ออกตัวอีกครั้งว่า จกขท. เป็นแฟนเพลงแนวร็อคและชื่นชอบ Avril Lavigne เป็นอย่างมาก ต่อไปนี้ก็เป็นเรื่องที่มาเล่าสู่กันฟังเฉย ๆ ค่ะ ไม่ค่อยสาระอะไร
ก่อนอื่น
BNK48 คือวงไอดอลกรุ๊ปที่แตกแฟรนไชส์มาจากญี่ปุ่น มีเพลงดังชื่อว่าเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย ส่วน มิวสิค ก็คือหนึ่งในสมาชิกของวงนี้ และเผื่อใครไม่รู้จัก
Avril Lavigne เจ๊แกเป็นนักร้องนักแต่งเพลงนะคะ มีเพลงดังหลายเพลง เช่น Complicated, My Happy Ending, When You're Gone และอีกหลาย ๆ เพลง คือเราตามฟังเพลงของเจ๊แกทุกเพลงตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงปัจจุบัน เริ่มเป็นแฟนคลับตั้งแต่ ม.1 ปัจจุบันอายุ 26 แล้วค่ะ เพลงแรกที่ได้ฟังคือ I Don't Have To Try ซึ่งอยู่ในอัลบั้มที่ 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่รู้สึกคลิกคงเพราะตอนนั้นเราอยู่ในช่วงเพิ่งจะเข้าวัยรุ่นด้วยมั้งคะ มีความดื้อเบา ๆ ฟังเพลงแบบแยกแนวจากเพื่อนไปเลย ไม่มีใครชอบ Avril เหมือนเราเลยค่ะ ไม่มีเพื่อนหวีด แต่ยังไงก็ชอบเจ๊มาตลอด ชอบแบบที่ตัวเองชอบนี่ล่ะค่ะ แล้วก็ดีใจมาก ๆ เพราะเพลงของเจ๊ทำให้เราพัฒนาภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น คือเราเป็นเด็กโปรแกรมพิเศษถนัดวิชาคำนวณอยู่แล้ว พอได้ภาษาก็เลยค่อนข้างจะมีโอกาสดีกว่าเพื่อนนิดหนึ่ง
ถ้ามีเด็ก ๆ เข้ามาอ่านเราก็อยากบอกว่าชอบอะไรก็ชอบไปเลยนะ ไม่ต้องลังเล เรามีความสุขแบบไหน อะไรทำให้เราอินไปกับมันได้ก็ไม่ต้องฝืน ถึงใครจะว่าเรายังไงมันก็คือความสุขของเรา ที่สำคัญเราต้องหาข้อดีของมันให้ได้ นำมาพัฒนาตัวเองนะ เพิ่มสกิลให้ตัวเอง จะแฟนเกาหลี ญี่ปุ่น อะไรตาม ไม่ต้องไปหวั่นไหวกับคำใคร
ทีนี้มาเข้าเรื่องกันต่อ คือในช่วงแรกเราก็ยังสับสน มึน ๆ งง ๆ อยู่ว่ามาชอบ มิวสิค BNK48 ได้ยังไง เห็น ๆ อยู่ว่ามันละขั้วกันเลย หลังจากพยายามหาความเชื่อมโยงอยู่สักพักเลยสรุปออกมาได้ว่า...คงเพราะมีเขี้ยวเหมือนกันมั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็นการสรุปที่มั่วมาก55555 แต่คิดว่ายังไงก็คงมีส่วนบ้างแหละเพราะตอนนั้นเราก็หวีดเขี้ยวของเจ๊แกอยู่ ปากสวย หน้าสวย โอ้ แวมไพร์ อะไรประมาณนั้น จนตอนนี้อยู่ในวัยทำงานแล้วก็ยังรู้สึกว่าชอบเขี้ยวของมิวสิค อ้อ แฟนเราก็มีเขี้ยวลักษณะเดียวกันกับสองคนนี้ด้วยนะ เลยคิดว่าคงเป็นลักษณะหนึ่งที่ดึงดูดเราได้ง่าย (มั้ง) แบบเวลาพูดหรือยิ้มเราจะรู้สึกว่าคนคนนี้มีเสน่ห์
