จ้างทนาย4หมื่น5ต่อสู้คดีพยายามฆ่า ถึงวันขึ้นศาลครั้งแรกทนายบอกให้รับสารภาพ

รบกวนผู้รู้กฎหมาย หรือใครที่เคยเหตุการณ์คล้ายๆกัน
เข้ามาแนะนำหน่อยค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า
วันเกิดเหตุ คู่กรณี ได้ขับรถมอไซค์
ปาดหน้าแฟนของเราบริเวณตลาด
แฟนเราพยายามขับเลี่ยงแล้ว
แต่คู่กรณีก็ยังตามมาขับปาดหน้าไปปาดหน้ามา
จนถึงที่เกิดเหตุ คู่กรณีปาดหน้ารถแฟนเราและจอดรถ
เดินตรงเข้ามาที่รถแฟนเราแล้วทำท่าเหมือนจะชักอาวุธอะไรสักอย่าง
แฟนเราตกใจคิดว่าจะเข้ามาทำร้าย
เลยหยิบปืนขึ้นมายิงลงไปที่พื้น 1 นัด
แต่ว่ากระสุนไปโดนที่ขาของคู่กรณี หลังจากนั้น แฟนเราโดนจับ ข้อหาพยายามฆ่าและพกพาอาวุธปืนแฟนเราปฏิเสธข้อหาพยายามฆ่าแต่รับข้อหาพกพาอาวุธปืน เราได้ประกันตัวแฟนออกมาโดยเช่าหลักทรัพย์จากนายประกัน และได้จ้างทนาย 40,000 ซึ่งต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านั้นถ้านายไม่เคยมาถามเรื่องคดีคือเคยถามเรื่องคดีกับแฟนเราที่เรือนจำแค่ครั้งเดียว โดยปกติวิสัยทั่วไปของทนายจะต้องมาแบบถามความเป็นไปเกี่ยวกับเรื่องคดีของเรา แต่ทนายที่เราจ้าง ไม่เคยบอกว่าให้เราพูดกับศาลว่าอย่างไรบ้าง มาบอกก่อนวันขึ้นศาล 2 วัน ว่าให้เรา บอกศาลว่าเก็บปืนได้ โดยวันนั้น ให้บอกว่าแฟนเรานอนอยู่ที่บ้านกับเรา ถึงวันขึ้นศาลครั้งแรก คือวันสืบพยานโจทก์ โจทย์ไม่มา ผู้พิพากษาเลยถามแฟนเรา ว่าเรื่องราวเป็นยังไง แฟนเราพูดไปตามที่ทนายบอก ผู้พิพากษาถามว่า จะสู้ทางนี้จริงๆหรอ จะบอกว่าไม่ใช่เป็นคนยิงใช่ไหม แต่หัวกระสุน ที่แพทย์ได้นำการผ่าออกจากขาคู่กรณี มันตรงกับปืนที่จับได้กับแฟนเรา แบบนี้จะให้ศาลเชื่อยังไง ท่านผู้พิพากษาบอกว่าผิดก็ยอมรับมาว่าผิด ประมาณนี้ค่ะ และ ท่านผู้พิพากษาบอกว่าให้โอกาสไปปรึกษาทนายมาใหม่ โดยที่วันนัดครั้งนั้นถ้านายไม่ได้พูดอะ ไรกับศาล เลยแม้แต่คำเดียว หลังจากนั้นเราพยายามติดต่อผู้เสียหายมาตลอด ผู้เสียหายบอกว่า ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรและไม่ได้จะแจ้งความแต่โรงพยาบาลเป็นคนแจ้ง แฟนเราได้บอกว่าจะเยียวยาให้คือทำการโอนเงินให้ แต่เราเองก็มีไม่มากก็ให้ทีละ 5,000 10,000 โดยโอนผ่านมือถือและเก็บสลิปไว้ทุกอย่าง และบอกให้ คู่กรณีมาขึ้นศาล และให้แถลงสารไปว่าเรามีการเยียวยาและไม่ได้ติดใจเอาความ ถึงเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้แต่ก็จะทำให้ โทษมันเบาลงอันนี้ในความคิดส่วนตัวของเรากับแฟน ส่วนเรื่องคำให้การบนชั้นศาลไม่เคยรู้เลยว่าต้องทำยังไงพูดยังไงบ้างเพราะถ้านายบอกว่าทนายจะเป็นคนจัดการพูดแถลงให้เอง หลังจากนั้น พอถึงวันนัดสืบพยานจำเลย โจทก์ก็ยังทนายพูดกับเราก่อน ขึ้นศาลว่า ให้รับสารภาพไปเถอะ เดี๋ยวทนายจะแถลงให้ว่า มีการเยียวยาผู้เสียหาย โทษก็จะเบาลง เดี๋ยวจะเขียนอุทธรณ์ให้เป็นรอลงอาญา วันนั้นแฟนเลยเซ็นรับสารภาพไป แต่พอเซ็นไปแล้ว ทนายไม่แถลงอะไรให้ศาลฟังเลยไม่พูดอะไรเลยให้แต่เราเป็นคนพูดกับผู้พิพากษาอย่างเดียว แฟนก็เล่าไปตามความจริง ว่าตั้งใจจะยิงแค่ขู่ให้เขาหยุดเพราะคิดว่าเขาจะมาทำร้าย พ่อกลับมาถึงบ้านปรึกษาญาติ และหาดูตาม Google โทษคดีพยายามฆ่ามันหนัก แฟนเรากลัว วันนัดสืบประกอบคำรับสารภาพ แฟนเราเลยไม่ไปและหนี ประกัน หนีไปได้ประมาณ 6 เดือน นายประกัน ก็ไปตามจับแฟนเราได้ ตอนนี้แฟนถูกขังอยู่ในเรือนจำ ศาลได้เบิกตัว มาเพื่อ ประกอบคำรับสารภาพ เมื่อวาน ที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ศาลถามว่า เธอหนีทำไม แฟนเราตอบไปว่า วันที่เซ็นรับสารภาพไปทนายบอกจะแถลงข้อเท็จจริงและการบอกว่าเราเยียวยาคู่กรณีไปแล้วให้ศาลฟังแต่ว่าทนายไม่ได้แถลงแฟนกลัวศาลพิพากษา โทษ มาเยอะ เลยหนี ศาลเลยแจ้งรายได้วันนี้จะสื่อประกอบคำรับสารภาพนะ แฟนยกมือ บอกศาลว่า รับว่ายิงแต่ไม่รับข้อหาพยายามฆ่า เพราะไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า คือสรุปสรุปแล้วแฟนเราแถลงศาลเองเลยเพราะว่าทนายไม่แถลงให้เหมือนเดิมแฟนเราเลยพูดกับสารไปว่า รับว่ายิงครับแต่ว่าไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าครับคิดว่าเขามีอาวุธแล้วจะเดินเข้ามาทำร้ายเลยยิงลงที่พื้น 1 นัดโดยที่ไม่ทราบว่าว่าโดนด้วยซ้ำ ระยะที่ยิงอยู่ใกล้กันมากถ้าจะยิง เอาชีวิตก็คงจะยิงหัวไปแล้ว ผู้พิพากษาบอกว่าไม่มีหรอกรับว่ายิงแต่ไม่รับว่า จะฆ่า ถ้ารับก็คือรับตามฟ้องไปแล้ว แต่แฟนยังยืนยันว่าผมไม่ได้จะฆ่าครับผมแค่ตั้งใจจะยิงให้เขาหยุดเฉยๆเพราะเขาจะเข้ามาทำร้าย ผู้พิพากษาบอกว่าสรุปว่าจะปฏิเสธใช่ไหม แล้วท่านก็บอกว่า คำ ให้การของแฟนเราพอฟังได้ท่านอนุญาตให้กลับคำให้การเป็นจากรับสารภาพเป็นปฏิเสธ ผู้พิพากษาเลยนัดวันใหม่เป็นวันสืบพยานโจทก์ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ เรามีคำถามว่า
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
จขกท. เล่าเรื่องเป็นขั้นเป็นตอน ได้สาระทางกฎหมายดีนะคะ แสดงว่า มีความรู้พอสมควร
แต่พิมพ์ติดกัน อ่านแล้วตาลายเลยค่ะ

