ทุกคนดีลกับการเลิกราได้ไงคะ มีชีวิตหลังจากนั้นได้ยังไง แนะนำเราทีค่ะ

เราตั้งกระทู้นี้เพื่อขอคำแนะนำในการดำรงชีวิตต่อนะคะ  
อยากได้คำแนะนำดีๆ ทางบวกค่ะ ขอบพระคุณที่ตอบถนอมน้ำใจเรา

สองปีก่อนเรารู้จักแฟนคนนี้ ซึ่งเป็นคนเกาหลี ตอนนั้นเราก็คิดว่าเค้าคงไม่จริงจังอะไรกับเราหรอก เราก็คุยขำๆไป แต่เวลาผ่านไปเราเห็นความเสมอต้นเสมอปลาย บวกกับตอนนั้นเพิ่งเลิกกับแฟนคนไทยแบบเฮิร์ตมากๆ ก็เลยตัดสินใจเปิดใจคบกับเค้าดู
เค้าจุดเทียนขอเราเป็นแฟนบนดาดฟ้าคอนโดเค้า เหมือนภาพในฝันของเรา
ตอนนั้นเพลง สิ่งของของวง klear ดังขึ้นในหัวตรงท่อนที่ว่า

"คนอย่างฉัน ถูกโยนทิ้งขว้าง กลับมีเธอรับเอามาใส่ใจดูแล ''
คือคิดว่าเค้าคือคนที่มาเติมเต็มเราได้ ตามใจเราทุกอย่าง ดูแลอย่างดี

แต่เราก็ยังเผื่อใจไปเรื่อย ๆ พอเรากลับไทยก็คบกันไประยะนึงดีมากค่ะ โทรหาเราทุกวัน วันละหลายๆครั้ง ถ้าเรายุ่งๆทำงานรับเคส เราก้ไม่ได้รับสายก้ทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ดีกันตลอด เราเป็นฝ่ายบินไปหาเค้าเองเพราะเค้ายังต้องสอบทำงานไปเรื่อย ๆ ยังหางานเป็นหลักแหล่งไม่ได้ เราก็ยังหาเงินได้มากกว่าก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร  จนปีใหม่ปีที่แล้วเราทำพาสปอร์ตหายระหว่างไปหาเค้า เค้าก็พาไปหาตำรวจ ไปดูกล้องวงจรปิด พาไปสถานฑูตไทย จนได้ทำพาสปอร์ตชั่วคราวทั้งๆที่เค้าปิดทำการไปแล้ว วันนั้นเราเห็นเค้าทุ่มเท ดูแลเราก็เลยคุยกับเค้าว่าเราไม่อยากบินไปๆมาๆแล้ว เราร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดเวลาต้องกลับไทยทุกครั้ง เราอยากอยู่กับเค้านะ ให้เราหางานทำที่เกาหลีมั้ย

เค้าเลยตัดสินใจเอาเราไปแนะนำกับที่บ้าน แต่ก็พบกับฟีดแบคที่ไม่ค่อยดี เพราะที่บ้านเค้าชาตินิยมมาก อยากให้แฟนเราคบกับคนเกาหลีด้วยกันดีกว่า เนื่องจากคนไทยสร้างเรื่องไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ภาพลักษณ์ในสายตาเค้ามองคนไทยแย่มากค่ะ ซึ่งเราก้อธิบายไปว่าเราไม่ได้เป็นนั้นเลย เราเป็นคนทำอาชีพสุจริตมีเกียรติ จบมหาลัยระดับประเทศ ไม่ได้มีเรื่องเสื่อมเสียใดๆมาก่อนนะ ทำงานหนักทุกวันไม่หยุดเป็นเวลาหกเดือน เพื่อเก็บเงินมาเปิดคลินิกของตัวเอง จะได้มีเวลาบินมาหาแฟนบ่อยๆ มีโอกาสได้เก็บเงินมากกว่าการเป็นลูกจ้างประจำ  แต่แม่แฟนก็ยังไม่ยอมรับอยู่ดี จุดนี้ทำให้เค้าเริ่มห่างจากเรา เริ่มไม่รับสายเรา ไม่โทรหาเรา ไม่ตอบข้อความเรา จนเราต้องบินไปหาว่ามีอะไรรึเปล่า แฟนก็อ้างว่าแชทเสียบ้าง ทำงานบ้าง คือเพื่อนๆเราก็เริ่มรู้ว่าเราระหองระแหงกับแฟนด้วยปัญหาเหล่านี้ เค้าก้ไม่สนับสนุนให้คบต่อ

