ตามหัวข้อเลยค่ะ อยู่กินกันมา 8 ปีแล้วค่ะ แต่สามีเพิ่งจะสอบติดบรรจุรับราชการทหารยศสิบตรี บรรจุได้ประมาณ 9 เดือนแล้ว เงินเดือนอยู่ที่ 10,000 บาท ส่วนดิฉันเป็นพนักงานจ้างของรัฐ เงินเดือน 13,+++ และยังมีรายได้อื่นๆอีก ตกประมาณเดือนละ 5-6000 แต่ก็ไม่ได้มีทุกเดือน ก่อนหน้านี้เราลำบากมาก พูดง่ายๆว่ากินข้าวคลุกน้ำปลาก็เคยมาแล้ว ลำบากมาด้วยกันทุกอย่าง สู้ด้วยกันมาจนเรียนจบ เราแยกกันอยู่ด้วยความจำเป็นของหน้าที่การงานค่ะ เราห่างกันแค่ 60 กม. ดิฉันพักในที่ทำงาน เขาพักในค่าย ในกองร้อยน่ะค่ะ นายสิบใหม่ต้องนอนกองร้อย 3 เดือน เขาจะกลับบ้านวันหยุด หลังจาก 3 เดือนก็ไม่กลับทุกวันเพราะคิดว่าไม่น่าคุ้มค่าน้ำมัน วันละ 200-300 ส่วนตัวดิฉันก็จะมี ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่ากิน ใช้จ่ายต่างๆนาๆของดิฉันและลูกค่ะ แต่ก่อนเขาจะสอบติดเรามีลูกด้วยกัน 1 คน ตอนนี้ 3 ขวบค่ะ ผู้ชาย กำลังน่ารัก ใช้นามสกุลดิฉันเองค่ะ พ่อรับรองบุตรในในเกิดเรียบร้อยเรียบร้อย พอเขาบรรจุเขาก็ขอให้เราไปจดทะเบียนสมรสด้วย เพื่อลุกจะได้สวัสดิการณ์ต่างๆ (ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากจดมากนักเพราะรู้นิสัยเขาดีค่ะ แต่เพื่อลูกดิฉันจึงยอม พอหลังจากที่เราจดทะเบียนกันประมาณ 2 เดือน เราก็ตกลงกันว่าจะออกรถยนต์ไว้ใช้สักคันลูกจะได้ไม่ร้อนแดด แล้วก็ตกลงกันว่าเราจะช่วยกันผ่อนคนละครึ่ง เพราะดิฉันเห็นว่าเงินเดือนเขา 10000 บาท ก็จะให้ส่งให้เดือนละ 3000 ที่เหลือดิฉันเห็นว่าเงินเดือนเราเยอะกว่าด้วยคำว่าครอบครัวจึงต้องช่วยเหลือกันทุกเรื่อง อ้อลืมบอกค่างวดอยู่ที่ 6000 กว่าบาทค่ะ รถป้ายแดง ชื่อดิฉันใช้เอกสารและเครดิตดิฉันออกรถ ตอนนี้ยังผ่อนอยู่ ดิฉันเป็นคนเอาเงินไปจ่ายและใบเสร็จทั้งหมดอยู่ที่ดิฉัน ดิฉันให้เขาเอารถยนต์ไปใช้ค่ะ เพราะด้วยความที่ดิฉันเองก็ขับไม่เป็นยังไม่มีเวลาหัด ดิฉันจึงใช้มอเตอร์ไซค์ขับไปรับส่งลูกที่โรงเรียนใกล้ๆค่ะ ทีนี้ดิฉันเกิดจับได้ว่าเขามีพฤติกรรมส่อไปทางชู้สาวตั้งแต่บรรจุเข้าไป เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยค่ะ ทั้งกินเหล้าสูบบุหรี่ไม่กลับบ้าน ติดเพื่อน ไม่ค่อยติดต่อมา บอกว่าไม่มีเวลาว่างโกหกดิฉันว่าเข้าเวร ทั้งๆที่ไม่ได้เข้าแต่ก้ไม่กลับมาช่วยกันดูแลครอบครัว วันเด็กดิฉันพาลูกไปเที่ยวในค่ายใกล้ๆที่ทำงานเขา เขายังไม่ออกมาหาเลยค่ะ ทั้งๆที่คนอื่นพาลูกมาเที่ยวกันหมด