สำหรับคนที่ชอบอ่านเรื่องสยองขวัญค่ะ
ผิดพลาดตรงไหน ขออภัยมา ณ ที่นี่ ด้วยนะคะ ^^
1.สายตาคู่นั้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณกุ้งครับ คุณกุ้งเล่าว่า.. กุ้งเป็นคนทำงานกลางคืน ต้องกลับห้องดึกๆ เป็นประจำ คืนหนึ่ง กุ้งกลับมาที่ห้องตามปกติ ก็เปลี่ยนชุดเตรียมตัวอาบน้ำ นั่งล้างเครื่องสำอางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ สายตากุ้งเหลือบมองสะท้อนกระจกไปที่ช่องลมบนผนังด้านหลัง ก็เห็นมีสายตาคู่หนึ่ง กำลังแอบมองลอดมาจากห้องเช่าห้องข้างๆ เลยคิดในใจว่าเป็นพวกโรคจิตบ้ากามจะแอบดู แต่ก็ไม่อยากไปยุ่ง เลยทำเป็นไม่เห็น และระมัดระวังตัว ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ..
พอกุ้งอาบน้ำเสร็จ ออกมาเป่าผมที่โต๊ะเครื่องแป้ง ก็ยังคงเห็นสายตานั้นแอบมองลอดมาอยู่ แต่ด้วยความเหนื่อยล้า กุ้งเลยปิดไฟเข้านอนตามปกติ
จนเช้าวันรุ่งขึ้น กุ้งตื่นมาเตรียมตัวออกไปข้างนอก แต่สายตานั้นก็ยังคงมองมาอยู่ ทำให้กุ้งรู้สึกหงุดหงิดใจมาก จนต้องออกไปเคาะประตูห้องข้างๆ แต่เขาก็ไม่ยอมเปิดประตู กุ้งจึงตัดสินใจไปเรียก รปภ. ของตึกมาจัดการ และใช้กุญแจสำรองเปิดห้องนั้นเข้าไป
สิ่งที่พบคือ..
ชายวัยรุ่นผูกคอตายใต้ช่องลม สภาพลิ้นจุกปาก ตัวซีดขาว ..และสายตาของเขานั้นอยู่ตรงกับช่องลมระหว่างห้องพอดี! สายตาที่มองกุ้งเมื่อคืนนั้น คือสายตาของคนตาย!
2.ผีมาเกิด
เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้หญิงชื่อปลา ซึ่งปลาแต่งงานมา 2 ปี และตั้งท้องได้ 5 เดือนแล้ว ปลามีสามีเป็นนักธุรกิจที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ปลากับสามีจึงไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่
ปลาเริ่มรู้สึกว่าพักหลังมานี้ตนเองกลัวการนอนหลับ เพราะทุกครั้งที่นอนหลับจะรู้สึกเหมือนมีคนมาอยู่ในห้องด้วยเสมอ ปลาต้องแอบกินยานอนหลับเป็นประจำทุกครั้งที่เธอต้องนอนคนเดียว
ปลาเล่าให้สามีฟัง สามีปลาได้แต่แนะนำให้ปลาไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ศพไม่มีญาติ ซึ่งปลาก็ทำตาม และก็รู้สึกดีขึ้น..
วันหนึ่งปลาต้องเดินทางไปต่างจังหวัดกับสามีของเธอเป็นเวลา 2 คืน และในงานเลี้ยงที่โรงแรมในคืนแรกนั้น ปลาขอตัวกลับขึ้นห้องมาก่อนเพราะรู้สึกปวดหัว ปลาล้มตัวนอนหลับไปบนเตียง สักพักใหญ่ปลาได้ยินเสียงคนพูดกระซิบเบาๆ ทั้งเสียงผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก เสียงนั้นก้องอยู่รอบตัว และปลาลืมตาขึ้นมา..
สิ่งที่ปลาเห็นคือ เงาดำทะมึนคล้ายร่างคนนับ 10 ยืนล้อมเตียงเธออยู่.. ปลาตกใจมากจนสลบไป..
หลังจากนั้นปลาได้ไปหาหมอด้านไสยศาสตร์ และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง หมอท่านนั้นหัวเราะเบาๆ และบอกกับปลาว่า.. “เพราะว่ากำลังท้องไง.. พวกผีไม่มีญาติเลยตามมา อยากจะมาเกิด..”
3.พริตตี้เจอผี
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจากคุณหมี่เกี๊ยว.. หมี่เกี๊ยวเคยรับงานพริตตี้ และต้องมีออกเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด เพื่อเป็นการประหยัดค่าโรงแรม ออแกไนเซอร์ส่วนมากจะใช้วิธีเดินทางหัวค่ำไปหลับในรถเอา ถึงเช้าอาบน้ำแต่งหน้าแต่งตัวก็เริ่มงานได้เลย ขากลับก็เช่นเดียวกัน เข้าโรงแรมแพ็คของ ขึ้นมาหลับบนรถ ถึงกรุงเทพเช้าพอดี..