เราก็เข้าใจนะว่าแฟนเราอาจจะไม่รักเราแล้ว แต่พอเราจะหักดิบไม่ไปต่อ เราก็ร้องไห้หนักมากค่ะ จนต้องไปหาจิตแพทย์
หมอก็บอกเราเป็นซึมเศร้า กินยา แล้วแต่ก็ยังไม่ดี จิตใจเรายังคงคิดถึงแฟน จนกระทั่งคริสต์มาสที่ผ่านมา เราไปหาเค้าพร้อมเพื่อนๆเรา ไปตั้งแคมป์กัน พอส่งเพื่อนๆกลับไทยเหลือเรากะแฟน แฟนเราก็บอกเราว่าให้เรารีบกลับไทยไปเถอะ เรียกเราว่าฮุคเกอร์หรือตัวเกาะแฟนไม่ปล่อย คือเราดีใจและมีความสุขมากที่อยู่กับแฟน เลยเกาะไม่ปล่อยเลย แต่แฟนก็ว่าเรา เราอยากกินเค้กในรีวิว ก็พาเราไป แต่พอพบว่าร้านมันเจ๊งไปแล้ว เค้าก็อารมณ์เสียใส่เรา ทิ้งเราไว้ที่อิแทวอน แล้วเดินหนีไม่รอเราเลย ทั้งๆที่เราข้อเท้าเจ็บ พอเราเดินตามมาทัน ก็เห็นเค้าขึ้นแท็กซี่ต่อหน้าเรา เราก็เลยไปสั่งเค้กร้านบิลลี่แองเจิ้ล แล้วนั่งคิดว่าจะกลับยังไงดี ตอนกำลังนั่งเศร้า แฟนเราก็กลับมาหาเราที่ร้าน และบ่นๆๆเรา พาเราขึ้นแท็กซี่กลับบ้านแล้วก็บอกให้กลับไปๆๆ เราก็เลยอารมณ์ประชดค่ะจองตั๋วกลับไทยจริงๆ

พอกลับมาแล้วแล้วก้ติดต่อเค้ายากขึ้นเรื่อยๆๆ จนเราไม่ท้อบางวันเราโทรเป็นร้อยสาย เพื่อนก็หาว่าโง่ ว่าบ้าบ้าง แต่คือใจเราอ่ะคิดว่าโทรครั้งนี้ไม่ได้รับ อาจจะไม่ว่าง รอบต่อไปเค้าคงเห็นสายเข้า เค้าคงโทรหาเราบ้าง หรือรับสายเราแหละ เราคิดแบบนี้จริงๆนะ  จนกระทั่งอาทิตย์ที่แล้วแม่แฟนก็โทรมาหาเราบอกว่าให้เราแต่งงานกับคนไทยไปเถอะ เค้าอยากให้ลูกเค้าแต่งงานกับคนเกาหลี แล้วแฟนเราก็คงตามใจแม่ ก็บล็อคเราทุกช่องทาง ตอนนี้เราเคว้งมาก เรานอนไม่หลับต้องเทคยานอนหลับ

พยายามปล่อยวาง แต่เวลาดีๆมันมีด้วยกันมากเหลือเกินค่ะ มันกัดกินจิตวิญญาณเราอยู่ ตอนนี้เราถูกทิ้งแล้ว เราไปไม่ถูกเลย
ตื่นเช้ามา ไปทำงาน แล้วก็อยากนอนนิ่งๆไม่อยากทำอะไรเลยค่ะ ไม่รู้จะมีชีวิต จะเปิดร้านไปทำไม ในเมื่อไม่มีจุดหมายอีกแล้ว suffer มาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่