เราอายุ 39 ปี ทำงานหลายอย่างมากค่ะ อันได้แก่
1. เปิด บจก. ถือหุ้น 80% ทำงานเกี่ยวกับการจ้างเหมา อีเว้นท์ ต่างๆค่ะ อันนี้ทำได้ 1 ปี 9 เดือนค่ะ บจก. รับงานทั่วไป ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนค่ะ เงินเข้าจากภาครัฐ 6 เดือนล่าสุด ประมาน 800,000 ค่ะ (มีหัก ณ ที่จ่ายครบ)
2. งานฟรีแลนซ์ อันนี้เป็นส่วนบุคคลค่ะ งานเกี่ยวกับการออกแบบทั้งหลายแหล่เลยค่ะ ซับงานจาก บจก.อื่น ออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีงานมาต่อเนื่องค่ะ เพราะใช้งานกันอยู่เป็นประจำ และรับงานออกแบบให้สถานบริการ ร้านอาหาร โดยเหมาจ่ายเป็นเดือน(ไม่มีสลิปนะคะตัวนี้) ตัวนี้ทำมาสิบกว่าปีแล้วค่ะ
ในระยะ 6 เดือน ภาครัฐจ้าง 465,000 (มีหัก ณ ที่จ่ายครบ) ภาคเอกชนจ้าง 1.2 ล้าน และมีสัญญาจ้าง ที่ยังไม่จบสัญญา เลยยังไม่ได้รับเงินอีก 1.3 ล้าน
ในส่วนบุคคลธรรมดา เราจ่ายภาษีทุกทีค่ะ ปีนี้ก็ยื่นกลางปีไปแล้ว และสิ้นปีก็ส่งเรื่องยื่นแล้วค่ะ มีหลักฐานในการจ่ายภาษีครบค่ะ
3. งานขายสินค้า มีทั้งขายผ่านเน็ต และขายที่หน้าบ้านคุณแม่ค่ะ ตรงๆคือ ฝากคุณแม่ขายค่ะ ตัวนี้ไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ค่ะ เพราะขายโดยตลาดธรรมชาติ เป็นสินค้าที่ใช้เองมานานแล้ว ชอบเองบ้าง เอามาขายให้กลุ่มเพื่อนๆแม่ จนขยายวงกว้าง ทำมานานมากแล้วค่ะ ประมาน 4 ปี ตัวนี้มีแต่ยอดเงินเข้าค่ะ เพราะฝากแม่ขาย ฝากพี่ชาย พี่สาวขาย (มีเปอร์เซนต์การขายแบ่งให้พี่กับแม่ค่ะ) มีแต่สเตทเม้น แต่ไม่มีทะเบียนพาณิชย์ค่ะ มีโกดังสินค้าอยู่ที่บ้านคุณแม่และบ้านพี่สาวค่ะ ส่วนนี้พลาดมากที่ไม่ได้ทำบัญญชีค่ะ มีแต่ว่า แม่ขายได้ พี่ขายได้เท่าไหร่ ก็หักเปอร์เซนต์ให้เลย เหมือนทำไปเล่นๆค่ะ เลยไม่มีบัญชีกำกับ เพราะเรามีร้านอาหารที่ สปป.ลาว บินไปลาวเดือนละครั้ง ก็ซื้อผ้าลาวติดมือกลับมาขาย เหมือนเป็นการลงทุนเองขายเอง ก็เลยขายขำๆไป แต่มาดูยอดต่อเดือน ก็ได้แต่ละเดือนเกือบสองแสนอยู่ค่ะ(ยอดขายนะคะไม่ใช่กำไร)
4. ร้านขายอาหารค่ะ อันนี้เปิดที่ สปป.ลาวค่ะ หุ้นกับคนลาว เปิดได้ 3 ปี 5 เดือนค่ะ เป็นร้านอาหาร มีทั้งขายส่งอาหารแช่แข็ง และมีร้านอาหารนั่งทานได้ค่ะ
รายรับตัวนี้ ก็เข้าทางการโอนเข้าบัญชีเช่นกันค่ะ มีสัญญาที่จัดทำที่ สปป.ลาว เรียบร้อยค่ะ มีสัญญาเช่าตึกเป็นชื่อเราเรียบร้อยค่ะ อันนี้ยอดขายก็จะได้ประมาน เดือนละ 2-3 แสนค่ะ (ยอดขายนะคะไม่ใช่กำไร)