ลูกไม่สบายหนักมากค่ะวันนั้นดิฉันโทรบอกเขาตั้งแต่คืนที่ลูกไม่สบาย เขาก้ไม่มาบอกว่าผู้ฝึกไม่อยู่ ดิฉันก็ตะหงิดๆในใจค่ะ เบอร์โทรก็น่าจะมีถ้าคุณพยายาม จนตอนเช้า ดิฉันพาลูกไปหาหมอเองเลยค่ะ ในตัวเมืองไปมอไซนี่แหละค่ะ 70 กว่ากม. ไปกลับก็คูณ 2 เข้าไปค่ะ นี่ประเด็นหนึ่ง ประเด็นมันทีเยอะมากค่ะ พูด 3 วันก้ไม่จบ แต่อีกประเด็นหนึ่งสดๆร้อนๆเลยค่ะ ดิฉันจับได้ทางเฟสบุคเขานี่แหละค่ะว่าเขาแอบตามผญ.คนหนึ่งอยู่ ดิฉันพยายามเคลียร์แล้วแต่หลักฐานมันเห็นๆกันอยู่ เขาก็ยังโบ้ยไปเรื่องอื่น งานกินเลี้ยงภายในค่าย 2ครั้ง 3 ครั้งเขาก้ไม่ให้ดิฉันกับลูกเข้าไปค่ะ ทั้งๆที่คนอื่นเขาพากันไปทั้งบ้าน ก่อนหน้านี้ 2 วัน ดิฉันรู้มาว่าเขาคิดจะกู้เงินธนาคารโดยใช้สิทธิ์ข้าราชการของเขา หลักแสนค่ะ กู้มาใช้โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายในครัวเรือน แต่ดิฉันไม่ยินยอม ดิฉันไม่อยากเป็นหนี้เพิ่ม เงินเดือนก็แค่นี้รถก็ผ่อนลูกก็เรียน ยังจะสร้างหนี้เพิ่ม ดิฉันกลัวจะเป็นหนี้ร่วมด้วยค่ะ นี่คืออีกเหตุผลที่ดิฉันขอหย่า ก่อนจดทะเบียนสมรส เขาก็มีผู้หญิงคนอื่นค่ะ และเคยใช้กำลังกับดิฉัน 3-4 ครั้ง ดิฉันทนไม่ไหววันนี้สุดๆแล้วค่ะ หัวอกผู้หญิงคนหนึ่ง เห็นลูกเรียกหาพ่อทุกวัน แต่กลับไม่เห็นแม้เงา ตอนนี้ดิฉันไม่ยอมแล้วค่ะ ดิฉันปล่อยให้เขาสุขสบายในขณะที่ดิฉันทำทั้งงานหลักงานเสริมเลี้ยงลูกงานบ้านสารพัด แต่ดิฉันถูกตอบแทนด้วยการกระทำแบบนี้มาตลอด ดิฉันจึงขอเขาหย่า พูดง่ายๆคือติดยศแล้วบินนั่นแหละค่ะ ลืมตัวไปเลยค่ะ เป็นคนละคนเลย ดิฉันพยายามหาทางให้ได้อยู่ด้วยกันดดยที่จะไปเช่าบ้านแล้วอยู่ใกล้ๆกับเขานั่งเมล์มาทำงานดิฉันก็ยอม แต่เขาปฏิเสธที่จะอยู่ร่วมกับครอบครัวทุกทาง นายสิบใหม่บ้านพักยังไม่ได้ เขาก็บอกเขาจะไปอยู่บ้านพักเพื่อนเขา ซึ่งเป็นเราเราคงเลือกหาทางอยู่กับลูกับเมียค่ะ ไม่ไหวจริงๆ เรานัดวันหย่ากันแล้ว แล้วดิฉันก็ถามเขาว่า ช่วยค่าเลี้ยงดูลูกหน่อยได้มั้ย เดือนละ 5000 บาท ถึงลูกไม่ได้ใช้อะไรก็จะใส่บัญชีไว้เป็นทุนการศึกษา แล้วก็เอารถยนต์มาไว้ให้ดิฉันจะได้พาลูกไหนมาไหนเองได้ ดิฉันจะได้มีเวลาหัดขับด้วย ส่วนค่ารถดิฉันจะผ่อนเองทั้งหมด ดิฉันขอแค่ 5000 ค่ะจากเขาจนลูกบรรลุนิติภาวะ เพราะดิฉันต้องเลี้ยงลูก ไหนจะค่าเรียนต่างๆนาๆ เพราะยศเขาก็ต้องขึ้นเงินเดือนเขาขึ้นทุกปี เขาบอกว่าไม่ค่ะ อยากได้ให้ไปใช้สิทธิ์ฟ้องเอาเอง อยากหย่าก็หย่าไปแต่ไม่ให้ เพราะดิฉันเป็นคนขอหย่าก่อนเขาอยู่ของเขาเฉยๆ (มีคนอื่นนี่นะอยู่เฉยๆ)
