พนักงานระดับล่างๆขั้นปฏิบัติการ หรือที่บางคนชอบเรียกให้ดูดีและอินเตอร์ขึ้นมาหน่อยว่า "
จูเนียร์" อย่างผมจะไปเถียงอะไรได้ ถ้าหัวหน้าสั่งมาให้หยุดโปรเจคที่กำลังทำอยู่ได้กันละครับพี่น้อง แต่คำพูดต่อท้ายที่บอกว่า
"คุณพสุ คุณช่วยเลิกทำงานที่ไม่มีประโยชน์นี่สักที คุณช่วยส่งงานต่อให้คุณนิติไปทำต่อดีกว่า" ไอ้คำที่ขีดเส้นใต้นี่แหละค้าบ ที่ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่ามัน
แปลกๆ
โปรเจคที่ผมกำลังทำอยู่ในช่วงนั้น เป็นโปรเจคที่ใช้ในการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือที่คนชอบพูดกันติดปากว่า "วินโดวส์" ให้ใหม่และทันสมัยขึ้น สมัยนี้มันยุค Windows 10 แล้ว จะซื้อคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆมาลง Windows 7 มันก็ลำบากไปอีก หาไดร์เวอร์หาโปรแกรมมาติดตั้งยากขึ้นทุกวัน ต่อให้ลงได้เครื่องก็รวนๆ ทั้งๆที่สเปคเทพมากๆ ผมเลยนึกถึงเหล่าบรรดาโปรแกรมแจ่มๆและ ---เพื่อนร่วมงานเก่า (รายละเอียดอยู่ในสปอยด์)--- ขึ้นมาทันที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนหน้าที่ผมจะมาทำงานที่บริษัทนี้ ผมทำงานบริษัทผู้ให้บริการและขายไอทีมาก่อน ด้วยหน้าที่สมัยนั้นคือ ต้องนำเสนอสินค้าและขายของบ่อยๆ ก็เลยกลายเป็นคนกล้าพูดกล้าคุย จนสุดท้ายทั้งลูกค้าและทั้งคนทำงานด้วย ไม่ว่าจะนอกหรือในบริษัท ก็สนิทกันไปโดยปริยาย
สุดท้ายก็หาโปรแกรมที่เพื่อนร่วมงานและผมวิเคราะห์แล้วว่า คุ้มค่าแก่การลงทุนและเหมาะกับองค์กรของเราที่สุดเจอ
เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ผมขอสมมติว่าชื่อ
โปรแกรมซาก้า ละกัน #ชื่อเท่ห์ดี

กว่าสองปีที่ผมและเพื่อนร่วมงานได้พยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอหัวหน้าทีม (พี่สมชาย) และหัวหน้าแผนก (พี่ชัยโรจน์) แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนย่างเข้าปีที่ 3 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ บอร์ดผู้บริหารมีคำสั่งปลดพี่ชัยโรจน์ออกจากตำแหน่งด้วยปัญหาหลายๆด้วย
(สาเหตุไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เล่า แต่เปิดอ่าน สปอยด์ได้ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม 555)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คนนอกแผนกเค้าก็มองกันว่า พี่ชัยโรจน์แกก็เป็นคนดี จบสูง ประสบการณ์แน่น เป็นผู้ใหญ่ใจดี เข้าได้กับทุกคน
ตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้ามาทำงานก็มีข่าวลือหนาหู ซุบซิบนินทา พี่ชัยโรจน์ว่า แกทำงานไม่เป็น แกเป็นหุ่นเชิดของพี่สมชาย งานไหนไม่ผ่านสมชาย ชัยโรจน์ไม่อนุมัติ --- สมชายว่ายังไง ชัยโรจน์ว่าตาม ---