ภาระหนี้ที่เรามี
บัตรเครดิต ใช้แค่ scb ค่ะ มี 3 ใบ ใช้วงเงินเดียวกัน วงเงิน 75,000 ปกติจ่ายหมดค่ะ มียอดค้าง จ่ายไม่เต็มบ้าง เดือนสองเดือน
สินเชื่อส่วนบุคคล เดือนละ 18,900
บัตรกดเงินสดวงเงิน 160,000 ชำระเดือนละ 8500
รถยนต์ 1 คัน เดือนละ 11,200
ภาระหนี้ค่อนข้างเยอะค่ะ แต่เพราะเป็นคนชอบขยายวิธีการหาเงินเนี่ยแหล่ะค่ะ มนุษย์แม่ต้องสร้างเพื่อลูก
สเตทเม้นท์ 6 เดือน ที่ส่งไปค่ะ ของ บจก. 1.2 ล้าน / ส่วนตัว 4.1 ล้าน / สเตทเม้นท์อีกบัญชี 2.3 ล้าน
ทีนี้มาถึงเรื่องกู้บ้านค่ะ เรากู้บ้านราคา 3.9 ล้าน ส่งเรื่องยื่นกู้แบงค์ 2 แบงค์ค่ะ อันได้แค่ กสิกร และ scb เพราะคิดแล้วว่า น่าจะเหมาะกับอาชีพมากสุด
1. กสิกรให้ไม่ผ่านค่ะ เหตผลจาก อายุกิจการไม่ถึงสองปี และภาระหนี้เยอะเกินไปค่ะ
ตรงนี้เจ้าหน้าที่แบงค์แจ้งว่า เราสามารถยื่นแก้ไขได้อีกครั้ง
- อายุกิจการไม่ถึงสองปี เราแก้ไขโดย ยื่นเอกสารไปว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เรามี หจก.ค่ะ แต่ถือหุ้นน้อยก็เลยมาเปิด บจก.เอง
ยืนยันว่าทำงานมา เกิน 2 ปีแล้วค่ะ เพราะ หจก.และ บจก.เป็นงานลักษณะเดียวกันค่ะ
- ความสามารถในการชำระหนี้ เราแก้ไขโดย เปลี่ยนโครงการบ้านค่ะ จากหลังละ 3.9 ล้าน มาเป็นหลังละ 2.3 ล้านค่ะ และยื่นกู้ร่วมกับสามีซึ่งเป็นข้าราชการ อายุงาน 16 ปี เงินเดือน 25,120 ภาระหนี้ 8,500 ค่ะ
2. ธนาคาร scb อันนี้ความหวังหมู่บ้านมากๆค่ะ เนื่องจากใครๆก็บอกว่า scb ปล่อยกู้บ้านให้คนทำธุรกิจได้ง่ายกว่า ธ อื่นๆ แต่ผลคือ ไม่ผ่านค่ะ!! เจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า "ยังไม่ผ่านเกณฑ์ธนาคาร" อันนี้ก็มืดแปดด้านเลยค่ะ เกณฑ์อันไหนเราก็ไม่ทราบได้เลย
แต่ก็ได้บอกเจ้าหน้าที่ไปว่า ขอยื่นใหม่อีกครั้งได้มั๊ยคะ จะยื่นกู้ร่วมกับสามี(ข้าราชการ อายุงาน 16 ปี เงินเดือน 25,120 ภาระหนี้ 8,500 ค่ะ) และจะเปลี่ยนโครงการให้ถูกลงมาเหลือ 2.3 ล้านแทนหลังเดิมราคา 3.9 ล้าน
สิ่งที่จะถามนะคะ
1. มีแนวโน้มที่เราจะได้บ้านบ้างมั๊ยคะ ถ้าถามว่าได้มาแล้วผ่อนไหวมั๊ย ภาระหนี้เยอะ เราบอกเลยค่ะว่าไหวแน่นอน เพราะบ้านราคาไม่ได้สูงมาก และถ้าถามว่า จำเป็นมั๊ยที่ต้องมีบ้าน จำเป็นมากค่ะ เพราะตอนนี้อยู่จังหวัด ก. และอีก 1 ปี ต้องย้ายเรากับลูก 2 คน ไปจังหวัด ข. เพราะจะย้ายเข้าโรงเรียนมัธยมที่ลูกตั้งใจไว้ค่ะ ระยะทางสองจังหวัด ห่างกัน 92 กม.เลย ไปกลับคงไม่ไหว เลยอยากจะซื้อบ้านไว้ค่ะ เพราะคงต้องอยู่ไปตลอดจนกว่าลูกจะจบมหาลัยเลย และคาดว่าจะอยู่ไปตลอดเลยค่ะ