ช่วงหลังมานี้ก็รู้สึกว่าตกหลุมมิวสิคลึกมากจนคิดว่าที่เคยตกหลุม perf น้อง ศิลปินอื่นที่เราชอบก็ perf สุดยอดเหมือนกัน แต่ทำไมเราไม่ชอบขนาดนี้ล่ะ เราไม่เคยชอบใครหรือศิลปินคนไหนได้มากเท่า Avril Lavigne แต่กับมิวสิคเรียกว่าใกล้เคียงเลยค่ะ คือมันกลายเป็นว่าคงไม่ใช่แค่เขี้ยวน้องแล้วมั้งที่ดึงให้เราอยู่ทนอยู่นานขนาดนี้ เก็บความสงสัยมาตลอดค่ะว่าทำไม...เอ๊ะ ทำไม รู้ว่าชอบมิวสิค รักมิวสิคที่เป็นแบบนี้แหละ แต่ก็ยังสับสนอยู่เนือง ๆ ลังเลเพราะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยังชอบมาก ๆ อยู่ดี งงมั้ย ชอบมากแบบช่วงเลือกตั้งก็คือทั้งเครียด ทั้งเอาใจช่วย โหวตก็เต็มที่ไปสุด ๆ เกินงบไปตั้ง 2-3 เท่า ผลคือน้องได้อันดับที่ 3 ก็เสียใจ ... แต่ถึงจะจริงจังมากแค่ไหนเราก็ไม่ได้เฟลอะไรขนาดนั้นนะคะ อันดับไหนก็ยินดีกับทุกคนด้วย ยังไงมันก็คือการแข่งขันที่แฟนคลับร่วมแรงร่วมใจมอบแรงสนับสนุนให้เมมที่ตัวเองรัก เราอยากให้รักของเราที่มีต่อน้องมีความหมายยังไง เราก็เคารพความรักของคนอื่นที่มีต่อโอชิเมมของตัวเองด้วยเช่นกัน
ออกทะเลละกลับมาที่เจ๊55555
เราชอบ Avril Lavigne มากถึงขนาดฟังเพลงซ้ำ ๆ ของเจ๊แกมาเกินสิบปีแล้ว ทุกเพลย์ลิสต์ของเรามีเพลงของเจ๊ เพื่อนขึ้นรถเราก็คือจะต้องได้ยินเพลงของเจ๊จนมันต้องบ่น ทุกคนบ่นแต่ก็ชินแล้วค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังฟังเพลงของเจ๊บ่อย ๆ ชอบหลายเพลงมาก ๆ และวันนี้เราก็ได้วนกลับมาฟังเพลงเพลงนึง ถ้าใครเคยดู Princess Diary น่าจะคุ้นหูอยู่บ้าง ชื่อเพลง
Breakaway - Kelly Clarkson จะเห็นว่าไม่ใช่เจ๊ร้องนะคะ แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่เจ๊แกแต่งตั้งแต่สมัยสิบกว่าปีที่แล้วนู้นนนนนนน สมัยที่ยังก้าวเตาะแตะอยู่บนเส้นทางการเป็นนักร้อง สมัยตั้งแต่ก่อนจะออกอัลบั้ม Let Go ที่เป็นอัลบั้มแรกอีกค่ะ
ใน youtube มีเวอร์ชัน demo ที่เป็นเสียงของเจ๊แกอยู่นะ
เอาล่ะ ทำไมเราพูดถึงเพลงนี้ แน่นอนว่าความสำคัญอย่างแรกคือ Avril Lavigne เป็นคนแต่ง ซึ่งก็เกี่ยวกับชีวิตเจ๊แกนั่นแหละ แต่ความสำคัญอีกอย่างก็คือตอนที่ฟังเพลงนี้มีท่อนหนึ่งที่เราเห็นหน้ามิวสิคลอยมาเลย
เนื้อเพลงบางส่วน :
I’ll spread my wings and I’ll learn how to fly
I’ll do what it takes til’ I touch the sky
ฉันจะกางปีกของฉันให้กว้างและเรียนรู้ที่จะโบยบิน
จะทำทุก ๆ อย่าง เพื่อจะไปให้ถึงท้องฟ้าอันกว้างใหญ่
And I’ll make a wish
Take a chance
Make a change
And breakaway
และฉันจะอธิษฐาน
จะลองเสี่ยง
สร้างความเปลี่ยนแปลง
และจะฝ่าไปให้ได้
Out of the darkness and into the sun
But I won’t forget all the ones that I love
ก้าวออกจากความมืดมิดสู่ดวงตะวัน
แต่ฉันจะไม่มีทางลืมทุก ๆ คนที่ฉันรัก
I’ll take a risk
Take a chance
Make a change
And breakaway
ฉันจะเสี่ยง
คว้าโอกาสที่จะทำมัน
เปลี่ยนแปลง
และก้าวผ่านมันไป
.