ครั้งที่เกิดเรื่อง ตอนนั้นเดินทางกลับจากภูเก็ตด้วยรถตู้ เรานั่งหลังคนขับและแง้มม่านไว้.. เวลาประมาณตี 3 กว่า ทุกคนกำลังหลับสนิท จู่ๆ รถก็หยุดกระทันหัน ทุกคนตกใจตื่นกันหมด แต่คนขับรถออกรถอย่างเร็ว บางคนตะโกนถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แกไม่ยอมตอบ และเหยียบเร็วมาก ประมาณ 150 ได้ หลังจากนั้นทุกคนในรถก็กรี๊ดกันสนั่นแล้วชี้มาทางหน้าต่างข้างที่เราเปิดม่านทิ้งไว้ น้องพริตตี้บางคนกอดกันร้องไห้แบบเสียสติ เราก็หันไปมองนะ แต่ไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ
พี่คนขับรถขับมาจนเกือบสว่าง รีบเลี้ยวเข้าวัดเลย ทุกคนลงไปไหว้พระรดน้ำมนต์กันใหญ่ เราก็ตามลงไปแบบงงๆ ถามใครก็ไม่มีใครตอบ
หลายเดือนต่อมาได้มีโอกาสวนมาทำงานกับน้องพริตตี้ 1 ในทริปภูเก็ตครั้งนั้น เลยถามว่าเห็นอะไรกัน..
น้องเล่าว่า หลังจากที่รถเบรคหัวทิ่มก็เลยสะดุ้งตื่น แต่พอพี่คนขับกระชากออกรถอย่างเร็ว สัญชาตญาณมันทำให้ต้องมองออกไปข้างนอกว่าเกิดอะไรขึ้น.. ที่น้องเห็นคือ ชายแก่สวมเสื้อผ้ามอมแมมสกปรกวิ่งอยู่ข้างรถ วิ่งแบบไม่เหนื่อย และใช้มือข้างหนึ่งทาบกระจกตรงที่เราเปิดม่านไว้.. เราก็บอกน้องไปว่า แค่คนบ้าวิ่งตามรถเฉยๆ มั้ง แต่น้องมันกลับน้ำตาคลอเบ้า และบอกว่า ‘พี่.. รถมันวิ่งเกือบ 160 เลยนะ ลืมไปแล้วหรอ..’
น้องเล่าต่อว่า วัดที่เราแวะไป มีพระท่านหนึ่งบอกว่า ถนนเส้นนั้นมีคนเก็บขยะถูกรถชนตายตอนตี 3 เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนนั้นนี่เอง.. เราได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็ตกใจ และขนนี่ลุกไปหมดทั้งตัวเลย
Credit :
https://www.thehouse.online
เรื่องเล่าสยองก่อนนอน The House online.
ผิดพลาดตรงไหน ขออภัยมา ณ ที่นี่ ด้วยนะคะ ^^
1.สายตาคู่นั้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณกุ้งครับ คุณกุ้งเล่าว่า.. กุ้งเป็นคนทำงานกลางคืน ต้องกลับห้องดึกๆ เป็นประจำ คืนหนึ่ง กุ้งกลับมาที่ห้องตามปกติ ก็เปลี่ยนชุดเตรียมตัวอาบน้ำ นั่งล้างเครื่องสำอางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ สายตากุ้งเหลือบมองสะท้อนกระจกไปที่ช่องลมบนผนังด้านหลัง ก็เห็นมีสายตาคู่หนึ่ง กำลังแอบมองลอดมาจากห้องเช่าห้องข้างๆ เลยคิดในใจว่าเป็นพวกโรคจิตบ้ากามจะแอบดู แต่ก็ไม่อยากไปยุ่ง เลยทำเป็นไม่เห็น และระมัดระวังตัว ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ..
พอกุ้งอาบน้ำเสร็จ ออกมาเป่าผมที่โต๊ะเครื่องแป้ง ก็ยังคงเห็นสายตานั้นแอบมองลอดมาอยู่ แต่ด้วยความเหนื่อยล้า กุ้งเลยปิดไฟเข้านอนตามปกติ
จนเช้าวันรุ่งขึ้น กุ้งตื่นมาเตรียมตัวออกไปข้างนอก แต่สายตานั้นก็ยังคงมองมาอยู่ ทำให้กุ้งรู้สึกหงุดหงิดใจมาก จนต้องออกไปเคาะประตูห้องข้างๆ แต่เขาก็ไม่ยอมเปิดประตู กุ้งจึงตัดสินใจไปเรียก รปภ. ของตึกมาจัดการ และใช้กุญแจสำรองเปิดห้องนั้นเข้าไป
สิ่งที่พบคือ..
ชายวัยรุ่นผูกคอตายใต้ช่องลม สภาพลิ้นจุกปาก ตัวซีดขาว ..และสายตาของเขานั้นอยู่ตรงกับช่องลมระหว่างห้องพอดี! สายตาที่มองกุ้งเมื่อคืนนั้น คือสายตาของคนตาย!
