
หน้าจอแบบ เจาะรูถือว่าเป็นการออกแบบที่มาใหม่ล่าสุดแทนที่จากของเดิมแบบติ่งหรือรอยบากด้านบนหน้าจอ เป็นการออกแบบที่หลายๆค่ายทำออกมาเพื่อที่จะพยายามทำให้หน้าจอมันเต็มตามากที่สุดขอบบางมากที่สุด เลยเกิดเป็นจอติ่งแบบนี้ขึ้นมา เนื่องจากต้องการที่จะหลีกเลี่ยงจากใช้ระบบพวก เลื่อนกล้อง หรือ สไลด์ หน้าจอแบบมีรูเลยเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ และแน่นอนว่าทาง Honor ก็เลยทำออกมากับตัวล่าสุดอย่าง HONOR V20 ที่เป็นรุ่นแรกๆในยุคใหม่ของ HONOR ที่มีการเปลี่ยนโลโก้ เปลี่ยนแนวคิดของแบรนด์เจาะกลุ่มตลาดแบบใหม่ ยกเครื่องใหม่ทั้งหมดเลยครับ จะเห็นว่าฟอนต์โลโก้นั้นเปลี่ยนไปแล้ว เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจอมีรูใช้งานเป็นยังไง รวมถึงส่วนอื่นๆ

Honor V20 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจหลายๆอย่างแต่หลักๆเลยน่าจะเป็นหน้าจอ และ การออกแบบฝาหลังที่แปลก และ โดดเด่นเอาเรื่อง สะท้อนแสงรูปตัว V กันเล่นสีแสงตามมุมที่แตกต่างกันไปครับ หน้าจอที่มาใช้หน้าจอแบบมีรูรุ่นแรกของทางค่าย กล้องหน้ามีความละเอียด 25 MP หน้าจอ All-View display 6.4 นิ้ว FHD+ พร้อมด้วย Kirin 980 RAM 8GB GPU Turbo 2.0 และยังมี liquid cooling system แบตเตอรี่ 4,000 mAh Super Fast Charge 22.5W มาให้ครับค่อนข้างครบเลยแหละเป็นเรือธงอีกรุ่นที่น่าเล่นสำหรับทาง Honor

สำหรับตัวราคานี้เหมือนจะมาแค่รุ่นย่อยเดียวนะครับในร้านหิ้ว ซึ่งเป็นตัว Ram8GB 128GB มาสีดำราคาประมาณ 20,500.- ณ วันที่เขียนรีวิวนะครับ ส่วนของศูนย์ไทยน่าจะเข้ามาเร็วๆนี้แต่เรื่องสเปคยังไม่แน่ใจนะครับ

UNBOX
ตัวกล่องมีบอกชื่อรุ่นชัดเจนกล่องมาในโทนสีขาวและมีการเล่นลวดลายบนกล่องเป็นรูปตัว V และ โลโก้แบบใหม่อยู่ตรงด้านล่างครับ อุปกรณ์ในกล่องมีมาให้ ยกเว้นหูฟังที่ไม่ให้มานะครับ ส่วนฟิล์มนั้นติดมาแล้วเป็นฟิลม์ธรรมดาไม่ใช่กระจกครับ
- ตัวเครื่อง Honor V20
- Honor V20 เคส ใสบาง
- ที่ชาร์จ รองรับ Super Charge
- สาย ชาร์จ Type-C
- ตัวคู่มือ ที่จิ้มซิม

ตัวเคสแถมที่ให้มาในกล่องเป็นเคสแบบใสนิ่มนะครับไม่กัดตัวเครื่องเท่าแบบแข็งๆแต่ก็อาจจะต้องทำความสะอาดกันบ้างเวลาใช้ไปนานตัวเคสด้านหลังเป็นจุดๆป้องกันการดูดของอากาศกับฝาหลังเคสโดยรวมค่อนข้างบางไปหน่อยรวมถึงงานประกอบอะไรพวกนี้ไม่ได้มีการทำมุมหนาพิเศษหรือนูนปกป้องตัวเครื่องพิเศษเหมือนแบรนด์อื่นๆเท่าไร