.
จาก ig ของมิวสิคพูดถึงการโบยบินไปสู่ประกายแสงสว่างบนฟากฟ้าทั้งที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างหน้าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง :

.
.
จาก BNK48 The Series : Ep.3 เสียงเพลงแห่ง “ความฝัน” ของมิวสิค BNK48
แน่นอนว่าเรื่องราวในเพลงที่ Avril แต่ง ไม่ได้เหมือนกับชีวิตของมิวสิค แต่จากที่เราตามมิวสิคมา น้องมีความมุ่งมั่น มีความฝัน และอีกสิ่งหนึ่งที่เรารู้คือน้องมีความกล้าที่จะเดินตามความฝันด้วย กล้าเสี่ยง กล้าลอง ในโลกนี้อาจมีอีกหลายคนที่มีความฝันและกล้าวิ่งตามมันอย่างสุดตัว แต่วันนี้เราพูดถึงคนสองคนที่เราชื่นชอบมาก ๆ ดีใจที่ได้รู้ว่าพวกเขามีจิตวิญญาณข้างในที่เหมือนกัน มีไฟ มีความมุ่งมั่นที่จะโบยบินอย่างแรงกล้า
คนหนึ่งมีโอกาสได้บินขึ้นสูงท้าแรงลมจนตอนนี้เริ่มอ่อนแรง เราก็ตั้งใจจะเป็นกำลังใจอยู่เคียงข้างเขาไปจนสุดทาง ในขณะที่อีกคนกำลังกางปีกสยายท้าลมแรงและเรียนรู้จะบินไปให้สูงเพื่อจะได้สัมผัสท้องฟ้าดูสักครั้ง คนที่คอยเฝ้าดูอย่างเราก็ได้รับพลังความรู้สึกที่อยากจะไขว่คว้าบางอย่างแบบนั้นมาเช่นกัน เป็นความรู้สึกที่ทรงพลังมากเลยนะคะ เป็นพลังหมุนเวียนที่เราเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันเพราะเราทั้งได้รับและได้มอบ เอาเป็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นแรงใจในระดับที่ทำให้เราอยากจะมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าต่อไปเรื่อย ๆ เลยค่ะ
เราเติบโตมากับเพลงของ Avril Lavigne ได้รับรู้ช่วงชีวิต ความรู้สึก และเรื่องราวผ่านบทเพลง ส่วนมิวสิคน้องได้ส่งพลังบางอย่างมาถึงเราแล้วเราก็ได้ส่งต่อ แน่นอนว่าตอนนี้เราได้สถาปนาตัวเองเป็นลมใต้ปีกของน้องไปเรียบร้อยแล้ว อยากสนับสนุนน้อง ส่งน้องไปให้ไกลถึงความฝัน แม้เรื่องราวของคนที่เราชอบทั้งคู่จะแตกต่างกัน วิธีการเล่าไม่เหมือนกัน แต่เราได้รู้ในสิ่งที่สงสัยมานาน เราเคยยึดติดกับแนวเพลงคิดแต่ว่าตัวเองเป็นชาวร็อค ไม่น่ามาชอบมิวสิคได้ แต่ว่าความฝัน ความหวัง และความกล้าของคนทั้งคู่ก็ทำให้เราก็ได้รู้แล้วว่าทำไม...
