มาถึงเวลานี้...ต้องบอกว่า พรรค ไทยรักษาชาติ คงยังหายใจไม่ทั่วท้องนัก เพราะถ้าจะว่าไป ยุทธศาสตร์ "แยกกันตี" แบบมีทั้งกองบู้และบุ๋น งานนี้ไม่ได้จู่ ๆ เกิดขึ้นแบบฉุกเฉิน แต่ถือเป็นแผนที่วางกันไว้พอสมควร
พรรคบุ๋น.. ที่รวมเอากลุ่มนักการเมืองหัวระดับกะทิ...นั่นเอาเป็นกองหลัง
พรรคกลางบู้..กลางบุ๋น เอาไว้เป็นกองกลาง เผื่อกองหน้า “พลาด”
และสุดท้าย พรรคกองหน้ากล้าตาย ...ก็ต้องเดินหน้า กล้าได้ กล้าเสีย !
ถ้ากองหน้าเกิดผ่าน.... ตามแผนที่วาง.... อีกสองพรรคที่เหลือ ถือว่า “ฉลุย!”
แต่สุดท้าย ..อะไรที่เคยบอกแล้วว่า “อย่าได้ประมาทและประเมินชาติบ้านเมืองต่ำเกินไป”
เพราะสุดท้าย..ก็ พลาดอย่างน่าเป็นห่วง!
ที่น่าเป็นห่วงก็เพราะ.....ดาบแรกที่อาจทำให้อีกสองกระบวนทัพต้องขยับยากก็คือ
1. หาก กกต.มีความเห็นตามที่นายไพบูลย์ยื่นให้ทบทวน .... ก็ถือว่า ปิดจ๊อบ! แต่คิดว่างานนี้ กกต.คงไม่กล้าที่จะใช้ดุลยพินิจด้วยตัวเองเพราะสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้... คงต้องส่ง ศาล รธน.ท่านตีความ
2. แต่หากเคราะห์หามยามซวย ..เกิดมีใครไปยื่นขอให้มีการ ยุบพรรค (ซึ่งต้องเกิดขึ้นแน่) ด้วยเหตุกระทำการฝืนต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบ โดยขัดทั้งบทบัญญัติของกฎหมาย และเจตนารมณ์ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ..นี่ยิ่งกว่าปิดจ๊อบ เพราะมันยาวไปถึง “ปิดพรรค”
กระบวนทัพนั้น... ถ้าแม้นทัพหน้าแตก ขุนศึกสายบู้ต่างแตกทัพกระเจิง ...ทัพกลางและหลัง คงใจฝ่อ..และห่อเหี่ยวไม่น้อย
ก็ต้องลุ้นกันต่อว่า ทัพกลางและหลังที่เหลืออีกสอง...จะเดินทัพต่ออย่างไร....
จะริปิดล้อมแบบเดิม นั่นคงยากเต็มที เพราะหลังทัพหน้าพลาดคะมำ....งานนี้กลายเป็นอยู่ดีๆ ไปเพิ่มราคาที่หน้าปั้มลุงตู่เอาแบบฟลุ๊คๆ ซะงั้น!!
บอกตามตรงว่า “อุต่ส่าห์รอมานานจนเหงือกเหือด...คงยังไม่เท่ากับ..จะเหลือให้เดินทัพต่อกันอีกสักกี่หน่อกันหนอ!?”
จาก "ปิดจ๊อบ" ถึง "ปิดพรรค"
พรรคบุ๋น.. ที่รวมเอากลุ่มนักการเมืองหัวระดับกะทิ...นั่นเอาเป็นกองหลัง
พรรคกลางบู้..กลางบุ๋น เอาไว้เป็นกองกลาง เผื่อกองหน้า “พลาด”
และสุดท้าย พรรคกองหน้ากล้าตาย ...ก็ต้องเดินหน้า กล้าได้ กล้าเสีย !
ถ้ากองหน้าเกิดผ่าน.... ตามแผนที่วาง.... อีกสองพรรคที่เหลือ ถือว่า “ฉลุย!”
แต่สุดท้าย ..อะไรที่เคยบอกแล้วว่า “อย่าได้ประมาทและประเมินชาติบ้านเมืองต่ำเกินไป”
เพราะสุดท้าย..ก็ พลาดอย่างน่าเป็นห่วง!
ที่น่าเป็นห่วงก็เพราะ.....ดาบแรกที่อาจทำให้อีกสองกระบวนทัพต้องขยับยากก็คือ
1. หาก กกต.มีความเห็นตามที่นายไพบูลย์ยื่นให้ทบทวน .... ก็ถือว่า ปิดจ๊อบ! แต่คิดว่างานนี้ กกต.คงไม่กล้าที่จะใช้ดุลยพินิจด้วยตัวเองเพราะสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้... คงต้องส่ง ศาล รธน.ท่านตีความ
2. แต่หากเคราะห์หามยามซวย ..เกิดมีใครไปยื่นขอให้มีการ ยุบพรรค (ซึ่งต้องเกิดขึ้นแน่) ด้วยเหตุกระทำการฝืนต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบ โดยขัดทั้งบทบัญญัติของกฎหมาย และเจตนารมณ์ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ..นี่ยิ่งกว่าปิดจ๊อบ เพราะมันยาวไปถึง “ปิดพรรค”
กระบวนทัพนั้น... ถ้าแม้นทัพหน้าแตก ขุนศึกสายบู้ต่างแตกทัพกระเจิง ...ทัพกลางและหลัง คงใจฝ่อ..และห่อเหี่ยวไม่น้อย
ก็ต้องลุ้นกันต่อว่า ทัพกลางและหลังที่เหลืออีกสอง...จะเดินทัพต่ออย่างไร....
จะริปิดล้อมแบบเดิม นั่นคงยากเต็มที เพราะหลังทัพหน้าพลาดคะมำ....งานนี้กลายเป็นอยู่ดีๆ ไปเพิ่มราคาที่หน้าปั้มลุงตู่เอาแบบฟลุ๊คๆ ซะงั้น!!
บอกตามตรงว่า “อุต่ส่าห์รอมานานจนเหงือกเหือด...คงยังไม่เท่ากับ..จะเหลือให้เดินทัพต่อกันอีกสักกี่หน่อกันหนอ!?”