ต้องออกตัวก่อนนะคะ ว่าไม่ได้อยู่ในวงการศิลปะ แค่เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบ และติดตามงานแสดงต่าง ๆ ในบ้างครั้งค่ะ
ตอนแรกที่ได้ยิน ว่าจะมีงาน Bangkok Biennale และ Krabi Biennale ก็ดีใจมากค่ะ ตั้งหน้าตั้งตารอเลย
เราขอแบ่งเป็น สองงานนะคะ
Bangkok Biennale
พอเห็นสถานที่จัดวางงานศิลปะทั่วกรุงเทพแล้ว อือหือ วางแผนไปไม่ถูกเลยทีเดียว
อันนี้เป็นสิ่งที่เราคิดว่ามันเป็นปัญหาสำหรับเรานะคะ
1. วางงานศิลปะกระจายกันมากเกินไป
คือ กรุงเทพไม่ใช่เมืองที่เดินทางสะดวกค่ะ ทั้งรถติด ทั้งค่าเดินทางที่แพงมาก
ดีที่เราอยู่ที่กรุงเทพ เลยเก็บไปที่ละนิดทีละหน่อยตามในห้าง เลยคิดว่า คนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด
ต้องใช้เวลาขนาดไหนที่จะเยี่ยมชมชิ้นงานทั้งหมดได้มีวันนึงที่เราชมงานตามเส้นทางริมน้ำหนึ่งวันเต็มจึงทำให้พบว่า
2. ไม่รู้ว่าชิ้นงานวางอยู่ตรงไหน
ต้องบอกว่า หาไม่ค่อนเจอ แล้วพลาดไม่ได้ชมไปพอสมควร คือเราอาจจะหาข้อมูลไม่พร้อมก็เป็นได้ เพราะคิดว่าเดี๋ยวหาข้อมูลจาก Official website
แต่ปรากฏว่าก็หาไม่เจออยู่ดี 555 ต้องอาศัย กระทู้ที่เคยรีวิวในพันทิปนี่ละค่ะ ตามรอย ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เคยมารีวิวไว้นะคะ
3. ข้อมูลที่ไม่เพียงพอ
อันนี้เราไปค้นพบจากชิ้นงานที่ วัดโพธ์ค่ะ ว่ามีให้ สแตมป์สะสมได้ด้วย เพื่อรับของที่ระลึกถ้าดูชิ้นงานครบ
แล้วก็เขียนไว้ข้าง ๆ ว่า รับสมุดสแตมป์ได้ที่ไหนบ้าง โอโห้ แต่ละที่ไกล ๆ จากวัดโพธิ์ทั้งนั้น จะไปเอาก่อนแล้วกลับมาวัดโพธิ์อีก ถ้าจะเป็นไปไม่ได้
แล้วสุดท้ายเราไปเจอ Guide Book อยู่ชั้นล่างสุดหอศิลป์กรุงเทพ ตอนที่เราจะไปหาข่าวเย็นกินแล้วอ่ะ
ใน Guide Book มีทุกอย่างที่เราอยากได้เลย ราคาไม่แพงสำหรับเรานะ เรายอมจ่าย แต่เราแค่ไม่รู้ว่ามันมีขายอยู่ตรงไหนไง
แล้วทำไมไม่ใส่ข้อมูลในหนังสือไว้ในเว็ยไซต์อะคะ หรือว่าใส่ไว้แล้วแต่เราหาไม่เจอช่วยบอกเราที
Krabi Biennale
เรามีโอกาศได้ลงไปกระบี่พอดีค่ะสำหรับ vacation แผนตอนแรกจะอยู่เกาะตลอด แต่เราอ้อนวอนจะชมงานศิลปะค่ะเวลาเลยมีอยู่แค่ วันครึ่ง
คราวนี้การชมงานศิลปะของเราจะมีเงื่อนไขของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนะคะ
จากประสบการณ์ที่เราได้จากงานที่กรุงเทพ เราก็เลยเข้าอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลค่ะ