แต่ในความคิดของผม ผมว่าเค้าเหมือนคู่ผัวตัวเมียกันมากกว่า ไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ไปวัดด้วยกัน คุยธรรมะด้วยกัน วางแผนงานด้วยกัน #ตัวติดกันซะยิ่งกว่าหนังวายสมัยนี้อีก 5555
สุดท้ายการทำงานแบบนี้ของพี่ชัยโรจน์ก็ดูไม่รุ่งโรจน์เหมือนชื่อสักเท่าไหร่ ก่อนที่พี่ชัยโรจน์จะโดนสั่งปลดกลางอากาศไม่นาน
มีข่าวเม้าว่า พี่สมชายยุให้พี่ชัยโรจน์ไปเถียงกับนายญี่ปุ่น จนมีปากเสียง โวยวาย ลั่นห้อง
#แน่แหละ ตั้งแต่นายญี่ปุ่นคนใหม่มาทำงาน พี่สมชายแกบ่นว่า ไม่ชอบหน้าญี่ปุ่นคนนี้เลย อยู่ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็ไป คนไทยรักๆกันไว้ดีกว่า
#ผมนี่เชื่อข่าวลือโดยไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว
ด้วยความที่ผมอยากทำโปรเจคนี้มากๆ และเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อบริษัทมากจริงๆ ผมใช้ความพยายามจนย่างเข้าปีที่สาม แม้ว่าจะเปลี่ยนหัวหน้าแผนกไปแล้วก็ตาม ผมก็ยังอยากที่จะนำเสนอ สิ่งดีๆให้กับองค์กรต่อ อยากให้เพื่อนร่วมงานที่ดูแลเรื่องคอมพิวเตอร์เหนื่อยน้อยลง สุดท้ายก็โดนตาโดนใจหัวหน้าแผนกคนใหม่ (พี่นำชัย) ได้ในที่สุด ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาา #หัวเราะอย่างผู้ชนะ ผมมีหลักการนำเสนออยู่ 3 อย่าง เผื่อเพื่อนๆชาวพันทิปจะนำไปใช้
1. จริงใจต่อเพื่อนร่วมงาน ------ ผมจริงใจในการนำเสนอผลงานต่อทั้งหัวหน้าแผนก หัวหน้าทีมและเพื่อนร่วมงาน ผมอยากให้พวกเค้าเหนื่อยน้อยลงแต่ได้ประสิทธิผลจากการทำงานเพิ่มมากขึ้น พวกเค้าจะได้มีผลงานประจำปี เอาไว้เลื่อนขั้นตำแหน่ง
2. จริงจังต่อการทำงานให้บริษัท ------ ผมเชื่อว่าบริษัทได้ผลประโยชน์ เราสาามารถลดระยะเวลาในการดำเนินการเปลี่ยน Windows ได้และไม่กระทบต่อเวลาและงานของเพื่อนพนักงาน
3. หาคนจริงมาร่วมทีม ----- งานนี้เป็นงานที่ใหญ่มาก ถ้าไม่ได้เพื่อนร่วมงานเมพๆ 4 -5 คน เห็นด้วย ร่วมด้วยช่วยกัน งานก็คงไม่เกิด (คอมพิวเตอร์บริษัทผม เกือบ 1,000 เครื่อง)
ศพแรกผ่านไป ศพสองศพสามค่อยๆผ่านไป หลงผิดคิดภาคภูมิใจ ...
#เดี๋ยวๆ
เป็นศพเลยหรอ??? ผมอยากคำนับสามครั้งแล้วตอบว่า
"ใช่"
หลังจากที่ผมนำเสนอผ่านได้ไม่นาน อยู่ๆ พี่สมชายก็ไปหา
โปรแกรมซีอุส (ชื่อสมมติ) ที่สามารถทำได้คล้ายๆกันมานำเสนอพี่นำชัย
พี่นำชัยเค้าเป็นคนตรงๆและเป็นกลางมาก เค้าจะเลยให้ทดสอบทั้งสองโปรแกรมเทียบกัน และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้น