DESIGN
การออกแบบรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากพอสมควรทั้งการวางตำแหน่งกล้องหลัง การใช้ฝาหลังเน้นลวดลายสวยงามแบบพิเศษ ดีไซน์ไม่ได้ลอกเลียนแบบใครเป็นตัวของตัวเองดีครับ และการเล่นแสงรูปตัว V นั้นค่อนข้างแปลกตา มีทั้งคนชอบและไม่ชอบแต่สำหรับผมว่ามันสวยดีและโดดเด่นดีครับจริงๆมันก็ไม่ได้ขึ้นรูปตัว V อะไรทุกเวลานะบางมุมก็เป็นสีดำเรียบๆซึ่งหลายๆคนอาจจะกังวลว่ามันจะเด่นตลอดเวลาเกินไปไหม ส่วนวัสดุงานประกอบในรุ่นนี้ทำมาได้เนียนดีกระจกขอบโค้งด้านหลังตัวเฟรมเครื่องบอดี้ช่องว่างต่างๆทำได้สนิทและมีน้ำหนักพอสมควรไม่ได้บางเบามากนัก

ด้านหน้าตัวนี้เป็นตัวแรกๆที่มีการใช้หน้าจอแบบเต็มจอ พร้อมหน้าจอมีรูที่เป็นกล้องหน้า 25MP ที่มีขนาดเล็กมากๆ ทั้งหน้าจอและกล้องนั้นเมื่อเทียบกับ Nova 4 แล้วเท่ากันหมดเลยนะครับน่าจะจอแบบเดียวกันเลย ทำขอบได้บางทุกส่วนยกเว้นขอบล่างที่ยังมีความหนามากกว่าด้านอื่นๆครับ ส่วนไฟแจ้งเตือนนั้นอยู่ด้านบนช่องลำโพงนะ

ขอบด้านล่างตัวนี้มีความหนาขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าเป็น Nova 4 ไฟแจ้งเตือนจะอยู่ด้านล่าง แต่รุ่นนี้ไปด้านบนแทนนะครับส่วนปุ่มทั้งหมดใช้งานแบบเต็มจอ หรือจะเป็นปุ่ม 3 ปุ่มแบบปกติก็ทำได้เช่นกันครับปรับตั้งค่าได้ตามใจชอบ

ขอบด้านบนนั้นมีขนาดเล็กเท่าๆกับขอบข้างซ้ายขวา แต่ที่แปลกใหม่คือกล้องหน้าแบบเจาะรูมุมซ้ายครับ ไม่มีติ่งหน้าจออีกต่อไปและวางไว้ตำแหน่งที่คนไปแตะใช้งานน้อยที่สุดนั้นเอาจากที่เค้าบอกมานะครับ ส่วนเซนเซอร์ ลำโพง ไว้ขอบบนตัวเครื่องซ่อนเนียนๆกันไป เซนเซอร์เล็กและใช้งานได้เหมือนเดิมครับ รวมถึงไฟแจ้งเตือนตรงช่องลำโพง

ขอบด้านล่างตัวเครื่องเมื่อวางคว่ำนั้นจะเห็นว่าตัวฝาหลังโค้งรับมือได้ดีแต่เครื่องไม่ได้บางมากเท่าไรนัก มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อ TYPE-C ตรงกลางและรูลำโพงด้านซ้ายมือ และ รูไมค์ ขอบทั้งหมดเป็นแบบด้านๆแตกต่างกันฝาหลัง

ขอบด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเห็นความหนานิดหน่อยและฝาหลังที่โค้งเข้ามาขอบด้านข้าง ด้านนี้ไม่มีปุ่มอะไรมากนักเป็นถาดซิมใส่ NanoSim ทั้ง 2 ช่อง ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้นะครับในรุ่นนี้

ด้านขวาของตัวเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับปุ่มทั้งหมดคือปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power เปิดปิดเครื่องนั้นเองครับ ไม่ได้มีการเล่นลวดลายพิเศษอะไรสำหรับตัวปุ่มทั้ 3 วางตำแหน่งกำลังดีใช้งานง่ายครับ

ด้านขอบบนนั้นรูต่างๆมีมาให้ครบเลย รวมถึงรูหูฟัง 3.5มม. ยังไม่ตัดทิ้งไปไหน และ ตัว ไมค์ รวมถึง IR สำหรับควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี แอร์อะไรสามารถตั้งค่าและใช้งานได้ ยังไม่ตัดออกไปเหมือนกันครับถือว่าดีงามเลยแหละ