ต้องอธิบายก่อนนะคะ
แฟนของจขกท.ให้การภาคเสธ คือ รับในข้อเท็จจริง ว่า เป็นผู้ยิง แต่ต่อสู้ในข้อกฎหมาย ว่า มิได้เจตนา
(ศาลจึงบอกว่า แฟนของจขกท.ปฎิเสธค่ะ จึงต้องเริ่มกันใหม่)
คนทั่วไปจะเข้าใจว่า "เจตนา" คือ ประสงค์ในผลของการกระทำ เช่น ยิงปืนเพราะอยากให้คู่กรณีตาย
จึงมักต่อสู้ในประเด็น "ไม่ได้เจตนาฆ่า ...แค่ต้องการขู่เฉยๆ"
แต่ในกม.อาญา "เจตนา" หมายความรวมถึง "ย่อมเล็งเห็นผล" ด้วยค่ะ ศาลจึงบอกว่า ยิงปืนโดยไม่เจตนานั้น ไม่มีหรอก
ศาลท่านพูดในประเด็น "ย่อมเล็งเห็นผล"ค่ะ เพราะปืนเป็นอาวุธร้ายแรง เมื่อยิงไปแล้ว ย่อมต้องเล็งเห็นได้ว่า อาจมีคนตายได้ค่ะ

หากจะต่อสู้ ต้องนำสืบพยานหลักฐาน ให้สอดคล้องต้องกันไปในแนวทางเดียวกัน แต่ผู้เสียหายไม่มาศาล จะนำสืบได้ยังไง

ไม่รู้ว่า ให้การชั้นพนักงานสอบสวนว่าอย่างไรบ้าง ต้องสู้ตามคำฟ้องค่ะ เฮ้อ...อธิบายยากค่ะ
เหนื่อยแทนค่ะ..
ตกลงแฟนของจขกท. จะต่อสู้ประเด็นไหน ระหว่าง ไม่เจตนา หรือ สำคัญผิด คะ

ปรึกษากันดีๆ นะคะ ลองไปปรึกษาสภาทนายความนะคะ

ปล. ปกติคดีแบบนี้ ผู้เสียหายต้องเรียกเงินหลักแสน แต่ท่านนี้ไม่มาศาล
เราคิดว่า เค้าคงเคยมีปัญหาเรื่องคดีความค่ะ จขกท.โอนเงินไป ชื่อบัญชีเดียวกับในสำนวนคดีหรือเปล่าคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่