ต้องขอชมเลยนะคะ ว่าของ Krabi Biennale ทำได้ดีกว่ามาก สามารถดาวโหลดข้อมูลชิ้นงาน และแผนที่ได้เลยค่ะ
ข้อมูลละเอียดยิบ มีบอกพิกัดเรียบร้อย แถมยังมีการจัดเส้นทางชมงานให้อีกด้วย ว่าต้องไปที่ไหนก่อน
แต่ว่า ทริปชมงานศิลปะก็พังไม่เป็นท่าค่ะ 555
1. ชิ้นงานไกลมากกกก
อันนี้ต้องขึ้นเกาะ จากเกาะนี้ไปเกาะนู้น วันครึ่งไม่มีทางพอค่ะ เพราะนอกจากไกลแล้ว การแสดงชิ้นงานก็มีเวลาด้วย
ครึ่งวันเราเลือกไปไร่เลย์ พลาดเวลาแสดงชิ้นงานไปหน่อยเดียวเอง ร้อง
2. การเดินทางที่กระบี่มันแพงนะคะ
เราโชคดีที่เช่ามอเตอร์ไซต์ค่ะ ก็ขี่ไปเรื่อย ๆ ได้ แต่ถ้าใช้คนส่งสาธารณะก็เอาเรื่องอยู่นะคะ
แล้วยิ่งต้องไปเกาะ อือหือ คนงบน้อยอย่างเราต้องตัดใจเลยละค่ะ
3. บางชิ้นงานมันพังแล้วอ่ะ
พัง เก่า แล้วไม่มีการปรับปรุงค่ะ ภาพลักษ์มันเลยออกมาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
สรุปว่ากระบี่ เราก็ได้ดูแต่งานที่อยู่ในตัวเมืองกระบี่ซะส่วนใหญ่
ด้วยเงื่อนไขของเวลาและกำลังทรัพย์ของเราค่ะ
แต่อย่างไรต้องขอบคุณทางผู้จัดงานนะคะ ที่จัดงานแสดงศิลปะแบนี้ในบ้านเรา รู้ว่าคงไม่ง่าย แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
คิดว่างาน Thailand Biennale ประสบความสำเร็จไหมค่ะ
ตอนแรกที่ได้ยิน ว่าจะมีงาน Bangkok Biennale และ Krabi Biennale ก็ดีใจมากค่ะ ตั้งหน้าตั้งตารอเลย
เราขอแบ่งเป็น สองงานนะคะ
Bangkok Biennale
พอเห็นสถานที่จัดวางงานศิลปะทั่วกรุงเทพแล้ว อือหือ วางแผนไปไม่ถูกเลยทีเดียว
อันนี้เป็นสิ่งที่เราคิดว่ามันเป็นปัญหาสำหรับเรานะคะ
1. วางงานศิลปะกระจายกันมากเกินไป
คือ กรุงเทพไม่ใช่เมืองที่เดินทางสะดวกค่ะ ทั้งรถติด ทั้งค่าเดินทางที่แพงมาก
ดีที่เราอยู่ที่กรุงเทพ เลยเก็บไปที่ละนิดทีละหน่อยตามในห้าง เลยคิดว่า คนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด
ต้องใช้เวลาขนาดไหนที่จะเยี่ยมชมชิ้นงานทั้งหมดได้มีวันนึงที่เราชมงานตามเส้นทางริมน้ำหนึ่งวันเต็มจึงทำให้พบว่า
2. ไม่รู้ว่าชิ้นงานวางอยู่ตรงไหน
ต้องบอกว่า หาไม่ค่อนเจอ แล้วพลาดไม่ได้ชมไปพอสมควร คือเราอาจจะหาข้อมูลไม่พร้อมก็เป็นได้ เพราะคิดว่าเดี๋ยวหาข้อมูลจาก Official website
แต่ปรากฏว่าก็หาไม่เจออยู่ดี 555 ต้องอาศัย กระทู้ที่เคยรีวิวในพันทิปนี่ละค่ะ ตามรอย ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เคยมารีวิวไว้นะคะ