2.ผีมาเกิด
เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้หญิงชื่อปลา ซึ่งปลาแต่งงานมา 2 ปี และตั้งท้องได้ 5 เดือนแล้ว ปลามีสามีเป็นนักธุรกิจที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ปลากับสามีจึงไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่
ปลาเริ่มรู้สึกว่าพักหลังมานี้ตนเองกลัวการนอนหลับ เพราะทุกครั้งที่นอนหลับจะรู้สึกเหมือนมีคนมาอยู่ในห้องด้วยเสมอ ปลาต้องแอบกินยานอนหลับเป็นประจำทุกครั้งที่เธอต้องนอนคนเดียว
ปลาเล่าให้สามีฟัง สามีปลาได้แต่แนะนำให้ปลาไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ศพไม่มีญาติ ซึ่งปลาก็ทำตาม และก็รู้สึกดีขึ้น..
วันหนึ่งปลาต้องเดินทางไปต่างจังหวัดกับสามีของเธอเป็นเวลา 2 คืน และในงานเลี้ยงที่โรงแรมในคืนแรกนั้น ปลาขอตัวกลับขึ้นห้องมาก่อนเพราะรู้สึกปวดหัว ปลาล้มตัวนอนหลับไปบนเตียง สักพักใหญ่ปลาได้ยินเสียงคนพูดกระซิบเบาๆ ทั้งเสียงผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก เสียงนั้นก้องอยู่รอบตัว และปลาลืมตาขึ้นมา..
สิ่งที่ปลาเห็นคือ เงาดำทะมึนคล้ายร่างคนนับ 10 ยืนล้อมเตียงเธออยู่.. ปลาตกใจมากจนสลบไป..
หลังจากนั้นปลาได้ไปหาหมอด้านไสยศาสตร์ และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง หมอท่านนั้นหัวเราะเบาๆ และบอกกับปลาว่า.. “เพราะว่ากำลังท้องไง.. พวกผีไม่มีญาติเลยตามมา อยากจะมาเกิด..”
3.พริตตี้เจอผี
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจากคุณหมี่เกี๊ยว.. หมี่เกี๊ยวเคยรับงานพริตตี้ และต้องมีออกเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด เพื่อเป็นการประหยัดค่าโรงแรม ออแกไนเซอร์ส่วนมากจะใช้วิธีเดินทางหัวค่ำไปหลับในรถเอา ถึงเช้าอาบน้ำแต่งหน้าแต่งตัวก็เริ่มงานได้เลย ขากลับก็เช่นเดียวกัน เข้าโรงแรมแพ็คของ ขึ้นมาหลับบนรถ ถึงกรุงเทพเช้าพอดี..
ครั้งที่เกิดเรื่อง ตอนนั้นเดินทางกลับจากภูเก็ตด้วยรถตู้ เรานั่งหลังคนขับและแง้มม่านไว้.. เวลาประมาณตี 3 กว่า ทุกคนกำลังหลับสนิท จู่ๆ รถก็หยุดกระทันหัน ทุกคนตกใจตื่นกันหมด แต่คนขับรถออกรถอย่างเร็ว บางคนตะโกนถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แกไม่ยอมตอบ และเหยียบเร็วมาก ประมาณ 150 ได้ หลังจากนั้นทุกคนในรถก็กรี๊ดกันสนั่นแล้วชี้มาทางหน้าต่างข้างที่เราเปิดม่านทิ้งไว้ น้องพริตตี้บางคนกอดกันร้องไห้แบบเสียสติ เราก็หันไปมองนะ แต่ไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ
พี่คนขับรถขับมาจนเกือบสว่าง รีบเลี้ยวเข้าวัดเลย ทุกคนลงไปไหว้พระรดน้ำมนต์กันใหญ่ เราก็ตามลงไปแบบงงๆ ถามใครก็ไม่มีใครตอบ
หลายเดือนต่อมาได้มีโอกาสวนมาทำงานกับน้องพริตตี้ 1 ในทริปภูเก็ตครั้งนั้น เลยถามว่าเห็นอะไรกัน..
น้องเล่าว่า หลังจากที่รถเบรคหัวทิ่มก็เลยสะดุ้งตื่น แต่พอพี่คนขับกระชากออกรถอย่างเร็ว สัญชาตญาณมันทำให้ต้องมองออกไปข้างนอกว่าเกิดอะไรขึ้น.. ที่น้องเห็นคือ ชายแก่สวมเสื้อผ้ามอมแมมสกปรกวิ่งอยู่ข้างรถ วิ่งแบบไม่เหนื่อย และใช้มือข้างหนึ่งทาบกระจกตรงที่เราเปิดม่านไว้.. เราก็บอกน้องไปว่า แค่คนบ้าวิ่งตามรถเฉยๆ มั้ง แต่น้องมันกลับน้ำตาคลอเบ้า และบอกว่า ‘พี่.. รถมันวิ่งเกือบ 160 เลยนะ ลืมไปแล้วหรอ..’
น้องเล่าต่อว่า วัดที่เราแวะไป มีพระท่านหนึ่งบอกว่า ถนนเส้นนั้นมีคนเก็บขยะถูกรถชนตายตอนตี 3 เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนนั้นนี่เอง.. เราได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็ตกใจ และขนนี่ลุกไปหมดทั้งตัวเลย
Credit : https://www.thehouse.online