เอาละทีนี้ !!!! เกือบสามปี พี่สมชายเค้าก็เห็นมาตลอดว่า ผมนำเสนออะไร แต่ก็ไม่ได้ให้การสนับสนุน
ยังไม่พอ!!! หางานมาให้อีก ต้องทำการเปรียบเทียบและนำเสนอใหม่อีก
ยังไม่หมด!!!! พอผมจะทำการทดสอบทุกครั้ง เค้าจะให้ผมไปเข้าประชุมงานร่วมกับทีมอื่นๆเสมอ จนผมแทบจะไม่มีเวลาทำงานนี้ต่อเลย
ยังไม่จบ!!!! พี่สมชาย สั่งพี่นิติมาเรียนรู้ว่าผมทำอะไรไปบ้าง และบังคับให้ผมถ่ายทอดความรู้ให้พี่นิติด้วย
----------------ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว จะเข้าใจว่า ทำไมผมถึงเริ่ม "เอะใจ" ว่า จะให้ผมเลิกทำและโอนผลงานไปให้คนอื่น-------------------
ขอย้อนกลับไปที่สถานการณ์ข้างบน
พี่สมชาย: คุณพสุ คุณช่วยเลิกทำงานที่ไม่มีประโยชน์นี่สักที คุณช่วยส่งงานต่อให้คุณนิติไปทำต่อดีกว่า
พสุ: พี่สมชายครับ ผมขอทำงานนี้ต่อไปเลยดีกว่าครับ ไม่ค่อยมีเวลาถ่ายความรู้และงานมันเร่งก่อนสิ้นปี เดี๋ยวจะไม่ทันนะครับ
พี่สมชาย: ผมว่า ให้นิติ ทำต่อดีกว่า
นิติ: ผมว่าให้พสุทำต่อไปดีแล้วครับพี่ ผมสบายเลย ไม่ต้องทำอะไร มีคนมาทำโปรแกรมให้ด้วย
พสุ: -------สงบนิ่ง-------- (คิดในใจ: นี่คิดจะทำงานบ้างไหมครับพี่น้อง ถ้าไม่มีงาน support จะไม่ทำงานไรเพิ่มหน่อยหรอ)
พี่สมชาย: ผมว่า นิติ เหมาะกับงานนี้มากกว่า ตอนนี้เค้าทำ IT support อยู่แล้วด้วย มันจะได้ไปในแนวทางเดียวกัน
พสุ: ผมคิดว่า ผมขอยืนยัน ทำงานต่อดีกว่าครับ น่าจะดีกว่าทุกฝ่ายจริงๆ
พี่เอก: พี่สมชายครับ สิ้นปีเราก็ไม่ได้มีงานอะไรแล้ว ให้พสุทำต่อแบบที่เค้าถนัดน่าจะทำให้งานเสร็จไวนะครับ
พี่พร้อมพง: พยักหน้า
พี่เยาว์: พยักหน้า
พี่สมชาย: เอางี้ ทุกคนออกไปก่อน ผมขอคุยกับพสุ 2 คนละกัน
xxx---xxxx----xxxxx-----------หลังจากที่ทุกคนออกไปจากห้องแล้ว
พี่สมชาย: ผมว่าให้คุณกลับไปคิดใหม่ดีกว่า ถ้าคิดว่าทำงานนี้เอาใจพี่นำชัย เพื่อให้ได้ผลงานสิ้นปี ผมว่าคุณคิดผิด เพราะ ผมนี่แหละที่จะประเมินให้คุณไม่ผ่าน คุณมีความรั้นและดื้อดึง คุณไม่ฟังคำแนะนำของผมและเอาแต่เถียงแบบนี้ ไม่ต้องถามถึงโบนัสและการประเมินปลายปีหรอกครับ
พสุ: สตั๊น คิดคำพูดไรไม่ออก !!!????? WTF นี่มันละครหลังข่าวหรอวะ
พี่สมชาย: ไปคิดดีๆ
หลังจากที่พี่สมชายพูดจบแกก็เดินออกจากห้องไปเลย
########ป.ล. คำพูดไม่เป๊ะขนาดนี้หรอก แต่มันประมาณนี้แหละ จำความรู้สึกได้แม่น เพราะ เหมือนละครหลังข่าวมาก############
เวลานั้นผมอยากจะร้องไห้นะ แต่ก็ร้องไม่ออก ได้แต่มีคำถามว่า ตรูทำไรผิดวะ เคราะห์ซ้ำ กรรมซัดไรวะเนี้ย !!!!!!!!!!!!!
แต่ผมก็ย้อนกลับไปคิดถึงหลักการที่ใช้ 3 ข้อข้างบน และเหตุผลที่เราจะทำ ทำเพื่อองค์กรเว้ย !!! สู้เว้ยย!!!!!