ทำไมเป็น Avril Lavigne และทำไมเป็น มิวสิค BNK48 หมดสิ้นทุกข้อสงสัยแล้วค่ะ
Avril Lavigne และ มิวสิค BNK48
ก่อนอื่น BNK48 คือวงไอดอลกรุ๊ปที่แตกแฟรนไชส์มาจากญี่ปุ่น มีเพลงดังชื่อว่าเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย ส่วน มิวสิค ก็คือหนึ่งในสมาชิกของวงนี้ และเผื่อใครไม่รู้จัก Avril Lavigne เจ๊แกเป็นนักร้องนักแต่งเพลงนะคะ มีเพลงดังหลายเพลง เช่น Complicated, My Happy Ending, When You're Gone และอีกหลาย ๆ เพลง คือเราตามฟังเพลงของเจ๊แกทุกเพลงตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงปัจจุบัน เริ่มเป็นแฟนคลับตั้งแต่ ม.1 ปัจจุบันอายุ 26 แล้วค่ะ เพลงแรกที่ได้ฟังคือ I Don't Have To Try ซึ่งอยู่ในอัลบั้มที่ 3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่รู้สึกคลิกคงเพราะตอนนั้นเราอยู่ในช่วงเพิ่งจะเข้าวัยรุ่นด้วยมั้งคะ มีความดื้อเบา ๆ ฟังเพลงแบบแยกแนวจากเพื่อนไปเลย ไม่มีใครชอบ Avril เหมือนเราเลยค่ะ ไม่มีเพื่อนหวีด แต่ยังไงก็ชอบเจ๊มาตลอด ชอบแบบที่ตัวเองชอบนี่ล่ะค่ะ แล้วก็ดีใจมาก ๆ เพราะเพลงของเจ๊ทำให้เราพัฒนาภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น คือเราเป็นเด็กโปรแกรมพิเศษถนัดวิชาคำนวณอยู่แล้ว พอได้ภาษาก็เลยค่อนข้างจะมีโอกาสดีกว่าเพื่อนนิดหนึ่ง
ถ้ามีเด็ก ๆ เข้ามาอ่านเราก็อยากบอกว่าชอบอะไรก็ชอบไปเลยนะ ไม่ต้องลังเล เรามีความสุขแบบไหน อะไรทำให้เราอินไปกับมันได้ก็ไม่ต้องฝืน ถึงใครจะว่าเรายังไงมันก็คือความสุขของเรา ที่สำคัญเราต้องหาข้อดีของมันให้ได้ นำมาพัฒนาตัวเองนะ เพิ่มสกิลให้ตัวเอง จะแฟนเกาหลี ญี่ปุ่น อะไรตาม ไม่ต้องไปหวั่นไหวกับคำใคร
ทีนี้มาเข้าเรื่องกันต่อ คือในช่วงแรกเราก็ยังสับสน มึน ๆ งง ๆ อยู่ว่ามาชอบ มิวสิค BNK48 ได้ยังไง เห็น ๆ อยู่ว่ามันละขั้วกันเลย หลังจากพยายามหาความเชื่อมโยงอยู่สักพักเลยสรุปออกมาได้ว่า...คงเพราะมีเขี้ยวเหมือนกันมั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็นการสรุปที่มั่วมาก55555 แต่คิดว่ายังไงก็คงมีส่วนบ้างแหละเพราะตอนนั้นเราก็หวีดเขี้ยวของเจ๊แกอยู่ ปากสวย หน้าสวย โอ้ แวมไพร์ อะไรประมาณนั้น จนตอนนี้อยู่ในวัยทำงานแล้วก็ยังรู้สึกว่าชอบเขี้ยวของมิวสิค อ้อ แฟนเราก็มีเขี้ยวลักษณะเดียวกันกับสองคนนี้ด้วยนะ เลยคิดว่าคงเป็นลักษณะหนึ่งที่ดึงดูดเราได้ง่าย (มั้ง) แบบเวลาพูดหรือยิ้มเราจะรู้สึกว่าคนคนนี้มีเสน่ห์