ด้านหลังกันหน่อยที่ค่อนข้างเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้คือการเล่นกับแสงรูปตัว V ต้องหามุมถ่ายกันหน่อยครับในรุ่นนี้ถ้าไม่ได้มุมก็อาจจะจะเป็นฝาหลังสีดำเรียบๆสวยไปอีกแบบแต่ถ้าเจอแสงส่องทำมุมได้ก็จะสะท้อนรูปตัว V เข้มๆแบบภาพก่อนหน้านั้นได้เลยนั้นเองครับผม โลโก้อยู่ด้านล่าง สแกนนิ้วมีมาให้ส่วนด้านบนครับ และ กล้องหลัง 2 ตัว

กล้องหลังตัวนี้มาพร้อมกล้องปกติ 1 ตัวที่มี กล้องขนาด 48 MP IMX586 พร้อมด้วย AI และ มาด้วยกล้องหลัง 3 มิติ 3D TOF CAMERA สำหรับการจับวัตถุแบบ 3 มิติแบบเดียวกับทาง OPPO R17 PRO ที่ทำให้วัดระยะขนาดต่างๆได้แบบสมจริง และกับ AR ได้แม่นยำมากขึ้นครับ

SPEC
- หน้าจอมีรูขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+
- รันบนระบบปฏิบัติการ Android Pie 9.0 ครอบทับด้วย MAGICUI 2.0
- CPU : Kirin 980 + Mali-G76MP10 GPU Turbo 2.0
- ROM : 128 GB
- RAM : 8 GB
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 25 MP
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 48 MP (Sony IMX586) F/1.8 + ToF Depth Camera รองรับเทคโนโลยี Huawei AIS และมี Night Mode พร้อม AI ช่วยในการประมวลผลภาพถ่าย
- แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh
- รองรับระบบชาร์จเร็ว Huawei Super Fast Charge ที่ 4.5V/5A ผ่านพอร์ต USB-C
- มีระบบระบายความร้อน liquid cooling technology
- รองรับ Dual GPS สองคลื่นความถี่ (เหมือนกับ Huawei Mate 20 Pro)
- Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11ac/b/g/n, Bluetooth 5.0, NFC และ USB-C
- รองรับผู้ช่วยอัจฉริยะ YOYO voice assistant (สำหรับประเทศจีนเท่านั้น)
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Charm Sea Blue, Charm Red และ Magic Night Black

PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพของตัวเครื่องโดยรวมถือว่าจัดเต็มมาให้เลยแหละครับทั้งในด้านของ CPU Kirin 980 ที่เป็นตัวล่าสุดพร้อมการผลิตที่ 7nm และ ทำคะแนนได้ 273783 Antutu และ คะแนน 3DMARK 3605/4239 คะแนนครับ ส่วนในเรื่องความจำตัวเครื่องใช้ UFS2.1 เช่นเคยแรงเร็วตามคาด และยังได้ L1 ด้วยนะ ดู NETFLIX HD ชัดๆได้สบาย ถือว่าในเรื่องของประสิทธิภาพโดยรวมใช้งานได้ดีเลยแหละครับ แต่ต้องรอดูการใช้งานจริงๆกันอีกที

SOFTWARE UI
ระบบต่างๆนั้นก็พัฒนามาจาก EMUI แต่ครั้งนี้มาในชื่อ MAGIC UI 2.0 แล้วด้วยแยกกับทาง Huawei ชัดเจนขึ้นแต่การออกแบบหน้าตาไม่ได้หนีกันเท่าไร หน้าตาแอพก็คุ้นเคยกันดี มีแอพมากับเครื่องเยอะเป็นปกติเครื่องหิ้วนะครับ ส่วนในเรื่องการแจ้งเตือนตัวเลขมีมาให้ครับ แต่การเด้งเตือนจริงๆไม่ค่อยเด้งเท่าไรนัก เหมือนเดิมเลยในจุดนี้

การแบ่งหน้าจอ 2 หน้าจอนั้นทำได้ครับเลือกแอพได้ค่อนข้างเยอะ ส่วนหน้าตาการแจ้งเตือน การตั้งค่าอะไรพวกนี้มาในโทนขาวฟ้า และสามารถปรับแต่งได้ครับส่วนการใช้งานก็คล้ายๆเดิมไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงมากนักปรับตัวไม่ยาก

ตัวนี้มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูล 128GB ระบบกินไปนิดหน่อยประมาณ 10 GB ครับเหลือใช้ประมาณ 110 กว่าๆ ส่วนในเรื่อง RAM 8GB นั้นจัดเต็มมาให้ และใช้งานทั้งวันไป 3.9GB ครับครึ่งๆเป็นปกตินะ ส่วนของแป้นพิมพ์เดิมๆไม่มีภาษาไทยมาให้ ต้องโหลด คียบอร์ดอื่นเอานะครับ แต่เมนูอะไรมีภาษาไทยให้เรียนร้อยไม่ต้องห่วง

ตัวนี้แม้จะไม่มีติ่งแล้วแต่ก็เป็นหน้าจอมีรู และทำมาให้ปิดได้ด้วยครับ ส่วนการแสกนใบหน้าอะไรก็มีมาให้ด้วยการจดจำแบบ 2 มิติ และ Gesture ที่ยังคงจัดเต็มทั้งเคาะหน้าจอ วาดด้วยข้อนิ้ว เคาะมะเหงกอะไรพวกนี้มาครบ

ตัวการตั้งค่าในส่วนอื่นๆก็มีมาให้เหมือนเดิมครับรวมถึงการเข้าโหมดนักพัฒนาก็เข้าได้เช่นกัน หน้าตาแอพการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าก็สามารถเพิ่มได้ รวมถึงการจัดการแอป ล็อคแอป โคลนแอปพวกนี้ทำงานได้สบายครับผม

