[BR] ย้อนมองเทรนด์สุขภาพ เราพลาดอะไรไปบ้างรึเปล่า

กระทู้ผู้สนับสนุน
กระทู้รีวิว

เริ่มต้นปีใหม่ 2019 ได้ไม่เท่าไหร่ มีใครเริ่มเจ็บป่วย หรือต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าหมอ ค่ายากันบ้างแล้วหรือยัง แล้วในปี 2018 ที่ผ่านมาล่ะ ได้ลองสังเกตตัวเองมั้ยว่า เราใส่ใจสุขภาพของเรามากพอหรือเปล่า...


การสำรวจตัวเองเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องจำเป็นมากสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนวัยทำงาน เพราะสุขภาพที่แข็งแรงจะช่วยให้เราทำงานและดูแลคนที่เรารักได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญ คือจะได้วางแผนสำรองพร้อมรับกับปัญหาสุขภาพ หรือลองค้นหาว่าประกันสุขภาพที่ไหนดีไปพลางๆ เพื่อวางแผนดูแลตัวเองในปีถัดไปก็ย่อมได้

ไหนๆ ก็เปิดประเด็นเรื่องการสำรวจตัวเองเรื่องสุขภาพมาแล้ว ก็อยากจะเล่าถึงเทรนด์สุขภาพปี 2018 ควบคู่กันไปด้วย เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องสำรวจดูว่าคนรอบข้าง หรือแม้แต่ภาครัฐและเอกชน มีความเคลื่อนไหวด้านสุขภาพเรื่องไหนที่ใกล้ตัวเรา และเราได้ประโยชน์อะไรจากเทรนด์สุขภาพที่เปลี่ยนไปบ้าง จะได้ปรับตัวสำหรับปีต่อไปได้ดียิ่งขึ้น

จากรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2018 โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. (1)  มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสุขภาพที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราอยู่หลายเรื่อง มาดูสิว่า มีเรื่องไหนบ้าง


วิ่งๆๆ วิ่งตามพี่ตูน

เรื่องวิ่งกับพี่ตูน บอดี้ สแลม ที่แม้ว่าจะออกวิ่งและเข้าเส้นชัยตั้งแต่ปลายปี 2017 แต่กระแสความสนใจในการวิ่งก็ยิงยาวมาตลอดทั้งปี 2018 กิจกรรม “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” ได้รับเสียงตอบรับจากผู้คนมากมาย วัดได้จากเงินบริจาคจากประชาชนทั่วประเทศมากกว่า 1,200 ล้านบาทและพี่ตูนคือคนไทยคนแรกที่วิ่งจากใต้สุดถึงเหนือสุดของประเทศไทย บันทึกสถิติด้วยมาตรฐานสากล โดยเริ่มวิ่งจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 สิ้นสุดที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ผ่าน 20 จังหวัด ระยะทาง 2191 กิโลเมตร รวมเวลาวิ่งเพียง 55 วัน (2) กิจกรรมก้าวคนละก้าวนี้ ส่งผลต่อแวดวงสาธารณสุขบ้านเราอย่างมาก เพราะสามารถการสร้างความตระหนักรู้เรื่องสุขภาพของประชาชน เป็นการสื่อสารไปถึงทุกคนว่า “เราควรดูแลสุขภาพตนเองไม่ให้ป่วยเป็นภาระของโรงพยาบาล” เพราะหากเรามีสุขภาพแข็งแรง โอกาสที่จะได้ใช้บริการที่โรงพยาบาลก็มีน้อยลง โรงพยาบาลก็จะสามารถรองรับผู้ป่วยขั้นวิกฤติได้เต็มศักยภาพมากขึ้น อีกนัยสำคัญที่เราค้นพบได้จากเทรนด์รณรงค์เรื่องสุขภาพครั้งนี้ก็คือ ความไม่พร้อมของระบบบริการทางการแพทย์ในบ้านเรา และนี่คืออีกปัจจัยเรื่องสุขภาพที่เราย้อนมองแล้ว ก็ต้องเตรียมรับมือในปีต่อๆ ไป...