ช่วงหลังมานี้ก็รู้สึกว่าตกหลุมมิวสิคลึกมากจนคิดว่าที่เคยตกหลุม perf น้อง ศิลปินอื่นที่เราชอบก็ perf สุดยอดเหมือนกัน แต่ทำไมเราไม่ชอบขนาดนี้ล่ะ เราไม่เคยชอบใครหรือศิลปินคนไหนได้มากเท่า Avril Lavigne แต่กับมิวสิคเรียกว่าใกล้เคียงเลยค่ะ คือมันกลายเป็นว่าคงไม่ใช่แค่เขี้ยวน้องแล้วมั้งที่ดึงให้เราอยู่ทนอยู่นานขนาดนี้ เก็บความสงสัยมาตลอดค่ะว่าทำไม...เอ๊ะ ทำไม รู้ว่าชอบมิวสิค รักมิวสิคที่เป็นแบบนี้แหละ แต่ก็ยังสับสนอยู่เนือง ๆ ลังเลเพราะหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยังชอบมาก ๆ อยู่ดี งงมั้ย ชอบมากแบบช่วงเลือกตั้งก็คือทั้งเครียด ทั้งเอาใจช่วย โหวตก็เต็มที่ไปสุด ๆ เกินงบไปตั้ง 2-3 เท่า ผลคือน้องได้อันดับที่ 3 ก็เสียใจ ... แต่ถึงจะจริงจังมากแค่ไหนเราก็ไม่ได้เฟลอะไรขนาดนั้นนะคะ อันดับไหนก็ยินดีกับทุกคนด้วย ยังไงมันก็คือการแข่งขันที่แฟนคลับร่วมแรงร่วมใจมอบแรงสนับสนุนให้เมมที่ตัวเองรัก เราอยากให้รักของเราที่มีต่อน้องมีความหมายยังไง เราก็เคารพความรักของคนอื่นที่มีต่อโอชิเมมของตัวเองด้วยเช่นกัน
ออกทะเลละกลับมาที่เจ๊55555
เราชอบ Avril Lavigne มากถึงขนาดฟังเพลงซ้ำ ๆ ของเจ๊แกมาเกินสิบปีแล้ว ทุกเพลย์ลิสต์ของเรามีเพลงของเจ๊ เพื่อนขึ้นรถเราก็คือจะต้องได้ยินเพลงของเจ๊จนมันต้องบ่น ทุกคนบ่นแต่ก็ชินแล้วค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังฟังเพลงของเจ๊บ่อย ๆ ชอบหลายเพลงมาก ๆ และวันนี้เราก็ได้วนกลับมาฟังเพลงเพลงนึง ถ้าใครเคยดู Princess Diary น่าจะคุ้นหูอยู่บ้าง ชื่อเพลง Breakaway - Kelly Clarkson จะเห็นว่าไม่ใช่เจ๊ร้องนะคะ แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่เจ๊แกแต่งตั้งแต่สมัยสิบกว่าปีที่แล้วนู้นนนนนนน สมัยที่ยังก้าวเตาะแตะอยู่บนเส้นทางการเป็นนักร้อง สมัยตั้งแต่ก่อนจะออกอัลบั้ม Let Go ที่เป็นอัลบั้มแรกอีกค่ะ
ใน youtube มีเวอร์ชัน demo ที่เป็นเสียงของเจ๊แกอยู่นะ
เอาล่ะ ทำไมเราพูดถึงเพลงนี้ แน่นอนว่าความสำคัญอย่างแรกคือ Avril Lavigne เป็นคนแต่ง ซึ่งก็เกี่ยวกับชีวิตเจ๊แกนั่นแหละ แต่ความสำคัญอีกอย่างก็คือตอนที่ฟังเพลงนี้มีท่อนหนึ่งที่เราเห็นหน้ามิวสิคลอยมาเลย
เนื้อเพลงบางส่วน :
I’ll spread my wings and I’ll learn how to fly
I’ll do what it takes til’ I touch the sky
ฉันจะกางปีกของฉันให้กว้างและเรียนรู้ที่จะโบยบิน
จะทำทุก ๆ อย่าง เพื่อจะไปให้ถึงท้องฟ้าอันกว้างใหญ่
And I’ll make a wish
Take a chance
Make a change
And breakaway
และฉันจะอธิษฐาน
จะลองเสี่ยง
สร้างความเปลี่ยนแปลง
และจะฝ่าไปให้ได้
Out of the darkness and into the sun
But I won’t forget all the ones that I love
ก้าวออกจากความมืดมิดสู่ดวงตะวัน
แต่ฉันจะไม่มีทางลืมทุก ๆ คนที่ฉันรัก
I’ll take a risk
Take a chance
Make a change
And breakaway
ฉันจะเสี่ยง
คว้าโอกาสที่จะทำมัน
เปลี่ยนแปลง
และก้าวผ่านมันไป
.