THEME
การตกแต่งธีมหน้าตาโดยรวมนั้นจะเน้นไปที่การปรับแต่งหน้าตา แอพโทนสีต่างๆแต่ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเยอะมากครับเห็นหน้าตาโดยรวมแต่ไม่ได้เปลี่ยนไปถึงพวกหน้าตาภายในแอปพวกนั้นเท่าไรครับ และ ยังต้องเสียตังในบางตัว
[CR] รีวิว Honor V20 เรือธง Kirin 980 หน้าจอมีรู พร้อมกล้องหลัง 48MP
หน้าจอแบบ เจาะรูถือว่าเป็นการออกแบบที่มาใหม่ล่าสุดแทนที่จากของเดิมแบบติ่งหรือรอยบากด้านบนหน้าจอ เป็นการออกแบบที่หลายๆค่ายทำออกมาเพื่อที่จะพยายามทำให้หน้าจอมันเต็มตามากที่สุดขอบบางมากที่สุด เลยเกิดเป็นจอติ่งแบบนี้ขึ้นมา เนื่องจากต้องการที่จะหลีกเลี่ยงจากใช้ระบบพวก เลื่อนกล้อง หรือ สไลด์ หน้าจอแบบมีรูเลยเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ และแน่นอนว่าทาง Honor ก็เลยทำออกมากับตัวล่าสุดอย่าง HONOR V20 ที่เป็นรุ่นแรกๆในยุคใหม่ของ HONOR ที่มีการเปลี่ยนโลโก้ เปลี่ยนแนวคิดของแบรนด์เจาะกลุ่มตลาดแบบใหม่ ยกเครื่องใหม่ทั้งหมดเลยครับ จะเห็นว่าฟอนต์โลโก้นั้นเปลี่ยนไปแล้ว เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจอมีรูใช้งานเป็นยังไง รวมถึงส่วนอื่นๆ
Honor V20 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจหลายๆอย่างแต่หลักๆเลยน่าจะเป็นหน้าจอ และ การออกแบบฝาหลังที่แปลก และ โดดเด่นเอาเรื่อง สะท้อนแสงรูปตัว V กันเล่นสีแสงตามมุมที่แตกต่างกันไปครับ หน้าจอที่มาใช้หน้าจอแบบมีรูรุ่นแรกของทางค่าย กล้องหน้ามีความละเอียด 25 MP หน้าจอ All-View display 6.4 นิ้ว FHD+ พร้อมด้วย Kirin 980 RAM 8GB GPU Turbo 2.0 และยังมี liquid cooling system แบตเตอรี่ 4,000 mAh Super Fast Charge 22.5W มาให้ครับค่อนข้างครบเลยแหละเป็นเรือธงอีกรุ่นที่น่าเล่นสำหรับทาง Honor
สำหรับตัวราคานี้เหมือนจะมาแค่รุ่นย่อยเดียวนะครับในร้านหิ้ว ซึ่งเป็นตัว Ram8GB 128GB มาสีดำราคาประมาณ 20,500.- ณ วันที่เขียนรีวิวนะครับ ส่วนของศูนย์ไทยน่าจะเข้ามาเร็วๆนี้แต่เรื่องสเปคยังไม่แน่ใจนะครับ
UNBOX
ตัวกล่องมีบอกชื่อรุ่นชัดเจนกล่องมาในโทนสีขาวและมีการเล่นลวดลายบนกล่องเป็นรูปตัว V และ โลโก้แบบใหม่อยู่ตรงด้านล่างครับ อุปกรณ์ในกล่องมีมาให้ ยกเว้นหูฟังที่ไม่ให้มานะครับ ส่วนฟิล์มนั้นติดมาแล้วเป็นฟิลม์ธรรมดาไม่ใช่กระจกครับ
- ตัวเครื่อง Honor V20
- Honor V20 เคส ใสบาง
- ที่ชาร์จ รองรับ Super Charge
- สาย ชาร์จ Type-C
- ตัวคู่มือ ที่จิ้มซิม
ตัวเคสแถมที่ให้มาในกล่องเป็นเคสแบบใสนิ่มนะครับไม่กัดตัวเครื่องเท่าแบบแข็งๆแต่ก็อาจจะต้องทำความสะอาดกันบ้างเวลาใช้ไปนานตัวเคสด้านหลังเป็นจุดๆป้องกันการดูดของอากาศกับฝาหลังเคสโดยรวมค่อนข้างบางไปหน่อยรวมถึงงานประกอบอะไรพวกนี้ไม่ได้มีการทำมุมหนาพิเศษหรือนูนปกป้องตัวเครื่องพิเศษเหมือนแบรนด์อื่นๆเท่าไร
DESIGN
การออกแบบรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากพอสมควรทั้งการวางตำแหน่งกล้องหลัง การใช้ฝาหลังเน้นลวดลายสวยงามแบบพิเศษ ดีไซน์ไม่ได้ลอกเลียนแบบใครเป็นตัวของตัวเองดีครับ และการเล่นแสงรูปตัว V นั้นค่อนข้างแปลกตา มีทั้งคนชอบและไม่ชอบแต่สำหรับผมว่ามันสวยดีและโดดเด่นดีครับจริงๆมันก็ไม่ได้ขึ้นรูปตัว V อะไรทุกเวลานะบางมุมก็เป็นสีดำเรียบๆซึ่งหลายๆคนอาจจะกังวลว่ามันจะเด่นตลอดเวลาเกินไปไหม ส่วนวัสดุงานประกอบในรุ่นนี้ทำมาได้เนียนดีกระจกขอบโค้งด้านหลังตัวเฟรมเครื่องบอดี้ช่องว่างต่างๆทำได้สนิทและมีน้ำหนักพอสมควรไม่ได้บางเบามากนัก