2. โครงการใหม่ เรายื่นไป 4 แบงค์ค่ะ กรุงไทย ไทยพาณิชย์ กสิกร TMB (ยื่นกู้ร่วมกับสามีทุกธนาคารค่ะ)
3. จากงานที่เราทำเยอะๆ ใครพอมีความรู้มั๊ยคะ ว่าเราควรจะยื่นไปแนวไหนดี เราเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ scb เค้าก็แนะนำเราให้ยื่นรายได้หลักเป็น บจก. แต่สำหรับเรา รายได้ที่เราได้จริงมากที่สุดมันเป็นจาก ส่วนตัวมากกว่าค่ะ แต่ก็ไม่ได้แย้งเจ้าหน้าที่ไปนะคะ เพราะเค้าน่าจะรู้หลักมากกว่าเรา แต่เราคำนวนเองแบบตามความเข้าใจที่ศึกษาในเน็ตบ้าง pantip บ้าง ทำไมเราถึงรู้สึกว่า ถ้ายื่น บจก. เราจะต้องตกสกอล์ความสามารถในการชำระหนี้แน่ๆเลย
3. ถ้าสมมติว่าเราไม่น่าจะกู้ผ่าน จริงๆ พอมีคำแนะนำมั๊ยคะ ว่าเราจะกู้ได้อีกครั้งเมื่อไหร่? และเราควรจะแก้ไขยังไงเพิ่มเติมสำหรับการกู้ใหม่คะ
เราคงยังพอมีเวลาอีก 1 ปีค่ะ ก่อนลูกจะต้องย้าย รร. (ไม่อยากไปอยู่บ้านญาติค่ะ มันไม่โอเคเลยสำหรับชีวิต) T T
รบกวนแนะนำด้วยนะคะ เรายินดีรับฟังทุกคำแนะนำเลยค่ะ
มนุษย์แม่สู้เพื่อลูกวนไปค่ะ
ขอคำแนะนำเรื่องกู้บ้านหน่อยค่ะ
1. เปิด บจก. ถือหุ้น 80% ทำงานเกี่ยวกับการจ้างเหมา อีเว้นท์ ต่างๆค่ะ อันนี้ทำได้ 1 ปี 9 เดือนค่ะ บจก. รับงานทั่วไป ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนค่ะ เงินเข้าจากภาครัฐ 6 เดือนล่าสุด ประมาน 800,000 ค่ะ (มีหัก ณ ที่จ่ายครบ)
2. งานฟรีแลนซ์ อันนี้เป็นส่วนบุคคลค่ะ งานเกี่ยวกับการออกแบบทั้งหลายแหล่เลยค่ะ ซับงานจาก บจก.อื่น ออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีงานมาต่อเนื่องค่ะ เพราะใช้งานกันอยู่เป็นประจำ และรับงานออกแบบให้สถานบริการ ร้านอาหาร โดยเหมาจ่ายเป็นเดือน(ไม่มีสลิปนะคะตัวนี้) ตัวนี้ทำมาสิบกว่าปีแล้วค่ะ
ในระยะ 6 เดือน ภาครัฐจ้าง 465,000 (มีหัก ณ ที่จ่ายครบ) ภาคเอกชนจ้าง 1.2 ล้าน และมีสัญญาจ้าง ที่ยังไม่จบสัญญา เลยยังไม่ได้รับเงินอีก 1.3 ล้าน
ในส่วนบุคคลธรรมดา เราจ่ายภาษีทุกทีค่ะ ปีนี้ก็ยื่นกลางปีไปแล้ว และสิ้นปีก็ส่งเรื่องยื่นแล้วค่ะ มีหลักฐานในการจ่ายภาษีครบค่ะ
