[CR] เมื่อครอบครัวโอตาคุบ้าการ์ตูน พาลูกสาววัย 3 ขวบ ผู้บ้าเจ้าหญิง เที่ยว "โตเกียว" ตอนที่ 1/4 : TOKYO ONE PIECE TOWER

กระทู้รีวิว

สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ เที่ยวต่างประเทศ บันทึกนักเดินทาง เที่ยวญี่ปุ่น โตเกียว

แชร์ประสบการณ์เที่ยวโตเกียวแบบ 3 วัน 2 คืน (เวลาช่างแสนสั้น เพี้ยนสะอื้น

)

ทริปนี้เกิดขึ้น เนื่องจากสายการบินหนึ่ง มีโปรลดราคาแบบสายฟ้าแล็บ (ขอแทนตัวเองว่าคุณแม่นะคะ) ราคารวมตั๋วไปกลับ ประมาณ 6 พันกว่าๆต่อคน
คุณแม่เลยหน้ามืดรีบจองตั๋วแบบไม่ปรึกษาใคร ด้วยเงื่อนไขว่าคุณแม่เหลือวันลาแค่ 3 วัน
เลยเลือกเที่ยวบินขาไปกลางคืน ตอนประมาณ ตี 2 ถึงอีกวันที่ญี่ปุ่นเวลาประมาณ 10 โมงเช้า จะได้ไม่เสียวันลาตอนบิน

โจทย์หลักแรกของคุณแม่คือการพาลูกขึ้นเครื่องบินเที่ยวกลางคืน ซึ่งปกติน้ำพราว (ลูกสาววัย 3.5 ขวบ) จะนอนเวลาประมาณ 2-3 ทุ่มทุกวัน
คุณแม่เลยคุยกับคุณพ่อ และตกลงกันว่าจะให้น้ำพราวนอนในรถเข็น แล้วค่อยอุ้มขึ้นเครื่องบิน
หลังจากหาข้อมูล ก็พอจะทราบว่าที่สนามบินสามารถเข็นรถเข็นเข้าไปถึงหน้า GATE ได้เลย แล้วส่งต่อรถเข็นให้แอร์ก่อนขึ้นเครื่อง โดยคุณแอร์จะเอารถเข็นไปโหลดให้ทีหลัง
สรุปคือ...รถเข็นไม่นับรวมน้ำหนักสัมภาระ

<สภาพน้ำพราวแบบไม่ยอมนอน หนูตาสว่าง>

สุดท้ายนางก็หลับก่อนเช็คอินค่ะ ตอนผ่าน ตม. เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ปลุกมาถ่ายรูป แต่ให้คุณพ่อกับคุณแม่ถ่ายรูปคู่กับรถเข็น เหมือนเป็นรูปครอบครัว
อันนี้คือดีย์ หลับยาวเลย

ก้าวแรกที่สนามบินนาริตะ อุณหภูมิ ณ วันนั้น (เดือนมกราคม) ประมาณ 5 องศา คุณพระ!!!
ครอบครัวโอตาคุทั้งหมด (คุณพ่อ คุณแม่ น้ำพราว และพี่สาวคุณแม่อีก 2 คน) ก็รื้อกระเป๋า หาชุดกันหนาวที่เตรียมไว้
ไม่รู้ครอบครัวอื่นเป็นไหม แต่บ้านนี้ น้ำพราวไม่ชอบใส่กางเกง จะใส่แต่ชุดเจ้าหญิง
โจทย์ยากที่2 คือแต่งชุดเจ้าหญิงยังไงให้อุ่น

<แฟชั่นเซ็ตแรก ชุดก่อนนอน ใส่เลคกิ้งกันหนาว ถุงมือ ฮีทเทค ผ้าพันคุณแม่ รอดดดด>

หลังจากนั้น เราก็ซื้อตั๋ว JR TOKYO Wide Pass แบบ 3 วัน ในราคา ผู้ใหญ่ 10,000 เยน (น้ำพราวฟรี อายุไม่เกิน 6 ขวบ)
ไม่รีวิวการซื้อตั๋วนะคะ มีคนรีวิวเยอะมาก (ขอขอบคุณพันทิปหลายๆกระทู้ที่เปิดอ่านด้วยค่ะ)
เหล่าครอบครัวก็เดินทางจากสถานี Terminal 2 ไปลงสถานี UENO (เปลี่ยนสถานีที่โตเกียว 1 รอบ) เพื่อ Check In โรงแรม และเอากระเป๋าเก็บ
โรงแรมที่ครอบครัวโอตาคุจองคือ Ueno Urban Hotel โดยจองออนไลน์
ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะใกล้รถไฟ JR + มีห้องน้ำส่วนตัว
ไปถึงโรงแรม เจ้าหน้าที่ก็ขอเก็บค่าที่พักเพิ่ม เพราะตอนจองไม่ได้ระบุว่ามีเด็ก จำไม่ได้ว่าเก็บเพิ่มเท่าไหร่

เก็บของเรียบร้อย เหล่าครอบครัวโอตาคุก็ออกเดินทางไปทริปแรก....