3. ข้อมูลที่ไม่เพียงพอ
อันนี้เราไปค้นพบจากชิ้นงานที่ วัดโพธ์ค่ะ ว่ามีให้ สแตมป์สะสมได้ด้วย เพื่อรับของที่ระลึกถ้าดูชิ้นงานครบ
แล้วก็เขียนไว้ข้าง ๆ ว่า รับสมุดสแตมป์ได้ที่ไหนบ้าง โอโห้ แต่ละที่ไกล ๆ จากวัดโพธิ์ทั้งนั้น จะไปเอาก่อนแล้วกลับมาวัดโพธิ์อีก ถ้าจะเป็นไปไม่ได้
แล้วสุดท้ายเราไปเจอ Guide Book อยู่ชั้นล่างสุดหอศิลป์กรุงเทพ ตอนที่เราจะไปหาข่าวเย็นกินแล้วอ่ะ
ใน Guide Book มีทุกอย่างที่เราอยากได้เลย ราคาไม่แพงสำหรับเรานะ เรายอมจ่าย แต่เราแค่ไม่รู้ว่ามันมีขายอยู่ตรงไหนไง
แล้วทำไมไม่ใส่ข้อมูลในหนังสือไว้ในเว็ยไซต์อะคะ หรือว่าใส่ไว้แล้วแต่เราหาไม่เจอช่วยบอกเราที
Krabi Biennale
เรามีโอกาศได้ลงไปกระบี่พอดีค่ะสำหรับ vacation แผนตอนแรกจะอยู่เกาะตลอด แต่เราอ้อนวอนจะชมงานศิลปะค่ะเวลาเลยมีอยู่แค่ วันครึ่ง
คราวนี้การชมงานศิลปะของเราจะมีเงื่อนไขของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนะคะ
จากประสบการณ์ที่เราได้จากงานที่กรุงเทพ เราก็เลยเข้าอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลค่ะ
ต้องขอชมเลยนะคะ ว่าของ Krabi Biennale ทำได้ดีกว่ามาก สามารถดาวโหลดข้อมูลชิ้นงาน และแผนที่ได้เลยค่ะ
ข้อมูลละเอียดยิบ มีบอกพิกัดเรียบร้อย แถมยังมีการจัดเส้นทางชมงานให้อีกด้วย ว่าต้องไปที่ไหนก่อน
แต่ว่า ทริปชมงานศิลปะก็พังไม่เป็นท่าค่ะ 555
1. ชิ้นงานไกลมากกกก
อันนี้ต้องขึ้นเกาะ จากเกาะนี้ไปเกาะนู้น วันครึ่งไม่มีทางพอค่ะ เพราะนอกจากไกลแล้ว การแสดงชิ้นงานก็มีเวลาด้วย
ครึ่งวันเราเลือกไปไร่เลย์ พลาดเวลาแสดงชิ้นงานไปหน่อยเดียวเอง ร้อง
2. การเดินทางที่กระบี่มันแพงนะคะ
เราโชคดีที่เช่ามอเตอร์ไซต์ค่ะ ก็ขี่ไปเรื่อย ๆ ได้ แต่ถ้าใช้คนส่งสาธารณะก็เอาเรื่องอยู่นะคะ
แล้วยิ่งต้องไปเกาะ อือหือ คนงบน้อยอย่างเราต้องตัดใจเลยละค่ะ
3. บางชิ้นงานมันพังแล้วอ่ะ
พัง เก่า แล้วไม่มีการปรับปรุงค่ะ ภาพลักษ์มันเลยออกมาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
สรุปว่ากระบี่ เราก็ได้ดูแต่งานที่อยู่ในตัวเมืองกระบี่ซะส่วนใหญ่
ด้วยเงื่อนไขของเวลาและกำลังทรัพย์ของเราค่ะ
แต่อย่างไรต้องขอบคุณทางผู้จัดงานนะคะ ที่จัดงานแสดงศิลปะแบนี้ในบ้านเรา รู้ว่าคงไม่ง่าย แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