ยืมแอคเพื่อนมาตั้งกระทู้ครับ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าทั้งผมและแฟนยังเรียนอยู่ครับ
ผมอยู่ปี 2 ส่วนเธออยู่ปี 4 เราคุยๆศึกษาดูใจกันมาจะสองปีแล้วครับ ตลอดเวลาที่คบกันมาเราเข้ากันได้ดีตลอดครับ เธอเป็นคนน่ารักคนหนึ่งเลย
แต่มีข้อเสียอยู่อย่างเดียวคือ บ้านเธอค่อนข้างมีฐานะพอสมควรครับ แต่เธอเป็นคนขี้งก ส่วนผมฐานะกลางๆ
ช่วงแรกที่ผมจีบเธอ ผมก็จะคอยไปรับไปส่ง พาไปกินของที่เธออยากกิน คอยซื้อของไปจีบ ซื้อทุกอย่างที่เธออยากได้ แต่ส่วนใหญ่จะหมดไปกับเรื่องกิน
เธอเป็นคนอินในเรื่องเทศกาลมากๆครับ วันสำคัญต้องมีของขวัญ ซึ่งตรงข้ามกับผมอย่างสิ้นเชิง
ในวันวาเลนไทน์ ผมหอบดอกลิลลี่ช่อใหญ่พร้อมลูกโป่งไปให้ตอนเช้า พร้อมตุ้กตาที่เธออยากได้ให้ตอนเย็น ทำเพราะรักครับ
ส่วนเธอให้ขนมมาสามกล่องครับ ผมก็ชอบนะ เพราะเป็นขนมเพียงอย่างเดียวที่ผมกิน
วันเกิดของเธอผมไม่รู้จะซื้ออะไรให้เธอ เพราะเธอมีครบทุกอย่าง เลยตัดสินใจซื้อของที่เธอน่าจะชอบให้ในราคา4000 (เงินเก็บผมนะครับ 555555) แต่เดาว่าเธอคงไม่ได้ชอบมันเท่าไหร่ แต่เธอไม่นอย เพราะราคามันสูง
ส่วนในวันเกิดผม ผมไม่คาดหวังว่าอยากได้อะไรจากเธอ แต่คุณเธอคะยั้นคะยอให้อยาก ผมเลยบอกว่า อยากได้ของแฮนเมด (ไม่อยากรบกวนเธอมาก) และผมก็ได้โคมไฟร้อยเชือกมา ผมเห็นถึงความตั้งใจ ก็รักครับ
ในวันคริสมาตส์เธอให้ของที่เธอได้ฟรีมาเช่น กระเป๋าผ้า ดินสอปากกาตามงานเล่นเกมตอบคำถาม ผมก็เลยรู้สึกว่าเราเริ่มเกรียนได้ เลยให้พวงคริสมาสต์กับกระดิ่งไป เธอเริ่มนอยครับ
ในวันปีใหม่ เธอให้แก้ว(ที่เธอจับสลากมาได้ ) ให้แก่ผม ผมเลยให้คุ้กกี้กล่องแดงไป แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง เธอแกะกล่องอย่างคาดหวังเหมือนทุกครั้ง เธอเปิดออกมา เธอร้องไห้ครับ ปกติถ้าเธอไม่พอใจเธอจะบ่น แต่ครั้งนี้ร้องไห้เงียบไปสองวัน คงเสียใจจริงๆ ผมเลยบอกว่าเดี๋ยวหาของมาให้ใหม่ นั่นแหละครับเธอถึงหยุดร้อง เหตุการณ์ในครั้งนี้คือจุดเปลี่ยนทุกอย่าง
ช่วงแรกๆ ผมยอมรับว่าที่ทำไป เพราะอยากได้ใจเธอครับ 555555 แต่หลังๆมันรู้สึกรักจริงๆ และอยากจะลงเอยกับคนนี้ครับ เลยได้ปรับตัวกันพักใหญ่เพื่อให้เราจูนกันติดในหลายๆเรื่องในช่วงหลัง1ปีที่คบกัน ผมเริ่มบอกเธอว่าเลี้ยงทุกอย่างไม่ได้แล้วนะ ต้องแชร์กันแล้ว ทีแรก เธอเหมือนจะยอมครับ แต่พอเจอคุ้กกี้กล่องแดง เธอขัดใจอย่างเห็นได้ชัด
เธอทะเลาะกับผมบ่อยขึ้น เพราะเธอมีเรื่องเครียดคือทำโปรเจคจบ ผมเข้าใจเธอดี และพยายามให้กำลังใจในแบบของผม ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอฟังผมตลอด แต่ช่วงหลังๆเธอมักจะตอบกลับมาว่าผมไม่เอาใจใส่เธอเหมือนเดิม ไม่เลี้ยงเธอเหมือนเดิม มันทำให้เธอยิ่งเครียดไปอีก ผมเลยไม่รู้จะแก้ยังไง
เธออยากไปกินชาบูร้านใหม่ๆตลอดเวลา ซึ่งผมก็ไปกับเธอตลอด แต่ยอมรับว่าไม่ได้เลี้ยงเธอแล้ว ผมก็จ่ายในส่วนของผมและเธอจ่ายในส่วนของเธอ เธอบอกว่าไม่พอใจ พามาก็เหมือนไม่พามา