นึกแบบนี้แล้ว ต้องรีบมองหาประกันสุขภาพที่ไหนดีๆ หรือหาข้อมูลประกันสุขภาพ เปรียบเทียบหลายๆ รูปแบบ เอาไว้เนิ่นๆ เลยล่ะ  


คุณแม่ยุคใหม่ ไม่เป็นเหยื่อการตลาดนมผง

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า นมแม่คืออาหารสำหรับเด็กแรกเกิดที่ดีที่สุด องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) แนะนำให้แม่ทุกคนให้นมลูกเพียงอย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน และกินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยได้จนถึงอายุ 2 ขวบ หรือมากกว่านั้น แต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือคุณแม่ชาวไทยไม่ได้ให้ลูกกินนมแม่อย่างเต็มที่ เมื่อดูจากผลสำรวจพบว่า ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่เด็กได้กินนมแม่อย่างเดียวถึงอายุ 6 เดือนน้อยที่สุดในเอเชีย เพียงร้อยละ 5.4 เท่านั้น จากข้อมูลการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ปี 2548 (3) กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายต่างๆ ร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวของเด็กทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 12.3 ในปี 2554และเป็นร้อยละ 23 ในปี 2558 แต่ก็นับว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน (4) ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บรรดาแม่ๆ ไม่ได้ให้ลูกดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียวก็มาจากการโฆษณาชวนเชื่อของผู้ผลิตนมผงที่มักอวดอ้างสรรพคุณและสารอาหารในนมผง จนทำให้คุณแม่หลายรายไม่มั่นใจในคุณภาพน้ำนมของตัวเอง ทำให้ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้คลอด พ.ร.บ. นมผงขึ้นมา โดยใจความหลักๆ ของ พ.ร.บ.นี้คือห้ามไม่ให้มีการโฆษณาแฝง ลด แลก แจก แถม หรือบรรยายสรรพคุณของนมผง เพื่อปกป้องแม่และลูกจากการได้รับโฆษณาชวนเชื่อและการทำการตลาดของผลิตภัณฑ์นมผง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสนับสนุนให้ทารกแรกเกิดกินอาหารที่มีคุณค่า และเป็นการเสริมสุขภาพของแม่และเด็ก ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกลืมตาดูโลก เรียกว่าใครที่คิดจะมีลูกในช่วงปีนี้ หรือบ้านไหนที่กำลังมีเด็กแรกเกิด ก็จะได้รับประโยชน์ด้านโภชนาการจาก พ.ร.บ. นี้ไปเต็มๆ


บุหรี่ ภัยร้ายที่ใครๆ ก็รู้จัก

เราต่างรู้กันดีว่า บุหรี่ในบ้านเราหาซื้อง่ายพอๆ กับขนมขบเคี้ยว คนไทยนิยมสูบบุหรี่ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยชรา ที่สำคัญคนกลุ่มนี้ยังพ่นควันลอยในอากาศเป็นภัยต่อสุขภาพของคนอื่นๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่ ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาสูบปีละ 7 ล้านคน และ 890,000 คนที่ไม่สูบบุหรี่ ที่ต้องเสียชีวิตจากการได้รับควันบุหรี่ของผู้อื่น ในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาสูบปีละไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคน และอีก 6500 (5) จากการได้รับควันบุหรี่มือสองเช่นกัน จึงได้มีการออก พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อบังคับใช้กับผู้ผลิตและร้านค้า โดยเนื้อหาสำคัญคือการห้ามผู้ผลิตบุหรี่โฆษณา ทำกิจกรรม  CSR จัดโปรโมชั่น รวมทั้งการออกแบบซองบุหรี่ก็ห้ามใช้โลโก้หรือสีสันที่สะดุดตา ทำได้เพียงพิมพ์ชื่อลงบนพื้นหลังเท่านั้น และห้ามร้านค้าโชว์ภาพซองบุหรี่ภายในร้านด้วย ทั้งหมดนี้เพื่อลดความน่าสนใจ และลดการเข้าถึงบุหรี่ของบรรดาสิงห์อมควัน ซึ่งจะเป็นการดูแลสุขภาพของประชาชนทางอ้อม


พัฒนาภูมิปัญญาไทย ให้กลายเป็นคลื่นลูกใหม่ในการดูแลสุขภาพ

ขึ้นชื่อมานานแล้วสำหรับสมุนไพรไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นในเรื่องการดูแลและบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วย จนในที่สุดแผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ก็ได้เกิดขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดสมุนไพรระดับโลกได้ ให้วงการแพทย์แผนไทยได้รับการยอมรับและน่าเชื่อถือ และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรค นอกเหนือจากการแพทย์แผนปัจจุบัน และยังส่งเสริมผู้สูงอายุให้ได้ดูแลสุขภาพในระยะยาวผ่านกลไกชมรมผู้สูงอายุ อีกทั้งยังได้บูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยเพื่อบรรจุเป็นกรอบการดูแลสุขภาพเบื้องต้นในท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งของกลุ่มภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน หนึ่งในกลุ่มคนที่ได้ประโยชน์อย่างมากจากการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นก็คือเหล่าผู้สูงอายุที่จะได้ดูแลตัวเองเบื้องต้น ไม่ต้องพึ่งพาการใช้ยาที่อาจมีผลข้างเคียง และได้ใช้ธรรมชาติในการบำบัดรักษาโรค อย่างไรก็ดี แผนส่งเสริมการดูแลสุขภาพด้วยภูมิปัญญาไทยยังเป็นเพียงการเริ่มต้น และการรักษาจะมุ่งเน้นการสร้างเสริมสุขภาพและรักษาโรคในเบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้น ประกันสุขภาพผู้สูงอายุก็ยังจำเป็นสำหรับเพิ่มความมั่นใจในการดูแลตัวเองเมื่ออายุมากขึ้น