ดิฉันจึงอยากถามว่า
1. ดิฉันสามารถฟ้องค่าเลี้ยงดูบุตรได้มั้ยคะ ถ้าเขาไม่ยอมจริงๆ
2. พอหย่ากันแล้วรถจะเป็นของใครคะ เขาอ้างบอกดิฉันว่ามันเป็นสินสมรส ต้องแบ่งครึ่ง ทั้งๆที่เป็นชื่อดิฉัน เดือนๆดิฉันก็ขอแค่ค่ารถค่าเลี้ยงดูลูกไม่ได้จอเลย บางเดือนเขาไม่พอใช้ยังมาเอาที่ดิฉันเลยค่ะ ด้วยคำว่าครอบครัว ดิฉันทำได้ทุกอย่าง แค่รอเขากลับมาเหมือนเดิม แต่วันนี้ไม่รอแล้วค่ะ 55
3.ลูกมีสิทธิ์อยู่กับเรามากกว่ารึป่าวคะ ทั้งที่เราเป็นพนักงานจ้างรัฐแต่เงินเดือนและความพร้อมีมากกว่าที่เป็นข้าราชการ แล้วเราเลี้ยงเค้ามาและเป็นทางครอบครัวฝ่ายเราที่ช่วยเหลือมาตลอด
4.ถ้าเขาไม่มาวันที่นัดหย่าเราสามารถทำอะไรได้มั้ยคะ เพราะนัดพยานเตรียมเอกสารไว้เรียบร้อยแล้ว กลัวเสียเวลาน่ะค่ะ ทุกคนมีงานต้องทำ
5.ถ้าหย่าแล้วสิทธิ์บุตรข้าราชการของลูกยังมีอยู่รึป่าวคะ หรือยังไง (อันนี้ไม่จำเป็นค่ะ) แค่อยากทราบเฉยๆ
6.ถ้าเขายอมจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรช่วงแรกๆ แล้วช่วงหลังๆเขาหายไปไม่สามรถติดต่ออะไรได้เลย เราจะร้องเรียนที่ไหนได้บ้างคะ
ถูกนอกใจ เคยถูกทำร้ายร่างกาย ไม่ดูแลครอบครัว จะนัดกันไปหย่าแต่สามีไม่ยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูลูก บอกให้ไปใช้สิทฟ้องเอา
ดิฉันจึงอยากถามว่า
1. ดิฉันสามารถฟ้องค่าเลี้ยงดูบุตรได้มั้ยคะ ถ้าเขาไม่ยอมจริงๆ
2. พอหย่ากันแล้วรถจะเป็นของใครคะ เขาอ้างบอกดิฉันว่ามันเป็นสินสมรส ต้องแบ่งครึ่ง ทั้งๆที่เป็นชื่อดิฉัน เดือนๆดิฉันก็ขอแค่ค่ารถค่าเลี้ยงดูลูกไม่ได้จอเลย บางเดือนเขาไม่พอใช้ยังมาเอาที่ดิฉันเลยค่ะ ด้วยคำว่าครอบครัว ดิฉันทำได้ทุกอย่าง แค่รอเขากลับมาเหมือนเดิม แต่วันนี้ไม่รอแล้วค่ะ 55
3.ลูกมีสิทธิ์อยู่กับเรามากกว่ารึป่าวคะ ทั้งที่เราเป็นพนักงานจ้างรัฐแต่เงินเดือนและความพร้อมีมากกว่าที่เป็นข้าราชการ แล้วเราเลี้ยงเค้ามาและเป็นทางครอบครัวฝ่ายเราที่ช่วยเหลือมาตลอด
4.ถ้าเขาไม่มาวันที่นัดหย่าเราสามารถทำอะไรได้มั้ยคะ เพราะนัดพยานเตรียมเอกสารไว้เรียบร้อยแล้ว กลัวเสียเวลาน่ะค่ะ ทุกคนมีงานต้องทำ
5.ถ้าหย่าแล้วสิทธิ์บุตรข้าราชการของลูกยังมีอยู่รึป่าวคะ หรือยังไง (อันนี้ไม่จำเป็นค่ะ) แค่อยากทราบเฉยๆ
6.ถ้าเขายอมจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรช่วงแรกๆ แล้วช่วงหลังๆเขาหายไปไม่สามรถติดต่ออะไรได้เลย เราจะร้องเรียนที่ไหนได้บ้างคะ