chromecast มีหน้าที่แค่โยนสิ่งที่แสดงผลบนมือถือไปอยู่บนทีวี ใช่ไหมครับ

กระทู้คำถาม
https://youtu.be/PhDkslV8xFk

ดูจากคลิปนี้ ทำไมคนที่มาคอมเม้น ถึงบอกว่าคนรีวิวเข้าใจผิด  ผมเข้าใจว่ามีหน้าที่แค่นั้นจริงๆ เหมือนเป็นprojector ไปฉายบนจอทีวี แต่คนที่มาคอมเม้นบอกว่าเป็นmedia playerได้
งงมากครับ กำลังเลือกซื้อbox ไม่รู้อะไรจะดีกว่า ระหว่าง android box กับ cheomecast

ปล. android tv คือtv ที่มีแอนดรอยด์ ใช่ไหมครับ เป็นอย่างเดียวกับsmaet tv ใช่ไหมครับ แต่เจอคลิปนึงของreviewer คนดัง (สาว ) ปรากฎว่า android tv ที่พูดถึง คือกล่องกลมๆ เหมือนandroid box เลยครับ
https://youtu.be/Xkx3RphLqCY
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
Android TV Box
ให้คิดถึง มือถือ จอแตก ไม่มีจอ จะแสดงผล
ก็เลยต้องต่อออกจอ TV (ส่วนใหญ่ผ่านทาง HDMI)
แตะจอไม่ได้ ก็เลยต้อง ควบคุมด้วย Mouse (มีช่อง USB มาให้) หรือไม่ก็ รีโมทคอนโทรล และต่อ Keyboard ก็ได้ด้วย
จะทำให้เข้าใจ ลักษณะอุปกรณ์ให้ง่ายขึ้นครับ


Android TV
ก็คือ TV ที่ยัดเอา Android TV Box ไว้ในตัวเลย ไม่ต้องพ่วงสายให้วุ่นวาย



ChromeCast,MiraCast , EasyCast, EZCast, AnyCast
ไม่ค่อยกล้า ระบุแบบชัด ๆ นัก
เพราะมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ครับ
แถมยังแยกไปหลายยี่ห้อ เอาไปพัฒนาเพิ่มกันเอง นิด ๆ หน่อย ๆ
แต่แบบพื้นฐานสุดคือ มาจาก MiraCast
ความสามารถพื้นฐาน สุดคือ 2 อย่างครับ
- Android Mode คือการ สะท้อนหน้าจอ หรือ WiFi Display นั่นล่ะครับ
     คือตัว Cast จะปล่อย WiFi ออกมาชื่อหนึ่ง (เรียกว่า ad-hoc mode ก็ได้)ให้เราเอามือถือไปเชื่อมต่อ
     พอเชื่อมต่อเสร็จ ก็จะ ใช้คำสั่งจากมือถือ ส่งภาพออกทาง WiFi ตัวนั้นได้
     กรณีนี้ ถ้าอยากดู youtube ... มือถือ ต้องเชื่อม Net เอง
     เพราะ Cast จะทำหน้าที่แค่ แสดงผล
- iOS mode คือ ตัว Cast จะทำหน้าที่เป็น Router เล็ก ๆ (Router แบบง่าย ๆ มีความสามารถนิดเดียว)
     ปล่อย WiFi ออกมาชื่อหนึ่ง และ แจก IP ด้วย  
     (ใครถนัดเรื่อง wisp ก็เรื่องเดียวกันเลย เพราะผมก็เอา MiraCast มาทำ wisp อยู่)
     ให้เราเอา iPhone เข้าไปเชื่อมต่อ แล้ว เข้าหน้าตั้งค่าของ Cast (คิดซะว่าเหมือน Router )
     ให้ Cast ไปเชื่อมกับ WiFi หลักของบ้าน
     ทีนี้ iPhone เราก็จะเล่น Net ได้ ผ่านทาง WiFi ของ Cast / ซึ่ง WiFi ของ Cast ก็ได้ net มาจาก Router ของบ้านผ่านทาง WiFi อีกที
     แล้วที่ iPhone ก็ใช้คำสั่งในการส่งภาพออกทาง WiFi ไปแสดงที่ Cast อีกที

เน้นว่า อันนี้คือ ความสามารถพื้นฐานของ Cast แต่ละยี่ห้อ ก็จะทำได้ประมาณนี้ครับ
ส่วนความสามารถอื่น ๆ อีกเยอะ ก็จะแยกย่อยกันไปตามแต่ยี่ห้อ ตามแต่ version หรือ โรงงานที่รับไปทำขาย
ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่