.
จาก ig ของมิวสิคพูดถึงการโบยบินไปสู่ประกายแสงสว่างบนฟากฟ้าทั้งที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างหน้าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง :
.
.
จาก BNK48 The Series : Ep.3 เสียงเพลงแห่ง “ความฝัน” ของมิวสิค BNK48
แน่นอนว่าเรื่องราวในเพลงที่ Avril แต่ง ไม่ได้เหมือนกับชีวิตของมิวสิค แต่จากที่เราตามมิวสิคมา น้องมีความมุ่งมั่น มีความฝัน และอีกสิ่งหนึ่งที่เรารู้คือน้องมีความกล้าที่จะเดินตามความฝันด้วย กล้าเสี่ยง กล้าลอง ในโลกนี้อาจมีอีกหลายคนที่มีความฝันและกล้าวิ่งตามมันอย่างสุดตัว แต่วันนี้เราพูดถึงคนสองคนที่เราชื่นชอบมาก ๆ ดีใจที่ได้รู้ว่าพวกเขามีจิตวิญญาณข้างในที่เหมือนกัน มีไฟ มีความมุ่งมั่นที่จะโบยบินอย่างแรงกล้า
คนหนึ่งมีโอกาสได้บินขึ้นสูงท้าแรงลมจนตอนนี้เริ่มอ่อนแรง เราก็ตั้งใจจะเป็นกำลังใจอยู่เคียงข้างเขาไปจนสุดทาง ในขณะที่อีกคนกำลังกางปีกสยายท้าลมแรงและเรียนรู้จะบินไปให้สูงเพื่อจะได้สัมผัสท้องฟ้าดูสักครั้ง คนที่คอยเฝ้าดูอย่างเราก็ได้รับพลังความรู้สึกที่อยากจะไขว่คว้าบางอย่างแบบนั้นมาเช่นกัน เป็นความรู้สึกที่ทรงพลังมากเลยนะคะ เป็นพลังหมุนเวียนที่เราเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันเพราะเราทั้งได้รับและได้มอบ เอาเป็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นแรงใจในระดับที่ทำให้เราอยากจะมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าต่อไปเรื่อย ๆ เลยค่ะ
เราเติบโตมากับเพลงของ Avril Lavigne ได้รับรู้ช่วงชีวิต ความรู้สึก และเรื่องราวผ่านบทเพลง ส่วนมิวสิคน้องได้ส่งพลังบางอย่างมาถึงเราแล้วเราก็ได้ส่งต่อ แน่นอนว่าตอนนี้เราได้สถาปนาตัวเองเป็นลมใต้ปีกของน้องไปเรียบร้อยแล้ว อยากสนับสนุนน้อง ส่งน้องไปให้ไกลถึงความฝัน แม้เรื่องราวของคนที่เราชอบทั้งคู่จะแตกต่างกัน วิธีการเล่าไม่เหมือนกัน แต่เราได้รู้ในสิ่งที่สงสัยมานาน เราเคยยึดติดกับแนวเพลงคิดแต่ว่าตัวเองเป็นชาวร็อค ไม่น่ามาชอบมิวสิคได้ แต่ว่าความฝัน ความหวัง และความกล้าของคนทั้งคู่ก็ทำให้เราก็ได้รู้แล้วว่าทำไม...
ทำไมเป็น Avril Lavigne และทำไมเป็น มิวสิค BNK48 หมดสิ้นทุกข้อสงสัยแล้วค่ะ