เส้นทางหมากล้อมของผม (Original : 5-10-2007)

กระทู้สนทนา
เส้นทางหมากล้อมของผม (Original : 5-10-2007 อ้างอิงจากวันที่เซฟไฟล์)

    โกะ...

    ...หากเป็นเมื่อก่อน หลายๆ คนคงสงสัยว่ามันคืออะไร...มันเป็นเกมกีฬาครับ เป็นหนึ่งในเกมกระดานที่เป็นที่นิยมอย่างสูงของชาวจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี...มีผู้แปลคำว่า “โกะ” เป็นภาษาไทยที่โดยส่วนตัวของผมคิดว่าเป็นคำแปลที่แสนจะไพเราะและเข้าใจง่ายว่า “หมากล้อม” แต่ถึงกระนั้น ในบางครั้งก็ยังมีคนถามผมว่า...มันใช่โอเทลโล่หรือไม่ก็หมากหนีบหรือเปล่า...

    สำหรับผมนั้น...ผมรู้จักหมากล้อมมาตั้งแต่สมัยที่ผมยังเป็นเด็ก หรือถ้าจะพูดให้ถูกกว่านี้ก็ต้องบอกว่า ผมเคยเห็นหมากล้อมในยุคที่หนังจีนกำลังภายในกำลังเฟื่องฟูสุดขีด...ณ ศาลาริมน้ำแห่งหนึ่งที่รอบบริเวณเขียวขจีไปด้วยพันธุ์ไม้ยืนต้นสูงต่ำนานาชนิด ใบไม้ร่วงตามแรงลม แสงแดดที่ดูอบอุ่นฉาบอยู่รอบๆ บริเวณ...ภาพจอมยุทธผมยาวในชุดขาวสองคนจิบเหล้าจากจอกนั่งอยู่คนละฝั่งของกระดานไม้ซึ่งถูกเรียงรายไปด้วยเม็ดหมากสีขาวและดำจำนวนมาก จอมยุทธคนหนึ่งถือเม็ดหมากและกำลังครุ่นคิดอย่างหนักถึงตาต่อไปที่กำลังจะวาง ในขณะที่อีกคนกำลังนั่งโบกพัดกระดาษสีขาวและหัวเราะอย่างอารมณ์ดี...

    ...เม็ดหมากที่เรียงรายอย่างสวยงาม...สีขาวและสีดำตัดกันอย่างชัดเจนเมื่ออยู่บนกระดาน...ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่รู้ว่าเขาเล่นกันยังไง...แต่ทว่า...จอมยุทธทั้งสองช่างเท่เหลือเกิน...ผมอยากเท่แบบนั้นบ้าง...นั่นเป็นความรู้สึกของผมในวัยเยาว์ และเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างผมกับหมากล้อม

    เมื่อวันเวลาผ่านไป ผมเติบโตขึ้นพร้อมๆ กับภาระหน้าที่ที่เพิ่มมากขึ้นตามวัย ซึ่งก็พร้อมๆ กับความนิยมหนังจีนกำลังภายในเริ่มเสื่อมความนิยมลงทีละน้อย...หรือไม่ก็...อาจเป็นเพราะผมโตขึ้น ความสนใจในหนังจีนกำลังภายในของผมจึงลดน้อยลงเองก็เป็นได้ ผมลืมเลือนภาพเหล่าจอมยุทธในวัยเด็กที่ผมคิดว่าเท่เสียเหลือเกินจนหมดสิ้น...ตั้งแต่ภาพจอมยุทธยกแขนเสื้อข้างหนึ่งขึ้นบังในขณะกำลังร่ำสุรากับเพื่อนที่รู้ใจ เหล้าที่หกรดเสื้อผ้าเป็นทางพร้อมกับการระเบิดเสียงหัวเราะ...ภาพจอมยุทธย่างไก่สีขาวน่ากินบนกองไฟตอนกลางคืน...และ...รวมถึงภาพจอมยุทธนั่งเล่นหมากล้อมในศาลาริมน้ำด้วยเช่นกัน