3. งานขายสินค้า มีทั้งขายผ่านเน็ต และขายที่หน้าบ้านคุณแม่ค่ะ ตรงๆคือ ฝากคุณแม่ขายค่ะ ตัวนี้ไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ค่ะ เพราะขายโดยตลาดธรรมชาติ เป็นสินค้าที่ใช้เองมานานแล้ว ชอบเองบ้าง เอามาขายให้กลุ่มเพื่อนๆแม่ จนขยายวงกว้าง ทำมานานมากแล้วค่ะ ประมาน 4 ปี ตัวนี้มีแต่ยอดเงินเข้าค่ะ เพราะฝากแม่ขาย ฝากพี่ชาย พี่สาวขาย (มีเปอร์เซนต์การขายแบ่งให้พี่กับแม่ค่ะ) มีแต่สเตทเม้น แต่ไม่มีทะเบียนพาณิชย์ค่ะ มีโกดังสินค้าอยู่ที่บ้านคุณแม่และบ้านพี่สาวค่ะ ส่วนนี้พลาดมากที่ไม่ได้ทำบัญญชีค่ะ มีแต่ว่า แม่ขายได้ พี่ขายได้เท่าไหร่ ก็หักเปอร์เซนต์ให้เลย เหมือนทำไปเล่นๆค่ะ เลยไม่มีบัญชีกำกับ เพราะเรามีร้านอาหารที่ สปป.ลาว บินไปลาวเดือนละครั้ง ก็ซื้อผ้าลาวติดมือกลับมาขาย เหมือนเป็นการลงทุนเองขายเอง ก็เลยขายขำๆไป แต่มาดูยอดต่อเดือน ก็ได้แต่ละเดือนเกือบสองแสนอยู่ค่ะ(ยอดขายนะคะไม่ใช่กำไร)
4. ร้านขายอาหารค่ะ อันนี้เปิดที่ สปป.ลาวค่ะ หุ้นกับคนลาว เปิดได้ 3 ปี 5 เดือนค่ะ เป็นร้านอาหาร มีทั้งขายส่งอาหารแช่แข็ง และมีร้านอาหารนั่งทานได้ค่ะ
รายรับตัวนี้ ก็เข้าทางการโอนเข้าบัญชีเช่นกันค่ะ มีสัญญาที่จัดทำที่ สปป.ลาว เรียบร้อยค่ะ มีสัญญาเช่าตึกเป็นชื่อเราเรียบร้อยค่ะ อันนี้ยอดขายก็จะได้ประมาน เดือนละ 2-3 แสนค่ะ (ยอดขายนะคะไม่ใช่กำไร)
ภาระหนี้ที่เรามี
บัตรเครดิต ใช้แค่ scb ค่ะ มี 3 ใบ ใช้วงเงินเดียวกัน วงเงิน 75,000 ปกติจ่ายหมดค่ะ มียอดค้าง จ่ายไม่เต็มบ้าง เดือนสองเดือน
สินเชื่อส่วนบุคคล เดือนละ 18,900
บัตรกดเงินสดวงเงิน 160,000 ชำระเดือนละ 8500
รถยนต์ 1 คัน เดือนละ 11,200
ภาระหนี้ค่อนข้างเยอะค่ะ แต่เพราะเป็นคนชอบขยายวิธีการหาเงินเนี่ยแหล่ะค่ะ มนุษย์แม่ต้องสร้างเพื่อลูก
สเตทเม้นท์ 6 เดือน ที่ส่งไปค่ะ ของ บจก. 1.2 ล้าน / ส่วนตัว 4.1 ล้าน / สเตทเม้นท์อีกบัญชี 2.3 ล้าน
ทีนี้มาถึงเรื่องกู้บ้านค่ะ เรากู้บ้านราคา 3.9 ล้าน ส่งเรื่องยื่นกู้แบงค์ 2 แบงค์ค่ะ อันได้แค่ กสิกร และ scb เพราะคิดแล้วว่า น่าจะเหมาะกับอาชีพมากสุด
1. กสิกรให้ไม่ผ่านค่ะ เหตผลจาก อายุกิจการไม่ถึงสองปี และภาระหนี้เยอะเกินไปค่ะ
ตรงนี้เจ้าหน้าที่แบงค์แจ้งว่า เราสามารถยื่นแก้ไขได้อีกครั้ง
- อายุกิจการไม่ถึงสองปี เราแก้ไขโดย ยื่นเอกสารไปว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เรามี หจก.ค่ะ แต่ถือหุ้นน้อยก็เลยมาเปิด บจก.เอง
ยืนยันว่าทำงานมา เกิน 2 ปีแล้วค่ะ เพราะ หจก.และ บจก.เป็นงานลักษณะเดียวกันค่ะ
