[ SKY Castle ] อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ( ending )

บทจบ


เรื่องราวของหลากหลายชีวิตในหมู่บ้าน SKY Castle ดำเนินมาถึงตอนจบแล้ว
กว่าแม่เยซอจะสำเหนียกได้ถึงหายนะที่มาถึงตัวลูก เมื่อเยซอใกล้จะเสียสติเต็มที

หนึ่งชีวิตที่ดับสูญไป  
อีกหนึ่งชีวิตที่เกือบต้องพังพินาศสูญสิ้นอิสรภาพพร้อมตราบาปในฐานะฆาตกร
ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกป้ายความผิดให้ อย่างมีการตั้งใจวางแผนเตรียมการมาก่อนแล้ว
โดยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย  ชีวิตเด็กบริสุทธิ์สองคนที่ต้องสังเวยให้กับ
ความเห็นแก่ตัว ความโลภ ความอำมหิตเลือดเย็น ของผู้ใหญ่เลว ๆ สองคน
ที่ exactly the same เหมือนกันราวกับเป็นคนคนเดียวกัน




การที่แม่เยซอมาพบกับโค้ชคิมในคุก
เพื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้เรื่องเลวร้ายบานปลายมาถึงจุดนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่า
แม่เยซอไม่ได้สำนึกในความผิดของตัวเองเลยสักนิด และยังคงโยนความรับผิดชอบ
ทั้งหมดให้กับโค้ชคิม  ทั้งๆ ที่จุดเริ่มต้นที่แท้จริงมันมาจากตัวเธอที่พาชีวิตของลูก
ไปวางอยู่ในมือของคนที่อันตรายที่สุดอย่างโค้ชคิม หลายครั้งที่เธอมีโอกาส
ที่จะพาลูกและตัวเองออกมาจากจุดนั้น แต่ความเห็นแก่ตัวที่มากจนบดบังทุกอย่าง
ไม่ว่าจะความปลอดภัยของลูก ทั้งความรู้ผิดชอบชั่วดีของเธอเอง
ทำให้เธอเดินมาถึงจุดที่เกือบจะกลับตัวไม่ได้แล้ว

ถ้าไม่เป็นเพราะเยซอที่มีใจให้อูจู  คนที่ถูกแม่และโค้ชคิมร่วมมือกันโยนบาปให้
จนเยซอแบกรับความรู้สึกผิดไว้แทบไม่ไหว  ใกล้จะเป็นบ้าเสียสติไป  
ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้ อูจูผู้บริสทุธิ์คงเน่าตายไปในคุกสักวัน

ทุกประโยคที่โค้ชคิมพูดออกมา คือความจริงที่เหมือนมือแข็ง ๆ บีบเข้าไปที่คอ
ของแม่เยซอจนหายใจแทบไม่ออก  ไม่ว่าเธอจะปฏิเสธมันอย่างไรก็ตาม
ความเกลียดชัง ความแล้งไร้เมตตา ความดูถูกเหยียดหยาม ความซ้ำเติม
ที่เธอแสดงออกต่อฮเยนาและแม่ของฮเยนา ทุกอย่างที่เธอบ่มเพาะในใจเด็ก

ความเลือดเย็นอำมหิตของเธอที่เห็นได้แจ่มแจ้งที่สุด ก็คือตอนที่เธอยืนนิ่งมองดู
สามีเร่งให้เจ้าหน้าที่รพ.เข็นเตียงที่มีฮเยนานอนหายใจรวยรินออกจากห้องฉุกเฉิน
ไปโดยไม่ยอมบอกความจริงเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ความเป็นพ่อ-ลูกของทั้งคู่ให้เขาได้รู้
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็รู้ว่าการทำแบบนั้น มันคือการปล่อยให้เด็กตาย เด็กอย่างอูจูก็ยังรู้
การนิ่งเฉยของเธอ ก็ไม่ต่างอะไรกับการปล่อยให้ฮเยนาตายไปต่อหน้าต่อตา
ทั้งๆ ที่เธอสามารถช่วยชีวิตฮเยนาไว้ได้ แต่เธอไม่ทำ