    แต่แล้ววันเวลาก็ทำให้ผมและหมากล้อมได้กลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง...ในครั้งนี้หาใช่จอมยุทธชาวจีนไม่ที่ทำให้ผมนึกถึงมัน หากแต่เป็นเด็กญี่ปุ่นในการ์ตูนรายสัปดาห์ฉบับหนึ่งต่างหาก...เรื่องราวกล่าวถึงเด็กชายที่มีจิตใจสื่อถึงดวงวิญญาณโบราณที่สิงสถิตย์อยู่ในกระดานหมากล้อม...ความต้องการไปสู่จุดสุดยอดบนเส้นทางหมากล้อมหรือที่มีผู้แปลเป็นคำที่งดงามไว้ว่า “เข้าสู่ขั้น...หัตถ์เทวะ...” ของดวงวิญญาณแรงกล้าจนไม่อาจไปเกิดได้...ในขณะที่ดวงวิญญาณใฝ่หาวิถีแห่งหัตถ์เทวะผ่านการเดินหมากของเด็กชายนั้น ดวงวิญญาณก็เฝ้ามองและค่อยๆ เห็นการเจริญเติบโตบนเส้นทางหมากล้อมซึ่งดูเหมือนจะยาวไกลสำหรับเด็กชาย...

    ...นิ้วมือทั้งห้าเหยียดกางออกจากกัน ปลายนิ้วกลางซ้อนทับอยู่บนปลายนิ้วชี้โดยมีเม็ดหมากถูกคีบอยู่อย่างแผ่วเบาที่ปลายนิ้วทั้งสอง เมื่อวางเม็ดหมากอย่างถูกวิธีลงบนกระดานไม้จะเกิดเสียงหนักหน่วงดังกังวานไพเราะยิ่ง...ภาพการจับเม็ดหมากและการวางหมากลงบนกระดานไม้ถูกบรรจงวาดด้วยลายเส้นที่งดงามสื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง...ถ้าหากมีโอกาส ผมก็อยากจะลองเล่นสักครั้ง...

    ในยุคที่คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ทั้งการงาน การเรียน ยุคที่เกือบทุกครัวเรือนต้องมีคอมพิวเตอร์เฉกเช่นเดียวกับที่ทุกบ้านต้องมีโทรทัศน์...ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องวิ่งตามกระแสเทคโนโลยีที่นับวันจะยิ่งหมุนเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนวิ่งตามแทบไม่ทัน...ทั้งๆ ที่สมัยก่อนผมเป็นคนออกปากกับคนอื่นเองแท้ๆ ว่าผมจะไม่มีวันญาติดีกับคอมพิวเตอร์เด็ดขาด...

    คอมพิวเตอร์รุ่นที่เรียกได้ว่าเกือบจะทันสมัยที่สุดในยุคนั้นถูกนำกลับมาที่บ้านแลกเปลี่ยนกับเงินจำนวนมากโขพอควรที่ต้องยื่นคืนให้กับผู้ขาย และในเมื่อตอนนี้ผมมีคอมพิวเตอร์แล้ว ความคิดนั้นก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง “...ถ้าหากมีโอกาส ผมก็อยากจะลองเล่นสักครั้ง...”

    หลังจากได้ชื่อเวบไซต์ที่มีการเล่นหมากล้อมแล้ว...ไม่มีการรีรอใดๆ ผมรีบล๊อกอินทันที

    ...ลองเล่นดู ไม่เป็นไรหรอก เผื่อฟลุ๊กชนะ...นั่นคือความคิดของผม...

    เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ผมตั้งกระดานซึ่งมีจุดตัดแปดสิบเอ็ดจุดที่เกิดจากเส้นแนวตั้งตัดกับแนวนอนอย่างละเก้าเส้นสำหรบผู้เริ่มหัดเล่นและตั้งหน้าตั้งตาคอยคู่แข่งรายแรก...

    ในไม่ช้าก็ปรากฏชื่อผู้เล่นคนหนึ่งเข้ามาในห้องที่ผมตั้งกระดานรออยู่...คู่แข่งรายแรกเข้ามานั่งแล้ว...คู่แข่งที่มองไม่เห็นหน้าหรือแม้แต่ได้ยินเสียง หมากดำเม็ดแรกถูกวางลงไปในกระดานอิเล็กโทรนิคผ่านเครือข่ายอินเตอเน็ตที่ย่อโลกปัจจุบันให้เล็กลง ตามด้วยหมากขาวและดำสลับกันไป...

    ไม่มีคำว่าฟลุ๊กสำหรับหมากล้อม...กระดานแล้วกระดานเล่าที่ผมแพ้ติดๆ กัน...กระดานที่สอง...กระดานที่ห้า...กระดานที่สิบ...ทำยังไงผมถึงจะชนะได้...