- ความสามารถในการชำระหนี้ เราแก้ไขโดย เปลี่ยนโครงการบ้านค่ะ จากหลังละ 3.9 ล้าน มาเป็นหลังละ 2.3 ล้านค่ะ และยื่นกู้ร่วมกับสามีซึ่งเป็นข้าราชการ อายุงาน 16 ปี เงินเดือน 25,120 ภาระหนี้ 8,500 ค่ะ
2. ธนาคาร scb อันนี้ความหวังหมู่บ้านมากๆค่ะ เนื่องจากใครๆก็บอกว่า scb ปล่อยกู้บ้านให้คนทำธุรกิจได้ง่ายกว่า ธ อื่นๆ แต่ผลคือ ไม่ผ่านค่ะ!! เจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า "ยังไม่ผ่านเกณฑ์ธนาคาร" อันนี้ก็มืดแปดด้านเลยค่ะ เกณฑ์อันไหนเราก็ไม่ทราบได้เลย
แต่ก็ได้บอกเจ้าหน้าที่ไปว่า ขอยื่นใหม่อีกครั้งได้มั๊ยคะ จะยื่นกู้ร่วมกับสามี(ข้าราชการ อายุงาน 16 ปี เงินเดือน 25,120 ภาระหนี้ 8,500 ค่ะ) และจะเปลี่ยนโครงการให้ถูกลงมาเหลือ 2.3 ล้านแทนหลังเดิมราคา 3.9 ล้าน
สิ่งที่จะถามนะคะ
1. มีแนวโน้มที่เราจะได้บ้านบ้างมั๊ยคะ ถ้าถามว่าได้มาแล้วผ่อนไหวมั๊ย ภาระหนี้เยอะ เราบอกเลยค่ะว่าไหวแน่นอน เพราะบ้านราคาไม่ได้สูงมาก และถ้าถามว่า จำเป็นมั๊ยที่ต้องมีบ้าน จำเป็นมากค่ะ เพราะตอนนี้อยู่จังหวัด ก. และอีก 1 ปี ต้องย้ายเรากับลูก 2 คน ไปจังหวัด ข. เพราะจะย้ายเข้าโรงเรียนมัธยมที่ลูกตั้งใจไว้ค่ะ ระยะทางสองจังหวัด ห่างกัน 92 กม.เลย ไปกลับคงไม่ไหว เลยอยากจะซื้อบ้านไว้ค่ะ เพราะคงต้องอยู่ไปตลอดจนกว่าลูกจะจบมหาลัยเลย และคาดว่าจะอยู่ไปตลอดเลยค่ะ
2. โครงการใหม่ เรายื่นไป 4 แบงค์ค่ะ กรุงไทย ไทยพาณิชย์ กสิกร TMB (ยื่นกู้ร่วมกับสามีทุกธนาคารค่ะ)
3. จากงานที่เราทำเยอะๆ ใครพอมีความรู้มั๊ยคะ ว่าเราควรจะยื่นไปแนวไหนดี เราเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ scb เค้าก็แนะนำเราให้ยื่นรายได้หลักเป็น บจก. แต่สำหรับเรา รายได้ที่เราได้จริงมากที่สุดมันเป็นจาก ส่วนตัวมากกว่าค่ะ แต่ก็ไม่ได้แย้งเจ้าหน้าที่ไปนะคะ เพราะเค้าน่าจะรู้หลักมากกว่าเรา แต่เราคำนวนเองแบบตามความเข้าใจที่ศึกษาในเน็ตบ้าง pantip บ้าง ทำไมเราถึงรู้สึกว่า ถ้ายื่น บจก. เราจะต้องตกสกอล์ความสามารถในการชำระหนี้แน่ๆเลย
3. ถ้าสมมติว่าเราไม่น่าจะกู้ผ่าน จริงๆ พอมีคำแนะนำมั๊ยคะ ว่าเราจะกู้ได้อีกครั้งเมื่อไหร่? และเราควรจะแก้ไขยังไงเพิ่มเติมสำหรับการกู้ใหม่คะ
เราคงยังพอมีเวลาอีก 1 ปีค่ะ ก่อนลูกจะต้องย้าย รร. (ไม่อยากไปอยู่บ้านญาติค่ะ มันไม่โอเคเลยสำหรับชีวิต) T T
รบกวนแนะนำด้วยนะคะ เรายินดีรับฟังทุกคำแนะนำเลยค่ะ
มนุษย์แม่สู้เพื่อลูกวนไปค่ะ