หลังจากที่ผมทำเสร็จและผ่านการอนุมัติ โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ โปรแกรมซาก้าได้รับการตอบรับจากกรรมการอย่างเป็นเอกฉันท์
ถึงคราวรับเคราะห์!!!!! พี่สมชายส่งประเมินประจำปีให้ผมได้คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และพิจารณาไม่เลื่อนตำแหน่งงาน
แต่ฟ้ายังมีตา!!!! พี่นำชัย เปลี่ยนผลการประเมินประจำปี (หัวหน้าแผนกมีสิทธิ์ขาดในการตัดสินผลการประเมิน) ให้ผมได้รับผลประเมินสูงที่สุดในแผนก
ทั้งพี่เอก พี่เยาว์และพี่พร้อมพงก็เป็นกำลังใจให้และร่วมยินดีกับผมไปด้วย
เหตุผลของการเปลี่ยนผลการประเมินคือ ผมได้สร้างมาตรฐานการทำงานใหม่และเป็นแบบอย่างที่ดีของเพื่อนพนักงาน ให้ทุ่มเทการทำงานให้บริษัท
ขอขอบคุณพี่นำชัยครับ ที่เป็นเหมือน เปาปุ้นจิ้น !! พี่ซื่อตรง และ ยุติธรรมจริงๆ
#คำถามยอดฮิต???# หลังจากนั้น โดนพี่สมชายกลั่นแกล้งอะไรอีกไหม
===> คำตอบ ไม่เหลือชิ้นดี แต่ผมต้องขอบคุณพี่สมชายนะครับ แกเป็นเหมือนไวรัสและโรคร้าย ทำให้ผมมีภูมิต้านทานจนทุกวันนี้
======================================================================
ขอมอบเรื่องราวนี้ให้กับคนที่
หมด passion ในการทำงาน จนนถึงขั้นร้องไห้ ผิดหวัง ท้อแท้และหมดกำลังใจ
หวังว่าเรื่องของผมจะช่วยทำให้มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้นนะครับ
เมื่อหัวหน้าสั่ง!! ทิ้งงานที่ปั้นมากับมือ!!??!!
โปรเจคที่ผมกำลังทำอยู่ในช่วงนั้น เป็นโปรเจคที่ใช้ในการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือที่คนชอบพูดกันติดปากว่า "วินโดวส์" ให้ใหม่และทันสมัยขึ้น สมัยนี้มันยุค Windows 10 แล้ว จะซื้อคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆมาลง Windows 7 มันก็ลำบากไปอีก หาไดร์เวอร์หาโปรแกรมมาติดตั้งยากขึ้นทุกวัน ต่อให้ลงได้เครื่องก็รวนๆ ทั้งๆที่สเปคเทพมากๆ ผมเลยนึกถึงเหล่าบรรดาโปรแกรมแจ่มๆและ ---เพื่อนร่วมงานเก่า (รายละเอียดอยู่ในสปอยด์)--- ขึ้นมาทันที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายก็หาโปรแกรมที่เพื่อนร่วมงานและผมวิเคราะห์แล้วว่า คุ้มค่าแก่การลงทุนและเหมาะกับองค์กรของเราที่สุดเจอ
เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ผมขอสมมติว่าชื่อ โปรแกรมซาก้า ละกัน #ชื่อเท่ห์ดี
กว่าสองปีที่ผมและเพื่อนร่วมงานได้พยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอหัวหน้าทีม (พี่สมชาย) และหัวหน้าแผนก (พี่ชัยโรจน์) แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนย่างเข้าปีที่ 3 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ บอร์ดผู้บริหารมีคำสั่งปลดพี่ชัยโรจน์ออกจากตำแหน่งด้วยปัญหาหลายๆด้วย
(สาเหตุไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เล่า แต่เปิดอ่าน สปอยด์ได้ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม 555)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยความที่ผมอยากทำโปรเจคนี้มากๆ และเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อบริษัทมากจริงๆ ผมใช้ความพยายามจนย่างเข้าปีที่สาม แม้ว่าจะเปลี่ยนหัวหน้าแผนกไปแล้วก็ตาม ผมก็ยังอยากที่จะนำเสนอ สิ่งดีๆให้กับองค์กรต่อ อยากให้เพื่อนร่วมงานที่ดูแลเรื่องคอมพิวเตอร์เหนื่อยน้อยลง สุดท้ายก็โดนตาโดนใจหัวหน้าแผนกคนใหม่ (พี่นำชัย) ได้ในที่สุด ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาา #หัวเราะอย่างผู้ชนะ ผมมีหลักการนำเสนออยู่ 3 อย่าง เผื่อเพื่อนๆชาวพันทิปจะนำไปใช้
1. จริงใจต่อเพื่อนร่วมงาน ------ ผมจริงใจในการนำเสนอผลงานต่อทั้งหัวหน้าแผนก หัวหน้าทีมและเพื่อนร่วมงาน ผมอยากให้พวกเค้าเหนื่อยน้อยลงแต่ได้ประสิทธิผลจากการทำงานเพิ่มมากขึ้น พวกเค้าจะได้มีผลงานประจำปี เอาไว้เลื่อนขั้นตำแหน่ง
2. จริงจังต่อการทำงานให้บริษัท ------ ผมเชื่อว่าบริษัทได้ผลประโยชน์ เราสาามารถลดระยะเวลาในการดำเนินการเปลี่ยน Windows ได้และไม่กระทบต่อเวลาและงานของเพื่อนพนักงาน
3. หาคนจริงมาร่วมทีม ----- งานนี้เป็นงานที่ใหญ่มาก ถ้าไม่ได้เพื่อนร่วมงานเมพๆ 4 -5 คน เห็นด้วย ร่วมด้วยช่วยกัน งานก็คงไม่เกิด (คอมพิวเตอร์บริษัทผม เกือบ 1,000 เครื่อง)
ศพแรกผ่านไป ศพสองศพสามค่อยๆผ่านไป หลงผิดคิดภาคภูมิใจ ...