เธออยากไปเที่ยวที่ไกลๆกับผมบ้าง เพราะเพื่อนๆเธอมักจะเช็คอินตากหมอกเชียงรายบ้าง ล่องเรือกระบี่บ้าง ผมเข้าใจครับ เพราะพี่ปีสี่เริ่มที่จะเข้าสู่วัยการทำงานกันแล้ว แต่ผมพึ่งปีสอง ผมยังรู้สึกว่าบริหารเงินในแต่ละเดือนไม่เป็นอยู่เลยแต่สนุกดีใช้ชีวิตมาม่าเด็กหอ
ผมจะอิดออดโดยการพาเธอไปเที่ยว แต่ไปเที่ยวที่ใกล้ๆ แรกๆเธอไม่บ่นครับ แต่หลังๆมาเธอเริ่มจับทางได้ บ่นอีกเหมือนเดิม
ผมก็เลยบอกเธอไปตรงๆว่า ผมไม่มีตัง แต่เธอจะรู้แกวผมครับ ว่าผมสามารถขอที่บ้านได้โดยไม่ติดขัด ที่บ้านผมไม่ได้เดือดร้อนมาก แต่ในความรู้สึกผม ผมกลับรู้สึกว่า ผมไม่อยากรบกวนพ่อแม่ ตังพ่อแม่มันไม่ใช่ตังผม ซักวันก็ต้องคืนเขา
รายได้ที่พ่อแม่ให้ในแต่ละเดือนผมก็ใช้เท่าที่จำเป็น พยายามไม่ฟุ่มเฟือยกับสิ่งยั่วยุ นอกจากว่ามันจำเป็นจริงๆ
เธอเลยบอกว่าผมเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เธออึดอัดมาก เมื่อก่อนเลี้ยงได้ ทำไมเดี่ยวนี้เลี้ยงไม่ได้ จนปัญญาจะอธิบายจริงๆครับ
ผมเคยคิดว่าเราสองคนไปกันไม่ได้ แต่เธอเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งนิสัยและการมองโลกในแง่ดีแล้วเพื่อผม ผมก็เห็นว่าเธอรักผมจริงๆครับ และผมก็รักเธอ แต่มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง มันผิดที่ผมหรือผิดที่เธอครับ หรือจริงๆแล้วผมควรใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไปอย่างที่เธอว่า
มันผิดที่ผมหรือผิดที่เธอ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าทั้งผมและแฟนยังเรียนอยู่ครับ
ผมอยู่ปี 2 ส่วนเธออยู่ปี 4 เราคุยๆศึกษาดูใจกันมาจะสองปีแล้วครับ ตลอดเวลาที่คบกันมาเราเข้ากันได้ดีตลอดครับ เธอเป็นคนน่ารักคนหนึ่งเลย
แต่มีข้อเสียอยู่อย่างเดียวคือ บ้านเธอค่อนข้างมีฐานะพอสมควรครับ แต่เธอเป็นคนขี้งก ส่วนผมฐานะกลางๆ
ช่วงแรกที่ผมจีบเธอ ผมก็จะคอยไปรับไปส่ง พาไปกินของที่เธออยากกิน คอยซื้อของไปจีบ ซื้อทุกอย่างที่เธออยากได้ แต่ส่วนใหญ่จะหมดไปกับเรื่องกิน
เธอเป็นคนอินในเรื่องเทศกาลมากๆครับ วันสำคัญต้องมีของขวัญ ซึ่งตรงข้ามกับผมอย่างสิ้นเชิง
ในวันวาเลนไทน์ ผมหอบดอกลิลลี่ช่อใหญ่พร้อมลูกโป่งไปให้ตอนเช้า พร้อมตุ้กตาที่เธออยากได้ให้ตอนเย็น ทำเพราะรักครับ
ส่วนเธอให้ขนมมาสามกล่องครับ ผมก็ชอบนะ เพราะเป็นขนมเพียงอย่างเดียวที่ผมกิน
วันเกิดของเธอผมไม่รู้จะซื้ออะไรให้เธอ เพราะเธอมีครบทุกอย่าง เลยตัดสินใจซื้อของที่เธอน่าจะชอบให้ในราคา4000 (เงินเก็บผมนะครับ 555555) แต่เดาว่าเธอคงไม่ได้ชอบมันเท่าไหร่ แต่เธอไม่นอย เพราะราคามันสูง
ส่วนในวันเกิดผม ผมไม่คาดหวังว่าอยากได้อะไรจากเธอ แต่คุณเธอคะยั้นคะยอให้อยาก ผมเลยบอกว่า อยากได้ของแฮนเมด (ไม่อยากรบกวนเธอมาก) และผมก็ได้โคมไฟร้อยเชือกมา ผมเห็นถึงความตั้งใจ ก็รักครับ
ในวันคริสมาตส์เธอให้ของที่เธอได้ฟรีมาเช่น กระเป๋าผ้า ดินสอปากกาตามงานเล่นเกมตอบคำถาม ผมก็เลยรู้สึกว่าเราเริ่มเกรียนได้ เลยให้พวงคริสมาสต์กับกระดิ่งไป เธอเริ่มนอยครับ