    ผมตั้งกระดานใหม่อีกครั้ง พร้อมด้วยชื่อคู่แข่งคนใหม่ที่เข้ามานั่ง...และ...ในครั้งนี้...รวมถึงความคิดใหม่ที่ไม่หวังพึ่งคำว่าฟลุ๊กอีกต่อไป...ผมเริ่มสังเกตการวางหมากของคู่แข่งของผมทีละตา...ทีละตา...เม็ดแล้วเม็ดเล่าถูกวางโดยผ่านการคิดมาอย่างดี...ในขณะที่ตั้งรับก็พร้อมที่จะรุกหากมีโอกาส...ในขณะที่รุกก็ไม่ลืมที่จะตั้งรับและสร้างรากฐานให้มั่นคง

    ชนะแล้ว...กระดานที่สิบสาม...กระดานที่สิบแปด...กระดานที่ยี่สิบเอ็ด...กระดานที่ยี่สิบสี่...กระดานที่ยี่สิบหก...ผมเริ่มสนุกกับการเล่นหมากล้อมมากขึ้น...มากขึ้น...ในตอนนั้นผมสามารถนั่งเล่นหมากล้อมผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้เป็นวันๆ โดยที่ไม่กินอะไรเลย

    ในทุกวันที่ผมล๊อกอิน...สังคมใหม่ในโลกไซเบอร์ที่ผมไม่เคยได้รู้จักแห่งนี้...ผมจะรู้จักเพื่อนใหม่ในเวบไซต์มากขึ้น...พร้อมๆ กับฝีมือการเดินหมากที่ดีขึ้นตามลำดับ และเมื่อแต้มสะสมสูงขึ้นเนื่องจากชนะบ่อยครั้ง...ความคิดหนึ่งก็เกิดขึ้นในใจผม...

    ...ผมไม่อยากแพ้...

    บางทีหลายๆ คนคงอาจจะเคยคิดแบบเดียวกับผม แต่สำหรับผม ตั้งแต่ผมเริ่มมีความคิดแบบนี้ ความสนุกในการเล่นหมากล้อมของผมก็ดูเหมือนจะค่อยๆ หมดลงไป

    เพราะ...ในความคิดของผม...ขึ้นชื่อว่าเกมเล่นแล้วก็ต้องสนุก ถ้าไม่สนุกแล้วจะเล่นไปทำไม...และ...ความคิดที่ว่าไม่อยากแพ้นั้น ทำให้ผมไม่รู้สึกสนุกอีกต่อไป

    ผมเริ่มหาอ่านบทความเกี่ยวกับหมากล้อมจากเวบไซต์ต่างๆ และสองประโยคที่มักจะปรากฏในหน้าเวบไซต์นั้นๆ กล่าวไว้ว่า...

    “หมากล้อมเป็นเกมที่ชนะคู่ต่อสู้ได้ด้วยการไม่คิดเอาชนะ...เมื่อใดที่คิดแต่จะเอาชนะคู่ต่อสู้เมื่อนั้นคุณก็แพ้แล้ว”

    ...หมากล้อมต่างจากเกมกระดานอื่นๆ...เกมกระดานส่วนใหญ่แล้ว การฆ่าขุนหรือแม่ทัพของคู่ต่อสู้ถือเป็นที่สิ้นสุดของเกม...แต่สำหรับหมากล้อม เพียงสร้างรากฐานให้มั่นคง ขยายพื้นที่ด้วยความสุขุม อ่านและเดินเกมอย่างล้ำลึก ไม่จับกินคู่ต่อสู้อย่างไม่จำเป็น ก็สามารถชนะได้...

    “คุณอาจชนะศึกด้วยการบุกล้อมศัตรูเพื่อจับกินอย่างบ้าคลั่ง...แต่ในท้ายที่สุดคุณจะแพ้สงคราม”

    หากไม่มองความเป็นไปหรือ “กระแสหมาก” ของทั้งกระดาน สายตาจะจับจ้องอยู่ที่ศึกใดศึกหนึ่งบนสมรภูมิที่กว้างใหญ่บนกระดานเท่านั้น และเมื่อโถมกำลังทั้งหมดลงไปที่ศึกนั้น พื้นที่ในสนามรบที่เหลือจะอ่อนแอและพ่ายแพ้ในที่สุด

    เมื่ออ่านจบ...ผมเข้าเวบไซต์หมากล้อมอีกครั้ง และตั้งกระดานมาตรฐานที่มีจุดตัดสามร้อยหกสิบเอ็ดจุดจากเส้นแนวนอนและแนวตั้งตัดกันแนวละสิบเก้าเส้น

    การเดินหมากในครั้งนี้จะต่างจากครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมาก เพราะนอกจากคู่แข่งแล้ว...คราวนี้...ผมยังต้องแข่งกับภายในจิตใจตัวเองอีกด้วย...