ด้านหน้าตัวนี้เป็นตัวแรกๆที่มีการใช้หน้าจอแบบเต็มจอ พร้อมหน้าจอมีรูที่เป็นกล้องหน้า 25MP ที่มีขนาดเล็กมากๆ ทั้งหน้าจอและกล้องนั้นเมื่อเทียบกับ Nova 4 แล้วเท่ากันหมดเลยนะครับน่าจะจอแบบเดียวกันเลย ทำขอบได้บางทุกส่วนยกเว้นขอบล่างที่ยังมีความหนามากกว่าด้านอื่นๆครับ ส่วนไฟแจ้งเตือนนั้นอยู่ด้านบนช่องลำโพงนะ
ขอบด้านล่างตัวนี้มีความหนาขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าเป็น Nova 4 ไฟแจ้งเตือนจะอยู่ด้านล่าง แต่รุ่นนี้ไปด้านบนแทนนะครับส่วนปุ่มทั้งหมดใช้งานแบบเต็มจอ หรือจะเป็นปุ่ม 3 ปุ่มแบบปกติก็ทำได้เช่นกันครับปรับตั้งค่าได้ตามใจชอบ
ขอบด้านบนนั้นมีขนาดเล็กเท่าๆกับขอบข้างซ้ายขวา แต่ที่แปลกใหม่คือกล้องหน้าแบบเจาะรูมุมซ้ายครับ ไม่มีติ่งหน้าจออีกต่อไปและวางไว้ตำแหน่งที่คนไปแตะใช้งานน้อยที่สุดนั้นเอาจากที่เค้าบอกมานะครับ ส่วนเซนเซอร์ ลำโพง ไว้ขอบบนตัวเครื่องซ่อนเนียนๆกันไป เซนเซอร์เล็กและใช้งานได้เหมือนเดิมครับ รวมถึงไฟแจ้งเตือนตรงช่องลำโพง
ขอบด้านล่างตัวเครื่องเมื่อวางคว่ำนั้นจะเห็นว่าตัวฝาหลังโค้งรับมือได้ดีแต่เครื่องไม่ได้บางมากเท่าไรนัก มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อ TYPE-C ตรงกลางและรูลำโพงด้านซ้ายมือ และ รูไมค์ ขอบทั้งหมดเป็นแบบด้านๆแตกต่างกันฝาหลัง
ขอบด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเห็นความหนานิดหน่อยและฝาหลังที่โค้งเข้ามาขอบด้านข้าง ด้านนี้ไม่มีปุ่มอะไรมากนักเป็นถาดซิมใส่ NanoSim ทั้ง 2 ช่อง ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้นะครับในรุ่นนี้
ด้านขวาของตัวเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับปุ่มทั้งหมดคือปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power เปิดปิดเครื่องนั้นเองครับ ไม่ได้มีการเล่นลวดลายพิเศษอะไรสำหรับตัวปุ่มทั้ 3 วางตำแหน่งกำลังดีใช้งานง่ายครับ
ด้านขอบบนนั้นรูต่างๆมีมาให้ครบเลย รวมถึงรูหูฟัง 3.5มม. ยังไม่ตัดทิ้งไปไหน และ ตัว ไมค์ รวมถึง IR สำหรับควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี แอร์อะไรสามารถตั้งค่าและใช้งานได้ ยังไม่ตัดออกไปเหมือนกันครับถือว่าดีงามเลยแหละ
ด้านหลังกันหน่อยที่ค่อนข้างเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้คือการเล่นกับแสงรูปตัว V ต้องหามุมถ่ายกันหน่อยครับในรุ่นนี้ถ้าไม่ได้มุมก็อาจจะจะเป็นฝาหลังสีดำเรียบๆสวยไปอีกแบบแต่ถ้าเจอแสงส่องทำมุมได้ก็จะสะท้อนรูปตัว V เข้มๆแบบภาพก่อนหน้านั้นได้เลยนั้นเองครับผม โลโก้อยู่ด้านล่าง สแกนนิ้วมีมาให้ส่วนด้านบนครับ และ กล้องหลัง 2 ตัว
กล้องหลังตัวนี้มาพร้อมกล้องปกติ 1 ตัวที่มี กล้องขนาด 48 MP IMX586 พร้อมด้วย AI และ มาด้วยกล้องหลัง 3 มิติ 3D TOF CAMERA สำหรับการจับวัตถุแบบ 3 มิติแบบเดียวกับทาง OPPO R17 PRO ที่ทำให้วัดระยะขนาดต่างๆได้แบบสมจริง และกับ AR ได้แม่นยำมากขึ้นครับ
SPEC
- หน้าจอมีรูขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+
- รันบนระบบปฏิบัติการ Android Pie 9.0 ครอบทับด้วย MAGICUI 2.0
- CPU : Kirin 980 + Mali-G76MP10 GPU Turbo 2.0
- ROM : 128 GB
- RAM : 8 GB