แน่นอนว่าเธอต้องรับผิดชอบในการตายของฮเยนา ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน
เธอย่อมไม่มีวันหนีความจริงที่ว่าไปได้ตราบชั่วชีวิตของเธออยู่ดี






อูจู หนุ่มน้อยผู้บริสุทธิ์ หลังจากความจริงปรากฏ ได้รับการปล่อยตัวออกมา
ทำให้เขาได้คิดทบทวนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในมุมมองใหม่  ที่ต่างไปจากเดิม
โชคดีของอูจู ที่มีพ่อและแม่ที่เข้าใจ และยอมรับในการตัดสินใจของเขา






ในขณะที่บ้านเจ้าเด็กแฝด
อัปป้าที่ยึดมั่นถือมั่นในอุดมการณ์ขอตัวเองอย่างเหนี่ยวแน่น จนลูกเมียหนีหาย
ยังไม่ยอมลดทิฐิมานะ เมาหัวราน้ำ แต่ลึกๆ โหยหาลูกเมียและความเป็นครอบครัว




สารภาพว่า เป็นซีนเดียวในตอนจบของ SKY Castle ที่ทำให้ฉันน้ำตาไหลได้ค่ะ
ทุกประโยคที่แม่เจ้าแฝดบรรจงร้อยเรียงจากความรู้สึกที่มีต่อพ่อเจ้าแฝด
ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ประโลมใจ แต่ก็หนักแน่นอยู่ในที
มันเต็มไปด้วย ความรัก ความหวัง ความอดทน ที่จะชี้ให้สามีพบสัจธรรมให้ได้

เมื่อเธอพูดว่า เธอเศร้าและเจ็บปวดใจแค่ไหน ถึงขนาดไม่อาจข่มตาหลับลงได้
เมื่อลูกบอกว่า พวกเขามีความสุขดี และไม่ต้องการจะอยู่กับพ่อ

น้ำตาฉันไหลทะลักออกสองตาแบบพลั่ก ๆ ๆ ๆ แข่งกับพ่อแม่เจ้าแฝดในจอ
มันช่างเป็นประโยคที่เจ็บปวดหัวใจจริง ๆ สำหรับคนเป็นพ่อแม่ที่ได้ยินอะไรแบบนั้น

สิ่งที่ฉันคิดคือ ในความเป็นแม่ อะไรมันจะมาเศร้าได้เท่ากับลูกไม่รักพ่อ
ไม่นับถือพ่ออีกต่อไป ถ้าฉันเป็นแม่เจ้าแฝด ฉันคงเจ็บปวดหัวใจไม่แพ้พ่อเจ้าแฝด
และการที่แม่เจ้าแฝดห่วงใยกังวลในจุดนี้ มันแสดงถึงความรักที่เธอมีต่อผู้ชายคนนี้
ทั้งในฐานะสามีและในฐานะพ่อของลูก มันคือความมั่นคงของคำว่า ครอบครัว
และนี่ล่ะคือที่มาของคำว่า ศรีภรรยา

ลุกขึ้นยืนปรบมือรัวๆ ให้กับการแสดงของ อาเจ้อาเฮีย
โดยเฉพาะอาเจ้ แม่เจ้าแฝดในซีนนี้เลยค่ะ





แล้วก็มาถึงวันแห่งการอำลา
ศจ.คัง หลังจากค้นพบความจริงอันแสนปวดร้าว และความผิดพลาดที่สุดสะเทือนใจ
พร้อมกับความสำนึกในความว่างเปล่าของชีวิตที่ผ่านมาทั้งชีวิต การเลือกที่จะจากไป
เพื่อเริ่มต้นใหม่อย่างไม่ผิดพลาดซ้ำเดิม น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาและลูกเมีย





อูจูเลือกเส้นทางเดินชีวิตของเขา ด้วยการลาออกจากโรงเรียน
วันที่อูจูไปลาออก และเก็บข้าวของส่วนตัวที่ล็อคเกอร์ของเขา
ภาพฉายให้เห็นหนังสือในมือที่อูจูกำลังอ่านอยู่ในเวลานั้น  
หนังสือชื่อ Endurance: Shackleton's Incredible Voyage
เขียนโดย Alfred Lansing ในปี 1959

หนังสือที่เขาไม่ได้ใส่เข้ามาให้เราเห็นแบบมั่ว ๆ แต่มาด้วยความตั้งใจ
ในนัยยะแฝงที่อยากจะถ่ายทอดสู่ผู้ชมคนดู

Endurance ที่มีความหมายว่า ความอดทน, ทานทน, ยืนยง
ทานทน : การเดินทางสุดอัศจรรย์ของแชคเคิลตัน

หนังสือที่เล่าเรื่องการเดินทางเพื่อสำรวจโลกใหม่ของคณะสำรวจชาวอังกฤษ
ในการเดินทางบนแผ่นดินน้ำแข็งระยะทาง 2,300 กิโลเมตร ข้ามขั้วโลกใต้
ในปี 1914 ที่ไม่ได้เพียงแค่อาศัยความกล้า บ้าบิ่น แต่เพียงเท่านั้น
แต่อาจหมายรวมถึง ความมุ่งมั่น ความเชื่อมั่น ศรัทธา และพลังใจมหาศาล
และแน่นอน ความทานทน ต่อ อุปสรรคทั้งปวง ที่จะฝ่าฝันไปให้สำเร็จให้จงได้

หนังสือเล่มนี้ คือสิ่งที่เขาอยากจะบอกเล่าถึงอูจูในเวลานี้

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือที่นี่ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้





ต่อเนื่องไปกับการลาออกของอูจู ที่กำลังบอกอะไรเป็นนัยให้กับคนดู
คือซีนนี้ ที่เจ้าคู่แฝด โดยการนำของแฝดน้อง กีจุนจอมเฮี้ยว
การขยำsheet แล้วเหวี่ยงทิ้งขึ้นไปในอากาศ เปรียบเสมือนการขัดขืนต่อขนบของสังคม
สิ่งที่เชื่อถือสืบเนื่องกันมายาวนานในสังคมจนเป็นเหมือนกฏเกณฑ์ที่สังคมยอมรับ
กับความเชื่อที่ว่า การไม่สามารถเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในสามอันดับต้นได้
จะไม่ได้รับการยอมรับนับถือจากสังคม คุณจะไม่ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงมนุษย์คนหนึ่ง
ในซีนนี้ หากตั้งใจฟังดี ๆ เราจะได้ยินคุณครูและเด็ก ๆ เอ่ยคำว่า SKY
top three ของ มหาวิทยาลัยในฝันของเด็กมัธยมเกาหลีก็คือ
S - Seoul National University
K - Korea University
Y - Yonsei University


แน่นอนไม่ใช่เด็กมัธยมทุกคนจะเห็นด้วยกับกฏเกณฑ์นี้ที่ถูกสังคมกะเกณฑ์
ในทุกโรงเรียนไม่ว่าจะในประเทศไหน เราจึงมีเด็กอย่างอูจู กีจุน ซอจุน
และเพื่อนๆ อีกมากมายของพวกเขา  ซีนนี้จะว่าไปแล้ว ถือว่าเป็นซีนกึ่ง remake
ของซีนอมตะสุดคลาสสิคจากหนังเรื่อง Dead Poets Society (1989)
หนังที่เล่าเรื่องครูกับนักเรียนอย่างมีพลังที่สุด และทรงคุณค่าที่สุดเรื่องหนึ่ง
ในโลกภาพยนตร์ ใครไม่เคยดู โตไม่ทันดู ขอแนะนำให้ไปหามาดูให้จงได้ค่ะ

ใส่คลิปคัทซีนจาก Dead Poets Society ให้ดูในสปอยล์นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้