ทริปแรกของวันนี้คือ TOKYO ONE PIECE TOWER (คุณแม่ want)
เน้นการเดินทางโดย JR ลงสถานี Hamamatsucho (จริงๆ ไปใต้ดินเดินใกล้กว่า แต่ไม่มีตั๋ว)

<ทิวทัศน์ระหว่างทาง กลางคืนสวยกว่านี้ แต่หนาวไม่ไหวจ้า เลยไม่ได้แวะถ่าย>

จากในเวปของ TOKYO ONE PIECE TOWER บอกว่าถ้าซื้อตั๋วเข้าล่วงหน้าจะสามารถซื้อได้ในราคา 3,000 เยน ซึ่งคุณแม่พยายามแล้ว แต่ไม่รอดจ้า เลยต้องมาซื้อที่ด้านหน้าเลย ราคา 3,200 เยน (น้ำพราวฟรีอีกแล้ว อายุไม่เกิน 4 ขวบ) และจองรอบการแสดงสด เวลา 18.00 น.
เข้ามาปุ๊บ เราก็จะเจอกับ พ่อครัวใหญ่ของเรือ

<เป็นร้านบุฟเฟ่ของซันจิ จ่ายเพิ่มจากค่าตั๋ว ราคาไม่น่ารัก เลยถ่ายรูปอย่างเดียวพอ>

ตอนผ่านประตูทางเข้า ชั้น 3 จะมีฉายหนังแบบ 360 องศา (ห้ามถ่ายคลิป) สำหรับคุณแม่ ซึ่งเป็นโอตาคุเรื่องนี้ คือดีมากกกกก ความคิดตอนนั้นคือ นี่คือสิ่งที่ฉันตามหามาทั้งชีวิต เพี้ยนหลงรัก

น้ำพราวไม่ดราม่า งอแง ในระหว่างดู ผ่าน!!!!

ถัดมาจะเป็นลายเซ็นของสมาชิกทุกคน

<ลายเซ็นแต่ละคนเป็นเอกลักษณ์มาก>

แล้วก็เป็นปาร์ตี้ของเหล่าสมาชิก ถ่ายรูปกันมันเลย โซนนี้ก็จะอยู่นานหน่อย มีหลายมุม น้ำพราวจะกินอาหารบนโต๊ะอยู่ตลอด คุณแม่ต้องค่อยดึง
กว่าจะเรียกน้ำพราวมาถ่ายรูปได้สักรูป นางจะกินทุกอย่างตลอดเวลา

<แสงไฟโซนนี้จะเปลี่ยนตลอด เดี๋ยวขาว เดี๋ยวฟ้า ภาพบางรูปรอด บางรูปไม่รอด>

ต่อที่ชั้น 4 อันนี้เป็นเหมือนโซนส่วนสนุกแล้ว ครอบครัวโอตาคุก็เริ่มจากเกมส์ของโรบินก่อนเลย
ให้ตามหาสัญลักษณ์โพเนกลีฟที่ซ่อนอยู่บนชั้น 4 ในเวลา 30 นาที (ไม่ได้ถ่ายรูป) เขาจะมีเครื่องสแกนสัญลักษณ์โพเนกลีฟมาให้ กรุ๊ปละ 1 อัน (ทำไมงกจัง มาตั้งหลายคนT^T)
อันนี้น้ำพราวชอบมาก ช่วยหา ช่วยสแกน คุณแม่รอดดดดดด
สำหรับคุณแม่ อันนี้ถือว่าเสียเวลามาก ควรเลือกเล่นอย่างแรก เพราะทำให้เราได้เดินดูรอบๆ ว่าโซนไหนเป็นอะไร เกมส์ไหนคนน้อย เกมส์ไหนรอคิวนาน เล่นไม่ครบ 30 นาทีก็เลิก

เกมส์ที่สอง เป็นบ้านผีสิงห์ของบรู๊ค
เขาจะให้ salt ball มาหนึ่งลูก เอาไว้ใส่ปากซอมบี้ ใส่ทำไมก็ไม่รู้ 55555 (ห้ามถ่ายรูป)
เข้าไปก็เป็นเหมือนบ้านผีสิงห์ ซึ่งน้ำพราวชอบผีกระดูกอยู่แล้ว อันนี้คุณแม่ก็รอดดดดด
สำหรับคุณแม่ อันนี้ไม่สื่อถึงวันพีชเท่าไหร่ เหมือนบ้านผีสิงห์ปกติ น่าจะเป็นตัวละครจากตอนทริลเลอร์บาร์ค ซึ่งไม่มีเอกลักษณ์เท่าไหร่ คุณแม่เลยไม่ค่อยอิน

เกมส์ที่สาม เกมส์ของโซโล
อันนี้อ่านรีวิวมาก่อนแล้ว เป็นเกมส์ฟันดาบ ตอนฟันต้องตั้งท่าเท่ๆหน่อย เพราะจะมีช็อตที่ถ่ายรูป เขาจะให้ดาบมาอันนึง ซึ่งมีน้ำหนักพอควร
เกมส์นี้น้ำพราวเล่นไม่ไหว เพราะดาบหนัก แต่ภาพเป้าบินเป็นการ์ตูน น้ำพราวดูเพลิน คุณแม่เลยรอด
สุดท้ายภาพของคุณแม่ที่ถ่ายออกมา ไม่รอดจ้า แขนบังเต็มหน้า แต้มก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน T^T
สำหรับคุณแม่ (ผู้ซึ่งไม่เล่นเกมส์) คุณแม่ว่ามันยาก แต่ชอบนะ อยากเล่นอีก ทำไมต้องให้เล่นรอบเดียว เฮอะ!!!!