#เดี๋ยวๆ เป็นศพเลยหรอ??? ผมอยากคำนับสามครั้งแล้วตอบว่า "ใช่"
หลังจากที่ผมนำเสนอผ่านได้ไม่นาน อยู่ๆ พี่สมชายก็ไปหาโปรแกรมซีอุส (ชื่อสมมติ) ที่สามารถทำได้คล้ายๆกันมานำเสนอพี่นำชัย
พี่นำชัยเค้าเป็นคนตรงๆและเป็นกลางมาก เค้าจะเลยให้ทดสอบทั้งสองโปรแกรมเทียบกัน และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้น
เอาละทีนี้ !!!! เกือบสามปี พี่สมชายเค้าก็เห็นมาตลอดว่า ผมนำเสนออะไร แต่ก็ไม่ได้ให้การสนับสนุน
ยังไม่พอ!!! หางานมาให้อีก ต้องทำการเปรียบเทียบและนำเสนอใหม่อีก
ยังไม่หมด!!!! พอผมจะทำการทดสอบทุกครั้ง เค้าจะให้ผมไปเข้าประชุมงานร่วมกับทีมอื่นๆเสมอ จนผมแทบจะไม่มีเวลาทำงานนี้ต่อเลย
ยังไม่จบ!!!! พี่สมชาย สั่งพี่นิติมาเรียนรู้ว่าผมทำอะไรไปบ้าง และบังคับให้ผมถ่ายทอดความรู้ให้พี่นิติด้วย
----------------ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว จะเข้าใจว่า ทำไมผมถึงเริ่ม "เอะใจ" ว่า จะให้ผมเลิกทำและโอนผลงานไปให้คนอื่น-------------------
ขอย้อนกลับไปที่สถานการณ์ข้างบน
พี่สมชาย: คุณพสุ คุณช่วยเลิกทำงานที่ไม่มีประโยชน์นี่สักที คุณช่วยส่งงานต่อให้คุณนิติไปทำต่อดีกว่า
พสุ: พี่สมชายครับ ผมขอทำงานนี้ต่อไปเลยดีกว่าครับ ไม่ค่อยมีเวลาถ่ายความรู้และงานมันเร่งก่อนสิ้นปี เดี๋ยวจะไม่ทันนะครับ
พี่สมชาย: ผมว่า ให้นิติ ทำต่อดีกว่า
นิติ: ผมว่าให้พสุทำต่อไปดีแล้วครับพี่ ผมสบายเลย ไม่ต้องทำอะไร มีคนมาทำโปรแกรมให้ด้วย
พสุ: -------สงบนิ่ง-------- (คิดในใจ: นี่คิดจะทำงานบ้างไหมครับพี่น้อง ถ้าไม่มีงาน support จะไม่ทำงานไรเพิ่มหน่อยหรอ)
พี่สมชาย: ผมว่า นิติ เหมาะกับงานนี้มากกว่า ตอนนี้เค้าทำ IT support อยู่แล้วด้วย มันจะได้ไปในแนวทางเดียวกัน
พสุ: ผมคิดว่า ผมขอยืนยัน ทำงานต่อดีกว่าครับ น่าจะดีกว่าทุกฝ่ายจริงๆ
พี่เอก: พี่สมชายครับ สิ้นปีเราก็ไม่ได้มีงานอะไรแล้ว ให้พสุทำต่อแบบที่เค้าถนัดน่าจะทำให้งานเสร็จไวนะครับ
พี่พร้อมพง: พยักหน้า
พี่เยาว์: พยักหน้า
พี่สมชาย: เอางี้ ทุกคนออกไปก่อน ผมขอคุยกับพสุ 2 คนละกัน
xxx---xxxx----xxxxx-----------หลังจากที่ทุกคนออกไปจากห้องแล้ว