เหล่านี้เป็นกระแสและความเปลี่ยนแปลงด้านสาธารณสุขและคุณภาพชีวิตที่เกิดขึ้นในปี 2018 ในเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด และเมื่อพูดถึงเรื่องสุขภาพ อีกเรื่องที่ต้องมาคู่กันก็คือ เรื่องการใช้ชีวิตหลังเกษียณ เชื่อหรือไม่ว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของคนไทยเกี่ยวกับการดูแลชีวิตหลังเกษียณพบว่า คนไทย 60% คิดว่ารัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตประชาชนหลังเกษียณโดยตรง (6) สอดคล้องกับผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360 องศา ของซิกน่าเมื่อปี 2016 พบว่า 75% ของคนไทยยังไม่พร้อมสำหรับการเกษียณ (7) เพราะไม่มีเงินสำรองอย่างเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในช่วงบั้นปลายของชีวิต แถมจากการสำรวจยังพบอีกว่าคนไทยยังมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินของตนเอง โดยเฉพาะความกังวลจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและค่ารักษาพยาบาลหากเกิดเจ็บป่วย โดย 40% คาดว่าเมื่อเกษียณแล้วจะต้องควักกระเป๋าจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยเงินเก็บของตนเอง และ 29% คาดว่าต้องพึ่งพาสวัสดิการจากภาครัฐ และมีเเพียง 23% เท่านั้นที่คิดว่าตนเองมีความพร้อมจากการวางแผนทำประกันสุขภาพ ประกันสุขภาพผู้สูงอายุ ประกันอุบัติเหตุ และประกันโรคร้ายแรง

นอกจากนี้ ผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของซิกน่า (8) พบว่า คนวัยทำงานส่วนใหญ่เลือกที่จะรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ด้วยการซื้อยามารับประทานเองบ้าง พักผ่อนเยอะๆ บ้าง แทนที่จะเลือกไปพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการป่วย และคนวัยทำงานถึง 40% ยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนต่างที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแผนประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุที่เป็นสวัสดิการของบริษัท ไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจริง

เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่เราต้องเตรียมพร้อม เพราะพี่ตูนไม่ได้มาวิ่งช่วยโรงพยาบาลบ่อยๆ และ พ.ร.บ. คุ้มครองสุขภาพก็ไม่ได้แล้วเสร็จกันได้ง่ายๆ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับปัญหาด้านสุขภาพอนามัยของเราเอาไว้แต่เนิ่นๆ ยิ่งถ้าเราไม่แน่ใจว่าจะแบกรับค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุและปัญหาสุขภาพได้แล้วล่ะก็ การการเปรียบเทียบประกันสุขภาพแผนต่างๆ เพื่อตัดสินใจว่าประกันสุขภาพที่ไหนดีที่สุดสำหรับเรา จึงจำเป็นอย่างยิ่ง หรือจะให้ดียิ่งขึ้น ลองหาข้อมูล ประกันสุขภาพผู้สูงอายุ เอาไว้บ้าง ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

________________________________________________________________

1สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2561). รายงานสุขภาพคนไทย ปี 2561. 14 มกราคม 2561. http://www.thaihealth.or.th/Books/543/รายงานสุขภาพคนไทย+ปี+2561.html
2Thailand Records.
http://thailandrecords.org/record_holder.php

3Thailand National Statistical office. (2006). Thailand Multiple Indicator ClusterSurvey December 2005 – February 2006: Final Repo
4สำนักงานสถิติแห่งชาติ.(2555). รายงานฉบับสมบูรณ์ การสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ.2555. กรุงเทพ, ประเทศไทย. สำนักงานสถิติแห่งชาติ.

5Bundhamchareon K. Aungkulanon S, Makka N, Shibuya K. Economic burden from smoking-related diseases in Thailand. Tob Control 2015;0:1-6
6ทำไมกองทุนสุขภาพสามกองทุนจะเจ๊งหมดภายใน 30 ปี และจะแก้ไขได้อย่างไร?, อาจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
7ผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของซิกน่า
https://www.cigna.co.th/news/360well-being
8การสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของซิกน่า (2559). https://www.cigna.co.th/news/360well-being




ขอขอบคุณภาพจาก ซิกน่า  


[Advertorial]
ชื่อสินค้า:   Cigna
คะแนน:     

BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน

แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่