เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมทำงานอยุ่บริษัท เอกชนแห่งหนึ่ง แล้วได้รู้จักกับ ผจก.หญิงท่านหนึ่ง แกเป็นคน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อาจจะวัยทองด้วย บางวันจะดีก็ดีมากๆ บางวันจะบ้าก็บ้าจนไม่ไหว และแกดันเป็นคนมีเส้นสายกับตำรวจเยอะ และชอบอวดอ้างว่ารู้จักคนนู้นคนนี้ มีอะไรให้บอกแก เดี๋ยวแกจะช่วยอะไรประมาณนี้
เรื่องมีอยู่ว่า ผมขี่มอไซค์ บิ๊กไบค์ แต่รถของผมมันดันผิดกฏหมายบางข้อ ตามสไตล์บิ๊กไบค์ทั่วๆไป เช่นท่อ หรือป้ายทะเบียน หรือกระจก ประมาณนี้ครับ ซึ่งผมก็ทราบดีว่า ผิดกฏหมาย ปกติเจอตำรวจก็นานๆครั้งครับ ถึงจะปรับกันจริงจัง อันนี้เมื่อก่อนผมก็โอเคนะครับ เพราะเราทำผิดกฏต้องเข้าใจ
มีอยู่วันหนึ่งผมโดนตำรวจจับ แล้วได้ ผจก. ช่วยเคลียให้ ตอนนั้นผมรู้สึกเป็นบุญคุณอย่างมาก แต่ในใจลึกๆก็ทราบดีกว่าแกเป็นคนแบบเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ยิ่งติดบุญคุณแบบนี้ ยิ่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลังจากนั้น ผ่านไปสัก2 อาทิตย์ ในขณะที่นั่งคุยกัน ในห้องทำงาน ผมก็เล่นมุก มุกแบบธรรมดามากๆ แล้วทุกคนก็ขำ แต่ ผจก. คนนั้น ไม่ขำแถมยังพูดขึ้นประมาณว่า .... ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอนะ เดี๋ยวจะให้ตำรวจมายกรถไป หลังจากนั้นก็มีตำรวจมา ก็มาอบรมผมประมาณว่ารู้ไหมว่า รถเนี่ยผิดนะ ต้องเปลี่ยนต้องแก้ อันนี้ผมโอเคนะครับ เพราะรถผมมันผิดจริง แต่เหมือน ผจก.คนนี้จะยังไม่พอใจ ก็โทรหาตำรวจยศสูง ที่ สน.หนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ละแวกที่ผมพัก เขตเดียวกัน ให้ตั้งค่าหัวผม เอารูปรถผมไป เหมือนกับแบบว่า ถ้าเจอคันนี้ให้จับปรับทันที หรือ ยึดรถหรืออะไรก็ตาม ที่ทำได้ อันนี้ที่ผมรู้เพราะมีตำรวจที่ผมรู้จักแกมาบอกอีกที
คือผมก็เข้าใจนะครับว่า ผมไปขอให้เค้าช่วยแต่แรก ไปทำให้เค้าลำบาก แต่จากที่มันจะเป็นบุญคุณกลายเป็นความรู้สึกแย่ที่ไปขอให้เค้าช่วยแทน
*ปล.ปกติผมโดนจับปรับไม่เยอะและไม่บ่อยครับ อยุ่ในระดับที่รับได้ แต่หลังจกานี้น่าจะโดนกดดันบ่อย ทั้งๆที่รถผมก็เหมือนกับอีกหลายคัน
** อะไรเล็กๆน้อยไม่ใช้งบมากผมก็พอเปลี่ยนแก้ไขได้ แต่อย่างท่อนี่ อาจจะต้องใช้เวลาครับ (ซื้อมือสองมา มันไม่มีท่อเดิมให้)
สุดท้าย ผมแค่อยากบอกว่า คนที่เราคิดว่าเขาดีกับเราก็ใช่ว่า เขาจะไม่ทำร้ายเรา เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เส้นสาย อำนาจ มีประโยชน์แบบนี้.....เองหรอ
โดนคนในบริษัทใช้เส้นสายตำรวจกดดัน
เรื่องมีอยู่ว่า ผมขี่มอไซค์ บิ๊กไบค์ แต่รถของผมมันดันผิดกฏหมายบางข้อ ตามสไตล์บิ๊กไบค์ทั่วๆไป เช่นท่อ หรือป้ายทะเบียน หรือกระจก ประมาณนี้ครับ ซึ่งผมก็ทราบดีว่า ผิดกฏหมาย ปกติเจอตำรวจก็นานๆครั้งครับ ถึงจะปรับกันจริงจัง อันนี้เมื่อก่อนผมก็โอเคนะครับ เพราะเราทำผิดกฏต้องเข้าใจ
มีอยู่วันหนึ่งผมโดนตำรวจจับ แล้วได้ ผจก. ช่วยเคลียให้ ตอนนั้นผมรู้สึกเป็นบุญคุณอย่างมาก แต่ในใจลึกๆก็ทราบดีกว่าแกเป็นคนแบบเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ยิ่งติดบุญคุณแบบนี้ ยิ่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลังจากนั้น ผ่านไปสัก2 อาทิตย์ ในขณะที่นั่งคุยกัน ในห้องทำงาน ผมก็เล่นมุก มุกแบบธรรมดามากๆ แล้วทุกคนก็ขำ แต่ ผจก. คนนั้น ไม่ขำแถมยังพูดขึ้นประมาณว่า .... ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอนะ เดี๋ยวจะให้ตำรวจมายกรถไป หลังจากนั้นก็มีตำรวจมา ก็มาอบรมผมประมาณว่ารู้ไหมว่า รถเนี่ยผิดนะ ต้องเปลี่ยนต้องแก้ อันนี้ผมโอเคนะครับ เพราะรถผมมันผิดจริง แต่เหมือน ผจก.คนนี้จะยังไม่พอใจ ก็โทรหาตำรวจยศสูง ที่ สน.หนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ละแวกที่ผมพัก เขตเดียวกัน ให้ตั้งค่าหัวผม เอารูปรถผมไป เหมือนกับแบบว่า ถ้าเจอคันนี้ให้จับปรับทันที หรือ ยึดรถหรืออะไรก็ตาม ที่ทำได้ อันนี้ที่ผมรู้เพราะมีตำรวจที่ผมรู้จักแกมาบอกอีกที
คือผมก็เข้าใจนะครับว่า ผมไปขอให้เค้าช่วยแต่แรก ไปทำให้เค้าลำบาก แต่จากที่มันจะเป็นบุญคุณกลายเป็นความรู้สึกแย่ที่ไปขอให้เค้าช่วยแทน
*ปล.ปกติผมโดนจับปรับไม่เยอะและไม่บ่อยครับ อยุ่ในระดับที่รับได้ แต่หลังจกานี้น่าจะโดนกดดันบ่อย ทั้งๆที่รถผมก็เหมือนกับอีกหลายคัน
** อะไรเล็กๆน้อยไม่ใช้งบมากผมก็พอเปลี่ยนแก้ไขได้ แต่อย่างท่อนี่ อาจจะต้องใช้เวลาครับ (ซื้อมือสองมา มันไม่มีท่อเดิมให้)
สุดท้าย ผมแค่อยากบอกว่า คนที่เราคิดว่าเขาดีกับเราก็ใช่ว่า เขาจะไม่ทำร้ายเรา เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เส้นสาย อำนาจ มีประโยชน์แบบนี้.....เองหรอ