บ้านไหนจะแฮ้ปปี้เท่าบ้านนี้เป็นไม่มีอีกแล้ว
บ้านที่พ่อเอามุมยอดของพีระมิดมาทุบลูกวอลนัทให้ลูกเมียกิน ๕๕๕
แค่คนในบ้านมีความสุข ลูกจะเรียนไม่เก่งก็ช่างหัวมันเถอะ
ลูกกินอิ่ม นอนหลับ ขี้ได้ ไม่เกเร อยากไปเรียนพิเศษวันไหนก็ค่อยไป
และอย่างน้อยมันก็มีสกิล เล่นเกมเก่ง อนาคตอาจเป็นคนเขียนเกมขายเกมได้
ดังไปทั่วโลกก็ได้นะ . . คิดได้ดังนี้ พ่อแม่ก็สบายใจแล้ว





แม่อูจู เขียนหนังสือสำเร็จในที่สุด
ไม่มากก็น้อย จุดเริ่มต้นของหนังสือเล่มนี้ ได้เปลี่ยนแปลง ช่วยชีวิตเด็ก ๆ ไว้
ไม่ว่าจะเป็นยองแจ  เยซอ อูจู เยบิน ซูฮัน และแน่นอน เด็ก ๆ อีก 1,998 คน
จากยอดพิมพ์ 2,000 เล่ม ที่พ่อแม่ของพวกเขาได้อ่านหนังสือเล่มนี้
ลาก่อน สกาย คาสเซิล ( Goodbye SKY Castle )





อูจู ออกเดินทางเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
แง่มุมชีวิตอื่น ๆ  เพื่อค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเขา
ถ้าไม่รู้จักตัวเอง จะรู้ได้อย่างไรว่าชีวิตควรจะมุ่งไปทางไหน
เกรดดีหรือมหาวิทยาลัยระดับท็อป ย่อมไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตที่มีค่าของคนคนหนึ่ง







คิมฮเยนา ได้เป็น คังฮเยนา ในที่สุด อย่างที่มันควรจะเป็น
ไม่ว่าจะสายเกินไป หรือ สายไปเสียแล้ว  
ในฐานะคนดู ฉันรู้สึกผิดหวังกับบทอยู่มากพอดู ที่เฆี่ยนตีตัวละครแม่เยซอไม่สาสม
กับสิ่งที่นางก่อไว้ทั้งหมดทั้งสิ้น อุตส่าห์หยิบเรื่องร้อนในสังคมมาตีแผ่ขนาดนี้
แต่กลับแตะแค่ผิวๆ ไม่บดขยี้ให้ถึงที่สุด ผลสะท้อนไปถึงคนดูแทบไม่สั่นสะเทือนอะไร
กลายเป็นละครแบบอุดมคติที่พบเห็นได้ทั่วไปจากเรื่องอื่น ๆ น่าเสียดายจริง ๆ ค่ะ
ฉันจะคิดเสียว่า เป็นของขวัญให้กับเยบิน แม่ดอกบัวผุด ของป้า ก็แล้วกัลล์  ๕๕๕







ท้ายสุด ในสังคมที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง
เราจะยังได้พบเจอกับ พ่อเยซอ แม่เยซอ พ่อยองแจ แม่ยองแจ พ่อแฝด
เราจะยังได้พบเจอกับความหวังอย่าง พ่ออูจู แม่อูจู และ แม่แฝด
และแน่นอนที่สุด คนอย่างโค้ชคิม อีกมากมายในโลกข้างนอกนั่น






Live and Learn
อยู่ที่เรียนรู้  อยู่ที่ยอมรับมัน อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด




ขอบคุณทีมงานและนักแสดงทุกคนที่ทำงานดี ๆ ออกมาให้ชม
และหวังว่า คนดูจะได้เก็บเกี่ยวข้อคิดดี ๆ จากซีรีส์ดี ๆ เรื่องนี้ไปไม่มากก็น้อย


รีวิว ซีรีส์ SKY Castle >>  https://pantip.com/topic/38453811



ซีรีส์ สะกดด้วย ส เสือ การันต์ (ส์) นะคะ
ช่วยกันเผยแพร่ให้ถูกต้องค่ะ  ดอกไม้



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่