    ดวงดาวสีดำและสีขาวถูกสลับสับเปลี่ยนกันแต่งแต้มจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลเม็ดแล้วเม็ดเล่า...กระแสหมากเปลี่ยนแปลงไปมา...การสลับสับเปลี่ยนกันไปมาระหว่างการรุกและรับ...

    ...และเมื่อจบเกม...เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมแพ้...

    หากทว่า...ในการพ่ายแพ้ครั้งนี้ผมกลับได้สิ่งที่มีค่ากลับมาแทน...ความรู้สึกสนุกที่ได้เล่นเช่นเดียวกับกระดานแรกกลับมาอีกครั้งหนึ่ง การข้ามพ้นความหวาดหวั่นในจิตใจ และการยอมรับในคู่แข่งและตนเอง...ผมไม่มีความรู้สึกว่าไม่อยากแพ้อีกต่อไป

    จนถึงวันนี้...อะไรหลายๆ อย่าง ทำให้ผมไม่มีโอกาสได้เข้าไปเล่นหมากล้อมได้อย่างเคย หากมีคนถามผมว่าผมเล่นหมากล้อมเป็นรึเปล่า ผมคงจะตอบได้เพียงว่าผมเล่นได้ และหากถามผมว่าเส้นทางหมากล้อมของผมสิ้นสุดลงแค่นี้ใช่หรือไม่...

    อาจดูเหมือนเช่นนั้น...สำหรับเกมบนกระดานมันอาจจะดูเหมือนสิ้นสุดลงแล้ว...ผมไม่อาจทุ่มเทตัวเองเพื่อให้เก่งขึ้นกว่านี้ได้ หากแต่...สิ่งหนึ่งที่ผมได้รับจากหมากล้อมก็ได้เริ่มอยู่ในใจผมแล้วเช่นกัน...

    ...ไม่มีคำว่าฟลุ๊กสำหรับคนที่ไม่รู้อะไรเลย...

    ...คู่แข่งของเรา แท้จริงแล้วเป็นผู้ที่ช่วยกระตุ้นให้เราได้ใช้พลังความคิดมากขึ้น...

    ...หากไม่ย่อท้อเสียก่อน สักวันเราจะรู้จากการค่อยๆ เรียนรู้ในสิ่งที่ยังไม่เคยรู้ ถึงแม้จะไม่มีหลักประกันว่าเราจะสามารถไปยังจุดสูงสุดได้ แต่อย่างน้อยก็ประกันได้ว่าเรารู้มากกว่าตอนที่ยังไม่รู้แน่นอน...

    ...สิ่งที่น่ากลัวที่สุดหาใช่ศัตรูหรืออุปสรรคไม่ หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในจิตใจเราเอง หากชนะใจตัวเองที่อยู่ใกล้กับตัวเราที่สุดได้ เราก็จะก้าวไปบนเส้นทางที่ไกลออกไปได้อย่างมั่นคง...

    ...การยอมรับความพ่ายแพ้ และขีดจำกัดในขณะนั้นของตนเอง จะช่วยให้เราพัฒนาต่อไปได้อย่างรวดเร็ว...

    ...บางทีเราอาจจะยืนอยู่ใกล้เกินไปจนมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากปัญหา...เมื่อโถมกำลังทั้งหมดไปที่ตัวปัญหาโดยไม่มององค์ประกอบอื่นเลย อาจเกิดสิ่งผิดพลาดที่ยิ่งกว่าเดิม...

    ...หากถอยหลังมาสักหน่อย มุมมองที่กว้างขึ้นจะทำให้เราพิจารณาองค์ประกอบโดยรวมได้อย่างถ้วนถี่ และทางออกที่ดีที่สุดต้องอยู่ในนั้นแน่นอน...

    ป.ล. ว่างๆ มาเล่นหมากล้อมกันนะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่