ในวันปีใหม่ เธอให้แก้ว(ที่เธอจับสลากมาได้ ) ให้แก่ผม ผมเลยให้คุ้กกี้กล่องแดงไป แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง เธอแกะกล่องอย่างคาดหวังเหมือนทุกครั้ง เธอเปิดออกมา เธอร้องไห้ครับ ปกติถ้าเธอไม่พอใจเธอจะบ่น แต่ครั้งนี้ร้องไห้เงียบไปสองวัน คงเสียใจจริงๆ ผมเลยบอกว่าเดี๋ยวหาของมาให้ใหม่ นั่นแหละครับเธอถึงหยุดร้อง เหตุการณ์ในครั้งนี้คือจุดเปลี่ยนทุกอย่าง
ช่วงแรกๆ ผมยอมรับว่าที่ทำไป เพราะอยากได้ใจเธอครับ 555555 แต่หลังๆมันรู้สึกรักจริงๆ และอยากจะลงเอยกับคนนี้ครับ เลยได้ปรับตัวกันพักใหญ่เพื่อให้เราจูนกันติดในหลายๆเรื่องในช่วงหลัง1ปีที่คบกัน ผมเริ่มบอกเธอว่าเลี้ยงทุกอย่างไม่ได้แล้วนะ ต้องแชร์กันแล้ว ทีแรก เธอเหมือนจะยอมครับ แต่พอเจอคุ้กกี้กล่องแดง เธอขัดใจอย่างเห็นได้ชัด
เธอทะเลาะกับผมบ่อยขึ้น เพราะเธอมีเรื่องเครียดคือทำโปรเจคจบ ผมเข้าใจเธอดี และพยายามให้กำลังใจในแบบของผม ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอฟังผมตลอด แต่ช่วงหลังๆเธอมักจะตอบกลับมาว่าผมไม่เอาใจใส่เธอเหมือนเดิม ไม่เลี้ยงเธอเหมือนเดิม มันทำให้เธอยิ่งเครียดไปอีก ผมเลยไม่รู้จะแก้ยังไง
เธออยากไปกินชาบูร้านใหม่ๆตลอดเวลา ซึ่งผมก็ไปกับเธอตลอด แต่ยอมรับว่าไม่ได้เลี้ยงเธอแล้ว ผมก็จ่ายในส่วนของผมและเธอจ่ายในส่วนของเธอ เธอบอกว่าไม่พอใจ พามาก็เหมือนไม่พามา
เธออยากไปเที่ยวที่ไกลๆกับผมบ้าง เพราะเพื่อนๆเธอมักจะเช็คอินตากหมอกเชียงรายบ้าง ล่องเรือกระบี่บ้าง ผมเข้าใจครับ เพราะพี่ปีสี่เริ่มที่จะเข้าสู่วัยการทำงานกันแล้ว แต่ผมพึ่งปีสอง ผมยังรู้สึกว่าบริหารเงินในแต่ละเดือนไม่เป็นอยู่เลยแต่สนุกดีใช้ชีวิตมาม่าเด็กหอ
ผมจะอิดออดโดยการพาเธอไปเที่ยว แต่ไปเที่ยวที่ใกล้ๆ แรกๆเธอไม่บ่นครับ แต่หลังๆมาเธอเริ่มจับทางได้ บ่นอีกเหมือนเดิม
ผมก็เลยบอกเธอไปตรงๆว่า ผมไม่มีตัง แต่เธอจะรู้แกวผมครับ ว่าผมสามารถขอที่บ้านได้โดยไม่ติดขัด ที่บ้านผมไม่ได้เดือดร้อนมาก แต่ในความรู้สึกผม ผมกลับรู้สึกว่า ผมไม่อยากรบกวนพ่อแม่ ตังพ่อแม่มันไม่ใช่ตังผม ซักวันก็ต้องคืนเขา
รายได้ที่พ่อแม่ให้ในแต่ละเดือนผมก็ใช้เท่าที่จำเป็น พยายามไม่ฟุ่มเฟือยกับสิ่งยั่วยุ นอกจากว่ามันจำเป็นจริงๆ
เธอเลยบอกว่าผมเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เธออึดอัดมาก เมื่อก่อนเลี้ยงได้ ทำไมเดี่ยวนี้เลี้ยงไม่ได้ จนปัญญาจะอธิบายจริงๆครับ
ผมเคยคิดว่าเราสองคนไปกันไม่ได้ แต่เธอเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งนิสัยและการมองโลกในแง่ดีแล้วเพื่อผม ผมก็เห็นว่าเธอรักผมจริงๆครับ และผมก็รักเธอ แต่มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง มันผิดที่ผมหรือผิดที่เธอครับ หรือจริงๆแล้วผมควรใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไปอย่างที่เธอว่า