เกมส์ที่สี่ ช็อปเปอร์
เกมส์นี้เขาจะมีปริศนาให้ทำ โดยเขาจะให้กระดาษมาหนึ่งแผ่น ถ้าเราทำได้ถูกต้องจะได้ของพรีเมียมไป เห็นคนที่ทำได้ สุดท้ายจะพับกระดาษที่เขาให้จนเป็นรูปเรือ แต่สำหรับครอบครัวโอตาคุซึ่งไม่รู้ภาษาญึ่ปุ่นเลย ขนาดใช้กระดาษที่เป็นภาษาอังกฤษ ก็ไม่สามารถทำได้
เกมส์นี้มันมีจุดพีคคือการทัวร์ไปในเรือเธาซันด์ ซันนี่ อันนี้คือดีมากกกกกในบรรดาเกมส์ทั้งหมด มันคือความฟิน และการสนองนีดของเหล่าโอตะโดยเฉพาะ
เดินดูไปก็ยิ้มไป เหมือนคนบ้า ^_______^

เกมส์ที่ห้า เกมส์ของอุซป
เป็นเกมส์ยิงหนังสติ๊กใส่เป้าให้ครบ ถ้ายิงได้ครบจะได้ของพรีเมี่ยม ยากมาก ไม่เห็นใครจะเล่นได้ชนะเลย
น้ำพราวเล่นกับคุณแม่ด้วย ก่อนเล่นเจ้าหน้าที่จะเอาแว่นมาให้ใส่ เพราะกลัวกระสุนจะดีดกลับใส่หน้า แต่น้ำพราวไม่ใส่ ตอนเล่นก็ระวังหน่อย
มีเป้าให้ยิงประมาณ 10 เป้า คุณแม่กับน้ำพราวก็เก่งมาก ยิงไปได้ 1 เป้าถ้วน T^T
สำหรับเกมส์นี้ คุณแม่ว่าสนุกดีค่ะ อยากแก้มืออีกรอบ

เกมส์ที่หก เกมส์นามิ
เป็นเกมส์สุดท้ายที่เล่น เกมส์อื่นที่ไม่เล่นเพราะจ่ายตังเพิ่ม (สายงกอย่างเราก็งดไว้)
เกมส์นี้เป็นเกมส์พนัน เขาจะให้นั่งแล้วกดทายผลต่างๆ เกมส์คุณแม่ให้น้ำพราวเล่นทั้งหมดค่ะ ตอนเล่นน้ำพราวชอบมาก ลุ้นตลอด
แต่ตอนจบเกมส์ ทายไม่ถูกเลย ได้ศูนย์แต้ม!!! ส่วนคุณพ่อได้อันดับหนึ่งในคลาสนั้น ทายผิดไปข้อเดียว
ผลสุดท้าย น้ำพราวร้องไห้เลยจ้า
คุณแม่ก็กอด ปลอบน้ำพราว พอเริ่มอารมณ์ดี ก็สอนให้เขารู้จากความพ่ายแพ้
เกมส์นี้คุณแม่ว่ามันน่ารักมากเลยนะ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรมาก ชอบๆ

หลังจากเล่นทุกอย่างจบ มองเวลาก็เกือบถึงรอบการแสดงสดพอดี ครอบครัวโอตาคุก็ขึ้นมาที่ชั้นห้า
มาถึงก่อนเวลา 15 นาที ก็เห็นคนมาต่อคิวแล้ว
พอถึงเวลาเขาจะแจกคฑาไฟเอามาถือไว้ (ตอนแสดงเหมือนจะมีส่งสัญญาณให้ทำท่าทางด้วยนะ แต่ฟังไม่รู้เรื่องก็เอ๋อไปจ้า 55555)
เนื่องจากเรามีเด็กมาด้วย เลยได้นั่งพื้นติดหน้าเวทีเลย ดีไปอีกกกกกก
จะบอกว่า การแสดงสด เป็นอะไรที่คุ้มที่สุดในทั้งหมดของวันนี้!!!!! มันดีมากกกกกก แม้เราจะฟังไม่รู้เรื่องก็ตาม นักแสดงทุกคน ย้ำว่าทุกคน!! หน้าตาดีมากกกกกก และ Keep Character บทของตัวเองมากๆ สนุกมากกกกก โอ๊ย!!! ไม่รู้จะบรรยายยังไงดี มันคือที่สุดของที่สุด