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 25 MP
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 48 MP (Sony IMX586) F/1.8 + ToF Depth Camera รองรับเทคโนโลยี Huawei AIS และมี Night Mode พร้อม AI ช่วยในการประมวลผลภาพถ่าย
- แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh
- รองรับระบบชาร์จเร็ว Huawei Super Fast Charge ที่ 4.5V/5A ผ่านพอร์ต USB-C
- มีระบบระบายความร้อน liquid cooling technology
- รองรับ Dual GPS สองคลื่นความถี่ (เหมือนกับ Huawei Mate 20 Pro)
- Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11ac/b/g/n, Bluetooth 5.0, NFC และ USB-C
- รองรับผู้ช่วยอัจฉริยะ YOYO voice assistant (สำหรับประเทศจีนเท่านั้น)
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Charm Sea Blue, Charm Red และ Magic Night Black
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพของตัวเครื่องโดยรวมถือว่าจัดเต็มมาให้เลยแหละครับทั้งในด้านของ CPU Kirin 980 ที่เป็นตัวล่าสุดพร้อมการผลิตที่ 7nm และ ทำคะแนนได้ 273783 Antutu และ คะแนน 3DMARK 3605/4239 คะแนนครับ ส่วนในเรื่องความจำตัวเครื่องใช้ UFS2.1 เช่นเคยแรงเร็วตามคาด และยังได้ L1 ด้วยนะ ดู NETFLIX HD ชัดๆได้สบาย ถือว่าในเรื่องของประสิทธิภาพโดยรวมใช้งานได้ดีเลยแหละครับ แต่ต้องรอดูการใช้งานจริงๆกันอีกที
SOFTWARE UI
ระบบต่างๆนั้นก็พัฒนามาจาก EMUI แต่ครั้งนี้มาในชื่อ MAGIC UI 2.0 แล้วด้วยแยกกับทาง Huawei ชัดเจนขึ้นแต่การออกแบบหน้าตาไม่ได้หนีกันเท่าไร หน้าตาแอพก็คุ้นเคยกันดี มีแอพมากับเครื่องเยอะเป็นปกติเครื่องหิ้วนะครับ ส่วนในเรื่องการแจ้งเตือนตัวเลขมีมาให้ครับ แต่การเด้งเตือนจริงๆไม่ค่อยเด้งเท่าไรนัก เหมือนเดิมเลยในจุดนี้
การแบ่งหน้าจอ 2 หน้าจอนั้นทำได้ครับเลือกแอพได้ค่อนข้างเยอะ ส่วนหน้าตาการแจ้งเตือน การตั้งค่าอะไรพวกนี้มาในโทนขาวฟ้า และสามารถปรับแต่งได้ครับส่วนการใช้งานก็คล้ายๆเดิมไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงมากนักปรับตัวไม่ยาก
ตัวนี้มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูล 128GB ระบบกินไปนิดหน่อยประมาณ 10 GB ครับเหลือใช้ประมาณ 110 กว่าๆ ส่วนในเรื่อง RAM 8GB นั้นจัดเต็มมาให้ และใช้งานทั้งวันไป 3.9GB ครับครึ่งๆเป็นปกตินะ ส่วนของแป้นพิมพ์เดิมๆไม่มีภาษาไทยมาให้ ต้องโหลด คียบอร์ดอื่นเอานะครับ แต่เมนูอะไรมีภาษาไทยให้เรียนร้อยไม่ต้องห่วง
ตัวนี้แม้จะไม่มีติ่งแล้วแต่ก็เป็นหน้าจอมีรู และทำมาให้ปิดได้ด้วยครับ ส่วนการแสกนใบหน้าอะไรก็มีมาให้ด้วยการจดจำแบบ 2 มิติ และ Gesture ที่ยังคงจัดเต็มทั้งเคาะหน้าจอ วาดด้วยข้อนิ้ว เคาะมะเหงกอะไรพวกนี้มาครบ
ตัวการตั้งค่าในส่วนอื่นๆก็มีมาให้เหมือนเดิมครับรวมถึงการเข้าโหมดนักพัฒนาก็เข้าได้เช่นกัน หน้าตาแอพการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าก็สามารถเพิ่มได้ รวมถึงการจัดการแอป ล็อคแอป โคลนแอปพวกนี้ทำงานได้สบายครับผม
THEME
การตกแต่งธีมหน้าตาโดยรวมนั้นจะเน้นไปที่การปรับแต่งหน้าตา แอพโทนสีต่างๆแต่ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเยอะมากครับเห็นหน้าตาโดยรวมแต่ไม่ได้เปลี่ยนไปถึงพวกหน้าตาภายในแอปพวกนั้นเท่าไรครับ และ ยังต้องเสียตังในบางตัว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้