พี่สมชาย: ผมว่าให้คุณกลับไปคิดใหม่ดีกว่า ถ้าคิดว่าทำงานนี้เอาใจพี่นำชัย เพื่อให้ได้ผลงานสิ้นปี ผมว่าคุณคิดผิด เพราะ ผมนี่แหละที่จะประเมินให้คุณไม่ผ่าน คุณมีความรั้นและดื้อดึง คุณไม่ฟังคำแนะนำของผมและเอาแต่เถียงแบบนี้ ไม่ต้องถามถึงโบนัสและการประเมินปลายปีหรอกครับ
พสุ: สตั๊น คิดคำพูดไรไม่ออก !!!????? WTF นี่มันละครหลังข่าวหรอวะ
พี่สมชาย: ไปคิดดีๆ
หลังจากที่พี่สมชายพูดจบแกก็เดินออกจากห้องไปเลย
########ป.ล. คำพูดไม่เป๊ะขนาดนี้หรอก แต่มันประมาณนี้แหละ จำความรู้สึกได้แม่น เพราะ เหมือนละครหลังข่าวมาก############
เวลานั้นผมอยากจะร้องไห้นะ แต่ก็ร้องไม่ออก ได้แต่มีคำถามว่า ตรูทำไรผิดวะ เคราะห์ซ้ำ กรรมซัดไรวะเนี้ย !!!!!!!!!!!!!
แต่ผมก็ย้อนกลับไปคิดถึงหลักการที่ใช้ 3 ข้อข้างบน และเหตุผลที่เราจะทำ ทำเพื่อองค์กรเว้ย !!! สู้เว้ยย!!!!!
หลังจากที่ผมทำเสร็จและผ่านการอนุมัติ โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ โปรแกรมซาก้าได้รับการตอบรับจากกรรมการอย่างเป็นเอกฉันท์
ถึงคราวรับเคราะห์!!!!! พี่สมชายส่งประเมินประจำปีให้ผมได้คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และพิจารณาไม่เลื่อนตำแหน่งงาน
แต่ฟ้ายังมีตา!!!! พี่นำชัย เปลี่ยนผลการประเมินประจำปี (หัวหน้าแผนกมีสิทธิ์ขาดในการตัดสินผลการประเมิน) ให้ผมได้รับผลประเมินสูงที่สุดในแผนก
ทั้งพี่เอก พี่เยาว์และพี่พร้อมพงก็เป็นกำลังใจให้และร่วมยินดีกับผมไปด้วย
เหตุผลของการเปลี่ยนผลการประเมินคือ ผมได้สร้างมาตรฐานการทำงานใหม่และเป็นแบบอย่างที่ดีของเพื่อนพนักงาน ให้ทุ่มเทการทำงานให้บริษัท
ขอขอบคุณพี่นำชัยครับ ที่เป็นเหมือน เปาปุ้นจิ้น !! พี่ซื่อตรง และ ยุติธรรมจริงๆ
#คำถามยอดฮิต???# หลังจากนั้น โดนพี่สมชายกลั่นแกล้งอะไรอีกไหม
===> คำตอบ ไม่เหลือชิ้นดี แต่ผมต้องขอบคุณพี่สมชายนะครับ แกเป็นเหมือนไวรัสและโรคร้าย ทำให้ผมมีภูมิต้านทานจนทุกวันนี้
======================================================================
ขอมอบเรื่องราวนี้ให้กับคนที่ หมด passion ในการทำงาน จนนถึงขั้นร้องไห้ ผิดหวัง ท้อแท้และหมดกำลังใจ
หวังว่าเรื่องของผมจะช่วยทำให้มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้นนะครับ