่น พลาสปอร์ต ๓ คน ซื้อตั๋ว ๓ ใบ ใบละ ๙๕๐ บาท เสร็จก็นั่งรอรถที่รถจะมาจอดที่ช่องจอดที่สาม
ระหว่างนี้ก็นั่งรอไปค่าาาา รถมาถึง ๑๒.๓๐ แต่กว่ารถจะออกก็ ๑๓.๔๕
รถเต็มและแออัดไปด้วยฝรั่งมังคาที่เค้ามาเที่ยวบ้านเราและประเทศเพื่อนบ้าน สภาพคือรถนอนของแท้.. รถบังคับนอน เป็นเตียงสองชั้น ให้นอนช่องละ ๒ คน เป็น ๑ ล็อค ๔ คน ๒ บน ๒ คนล่าง เราก็อยู่ช่องเดียวกับแม่ ส่วนพ่อก็ไปอยู่กันคนญี่ปุ่นแล้ว ๕๕๕
เราต้องลงรถก่อนข้ามประมาณ ๒ ครั้งเพื่อผ่านตม ออกนอกประเทศไทย และเข้าประเทศลาว
จะแลกไปไม่เยอะได้นะคะ เพราะในตัวเมืองหลวงพระบางมีที่ให้แลกเงินเยอะมาก เผลอได้เรทดีกว่าตรงตมอีก
แต่แนะนำแลกไปสักหน่อยก่อนเพราะเราต้องกินข้าวก่อนถึงหลวงพระบาง เข้าห้องน้ำ จ่ายเป็นเงินกีบจะถูกกว่า
เพราะเขาตี ๕๐๐๐ กีบ เท่ากับ ๒๐ บาท แต่ถ้าจ่ายเป็นกีบก็จะถูกว่านิดหน่อย
บังเอิญระหว่างทางที่รถกำลังขึ้นเขาไปนั้นมีอุบัติเหตุรถชนกัน ทำให้เราต้องจอดรอตำรวจเครียร์ทางอีกประมาณเกือบชั่วโมง
ระหว่างนี้หิวไส้ขาดเลยค่ะ เพราะกว่ารถจะถึงที่กินข้างก็ตอนสามทุ่ม ดีที่เราเตรียมพร้อมเพราะรีวิวในพันทิปมาว่ากว่าจะได้กินข้าวเลยซื้อกล้วยที่เชียงรายมาครึ่งหวี ลำใยอบแห้ง
พอถึงที่กิน ก็มีร้านตามสั่งเหมือนบ้านเรา ฉนนราคากระเพรา จานละ ๒๐๐๐๐ กีบ ก็ จานละ ๘๐ บาทนั่นแหละค่ะ เอาไข่ดาวก็เพิ่มอีก ๕๐๐๐ แต่ก็อร่อยพอกินได้นะค่ะ อิ่มแล้ว เราก็แปรงฟัน เข้าห้องน้ำ ค่าห้องน้ำ ๑๐ บาท หรือ ๒๐๐๐ กีบ แล้วแต่จะเลือกจ่ายค่ะ คือใช้เงินไทยก็ได้
กินแล้วก็นอนยาวต่อไปเลยจ้าาา
สุดดท้ายเราก็ถึงบขสหลวงพระบาง ตอนประมาณตีห้าวันใหม่ (๓)
นี่รูปรถของเรา ได้ถ่ายไว้ก็ตอนลง
ก็จะมีรถสามล้อมารอผู้โดยสารเข้าเมือง ค่าเสียหายคนละ ๒๐๐๐๐ กีบ โดยไม่มีทางเลือก เพราะตอนนั้นเป็นทางเดียวที่จะเข้าเมืองได้
พอคนเต็มรถเข้าก็ออกไปส่งตามที่พักที่แต่ละคนบอกไว้
นี่ที่พักเราคุ้มเซียงทอง บูทิก วิล่า ฉนนราคาสามคน หนึ่งคืน ๑๓๑๙ บาท เราจองห้องสามคนมา ห้องยังไม่ว่างเพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน
แต่เจ้าบ้านใจดี ให้ที่แปรงฟัน ตอนกลับเข้ามาก็เปลี่ยนเป็นห้องชั้นบนให้นอนได้ ๔ คนด้วย สงสัย ห้องนี้ ทำความสะอาดเสร็จก่อน
นี่รูปห้องพักยืมมาจาก AGODA ก็สะอาดตามรูปนะคะ แต่ไม่มีดอกไม้ไว้ตอนรับ และเหมือนแม่บ้านจะลืมวางผ้าเช็ดท้าไว้ให้ และพวกเราก็ดันขี้เกียจไปขอ
ไว้มาต่อ วันนี้ขอไปกินข้าวก่อนน้า